บทที่ 390 : เจ้าอยากเด้าพื้นอีกซักครั้งรึเปล่า?
และด้วยประการฉะนี้ การเดินทางตามล่าขุมทรัพย์ 7 เซียนศักดิ์สิทธิ์ก็เป็นอันเอวังอวสานลง...หลินฟ่านไม่คิดเลยว่า ไอ 7 เซียนบัดซบนั่น จะโชคดี เจอคนชะตาขาดนั่นได้ เขาไม่รู้ว่าใครมันดวงซวยและเป็นคนที่พบโศกนาฏกรรมนี้... เอาเป็นว่า...เขาทำได้เพียงยืนสงบนิ่งไว้อาลัยให้มันสัก 3 ลมหายใจแล้วกัน...
แต่ตอนนี้หลินฟ่านก็เริ่มคิดไปว่า... ทั้งหมดนี่อาจจะเป็นเพราะ 7 เซียนบัดซบนั่นมันถูกเขาบีบคั้นก็เป็นได้ มันเลยตัดสินใจเอาใครก็ได้ โดยที่ไม่สนใจศักยภาพมากนัก
และท่าทางมันคงจะใช้วิธีโยกย้ายจิตสำนึกที่เก็บไว้ในห้องลับพวกนี้ ไปหาร่างต้นที่เหมาะสมพอประมาณ โดยไม่ได้เลือกเอาพวกที่เก่งกล้าสามารถอะไรมากมายให้ยุ่งยาก ตัดสินใจเลือกคนที่คิดว่าน่าจะประสบความสำเร็จมากที่สุดเท่าที่หาได้ในเวลาสั้นๆแทน...
แต่สำหรับหลินฟ่านแล้วเรื่องนี้ก็ไม่ได้สำคัญอะไรมากมายนัก ...แล้วจะอย่างไรเล่า? ถึงมันไปเลือกที่จะสิงร่างผู้อื่นแล้วจะทำไม? ระดับพลังมันก็ต้องฝึกฝนเพิ่มเติมอยู่ดีไม่ใช่หรือไง? ถ้าเขาบังเอิญเจอ ก็แค่ตบมันให้หัวทิ่มแค่นั้น!
ตอนนี้เมื่อเสร็จเรื่องไปอย่างนึง ก็ได้เวลาจัดการเรื่องราวที่ยังค้างคาอื่นๆ ตอนนี้เมื่อมองลึกลงไปร่างของเขาจนเห็นต้นไม้แห่งชีวิตในตำนานเหี่ยวเฉาลง... หลินฟ่านก็รู้สึกสลดใจขึ้นมาทุกที
เพราะตอนนี้พลังชีวิตของต้นไม้แห่งชีวิตในตำนานถึงแม้ว่ามันจะยังคงใช้การอยู่ได้ แต่ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไรเกรงว่ามันคงจะเริ่มเหี่ยวแห้งลงเรื่อยๆ หากเขาไม่สามารถหาวิธีช่วยฟื้นฟูต้นไม้แห่งชีวิตนี้ได้ทันเวลาล่ะก็ เกรงว่ามันจะตายเอา...!
แน่นอนว่าหลินฟ่านย่อมพึงพอใจกับผลลัพธ์เลิศล้ำอีกอย่างของต้นไม้แห่งชีวิตในตำนานด้วย ไม่ใช่แค่ความสามารถในการมอบพลังชีวิตให้เขาเท่านั้น
ความสามารถอีกอย่างก็คือ ...มันสามารถดึงดูดพลังงานจากสวรรค์และโลกเข้าร่างเขาอย่างอัตโนมัติ และแปลงพลังงานส่วนเกินที่มันต้องใช้ให้เป็นค่า EXP ของเขา! ทำให้ตัวเขาได้รับค่า EXP อยู่ตลอดเวลา...!!
ดูเหมือนว่าตอนนี้จะถึงเวลาที่เขาต้องเดินทางไปยังเผ่าหมันหวงแล้ว...หลินฟ่านค่อยๆลอยตัวขึ้นไปในอากาศ กวาดมองไปยังโลกหล้า เพื่อรำลึกทิศทางอยู่ครู่หนึ่ง
"ช่วยข้า....ด้วย…"
ทันใดนั้นน้ำเสียงอ่อนแอไร้พลัง ฟังดูอิดโรยไม่น้อยพลันดังขึ้นในใจของหลินฟ่าน
เสียงนี้ดูเหมือนว่ามันจะเคยปรากฏขึ้นมาก่อนแล้ว...แต่ก็หายไปเนิ่นนาน เมื่อมาดังขึ้นอีกครั้ง หลินฟ่านก็รู้สึกสนใจขึ้นมาเล็กน้อย
‘บอกให้ช่วยแล้วจะให้พี่ช่วยยังไงล่ะ...!’
หลินฟ่านรู้สึกเอือมระอาและจนปัญญานัก หลังจากที่เขาดูดซับสำนึกสติของเจตจำนงสวรรค์ เขาก็สัมผัสได้ถึงอันตรายบางอย่างีท่กำลังคืบคลานเข้ามาในใจตลอดเวลา ราวกับจะเกิดเรื่องร้ายแรงอะไรขึ้นอย่างไรอย่างนั้น
‘ช่วย..ด้วย...’
‘โว้ยยย! น่ารำคาญที่สุด! หยุดพูดแต่ช่วยด้วยๆ ซะทีได้ป่าววะเฮ่ย!! ย่าเจ้าเถอะ! พูดมาแค่นี้ จะให้ใครที่ไหนช่วยได้วะฮะ? ไม่บอกข้อมูลอะไรมาซักอย่าง! ช่วยด้วยๆอยู่ได้ ช่วยถล่มน้องสาวเจ้า!?’ ตอนนี้หลินฟ่านรู้สึกหงิดหงิดไม่น้อย เขายิ่งไม่ค่อยอยากจะคิดอะไรให้ปวดหัว ยิ่งมามีเสียงลึกลับกระซิบกรอกหูแบบนี้อีก ยิ่งยั่วยุให้บังเกิดความสนใจแล้วก็ไม่พ้นเป็นความลับที่ยากจะรู้ ให้ค้างคาใจไปอีก...
แต่น่าเสียดายไม่ว่าหลินฟ่านจะบ่นหรือต่อว่ามันยังไง เสียงที่กล่าวร้องขอความช่วยเหลือ ก็ไม่เคยพูดอย่างอื่น นอกจากคำว่า ‘ช่วยด้วย’...เรื่องให้มันปรากฏตัวคงได้แต่ฝัน!
หลินฟ่านส่ายหัวไปมาอย่างจนปัญญา ก่อนที่จะเปิดช่องว่างกลางอากาศแล้วมุ่งหน้าเข้าไป ออกเดินทางไปยังเผ่าหมันหวง
ที่ตั้งของชนเผ่าหมันหวงนั้นก็ช่างเลือกสรรนัก! มันตั้งอยู่สุดขอบทวีปนับว่าเป็นพื้นที่สันโดษห่างไกลจาการคมนาคมสัญจรของผู้คนนัก
...
"ท่านธิดาศักดิ์สิทธิ์ขอรับ นักรบของพวกเราคงต้านทานพวกมันได้อีกมินานแล้วขอรับ ... "
ร่างสตรีคนหนึ่งที่มีใบหน้างดงามแลดูบอบบางบริสุทธิ์ กำลังเผยทีท่ากังวลอยู่บริเวณแท่นบูชา ด้านหลังของนาง เป็นรูปปั้นขนาดมหึมาที่มีท่วงท่าราวกับกำลังมองหยามหยันโลกหล้า
ธิดาศักดิ์สิทธิ์หันกลับมามองนักรบที่รายงานสถานการณ์พร้อมพยักหน้าเบาๆรับเรื่องราวอย่างนุ่เศร้าสลด ก่อนที่จะทอดสายตามองออกไปยังไกลตา
ยามนี้ในสายตาของนางคือความโหดร้ายอำมหิต ความไร้ปราณี ...มันเป็นการสังหารหมู่ที่ชั่วร้ายที่สุดเท่าที่นางเคยพานพบ กลิ่นอายโลหิตคละคลุ้งราวกับจะย้อมสวรรค์และโลกให้กลับกลายเป็นแดงฉาน
นักรบของชนเผ่าหมันหวงผนึกกำลังกันต้านทานวิญญาณร้าย ที่บุกจู่โจมเผ่าอย่างสุดกำลัง.. ทั้งหมดเผยความเคร่งเครียดในแววตา วิญญาณร้ายเหล่านี้ยากรับมือนัก พวกมันไร้ร่างกายให้จับต้อง สายตาของพวกมันเต็มไปด้วยความชั่วร้ายมองผู้คนในชนเผ่าราวกับอาหารจานเด็ด ยามที่พวกมันเข้าครอบงำร่างของนักรบคนใด พลังชีวิตและโลหิตของคนผู้นักจักถูกมันดูดกลืนจนแห้งเหือดกลับกลายเป็นซากศพแห้งกรอบซากหนึ่ง ทั้งที่น่ากลัวก็คือพวกพ้องที่ตกตายกลับถูกพวกมันครอบครองร่าง หยิบจับอาวุธขึ้นมาทำร้ายผู้คนอย่างอำมหิต
วิญญาณร้าย...มันเป็นสิ่งมีชีวิต ที่ดำรงอยู่ในโลกนพจิต พวกมันเชี่ยวชาญในการดูดซับแก่นแท้โลหิต และพลังงานที่แท้จริงของสิ่งมีชีวิต และเมื่อพวกมันดูดกลืนทุกสิ่งหมดสิ้นแล้ว พวกมันยังสามารถเข้าสิงร่างนั้นได้อีกด้วย...
หวงหลิงเอ๋อที่ยืนบนแท่นบูชา ทำได้เพียงใช้สายตาทีสั่นระริกจับจ้องมองความโหดร้ายเบื้องล่าง ในแววตาแฝงความเศร้าสร้อย ความหวังค่อยๆดับสิ้นลงช้าๆ
"อนาคตเช่นนั้นจักเกิดขึ้นจริงๆหรือ?" หวงหลิงเอ๋อที่แทบสิ้นไร้แรงใจ นางรวบรวมพลังหวังเพียงจะมองอนาคตเบื้องหน้าอีกสักครั้ง เพื่อดูว่าสุดท้ายแล้ว...จุดจบของเรื่องราวครานี้จะแปรเปลี่ยนไปหรือไม่...
น่าเสียดาย ที่นางไม่อาจมองเห็นอนาคตอื่นใด ที่ต่างออกไปได้อีก...
“พวกเจ้าส่งตัวธิดาศักดิ์สิทธิ์ของพวกเจ้ามาให้ข้าแต่โดยดีจักประเสริฐกว่า ข้าสัญญาว่าหากได้ตัวนางแล้วข้าจะละเว้นชีวิตต้อยต่ำของพวกเจ้าสักครั้ง หาไม่แล้ววันนี้พวกเจ้าทั้งหมดต้องถูกดินกลบหน้า!” บุรุษหนุ่มคนหนึ่งกล่าววาจาออกมาด้วยท่วงท่าหยามหยันดูแคลน มันยืนอยู่ด้านหลังกองทัพวิญญาณร้าย ใบหน้าเผยรอยยิ้มสนุกสนานเมื่อได้เห็นหายนะของผู้อื่น
หากหลินฟ่านอยู่ที่นี่ตอนนี้ คงต้องเบิกตาโพลงตกตะลึงเป็นแน่ นี่ไม่ใช่นักแสดงขี้กาก เฉินเชวียนหรอกหรือ?! ไอคนที่คิดว่าตัวเก่งกล้าสามารถเลิศล้ำที่สุด คิดว่าตัวเป็นจุดศูนย์กลางจักรวาลคนนั้น! แต่สุดท้ายก็ถูกหลินฟ่านทุบตีจนเสียผู้เสียคน ซ้ำยังต้องทิ่มทะลวงธรณีจนหัวน้องชายถลอกปอกเปิด...!
เมื่อมองไปยังภาพเหตุการณ์สังหารหมู่ตรงหน้า เฉินเชวียนเผยรอยยิ้มกระหยิ่มยิ้มย่องราวกับเป็นจุดศูนย์กลางจักรวาลออกมาอีกครั้ง
หนึ่งปีที่ผ่านมาตัวมันได้บุกตะลุยไปในโลกนพจิต และฝึกฝนเพิ่มพูนระดับพลังมาอย่างหนัก และตอนนี้ตัวมันนั้นก็นับว่ากว้าหน้าแข็งแกร่งขึ้นมามากมาย เหนือล้ำยิ่งกว่ากาลก่อนนัก!
อีกทั้งมันยังทำหน้าที่ๆได้รับมอบหมายจากเจตจำนงสวรรค์ได้ลุล่วง! สามารถตามหาและรวบรวมชิ้นส่วนตราประทับของผู้อยู่เหนือสรรพสิ่งทั้ง 2 ชิ้นที่ซ่อนอยู่ในโลกนพจิตได้สำเร็จ!! นอกจากนั้นตัวมันก็ได้คัดเลือกวิญญาณร้ายที่ทรงพลังและมีความสามารถสูงที่สุดในโลกนพจิตจำนวนหนึ่ง จัดตั้งเป็นกองกำลังส่วนตัว เพื่อใช้อวดโอ่ ส่งเสริมความสามารถของมัน!
และเรื่องราวที่น่ายินดีมากยิ่งไปกว่านั้นก็คือ ...มันบังเอิญพบพานโชควาสนาอย่างสุดซึ้ง! ค้นพบขุมพลังซ่อนเร้นในโลกนพจิต! มันได้ทำการยึดครองเชื่อมต่อและดูดซับขุมพลังของโลกนั้น... ทำให้พลังฝึกตนของมันพุ่งทะยานเหนือล้ำไปอีกหลายขั้น!!
และเมื่อมันเดินทางกลับมาถึงทวีปตงหลิง สิ่งแรกที่มันต้องการกระทำก็คือ ล้างแค้นตัวบัดซบที่หยิบยื่นความอัปยศอันหนักหนาให้แก่มันวันนั้น! อย่างไรก็ตามในขณะที่มันคิดจะออกเดินทางไปตามหาตัวบัดซบ เจตจำนงสวรรค์ก็มอบหมายงานให้มัน ..มานำตัวธิดาศักดิ์สิทธิ์แห่งเผ่าหมันหวงกลับไปเสียก่อน...!
สำหรับเฉินเชวียนแล้วเผ่าหมันหวงยังจะนับเป็นตัวอะไรได้? ด้วยความแข็งแกร่งของมันในปัจจุบัน การจะทำลายทั้งเผ่าให้ราบพนาสูร ย่อมลำบากเพียงพลิกฝ่ามือ!
แต่เรื่องราวมันคงน่าเบื่อไม่น้อย หากทุกสิ่งทุกอย่างมันจบลงรวดเร็วเกินไป
ดังนั้นเฉินเชวียนจึงไม่ลงมือจบเรื่องราวด้วยตัวเอง แต่เรียกกองทัพวิญญาณร้ายให้ออกมายืดเส้นยืดสาย ใช้ให้พวกมันเข่นฆ่านักรบและผู้คนทั้งหมดของเผ่าหมันหวง ยกเว้นแต่ธิดาศักดิ์สิทธิ์เป้าหมายในการมาครั้งนี้เท่านั้น ส่วนตัวมันก็รับชมเรื่องราวอย่างสนุกสนาน เสพรับเสียงกรีดร้องโหยหวน และความสิ้นหวังของผู้คน ด้วยรอยยิ้ม...
ในสายตาของเฉินเชวียน ตัวมันคือมหาบุรุษแห่งยุค หนึ่งเดียวผู้ได้รับการเลือกสรรจากเจตจำนงแห่งสวรรค์
ด้วยโชควาสนานำพาได้รับการเลือกสรรจากเจตจำนงแห่งสวรรค์ ตัวมันย่อมกลายเป็นตัวตนอันไร้ผู้ต้าน...ส่วนเรื่องบัดซบเมื่อปีก่อน...ลืมไปเถอะ นั่นคือบททดสอบ...บทหนึ่งของสวรรค์เท่านั้นล่ะ..!
"นักรบทั้งหลาย อย่าได้หวาดกลัว!" เมื่อมองเห็นสถานการณ์ตรงหน้าที่เริ่มเลวร้ายลงเรื่อยๆ หวงหลิงเอ๋อเผยความกังวลออกมา ก่อนที่จะตัดสินใจกล่าวปลอบประโลมพร้อมเริ่มหลับตาลงช้าๆ เอื้อนเอ่ยบทสวดภาวนา
ทันใดนั้นท้องฟ้าพลันสั่นไหว พลังลึกลับค่อยๆก่อเกิดควบรวมจากความว่างเปล่า จากไม่มีกลับกลายเป็นมี
ทันใดนั้นน้ำพุศักดิ์สิทธิ์พลันปรากฏร่างกลางอากาศ สายน้ำสาดกระเซ็นส่องประกายงดงามราวอัญมณี
นี่เป็นน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ที่ทรงพลังอำนาจลี้ลับสามารถเพิ่มพูนความแข็งแกร่งให้แก่ผู้คนของชนเผ่าหมันหวง ยกระดับบ่มเพาะไปอีกขีดขั้น...
ทว่าหวงหลิงเอ๋อก็ต้องพบพานกับความตื่นตระหนก! เพราะเพียงพริบตาที่น้ำพุศักดิ์สิทธิ์ปรากฏออกมาได้ไม่ถึงอึดใจ มันก็ถูกพลังอำนาจมหาศาลป่นทำลายสลายกลายเป็นฝุ่น อันตรธานหายไป!!
น้ำพุศักดิ์สิทธิ์ ที่นางสวดภาวนาจักหายไปได้อย่างไร!? นั่นเป็นไปไม่ได้...!
ตราบใดที่เจตจำนงสวรรค์ยังอยู่...น้ำพุศักดิ์สิทธิ์สมควรดำรงอยู่ชั่วนิรันดร์!
...
เมื่อมองไปยังฉากเบื้องหน้าเฉินเชวียนแสยะยิ้มพร้อมกล่าวออกมา "โอ้...ธิดาศักดิ์สิทธิ์ อย่าได้เสียเวลาอีกเลย เจ้าจักต่อสู้อย่างไร้ประโยชน์ไปเพื่ออันใด เพียงแค่ยอมจำนน ยุติการต่อสู้อันไร้ประโยชน์นี่เสียเถิด..."
ถึงแม้ว่าเฉินเชวียนจะไม่รู้ว่าเพราะอะไรเจตจำนงสวรรค์ถึงสั่งการให้มันมานำตัวธิดาศักดิ์สิทธิ์แห่งเผ่าหมันหวงนี่กลับไป แต่มันก็ไม่คิดจะสงสัยในคำสั่งของเจตจำนงสวรรค์แม้แต่น้อย
ในอดีตแม้จะมีช่วงเวลาที่มันไม่เชื่อว่าร่างเงาลึกลับนี่จะเป็นเจตจำนงสวรรค์ที่ลิขิตชะตาชีวิตผู้คนได้จริงอยู่บ้าง ...แต่ตอนนี้มันได้เชื่อหมดใจแล้ว ว่าเงาลึกลับนี้คือเจตจำนงสวรรค์ที่สามารถลิขิตชีวิตมนุษย์ทั้งมวลได้จริงๆ!!
เพราะพอมันได้ย้อนคิดกลับไป ตัวมันเองก็เป็นเพียงปุถุชนคนธรรมดาคนหนึ่ง อย่างไรก็ตามเมื่อมันได้รับการเลือกสรรจากสวรรค์ และได้เข้ารับการฝึกฝนเป็นเวลา 100 ปี ตัวมันก็บรรลุสู่ระดับบ่มเพาะที่ทรงพลังจนน่าเหลือเชื่อ อย่างที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ด้วยซ้ำ
"หากเจ้าคิดนำพาธิดาศักดิ์สิทธิ์ของพวกเราไป เจ้าก็ต้องข้ามศพพวกเราไปก่อน!!" เหล่าผู้คนของชนเผ่าหมันหวง ได้ห้อมล้อมเขามาข้างกั้นรอบๆ แท่นบูชา ปกป้องธิดาศักดิ์สิทธิ์เอาไว้
เมื่อมองไปยังสหายร่วมเผ่าที่ตกตายไปแล้วฟื้นคืนขึ้นมาเป็นปีศาจ พวกมันล้วนเต็มไปด้วยความหวาดกลัว แต่จะอย่างไรก็ตามหนึ่งชีวิตนี้ต่อให้ต้องดับสิ้นลง ก็จะคงไว้ซึ่งปณิธานไม่ยินยอมให้ใครแตะต้องธิดาศักดิ์สิทธิ์ได้แม้แต่ปลายผม!
"เฮอะ! พวกมดปลวก ฆ่าพวกมันให้หมด ... !" เฉินเชวียนหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา ก่อนที่จะเชิดหน้าสะบัดผ้าคลุม กล่าวคำสั่งออกมาอย่างไม่แยแส
เมื่อมองไปยังเรื่องราวตรงหน้าธิดาศักดิ์สิทธิ์ไม่อาจรักษาความสงบได้อีกต่อไป...
เพราะในตอนนี้เองภาพอนาคตเดิมพลันวูบขึ้นมาในหัว...อีกครั้ง
ทุกทั่วหัวระแหงเกลื่อนกลาดไปด้วยซากศพของผู้คนในชนเผ่าหมันหวง โลหิตหลั่งชโลมแดนดินจนแดงฉาน เผ่าหมันหวงถูกลบหายไปจากหน้าประวัติศาสตร์ของโลก...
จบสิ้นแล้ว....
..
"โอ้โฮ...ห้าวเป้งอีกแล้วเหรอเฮ่ย...วันนี้เจ้าอยากเด้าพื้นอีกซักครั้งรึเปล่า?"
ทันใดนั้นเสียงหนึ่งพลันดังขึ้นจากผืนฟ้า...
หวงหลินเอ๋อค่อยๆแหงนหน้าขึ้นไปมองท้องนภา และวินาทีที่นางได้เห็นว่าผู้มาเป็นใคร หัวใจของนางก็สั่นไหวระรัว ส่วนทางด้านเฉินเชวียนเมื่อได้ยินเสียงนี้ มันก็สงสัยไม่น้อย ว่าผู้มาเป็นใคร...
และเมื่อมันเห็นร่างที่ยืนเอามือไพร่หลังลอยตัวอย่างสงบ เสื้อผ้าปลิดปลิวตามแรงลม สายตามองลงมาอย่างเหนือชั้น โทสะอารมณ์ในใจของมันพลันปะทุขึ้นมา
'เป็นตัวบัดซบนั่นอีกแล้ว ...!!'