px

เรื่อง : แม่สาวชาวสวน **(จบแล้ว)**
ตอนที่ 34 ออกไปเล่น


ตอนที่ 34 ออกไปเล่น

 

หากต้องการจะให้ฟางฮั่นอวยพรปีใหม่ใครล่ะก็… ต้องเป็นครอบครัวของอาหกเท่านั้น เมื่อคิดเช่นนั้นนางจึงพาน้องทั้งสองออกเดินไปที่บ้านอาหกทันที

 

ความจริงแล้วในวันนี้อาและน้าควรจะพาลูกออกไปเคารพผู้อาวุโสในวันตรุษจีน แต่พวกเขากลับนั่งรอฟางฮั่นอยู่ที่บ้านอย่างใจจดใจจ่อแม้ว่าจะไม่มีการนัดกันไว้ก็ตาม แต่อย่างไรทั้งหมดกลับรู้ได้ว่าหลานจะต้องมาหาอย่างแน่นอน

 

“อาหก น้าหก พี่หรู หมิงเหอ สวัสดีปีใหม่”

 

เสียงของฟางฮั่นดังขึ้นก่อนที่เจ้าตัวจะมาถึงเสียอีก

 

ใบหน้าของน้าหกเปื้อนรอยยิ้มเมื่อเห็นเด็กทั้งสาม ฟางฮั่นพาน้องทั้งสองเดินเข้ามาด้านในอย่างชื่นมื่น

ดวงตาของน้าหกเปล่งประกายความประหลาดใจออกมา “โอ้ ฟางฮั่น เสี่ยวฉือของน้า นี่คือนางฟ้าตัวน้อยที่ลงมาจุติบนโลกมนุษย์ใช่หรือไม่ ส่วนหวยเอ๋อจะต้องเป็นเทวดาที่ยืนอยู่ข้างนางฟ้าแน่ ๆ”

 

ใบหน้าของฟางฉือร้อนผ่าวจากความเขินอาย ส่วนฟางฮั่นโตแล้วจึงไม่ค่อยเขินมากนัก นางหัวเราะออกมาพร้อมพุ่งเข้าไปกอดน้าหกและอาหกทันที

 

ในห้องเต็มไปด้วยเสียงตะโกนสวัสดีปีใหม่ซึ่งกันและกัน ทั้งหมดนั่งล้อมวงอย่างยินดี

 

อาหกรินน้ำ 3 แก้วและยื่นมันให้กับเด็ก ๆ ส่วนน้าหกหยิบซองสีแดงออกมาพร้อมกับยัดมันใส่มือเด็กทั้งสาม “นี่คือสิ่งที่พวกเจ้าสมควรจะได้รับในวันปีใหม่ ห้ามปฏิเสธเด็ดขาด”

 

จากนั้นฟางฮั่นเผยรอยยิ้มซุกซนออกมา “น้าก็ปฏิเสธไม่ได้เช่นกัน” นางหยิบซองสีแดงซองหนาออกมาจากกระเป๋าเสื้อและวางมันใส่มือของหมิงเหอที่กำลังนอนเล่นอยู่บนเตียงอย่างไม่รู้ประสา “นี่คือส่วนของพ่อแม่ข้าที่ล่วงลับไปแล้ว ข้าขอให้มันกับหลานหมิงเหอ ซึ่งน้าหกก็ปฏิเสธข้าไม่ได้เช่นกัน”

 

น้าหกส่งเสียงโอดครวญ “แต่เจ้ายังเด็ก…”

 

หมิงเหอโตขึ้นอีกปีหลังจากผ่านพ้นปีใหม่ เขาหย่านมมาสักพักแล้วและราวกับรู้ว่าต้องขอบคุณฟางฮั่นอย่างไรมือน้อย ๆ ของเขาได้ชูขวดนมขึ้นพร้อมกับจับซองแดงไว้แน่นหนาราวกับกำลังซูฮกให้ฟางฮั่น

 

ฟางฮั่นรู้สึกหมั่นเขี้ยวเด็กน้อยมาก นางกอดหมิงเหอเอาไว้แน่นพร้อมระดมจูบเด็กน้อยอย่างหนัก ส่วนเด็กชายก็ร่าเริงอย่างมากเช่นกัน ฟางหมิงหวยเห็นเช่นนั้นรู้สึกอิจฉาและหวงพี่สาวของตนเอง เขาขยับเข้าไปใกล้อย่างเรียกร้องความสนใจว่าให้พี่สาวจูบเขาบ้าง ฟางฮั่นหัวเราะออกมาอย่างสนุกสนานและโอบกอดเด็กชายเอาไว้อย่างเอาใจ

 

เวลาผ่านล่วงเลยไปครึ่งชั่วโมงอย่างรวดเร็ว ฟางฮั่นรู้สึกว่าเวลาแห่งความสุขผ่านไปเร็วเหลือเกิน ตอนนี้อาและน้าจะต้องพาฟางหรูและหมิงเหอออกไปสวัสดีปีใหม่ผู้อาวุโสบ้างแล้ว นางเข้าใจเรื่องนี้ดีจึงลุกขึ้นและเตรียมตัวแยกย้าย

 

น้าหกหยิบเมล็ดแตงโมและถั่วลิสงใส่กระเป๋าเด็กน้อยทั้งสองจนเต็มก่อนจะกล่าว “เอามันกลับไปกินที่บ้านนะ วันนี้ข้าต้องพาฟางหรูไปพบใครบางคน ไม่อย่างนั้นก็คงจะได้อยู่กับพวกเจ้าแล้ว”

 

ฟางหรูใบหน้าแดงก่ำขึ้นมาทันทีเมื่อแม่ของตนพูดเช่นนั้นออกมา ศีรษะของนางลดต่ำพร้อมกับบิดผ้าม่านอย่างไม่รู้จะทำอะไร

 

ฟางฮั่นมองดูฟางหรูพร้อมกับสังเกตว่านางแต่งตัวสวยงามมากกว่าปกติ

 

ฉับพลันนางเข้าใจสถานการณ์ทั้งหมดทันที

 

นี่มัน… วันปีใหม่จับคู่ในตำนานงั้นหรือ ?

 

ความจริงแล้วการแต่งงานควรเกิดจากความรัก ทว่าน้าหกนั้นหวงแหนลูกสาวของตนเองมากจนไม่ยอมให้นางออกไปพบใคร หากไม่ต้องการให้บุตรสาวไปคว้าใครมาแบบไม่รู้หัวนอนปลายเท้าก็จำเป็นจะต้องยอมพานางออกไปพบปะผู้คนบ้าง ดังนั้นการใช้โอกาสในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้นั้นเป็นสิ่งที่เหมาะสมที่จะพาบุตรสาวของตนเองออกไปเพื่อพบปะกับบุตรชายในครอบครัวอื่นเป็นการทำความรู้จักกัน มันไม่ได้ผิดปกติแต่อย่างใด

 

กรามของฟางฮั่นขบกันจนรู้สึกเจ็บปวด พี่สาวของนางอายุเพียง 15 ปีซึ่งมันเป็นอายุที่นางเพิ่งจะได้เข้าโรงเรียนมัธยมเท่านั้น ดอกไม้นี้ยังไม่ทันได้เบ่งบานแต่กำลังจะถูกเด็ดแล้วงั้นหรือ…

 

แต่มันเป็นประเพณีที่ทุกคนในยุคสมัยนี้คุ้นเคย

 

ฟางฮั่นได้แต่ถอนหายใจพร้อมกับคิดในหัวว่าหลังจากสบู่ของนางบ่มได้ที่แล้วคงจะต้องยกมันให้กับพี่สาวของนางสักสองสามก้อนเพื่อบำรุงผิวพรรณให้ดีเลิศก่อนแต่งงาน

 

ฟางฮั่นพาน้องสองคนกลับบ้านและวางผลไม้ในมือไว้บนโต๊ะ ในถาดมีผลไม้อยู่สองสามชนิดที่นางซื้อมาจากในเมือง อีกจานมีน้ำตาลปั้นและเมล็ดแตงโม หมิงหวยจ้องมองน้ำตาลปั้นอย่างคาดหวัง ดูเหมือนว่าเขาต้องการจะกินมัน…

 

นางหัวเราะออกมาและบ่นว่าฟันหน้าของเขาจะผุหมดแล้ว ให้กินมันน้อยลงสักหน่อย

 

หมิงหวยพยักหน้าอย่างเร่งรีบราวกับกลัวว่าพี่ใหญ่ของเขาจะเปลี่ยนใจ

 

หลังจากนั้นสักพักใหญ่ เพื่อนของฟางฉือมาเยี่ยมที่บ้าน เด็กหญิงอายุห้าถึงหกขวบสวมใส่เสื้อผ้าชุดใหม่ยืนลังเลอยู่ที่หน้ารั้ว ฟางฮั่นหันไปเห็นนางพอดีในขณะที่อีกฝ่ายยังคงทำอะไรไม่ถูก

 

เด็กหญิงตัวเล็กตกใจที่มีคนเห็นพร้อมเงยหน้าขึ้นอย่างตื่นตระหนก

 

ฟางฮั่นยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยนพร้อมกล่าวกับเด็กน้อย “เจ้ามาที่นี่เพื่อเล่นกับฟางฉืองั้นหรือ ? ”

 

เด็กหญิงตัวเล็กพยักหน้าอย่างเขินอายในขณะที่จับจ้องฟางฮั่น นางรู้สึกว่าพี่สาวฟางฮั่นสวยมากและไม่เห็นดุร้ายอย่างที่ใครเขาลือกัน ปากน้อย ๆ อ้าออกพร้อมกล่าวเบา ๆ “พี่ฟางฮั่นกำลังฉลองปีใหม่ที่บ้านงั้นหรือ ? ”

 

ฟางฮั่นพยักหน้าด้วยรอยยิ้มและเชิญให้นางเข้ามาข้างในก่อน

 

เสี่ยวกุ้ยฟ่งเดินเข้ามาข้างในอย่างเชื่องช้า ฟางฉือกำลังเล่นเกมไพ่อยู่กับหมิงหวยบนแคร่ เมื่อนางเห็นเพื่อนตัวน้อยของตนเองเดินเข้ามาในบ้าน สายตาของนางทอประกายสดใสทันที “กุ้ยฟ่ง เจ้ามาแล้ว ! ”

 

เมื่อกุ้ยฟ่งได้ยินฟางฉือเรียก นางสดใสขึ้นทันทีพร้อมตรงปรี่เข้าไปหาเพื่อนอย่างเร่งรีบ เสียงเล็กอุทานขึ้นมาอย่างสดใส “ฉือฉือ วันนี้เจ้าดูดีมาก พี่สาวของเจ้าตัดชุดใหม่ให้งั้นหรือ ? ”

 

ฟางฉือเดินออกมาสวมรองเท้าและยิ้มหวานให้อีกฝ่าย “เปล่า พี่ใหญ่ซื้อให้ข้าน่ะ นางซื้อมันมาจากในเมือง”

 

กุ้ยฟ่งจับแขนเสื้อของฟางฉืออย่างอิจฉา จากนั้นนางกลับมาดึงเสื้อผ้าตัวเองอย่างขับข้องใจพร้อมหงุดหงิด “เสื้อผ้าของข้าคือเสื้อผ้าเก่าของพี่สาว ป้าของข้าเปลี่ยนมันให้กับข้าเอง เฮ้อ ข้าอิจฉาเจ้าจริง ๆ ที่ไม่ต้องใส่เสื้อผ้าเก่า ๆ ของพี่สาวตัวเอง”

 

ฟางฉือที่ได้ยินเช่นนั้นเงียบลงทันทีอย่างไม่รู้จะพูดอะไรต่อ

 

หมิงหวยที่อยู่ข้าง ๆ หันหน้าไปหาพร้อมกล่าวอย่างไร้เดียงสา “หวยเอ๋อก็มีเสื้อผ้าใหม่เหมือนกันนะ”

 

เขาโอ้อวดเสื้อผ้าตัวเองกับกุ้ยฟ่ง ทำให้อีกฝ่ายหัวเราะออกมาอย่างเอ็นดูเด็กชายตรงหน้า ความโศกเศร้าก่อนหน้านี้พลันหายไปและลูบหัวของเขาอย่างเอ็นดู

 

ฟางฉือต้องการจะออกไปเล่นกับกุ้ยฟ่ง ฟางฮั่นจึงหยิบขนมจำนวนหนึ่งใส่ในกระเป๋าของทุกคนอย่างเท่าเทียมก่อนจะกำชับด้วยรอยยิ้มว่า “เด็กไม่ควรกินน้ำตาลมากเกินไปเพราะจะทำให้ฟันผุ และก่อนนอนอย่าลืมแปรงฟันกันด้วยนะ”

 

สำหรับยุคนี้ ขนมเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดสำหรับเด็กก่อนที่จะออกไปเล่นนอกบ้าน ทั้งสองจับมือกันและวิ่งออกไปอย่างมีความสุข

 

หลังจากนั้นไม่นาน เฉียนต้ายามาเยี่ยมฟางฮั่นที่บ้าน ทั้งสองคนนั่งพูดคุยกันอยู่เป็นเวลานาน หลังจากนั้นอีกฝ่ายถามฟางฮั่นว่าซื้อเสื้อผ้าที่ไหน เมื่อได้รับคำตอบ นางพึมพำเบา ๆ ว่าเมื่อกลับถึงบ้านนางจะขอให้แม่นางซื้อมันให้บ้าง ก่อนจะกลับ สายตาของเฉียนต้ายาเหลือบไปเห็นผลไม้ที่วางอยู่ในถาด นางหยิบมันก่อนที่จะกัดอย่างตะกละและเดินออกจากบ้านไป

 

ฟางหมิงหวยกำลังเบื่อหน่ายและฟางฮั่นสังเกตเห็น นางจึงเดินไปหาเขาพร้อมกับเล่นเกมไพ่ด้วยกัน

 

ขณะที่กำลังเล่นเกมไพ่ หมิงหวยก็ยังคงไม่มีสมาธิราวกับเขาคิดเรื่องอะไรอยู่ตลอดเวลา

 

ฟางฮั่นเห็นเช่นนั้นจึงแตะหน้าผากของเด็กชายอย่างกังวลใจ “หวยเอ๋อ เจ้าไม่สบายหรือ ? ”

 

ฟางหมิงหวยกล่าวออกมาอย่างเศร้า ๆ “ทั้งพี่หญิงใหญ่และพี่ฟางฉือก็มีเพื่อนมาเยี่ยม แต่ไม่มีใครมาหาหวยเอ๋อเลย…”

 

ฟางฮั่นเข้าใจทันทีว่าเด็กชายตัวน้อยชอบเล่นกับเด็กที่โตกว่า ตอนอยู่ในบ้านหลังใหญ่ ฟางหมิงหวยมักจะวิ่งตามฟางหมิงฮ่งเสมอ แต่หลังจากเหตุการณ์ที่ฟางฮั่นถูกไล่ออกจากบ้านคราวนั้น เขาจึงไม่ได้เล่นกับหมิงฮ่งอีกเลย

 

ฟางฮั่นลูบศีรษะของเด็กชายอย่างปลอบโยนพร้อมกับยื่นถุงใส่ขนมให้เขา “ถ้าไม่มีใครมาเล่นกับเจ้า… เจ้าก็ไปเล่นกับพวกเขาสิ แต่จงจำไว้ว่าถ้าหากพวกเขารังแกเจ้า จงอย่ายอมให้พวกเขาทำเด็ดขาด เขาต้องปฏิบัติกับเจ้าดั่งเช่นเพื่อนคนอื่น หวยเอ๋อเข้าใจหรือไม่ ? ”

 

หมิงหวยเงยหน้าขึ้นหลังจากคิดอยู่นาน เขาพยักหน้ารับ “พี่ใหญ่หมายถึงให้ข้าไปเล่นกับคนที่ไม่แกล้งข้าและยอมรับข้าเป็นเพื่อนใช่หรือไม่ ? ”

 

ฟางฮั่นจูบหน้าผากของเด็กน้อยพร้อมกล่าวว่า “เก่งมาก หวยเอ๋อของข้าฉลาดที่สุดเลย นั่นแหละที่ข้าจะบอกเจ้าน่ะ”

 

ฟางหมิงหวยยิ้มกว้างอย่างมีความสุขพร้อมวิ่งออกไปกับถุงขนมน้อยของเขา

 

รีวิวผู้อ่าน