เมื่อมาถึงประตูมิติ ซึ่งตั้งอยู่ที่ชานเมืองเฉียนเหว่ยอีกครั้ง จางเฉอไม่ต้องแสดงใบรับรองของเขาเพื่อให้ผ่านเข้าค่ายทหารอีกต่อไป
ในฐานะบีสมาสเตอร์อย่างเป็นทางการที่มีสัตว์อสูรของตัวเอง เขาจำเป็นต้องเรียกการ์ดสัตว์อสูรจากทะเลวิญญาณของเขาเท่านั้น จึงจะได้รับอนุญาตผ่านค่ายโดยไม่มีสิ่งกีดขวาง
“ ฉันสามารถเติบโตอย่างแข็งแกร่งได้อย่างรวดเร็วและฉันจะพบสัตว์อสูรประเภทรักษาได้ภายใน 3 ปี!”
เมื่อมองไปที่ประตูมิติที่เหมือนหน้าจอสีน้ำเงินก่อนหน้าเขา จางเฉอก็ส่งเสียงเชียร์ตัวเองภายในขณะที่เขาเดินตามกระแสผู้คนเข้ามาอย่างเป็นระเบียบ
-
เข้าสู่โลกแห่งสัตว์อสูรอีกครั้ง จางเฉอ รู้ทางของเขาแล้ว เขาตัดสินใจเลือกทิศทางและออกจากโซนปลอดภัย โดยตรงไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
เมื่อมองไปที่ป่าภูเขาเบื้องหน้าเขา จางเฉอก็ยิ้มออกมา ทันใดนั้นการ์ดสัตว์อสูรสีต่าง ๆ สามใบก็ปรากฏขึ้นระหว่างปลายนิ้วของเขาและกลายเป็นแมงป่องสีแดงเข้มเช่นเดียวกับหมาป่าสีเทาขี้เถ้าที่สูงและทรงพลังสองตัวยืนอยู่ข้างเขา
ไม่มีใครรู้จักเขาที่นี่ จางเฉอ ไม่ต้องกังวลว่าความลับของเขาจะถูกเปิดเผย
ยิ่งไปกว่านั้นการมีสัตว์อสูรสามตัวเป็นเครื่องหมายของบีสมาสเตอร์ระดับสอง สิ่งนี้อาจทำให้คนอื่นเข้าใจผิดว่าเขาเป็นบีสมาสเตอร์ระดับสอง ซึ่งช่วยลดปัญหาของเขาได้
หากไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของคนอื่น ๆ ก็ไม่สามารถขโมยการ์ดสัตว์อสูรได้ แม้ว่าพวกเขาจะฆ่าเขา แต่การ์ดสัตว์อสูรที่มีตราประทับจิตวิญญาณของเขาจะกลายเป็นแสงและหายไป
อย่างไรก็ตามเราไม่ควรคิดว่าคนอื่นจะไม่หันไปใช้วิธีการฆาตกรรมและขโมยของมีค่าเพียงเพราะเหตุนั้น ที่จริงเมื่อเผชิญกับความรุนแรงผู้คนจำนวนมากจะเลือกชีวิตของตนเหนือทรัพย์สินทางวัตถุ
แน่นอนว่านี่เป็นเพียงความคิดปรารถนาของคนอ่อนแอและขี้ขลาด
พวกเขาจะยอมให้คุณมีชีวิตอยู่ต่อไปหลังจากที่ขโมยของมีค่าของคุณ ทำให้คุณมีโอกาสแก้แค้นในอนาคตหรือไม่?
~~~~~~
บริเวณด้านหน้าของเขาเป็นป่าที่แผ่ปกคลุมไปด้วยต้นไม้ที่มีลักษณะคล้ายต้นสนที่พบในดาวพุธเติบโตที่นั่น หญ้าก็กระจายบาง ๆ เช่นกันเผยให้เห็นจุดของดินสีน้ำตาล
ด้วยสัตว์อสูรสามตัวที่อยู่เคียงข้างเขาจางเฉอก้าวเข้าไปในโลกของสัตว์อสูรและตอนนี้อยู่ห่างจากเขตปลอดภัยมากกว่าห้ากม.
บนท้องถนน เขาได้สังหารสัตว์อสูรระดับหนึ่งดาวจำนวนหนึ่งและแม้แต่สัตว์อสูรสองดาวที่ได้รับความสนใจ โดยรวมพลังวิญญาณที่ดีพอ ๆ กับการ์ดสัตว์อสูรอีกสองสามใบ
อาจเป็นเพราะความได้เปรียบเหมือนการโกงของเขา จางเฉอรู้สึกว่าเขาได้รับพลังวิญญาณมากกว่าคนอื่น ๆ เมื่อใดก็ตามที่เขาฆ่าสัตว์อสูรที่แปลกใหม่ เขาสามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าความแข็งแกร่งทางวิญญาณของเขาเต็มไปด้วยปีกและเขาจะทะลุไปยังบีสมาสเตอร์ระดับสองในอนาคตอันใกล้
ส่วนที่น่าเสียใจเพียงอย่างเดียวคือเขาไม่ได้รับการ์ดสัตว์อสูรที่คล้ายกัน ส่งผลให้เขาไม่สามารถได้รับคะแนนประสบการณ์ใด ๆ สำหรับทักษะการหลอมรวมของเขา ตอนนี้มันยังคงอยู่ที่ 9 คะแนน
“ ปรากฎว่าแม้ว่าสัตว์อสูรระดับหนึ่งดาวและสองดาวจะล่าได้ง่ายกว่า แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเพิ่มทักษะการหลอมรวมเป็นระดับ 2”
เมื่อนึกถึงที่นี่จางเฉอไม่สามารถต้านทานการถอนหายใจได้ เขามีการ์ดผีเสื้อลายผีสามดาวสี่ใบ เขากำลังรอวันที่ในที่สุดเขาจะหลอมรวมพวกมันให้กลายเป็นการ์ดสัตว์อสูรระดับกลางระดับห้าดาวได้
อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ไม่สามารถรีบเร่งได้เช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้นเขาต้องเพิ่มขึ้นเป็นบีสมาสเตอร์ระดับห้า เพื่อที่จะใช้การ์ดสัตว์ห้าดาว!
ในขณะที่เขากำลังคิดถึงเรื่องเกี่ยวกับการหลอมรวมจู่ๆจางเฉอก็ได้ยินเสียงดังก้องขึ้นข้างหน้าและเห็นเงาสีน้ำตาลจำนวนมากพุ่งเข้าหาเขา
หมาป่าเงาลมปล่อยเสียงครวญครางต่ำออกมา ขณะที่พวกมันโก่งตัวเพื่อตั้งรับ
อย่างไรก็ตามแมงป่องคะนองไม่ได้แสดงปฏิกิริยามากนัก มันยกปากนกแก้วขึ้นโดยยังคงอยู่ข้าง จางเฉอ ตามปกติ ดูเหมือนจะไม่แปลกใจกับการปรากฏตัวของสัตว์แปลกใหม่
ในไม่ช้าภาพเงาสีน้ำตาลก็เคลื่อนผ่านพืชพันธุ์ที่เบาบางเข้าสู่สายตาของ จางเฉอ
จริงๆแล้วพวกมันเป็นกลุ่มหมูป่าที่มีงาคล้ายกริชมีขนสีน้ำตาลปกคลุมทั้งตัว ความโลภในการหาอาหารของพวกเขาสามารถมองเห็นได้ในดวงตาสีดำสนิทเหล่านั้น เห็นได้ชัดว่าการปฏิบัติต่อจางเฉอและสัตว์อสูรของเขาเป็นอาหารอันโอชะ
=====
[หมูป่าขนสีน้ำตาล]
ระดับ: หนึ่งดาว (ระดับ 8)
คุณภาพ: บรอนซ์
ลักษณะเฉพาะ: หนังหนาและร่างกายที่แข็งแกร่งแผงคอที่ด้านหลังสามารถยิงเป็นกระสุนได้เมื่อโกรธ
จุดอ่อน: เข้าสู่สถานะที่อ่อนแอในช่วงเวลาหนึ่งหลังจากยิงกระสุนที่แผงคอ
ศักยภาพ: ระดับ D: โอกาส 25% ในการทะลุผ่านระดับปัจจุบัน, โอกาส 2.5% ที่จะทะลุผ่านคุณภาพปัจจุบัน โอกาสลดลงครึ่งหนึ่งในการอัปเกรดครั้งต่อไป อัพเกรดได้ 2 ครั้ง
ทิศทางการบ่มเพาะ: …
=====
จางเฉออดไม่ได้ที่จะรู้สึกพูดไม่ออก หลังจากเห็นคุณลักษณะของหมูป่าที่มีขนสีน้ำตาล
แผงคอไม่ใช่ทักษะของเม่น? เหตุใดสัตว์อสูรที่ดูเหมือนหมูป่าจึงรู้ทักษะเช่นนี้
เขาไม่รู้ว่าระยะของกระสุนอยู่ไกลแค่ไหน ดูเหมือนว่าเขาจะต้องถอยกลับไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้
ด้วยความคิดสัตว์อสูรทั้งสามของเขาพุ่งเข้าหาหมูป่าที่มีขนสีน้ำตาล ในแนวนอนในขณะที่จางเฉอซ่อนตัวอยู่หลังก้อนหินอย่างเงียบ ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเองถูกกระสุนจากแผงคอของสัตว์แปลกหน้า
นี่คือสัตว์อสูรระดับบรอนซ์หนึ่งดาว ตามบรรทัดฐานการโจมตีด้วยกระสุนแผงคอของเพื่อนคนนี้ ไม่ควรอ่อนแอไปกว่าธนูและลูกศร แม้ว่าเขาจะสวมชุดป้องกัน แต่เขาก็ไม่กล้ารับประกันว่ามันจะปกป้องเขาได้เต็มที่
นอกจากนี้เขาไม่ได้มีหมวกกันน็อค หากในโอกาสที่มีขนหลายเส้นบินมาที่เขานั่นไม่ใช่สถานการณ์ที่น่าสนุก
มีหมูป่าขนสีน้ำตาลทั้งหมดห้าตัวที่พุ่งออกมาจากป่า พวกมันมีขนาดใกล้เคียงกับ หมาป่าเงาลม ของ จางเฉอ เมื่อพวกเขาพุ่งเข้าหากันก้าวของพวกเขาดังขึ้นราวกับฟ้าร้องและดูน่ากลัว
อย่างไรก็ตามหลังจากทำงานร่วมกันเป็นทีมมาระยะหนึ่ง หมาป่าเงาลม และ แมงป่องคะนอง ก็มีเคมีที่เพียงพอระหว่างพวกเขา พวกเขาไม่กลัวสัตว์อสูรในระดับนั้นเลย
หมาป่าเงาลมนั้นเร็วกว่าหมูป่าขนน้ำตาลมาก พวกเขาเข้าหาหมูป่าด้วยความเร็วดุจสายฟ้า แสดงความว่องไวอย่างเต็มที่ ด้วยการเคลื่อนไหวที่ว่องไวเพียงไม่กี่ครั้งพวกเขาทำให้ขบวนของหมูป่าหยุดชะงักและลดความเร็วลงอย่างมาก
หมาป่าเงาลมมีระดับเช่นเดียวกับหมูป่าขนน้ำตาล ด้วยความเร็วและความคล่องตัวที่เหนือกว่า พวกเขาบังคับให้ศัตรูที่มีจำนวนสองเท่าของพวกเขาอยู่ในจุดเดียวกันทำให้ แมงป่องคะนอง จัดการพวกมันได้ง่าย
ปู เสียงแผ่วเบาดังขึ้น หมูป่าขนน้ำตาลตัวหนึ่งประมาทและแมงป่องคะนองก็ฟาดฟันด้วยเหล็กไนที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีอย่างหาที่เปรียบมิได้ แทงลึกเข้าไปในปากของมัน
หมูป่าขนสีน้ำตาลตัวแข็ง ดวงตาของมันเปลี่ยนเป็นสีแดงสดและส่งเสียงร้องอย่างน่าเวทนา แผงคอสีน้ำตาลยาวและแข็งที่หลังของมันพุ่งออกมาราวกับลูกศรห่าฝนที่ แมงป่องคะนอง
ดิง ดิง แดง แดง กลุ่มของเสียงที่คมชัดดังขึ้น ขนไม่สามารถทะลุผ่านกระดองของ แมงป่องคะนอง ได้
ในช่วงเวลาต่อมาเมื่อสารพิษที่ แมงป่องคะนอง ฉีดเข้าไปในหมูป่าที่มีขนสีน้ำตาลมีผลให้หมูป่าที่มีระดับต่ำกว่าทั้งหมดก็ถูกปกคลุมไปด้วยแสงสีแดง ทรุดตัวลงบนพื้นและส่งพลังวิญญาณไปหลายจุด
หลังจากนั้น แมงป่องคะนอง ก็แสดงกลวิธีที่หยาบคายของมันให้สุดขีด เหล็กไนสีแดงเรืองแสงของมันยังคงโดดเด่นในพื้นที่สำคัญอย่างไม่อาจพรรณนาได้และฆ่าหมูป่าขนน้ำตาลที่เหลือ ซึ่งถูกกักไว้โดย หมาป่าเงาลม
เมื่อการต่อสู้สิ้นสุดลงจางเฉอแทบจะคำรามออกมาด้วยเสียงหัวเราะ