บทที่ 399 : มาเยือนคอกม้า..?
ต้องกล่าวเลยว่าบรรยากาศบริเวณ ด้านหน้าทางเข้าหุบเขาชั้นในยามนี้ เย็นยะเยือกราวกับอยู่ในยุคน้ำแข็ง นำพาให้ผู้คนที่ยืนอยู่เหน็บหนาวไม่น้อย ปานโลหิตทั่วร่างจะเย็นเยียบจับตัวเป็นเกล็ดน้ำแข็ง
ตุบ ตุบ ตุบ
ทันใดนั้นหวงจี้ที่คุกเข่าอยู่ ก็ก้มลงโขกหัวลงกับพื้น 3 ครั้ง...
หลังจากที่หวงจี้ได้โขกหัวเสร็จสิ้นแล้ว มันก็เงยหน้ามองมายังหลิ่งหูจิ่นหง ปากกล่าวคำออกมาด้วยน้ำเสียงไม่เปลี่ยนใจ “ประมุขหลิ่งหู ถือเสียว่าการโขกหัว 3 ครั้ง นี้ของข้า... คือการชดใช้หนี้... สำหรับเรื่องที่ท่านคอยดูแลข้าตลอดหลายปีมานี้... นับแต่นี้ต่อไป ข้า หวงจี้ ไม่มีอะไรติดค้างท่าน และไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับนิกายกระบี่ 7 ดาวอีกต่อไป!
ไม่มีอะไรติดค้าง ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องอีกต่อไป?
นำเสียงกล่าวคำครานี้ของหวงจี้ ทำให้บรรยากาศรอบๆ แปรเปลี่ยนไปในทันใด ...
ต้วนหลิงเทียนเองก็เหลือบมองไปยังหวงจี้ด้วยสายตาเย็นเยือกไร้อารมณ์ใดๆ
การที่หวงจี้ทรยศแบบนี้ นับว่าเกินสิ่งที่ต้วนหลิงเทียนคาดคิดเอาไว้ไปไกล...
แม้ว่าการที่หวงจี้ทรยศนิกายนี้ จะไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรสำหรับเขามากนัก... แต่เขาก็ยังรังเกียจและดูแคลนการกระทำของหวงจี้ กระทั่งขยะแขยงบุคคลเช่นมันเป็นที่สุด!
เพราะสำหรับคนอย่างเขาแล้ว บุญคุณที่อาจารย์ชุบเลี้ยงมานั้นยิ่งใหญ่ไม่ต่างจากบิดามารดาผู้ให้กำเนิด...ชดใช้อย่างไรก็ไม่มีวันหมด!
อีกทั้งบุญคุณที่ประมุขนิกายกระบี่ 7 ดาวอย่างหลิ่งหูจิ่นหง ...ที่มอบให้หวงจี้ จนมันได้ดีทุกถึงวันนี้นั้น...นับว่ายิ่งใหญ่ดั่งผืนฟ้า มากล้นดั่งมหาสมุทร...แต่หวงจี้ยังสามารถทรยศหักหลังได้...
หวงจี้...มันตัวบัดซบต่ำช้า อันเนรคุณนัก!
ทันทีที่หวงจี้กล่าวคำจนจบ ประมุขนิกายกระบี่ 7 ดาวอย่างหลิ่งหูจิ่นหง ที่ยังนิ่งไปราวกับไม่อยากจะเชื่อเรื่องราว ...ส่วนคนอื่นๆ จากนิกายกระบี่ 7 ดาวเริ่มชักสีหน้าดุร้ายออกมา
เมิ่งชิวและเจิ้งซง มองไปยังร่างหวงจี้ ราวเหลือบมองเศษสวะที่น่าขยะแขยง
พวกมันทั้ง 2 คนอยู่นิกายกระบี่ 7 ดาวมานานกว่าต้วนหลิงเทียนมาก... และพวกมันรู้ดีว่าประมุขหลิ่งหูดูแลหวงจี้อย่างไร มอบอะไรให้คนอย่างหวงจี้มากมายแค่ไหน ...
แต่ตอนนี้ตัวบัดซบหวงจี้ยังกล้าทรยศประมุข หักหลังนิกายกระบี่ 7 ดาวได้ลง!
“ทุกสิ่งทุกอย่างประมุขนิกายล้วนเป็นผู้มอบให้แก่เจ้า ...ทั้งนิกายกระบี่ 7 ดาวยังชุบเลี้ยงอุ้มชูดูแลเจ้า จนทำให้เจ้ามีทุกสิ่งประสบความสำเร็จทุกอย่างจนมีวันนี้...แล้วนี่คือวิธีที่เจ้าตอบแทนประมุข และนิกายกระบี่ 7 ดาวเช่นนั้นหรือ?” ใบหน้าของเจิ้งฝานยามนี้ยิ่งมายิ่งน่ากลัว มันจับจ้องมองไปยังร่างหวงจี้ด้วยแววตาอำมหิตเต็มไปด้วยโทสะอันเกรี้ยวกราด
ภายในโทสะอันเกรี้ยวกราดยังอบอวลไปด้วยจิตสังหารน่าพรั่นพรึง
ต้วนหลิงเทียนถึงกับเบิกตากว้างขึ้น... นี่ไม่ใช่วันแรกที่เขาได้พบเจอปรมาจารย์ขุนเขาไท่หยาง เจิ้งฝาน...แต่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นเจิ้งฝานโกรธเกรี้ยว มีโทสะเช่นนี้ ...
โทสะอันร้ายกาจที่ระอุดั่งเพลิงผลาญปานจะเผาทุ่งหญ้าให้วายวอด
"ที่เจ้ามีวันนี้ได้ ทุกสิ่งล้วนเป็นเพราะประมุขและนิกายกระบี่ 7 ดาวมอบให้ทั้งสิ้น! ... เจ้าสามารถทรยศประมุข และนิกายกระบี่ 7 ดาวได้ แต่ ... " พลังงานต้นกำเนิดทั่วร่างของเคอเจิ้นปะทุออกมาอย่างเกรี้ยวกราด เสื้อผ้าโบกสะบัดสันไหวรุนแรง
เหนือขึ้นไปบนฟ้า ปรากฏเงาร่างมหึมา ที่กำลังก่อตัวจากไอพลังฟ้าดิน ความแข็งแกร่งที่รอเวลาสำแดงเดชให้ประจักษ์
2 เงาร่างมังกรโบราณ!
สัญลักษณ์ของผู้ฝึกยุทธ์ระดับหยั่งรู้ธรรมชาติ ขั้นที่ 1...!
"...แต่อย่าได้คิด ว่าจักเอาระดับบ่มเพาะที่ประมุขและนิกายส่งเสริมให้เจ้า ติดตัวไปไหนได้!" เคอเจิ้นระเบิดเสียงตะโกนอกมา
ทันใดนั้นกลิ่นอายผู้เชี่ยวชาญหยั่งรู้ธรรมชาติแผ่ซ่านกดดันในบรรยากาศ โหมกระหน่ำซัดสาดดั่งจะทะลุฟ้า นำพาให้ทุกผู้คนหนาวสะท้านไปถึงไขสันหลัง
เคอเจิ้นพลันก้าวออกมาด้วยท่าทางน่าเกรงขาม จิตสังหารเอ่อล้นทะลักออกมาอย่างน่ากลัว แรงกดดันไร้สภาพแผ่ซ่านออกไป ควบคู่ไปกับแรงกดดันไร้สภาพของต้าเผิง ทำให้ประมุขนิกายกุ้ยหยวนไม่อาจทานรับไว้ได้เพียงลำพัง จนแรงกดดันเริ่มตีฝ่าทะลุไปกดทับร่างหวงจี้อีกครา ยังผลให้สีหน้าของมันซีดไร้สีเลือด คนทนไม่ไหวต้องกระอักโลหิตออกมาคำโต
"อาจารย์ ช่วยข้าด้วย!" ...ต้วนหลิงเทียนสังเกตเห็นว่า เมื่อหวงจี้หันไปมองประมุขนิกายกุ้ยหยวน และร้องขอความช่วยเหลือ มันได้กล่าวเรียกประมุขนิกายกุ้ยหยวนว่า อาจารย์ ...!
เห็นได้อย่างกระจ่างชัดว่า ตัวมันคงบรรลุข้อตกลงกับประมุขนิกายกุ้ยหยวนมาสักพักแล้ว และคิดที่จะแปรพักตร์ซบอกประมุขนิกายกุ้ยหยวนตั้งแต่แรก...
"เหอะ!!" เหล่าอาวุโสของนิกายกุ้ยหยวนแค่นเสียงสบทออกมาอย่างเย็นชา ก่อนที่จะก้าวออกมาด้านหน้า แผ่แรงกดดันช่วยเหลือประมุขนิกายกุ้ยหยวนต้านทานแรงกดดันของทางนิกายกระบี่ 7 ดาวได้สำเร็จ
“ขอบคุณท่านอาจารย์ ขอบคุณท่านผู้อาวุโส”หวงจี้รีบกล่าวขอบคุณผู้ช่วยเหลือ พร้อมกันกับที่รีบวิ่งไปหลบอยู่ด้านหลังประมุขนิกายกุ้ยหยวน เพื่อคิดหลบหนีหาที่กำบัง มันกลัวว่าคนของนิกายกระบี่ 7 ดาวจะก้าวออกมาลงมือต่อมันอีก
"ดี! ดี! ดียิ่ง!" ในที่สุดหลิ่งหูจิ่นหงก็เริ่มตอบสนองเรื่องราว มันเหลือบมองไปยังหวงจี้ด้วยสายตาเฉยชา กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงไร้อารมณ์...
หลังจากนั้น มันก็มองไปยังต้าเผิง "อาวุโสเผิง ...ไปกันเถิด"
ต้าเผิงรู้สึกตะลึงไปไม่น้อย และไม่ค่อยพอใจการกระทำนี้ของหลิ่งหูจิ่นหงสักเท่าไร
"ประมุข" เจิ้งฝานและเคอเจิ้น มองไปยังร่างหลิ่งหูจิ่นหงด้วยความสงสัยเช่นกัน
“ศิษย์พี่ประมุข! หากไม่ได้ท่านช่วยสนับสนุนทุกสิ่งอย่างดี! หวงจี้มันจักมีระดับบ่มเพาะดั่งเช่นทุกวันนี้ได้อย่างไร? ในเมื่อมันคิดหักหลังท่าน ทรยศนิกายไปเข้าร่วมกับนิกายกุ้ยหยวน ก็ให้มันไสหัวไป!...แต่ระดับบ่มเพาะของมันต้องทิ้งไว้ตรงนี้!” เคอเจิ้นกัดฟันดังกรอดๆ กล่าวออกมาด้วยโทสะ เดือดดาลนัก!
ย้อนกลับไปในอดีต ในตอนที่หลิ่งหูจิ่นหงยังไม่ได้เป็นประมุข และมันเองก็ยังไม่ได้เป็นปรมาจารย์ขุนเขา...
ตอนนั้นมันกับหลิ่งหูจิ่นหงก็มีมิตรภาพอันดี ช่วยเหลือกันมาตลอด...เป็นดั่งพี่ดั่งน้อง โตมาด้วยกัน
พอมาวันนี้เมื่อมันได้เห็นศิษย์ส่วนตัวของหลิ่งหูจิ่นหง ทำเรื่องบัดซบคิดคดทรยศเช่นนี้ ทำให้มันเดือดดาลถึงขีดสุด! ราวกับว่าเป็นศิษย์ส่วนตัวของมันเองที่กระทำชั่วเช่นนี้...!
"ลืมมันไปเสีย...ล้วนเป็นข้าดวงตามืดบอด มิเห็นซึ้งถึงใจคน..." หลิ่งหูจิ่นหงส่ายหัวไปมา ราวกับไม่เต็มใจจะกล่าวถึงเรื่องราวเหล่านี้อีกแล้ว"อาวุโสเผิง ไปเถิด..ตั้งแต่วันนี้ไป ข้าหลิ่งหูจิ่นหง มิเคยมีลูกศิษย์เช่นมัน!"
ต้าเผิงพยักหน้าและเริ่มกางปีกเพื่อเตรียมพร้อมพุ่งทะยานขึ้นฟ้า
ถึงแม้น้ำเสียงหลิ่งหูจิ่นหงจะสงบราบเรียบราวกับไร้อารมณ์ แต่ต้วนหลิงเทียนยังคงสัมผัสได้ถึงความเสียใจและความโกรธที่แฝงอยู่ในความสงบได้ชัดเจน
เพียงแค่คิดว่าศิษย์ส่วนตัวที่ฟูมฟักทะนุถนอมมอบทุกสิ่งให้ อุ้มชูมาด้วยมือทั้ง 2 ข้าง กลับมาคิดคดทรยศหักหลังตัวเอง...เขาก็พอเข้าใจ
ความรู้สึกและมวลอารมณ์ที่ประดัง โถมเข้ามาเช่นนี้... ไม่มีใครทานทนรับมันได้โดยไม่รู้สึกอะไรหรอก...
ความสามารถในการสงบอารมณ์และควบคุมตัวเองของประมุขหลิ่งหูจิ่นหง นับว่าสูงส่งจนน่าชื่นชมนัก! ต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะนับถือในใจ ก่อนที่จะระบายลมหายใจออกมา...
เขาลองถามตัวเองดูว่า...หากถ้าวันนี้เป็นเขาที่ยืนอยู่ในตำแหน่งเดียวกับหลิ่งหูจิ่นหง เขาจะทำอย่างไร...แน่นอนว่าเขาไม่ลังเลและรีรออะไรเป็นแน่ ไม่เสือกกระบี่ทะลวงหัวใจมัน ก็ตัดหัวมันเตะทิ้งไปเสีย ... ตัวบัดซบเนรคุณเช่นนี้ อยู่ไปก็รกโลก!
พั่บ!
ปีกของต้าเผิงสยายออกกว้าง ดั่งเมฆาโอบอ้อมผืนฟ้า เมื่อกางออกโดยฉับพลันเช่นนี้ เมฆฝุ่นธุลีย่อมฟุ้งกระจายคละคลุ้งขึ้นมาลอยล่องในอากาศ มากมายแล้ว
และเมื่อต้าเผิงเริ่มกระพือปีกพุ่งขึ้นฟ้า ต้วนหลิงเทียนพลันเหลือบมองอย่างไม่แยแสไปยังหวงจี้ หลังจากนั้นก็เบนสายตาไปมองประมุขนิกายกุ้ยหยวน ด้วยสายตาเย้ยหยันพร้อมแสยะยิ้ม กล่าวคำออกมาผสานกับพลังงานต้นกำเนิดให้ดังก้องฟ้า "ประมุขหลู่...ข้ารู้สึกว่ามีบางเรื่องที่ข้าสมควรกล่าวเตือนใจท่านไว้สักเล็กน้อย ...เมื่อคนเรามันชั่วช้าถึงขั้นทรยศผู้ที่เลี้ยงดูมันมาได้แล้วครั้งหนึ่ง ...การที่มันจะทรยศอีกครั้งย่อมไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไร!"
คำกล่าวของต้วนหลิงเทียนย่อมเสียงดังฟังชัด ได้ยินเต็มหูของทุกผู้คน และไม่ทันที่ใครจะทันได้ตอบสนองอะไร ร่างต้าเผิงก็พุ่งทะยานออกไปราวเส้นแสง ทะลุม่านเมฆหายลับไปจากสายตาผู้คน
"ต้วนหลิงเทียน...บัดซบ!" ใบหน้าของหวงจี้บิดเบี้ยวพร้อมหมองคล้ำลงโดยพลัน...มันไม่คิดเลยว่าต้วนหลิงเทียนจะกล่าววาจาทิ้งระเบิดลูกใหญ่เอาไว้ก่อนจากไปเช่นนี้...!
ตอนนี้มันก็อดไม่ได้ ที่จะรู้สึกว่า...สายตาของทุกคนของนิกายกุ้ยหยวนที่มองมายังมัน บังเกิดความรู้สึกผิดแผกแตกต่างไปจากเดิมอยู่บ้าง
หวงจี้ตกใจไม่น้อย และรีบมองไปยังประมุขนิกายกุ้ยหยวนพร้อมกล่าวคำแก้ตัวออกมา “อาจารย์ ข้าสาบานว่าจะไม่ทรยศนิกายกุ้ยหยวน ตลอดชั่วชีวิตของข้า”
ประมุขนิกายกุ้ยหยวน มองไปยังหวงจี้ด้วยสายตาเมินเฉย “หวงจี้ ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่ ข้ามิเชื่อวาจาเลื่อนลอยนี้ของเจ้า กระทั่งตัวเจ้าเองอาจยังมิเชื่อตัวเองด้วยซ้ำ...หากวันนี้มิใช่เพราะข้าเชื้อเชิญเจ้ามาเป็นศิษย์ส่วนตัว และจะให้เจ้าดูแลนิกายต่อไป กระทั่งอาจดำรงตำแหน่งประมุขนิกายกุ้ยหยวน จะเจ้าทรยศหักหลังหลิ่งหูจิ่นหง และนิกายกระบี่ 7 ดาว จนหันมาเข้าร่วมนิกายกุ้ยหยวนหรือไม่?”
หวงจี้ทำได้เพียงหัวเราะออกมาอย่างละอาย
เหตุผลที่มันเลือกจะทรยศต่อนิกาย และมาเข้าร่วมกับประมุขนิกายกุยหยวน นั่นเพราะ ก่อนหน้านี้มันได้ทำข้อตกลงกับประมุขนิกายกุ้ยหยวนเอาไว้แล้วที่เวทีประลองแข่งขันก่อนหน้านี้...
ในตอนนั้นเมื่อมันได้เห็นว่าต้วนหลิงเทียนกำลังพุ่งทะยาน และกลับกลายเป็นคนสำคัญ อาจารย์ของมันอันเป็นประมุขนิกายกระบี่ 7 ดาว ถึงกับกล่าววาจา ว่าจะยกมอบนิกายที่ควรเป็นของมันให้ต้วนหลิงเทียน!!
มันไม่ยินยอมรับชะตากรรมที่ต้องตกเป็นเบี้ยล่างของต้วนหลิงเทียน! และตอนนั้นเองข้อเสนอของประมุขนิกายกุ้ยหยวน ก็ทำให้มันเห็นอนาคตอันสดใส
"หลิ่งหูจิ่นหงเป็นท่านบีบคั้นข้า ...วันหนึ่งข้าจะทำให้ท่านรู้ ว่าข้ามิด้อยกว่าต้วนหลิงเทียน!" แววตาของหวงจี้เผยให้เห็นถึงร่องรอยความชั่วร้าย ในขณะที่มันเหม่อมองไปยังทิศทางที่ต้าเผิงหายลับไป
ครึ่งเดือนต่อมา
ต้วนหลิงเทียนที่ยืนรับลมอย่างสบายใจอยู่บนหลังของต้าเผิง เริ่มมองเห็นถึงขุนเขากระบี่ ทั้ง 7 ของนิกายกระบี่ 7 ดาวที่อยู่เบื้องหน้าไกลตาลางๆ
"พวกเรากลับมาแล้ว!" เจิ้งซงที่ยืนข้างต้วนหลิงเทียน รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย เมื่อมองเห็นขุนเขากระบี่ ที่ใกล้เข้ามาช้าๆ
สำหรับเจิ้งซงแล้ว นิกายกระบี่ 7 ดาวไม่ต่างอะไรกับบ้านของมันเลย
บ้านที่ยากจะแยกจาก
"ใช่ พวกเรากลับมาถึงแล้ว" ต้วนหลิงเทียนยิ้มบางๆ ก่อนที่จะพยักหน้า
ตลอดทางมานี่ บรรยากาศบนหลังต้าเผิงค่อนข้างหนักอึ้ง ทำให้ต้วนหลิงเทียนเองก็รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย และทั้งหมดนี้ แน่นอนว่าเป็นเพราะการทรยศหักหลังของตัวบัดซบอย่างหวงจี้...
เมื่อต้วนหลิงเทียนเห็นว่ากำลังจะเข้าเขตนิกายกระบี่ 7 ดาวแล้ว เขาก็ก้มลงไปมองต้าเผิง และส่งเสียงผ่านพลังงานต้นกำเนิดเข้าหูต้าเผิงโดยตรง
ต้าเผิงพยักหน้าเบาๆ
นอกเหนือจากต้วนหลิงเทียนแล้ว ไม่มีใครเห็นภาพนี้
ฟุ่บบ!
ทันใดนั้นเองต้าเผิงที่กำลังจะบินไปยังยอดเขาเทียนชู กลับสะบัดปีกหักเหทิศทางกลางอากาศโดยฉับพลัน มุ่งหน้าลงสู่ตีนเขาเทียนชูแทน
“อาวุโสเผิง?” การกระทำนี้ของต้าเผิง ทำให้หลิ่งหูจิ่นหงที่เงียบอยู่นาน ตกตะลึงขึ้นมาในทันใด..
เจิ้งฝานและเคอเจิ้นเองก็เผยท่าทางจริงจังเตรียมพร้อมออกมา ราวกับกำลังจะเผชิญหน้ากับศัตรู เพราะคิดว่าที่ต้าเผิงกระทำเช่นนี้ เพราะสังเกตเห็นบางอย่างไม่ชอบมาพากล ...
ท่าทางของเมิ่งชิวกับเจิ้งซงก็เคร่งเครียดจริงจังขึ้นมา
"อ่า...นี่พวกท่านเป็นอะไรกันไปหมดเล่า? ข้าแค่บอกให้อาวุโสเผิงพาข้าไปพบสหายเท่านั้นเอง" ต้วนหลิงเทียนถึงกับอึ้ง ไม่รู้จะพูดยังไงเลยเมื่อเห็นทั้งหมดเป็นแบบนี้
นี่ปฏิกิริยาของทุกคนจะไม่เกินเลยไปหน่อยหรือ?
คำกล่าวของต้วนหลิงเทียนทำให้ทั้งหมดระบายลมหายใจออกมาด้วยความโล่งอก และเป็นเคอเจิ้นที่กล่าวออกมา พร้อมรอยยิ้มขมขื่น “ต้วนหลิงเทียน ผู้ใดกันที่สำคัญถึงเพียงนั้น กระทั่งทำให้เจ้ารีบไปพบเช่นนี้ได้?”
หลิ่งหูจิ่นหงและคนอื่นๆ ล้วนมองมายังต้วนหลิงเทียนด้วยความอยากรู้เช่นกัน
"ฮ่าๆ เดี๋ยวพวกท่านก็จะได้รู้แล้ว... อีกไม่นานนี้ล่ะ" ต้วนหลิงเทียนส่ายหัวออกมาพร้อมยิ้มอย่างสนุกสนาน ปล่อยให้ทุกคนสงสัยต่อไป
เมื่ออยู่ดีๆ ต้าเผิงก็เปลี่ยนทิศทางพุ่งลงมายังตีนเขาเช่นนี้ ทำให้ศิษย์นิกายกระบี่ 7 ดาวที่ทำหน้าที่เฝ้าทางเข้านิกาย ตกตะลึงกันไม่น้อย...
"นั่นเป็นสัตว์อสูรอันใดกัน ช่างใหญ่โตมหึมานัก?"
"มันดูมิเหมือนสัตว์อสูร ...น่าจักเป็นสัตว์อสูรปีศาจเสียมากกว่า นั่นพวกเจ้าดูนั่น มีผู้คนนั่งอยู่ด้านหลังด้วย"
"เอ๋ นั่นมิใช่ท่านประมุขนิกายหรือไร?"
"สวรรค์ นอกจากท่านประมุข ..นั่นท่านปรมาจารย์เจิ้งฝาน ,ท่านปรมาจารย์เคอเจิ้น...และนั่นมันศิษย์พี่ต้วนหลิงเทียนนี่นา!"
...
ภายใต้สายตาที่ตกตะลึงของศิษย์นิกายกระบี่ 7 ดาวบริเวณตีนเขา ร่างของต้าเผิงก็ไปลงจอดยังที่ว่าง ข้างๆ คอกม้า...
ที่ว่างข้างๆ คอกม้านั้นตอนแรกมันก็แลดูกว้างขวางใหญ่โตพอให้ม้าออกมาเดินเล่น แต่เมื่อต้าเผิงลงจอดเช่นนี้ มันกลับดูคับแคบถนัดตาไปในทันใด
การมาถึงของต้าเผิงทำให้ศิษย์ที่ทำหน้าที่เฝ้าดูแลคอกม้ารวมถึงศิษย์ที่ทำหน้าที่ดูแลม้า ตกตะลึง ทำอะไรไม่ถูก ร้อยวันพันปีพวกมันเคยได้เจอคนใหญ่คนโตที่ไหนกันเล่า!
"เฮ่! พวกเจ้าดูนั่นเร็ว นั่นมันตัวอันใดกัน!?"ศิษย์นิกายกระบี่ 7 ดาวที่ผ่านไปมา เผยท่าทีอยากรู้อยากเห็นออกมาในทันใด
"มิรู้...เอ๊ะ! นั่นท่านประมุขนิกายนี่นา!!" ศิษย์นิกายกระบี่ 7 ดาวที่หูตาว่องไว มองเห็นหลิ่งหูจิ่นหงและจดจำได้ในทันใด ต่างเบิกตากว้างกล่าวคำออกมาด้วยความตกตะลึง ท่าทางเต็มไปด้วยความเคารพยำเกรงทันที
ส่วนศิษย์ทั้งหลายใกล้ๆ เมื่อรู้ว่าเป็นใคร ก็รีบสำรวมกริยา ให้ความเคารพและทำตัวนอบน้อมทันที ต่างค่อยๆเดินเข้ามาชมดูเรื่องราวโดยพลัน
หลิ่งหูจิ่นหง ผู้เป็นประมุขนิกายกระบี่ 7 ดาวนั้น ...ปกติแล้วไม่ค่อยปรากฏตัวออกมาสักเท่าไร เรียกว่ายากที่จะมีผู้ใดได้พบได้เห็น
อย่างไรก็ตามเมื่อ 1 ปีที่แล้ว... ด้วยการตกตายลงอย่างมีเงื่อนงำของปรมาจารย์ขุนเขาเทียนเฉวียนอู๋เต้า ทำให้ประมุขหลิ่งหูจิ่นหงปรากฏตัวออกมาที่ยอดเขาเทียนชูอีกครั้ง และเป็นการปรากฏตัวต่อหน้าศิษย์นิกายกระบี่ 7 ดาวในรอบหลายปี!
ศิษย์นิกายกระบี่ 7 ดาวที่จดจำหลิ่งหูจิ่นหงได้ในวันนั้น ก็อยู่ที่นี่ด้วย
"อ๊ะ นั่นศิษย์พี่ต้วนหลิงเทียนมิใช่หรือไร!" ครู่ต่อมาเมื่อเหล่าศิษย์จดจำต้วนหลิงเทียนได้ ก็รีบทักทายด้วยความเคารพทันที
"เอ๋ ศิษย์พี่ต้วนหลิงเทียน มาหรือ?" ทันใดนั้นเอง มีเสียงประหลาดใจดังขึ้นจากด้านในคอกม้า
ต้วนหลิงเทียนหันไปมองก็สังเกตเห็นร่างคุ้นเคย เนื้อตัวมอมแมมเล็กน้อยกำลังก้าวเดินออกมา ในมือยังถือแปรงขัดม้าอยู่ด้วยซ้ำ และเมื่ออีกฝ่ายเห็นเขา... มันก็แย้มยิ้มหน้าระรื่นเต็มไปด้วยความสุข "อา.. ศิษย์พี่ต้วนหลิงเทียน เป็นท่านจริงๆ !”
รีวิวของคุณ
คุณจะให้ดาวนิยายเรื่องนี้หรือไม่