ตอนที่19 สมาคมนักหลอมโอสถ
“นี่เจ้า…”
รังสีอำมหิตและจิตสังหารที่เด็ดเดี่ยวของหลู่เชียนสุ่ยแผ่สะท้านเข้ากัดกินจิตใจของหลู่เซียวเซียวอย่างช้าๆ หลู่เซียวเซียวจ้องมองลึกลงไปในแววตาของหลู่เชียนสุ่ย แต่กลับไม่ปรากฏร่องรอยของความเมตตาปราณีแม้สักนิด นางก็ถึงกับใจหายวูบและตื่นตระหนกอย่างที่สุด
เวลานี้หลู่เซียวเซียวมั่นใจอย่างยิ่งและไม่ลังเลสงสัยแม้แต่น้อยว่า หลู่เชียนสุ่ยกล้าที่จะลงมือสังหารนางจริงๆ ความรู้สึกรักตัวกลัวตายทำให้หลู่เซียวเซียวแน่นิ่งคล้ายเป็นอัมพาตขยับเขยื้อนไม่ได้อย่างเฉียบพลัน รากแห่งความหวาดกลัวได้หยั่งลึกลงไปในก้นบึ้งหัวใจของนาง และตอนนี้นางก็หวั่นเกรงหลู่เชียนสุ่ยจนพูดอะไรไม่ออก
แต่เพียงเสี้ยวอึดใจนั้นเอง
ฟุบ!
หลู่เชียนสุ่ยก็ถอนคมดาบออกจากลำคอของนางอย่างไม่ไยดี พร้อมเสียบดาบเล่มยาวนั้นเก็บเข้าฝัก จากนั้นจึงก้าวเท้าขึ้นไปด้านหน้าเข้าประชิดตัวหลู่เซียวเซียวอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเอ่ยวาจาด้วยสุ้มเสียงที่เย็นชาว่า
“หลู่เซียวเซียว เมื่อครู่เจ้าก็ได้เห็นกับตาตัวเองแล้วไม่ใช่รึ ว่าข้าสามารถสังหารเจ้าได้ทุกเมื่อหากต้องการ แต่ถึงอย่างไรนั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่ข้าปรารถนาจะทำ ข้าเพียงต้องการจะบอกกับเจ้าว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดนั้น ล้วนเป็นแผนการของสองแม่ลูกหลู่เชียนเยว่ และข้าก็ไม่มีเจตนาที่จะเป็นศัตรูกับเจ้าเลยแม้แต่น้อย แต่...หากเจ้ายังคงยืนกรานที่จะเป็นศัตรูกับข้า ข้าเองก็ไม่มีอะไรจะต้องกล่าวอีกเช่นกัน นอกจาก...สะบั้นคอเจ้าทิ้งซะ! เอาล่ะ หากไม่ต้องการถูกผู้อื่นหลอกใช้อีก ก็ไปหาโอสถถอนพิษจุติมาให้ข้า”
ยามเมื่อหลู่เชียนสุ่ยถือดาบไว้ในมือ นางกลับแปรเปลี่ยนไปเป็นคนละคนจากก่อนหน้าโดยสิ้นเชิง ถึงขนาดที่ว่าแม้แต่หลู่เซียวเซียวเองก็ยังหาใช่คู่ต่อสู้ของนางไม่
หลู่เซียวเซียวยกมือขึ้นปาดเหงื่อเย็นบนหน้าผากออก ก่อนจะจ้องมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยแววตาที่เปี่ยมล้นไปด้วยความหวาดกลัว ยามนี้นางรู้สึกสับสนงุนงงไปหมด
นี่คือหลู่เชียนสุ่ยที่นางรู้จักจริงๆงั้นรึ? ก่อนหน้านี้ นางไร้ซึ่งความสามารถใดๆ อีกทั้งยังไม่สามารถบ่มเพาะพลังฝึกปรือได้อีกด้วย จนกลายเป็นหญิงไร้ตัวตนไม่มีผู้ใดสนใจ แล้ว...แล้วเหตุใดจู่ๆนางจึงกลับกลายมีพลังสูงส่งถึงเพียงนี้ได้ตั้งแต่เมื่อใดกัน? และสิ่งที่น่ากลัวที่สุดในยามนี้ก็คือแม้นางยังเด็กนัก แต่จิตสังหารกลับรุนแรงอย่างมาก...
นางเป็นผู้ใดกันแน่? ไฉนถึงน่าหวาดกลัวถึงเพียงนี้?
ในห้วงความคิดของหลู่เซียวเซียวเวลานี้เต็มไปด้วยข้อสงสัยมากมายนับไม่ถ้วน นางเพิ่งจะพบหน้าหลู่เชียนสุ่ยไม่ถึงสิบหน้าที แต่เพียงแค่เวลาช่วงสั้นๆนี้ กลับทำให้นางได้รู้ซึ้งถึงความแกร่งกล้าและพรสวรรค์ของอีกฝ่ายอย่างครบถ้วน และอีกหนึ่งเรื่องที่นางสงสัยมากก็คือ หลู่เชียนสุ่ยต้องการโอสถถอนพิษจุติไปทำอะไร?
………………….
สมาคมนักหลอมโอสถตั้งอยู่ในย่านทำเลทองของเมืองชิงหยุน โดยรอบบริเวณล้วนเต็มไปด้วยความคึกคักและมีผู้คนสัญจรไปมามากมาย
ภายในสมาคมนักหลอมโอสถเต็มไปด้วยผู้คนเนืองแน่น ทุกคนต่างพากันต่อแถวเพื่อหาซื้อโอสถที่ตนต้องการ
หลู่เซียวเซียวที่ติดสอยห้อยตามหลู่เชียนสุ่ยมาด้วยนั้น ยามนี้ยังคงงุนงงสับสน จึงอดที่จะเอ่ยปากถามออกไปมิได้
“หลู่เชียนสุ่ย เจ้ามาทีนี่เพื่อหาซื้อโอสถถอนพิษจุติใช่หรือไม่? มันราคาเท่าไหร่กัน? แล้วเจ้ามีเงินติดตัวมามากเพียงใด?”
“ก็แค่โอสถแก้พิษจุติเท่านั้น เจ้าอย่าได้กังวลไปนักเลย”
หลังจากเข้าไปในสมาคมนักหลอมโอสถ กลิ่นรุนแรงของสมุนไพรนานาชนิดพลันตลบอบอวลลอยเข้าจมูกของหลู่เชียนสุ่ย ด้วยชิ้นส่วนความทรงจำของ‘จอมเทพโอสถ’ท่านนั้น เพียงแค่ได้กลิ่นสมุนไพรนางก็สามารถระบุชนิดของโอสถได้ในชั่วพริบตา
มันง่ายเสียยิ่งกว่าที่คิดไว้เสียอีก
บางทีนางอาจไม่จำเป็นต้องเป็นศิษย์ของผู้ใดเลยด้วยซ้ำ...
...................
แถวของผู้คนที่มาเข้าคิวรอซื้อโอสถนั้นค่อนข้างยาวแต่ก็เคลื่อนไหวขยับเข้าใกล้อยู่ตลอด เพียงช่วงเวลาสั้นๆแถวยาวเมื่อครู่กลับเหลือเพียงแค่สองสามคนที่อยู่ก่อนหน้าพวกนางทั้งสองเท่านั้น
“หลีกไป! หลีกไป! พวกเจ้าทั้งหมดหลีกไปให้พ้น! นายน้อยสองของตระกูลข้ามาแล้ว!”
ด้านหลังท้ายแถวปรากฏเยาวชนหนุ่มอยู่สองสามคนใส่ชุดคลุมปักลายอย่างปราณีต พวกเขาแทรกแถวขึ้นมาอย่างไร้จิตสำนึกและไม่รู้สึกผิดแต่อย่างใด มิหนำซ้ำหนึ่งในนั้นยังกล่าวขึ้นว่า
“ท่านพี่ซู ท่านมากไปด้วยพรสวรรค์และความสามารถเช่นนี้ ย่อมสามารถแทรกผู้ที่เข้าแถวก่อนหน้าท่านได้ คนในสมาคมหลอมโอสถล้วนชื่นชอบและภูมิใจในตัวท่าน!”
“เจ้ากล่าวถูกต้องแล้ว! ลุงสองของข้าเป็นหนึ่งในนักหลอมโอสถระดับสองผู้มากฝีมือ ในเมืองชิงหยุนนี้หาผู้ใดมาทัดเทียมได้ยากนัก อีกทั้งตำแหน่งของเขาในสมาคมนักหลอมโอสถแห่งนี้ก็สูงส่งมากด้วย ยังจะมีผู้ใดกล้าขัดข้าหรือไม่?”
เยาวชนหนุ่มผู้นั้นแสยะยิ้มกว้าง พร้อมวางท่าหยิ่งผยองและยะโสโอหังยิ่งนัก
ในขณะที่เขากำลังฉีกยิ้มกว้างอย่างภาคภูมิใจอยู่นั้นเอง เขาก็เหลือบไปเห็นสาวงามนางหนึ่งที่กำลังต้อนรับลูกค้าอยู่ที่ห้องรับรอง เขาหัวร่อต่อกระซิกและสะกิดสหายที่อยู่ข้างๆว่า
“เจ้าเชื่อหรือไม่ว่า ข้าสามารถทำให้หญิงสาวนางนั้นออกจากงานได้ทันทีด้วยการกล่าววาจาเพียงประโยคเดียว! หากนางไม่ยอมพลีกายร่ำสุราแล้วขึ้นเตียงกับข้าสักคืนแล้วล่ะก็ รับรองว่า... ฮ่าๆๆๆ!”