ตอนที่ 7: แมวป่า
ในระหว่างที่ฟ่างหยุนกำลังกลืนเจ้ากบดำลายจุดลงไปที่ท้องของเขา เขาก็อดที่จะแสดงท่าทีพึงพอใจออกมาไม่ได้ เพราะเจ้ากบตัวนี้เป็นกบที่โตเต็มวัยมันให้พลังงานทางชีวภาพแก่เขาถึง 2 หน่วย เพียงแค่ 10 นาทีหลังจากตามหาเหยื่อ เขาก็พบกับเหยื่อและล่ามันอย่างง่ายดาย ดูเหมือนว่านี่จะเป็นสัญญาณที่ดีแก่เขา
ในเมื่อมันง่ายแบบนี้บางทีวันนี้เขาอาจจะจับเหยื่อได้มากกว่าเดิมเป็นแน่ บางทีวันนี้เขาอาจจะเข้าสู่การวิวัฒนาการเลยก็ได้
“ เยี่ยมจริงๆ! หวังว่าจะมีกบโตเต็มวัยหลงเหลือให้ล่าได้อีกสักสองสามตัวนะ ” ฟ่างหยุนคาดหวังออกมาด้วยความตื่นเต้น ในขณะที่ร่างของเขานั้นก็เลื้อยวนไปวนมาอยู่รอบๆต้นไม้ สายตาของเขาก็ยังคงทำหน้าที่จับจ้องไปยังบริเวณรอบๆ เพื่อตรวจจับหาสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กต่อไป
แต่ว่านะบางทีวันนี้โชคดีของฟ่างหยุนอาจจะต้องจบลง เพราะตลอดทางที่ผ่านมาเขาพบเจอกับกบเป็นจำนวนมาก แต่พวกมันนั้นว่องไวมาก แถมยังกระโดดข้ามเขาไปมา ซึ่งฟ่างหยุนไม่มีโอกาสแม้แต่น้อยที่จะจับพวกมันไว้ได้ อีกทั้งตอนที่ฟ่างหยุนไปเจอกับตุ๊กแกตัวเล็ก แต่ผลก็ออกมาเหมือนเดิม เพียงแค่เจ้าตุ๊กแกเห็นว่าเป็นฟ่างหยุน มันก็เผ่นแนบหายไปในทันใด นอกจากนี้ฟ่างหยุนก็ยังเจอกับแมลงตัวเล็ก ทั้งแมลงวันและแมลงชนิดอื่นๆ บินแกว่งไปมาต่อหน้าเขา แต่แมลงพวกนี้มันเล็กเกินไป เกินกว่าที่จะให้พลังงานชีวภาพแก่เขา เขาจึงไม่ต้องการที่จะเสียแรงกับพวกมัน และปล่อยมันไปในที่สุด
หลังจากที่เวลาล่วงไปถึงครึ่งชั่วโมงแล้ว ฟ่างหยุนก็ยังไม่พบกับสิ่งมีชีวิตใดๆ แต่เขาก็ไม่ได้รีบร้อน เพราะหลังจากที่เขาต้องกลับชาติมาเกิดเป็นงูแล้วมันทำให้อารมณ์ของเขานั้นเย็นชา ซึ่งมันตรงกันข้ามกับตอนที่เขายังเป็นมนุษย์เลย และแล้วในที่สุด เขาก็เจอกับเจ้ากบตัวหนึ่งที่ลำธารน้ำใส
“ ตรวจพบเป้าหมาย ”
กบเขียว
ประเภท: สะเทินน้ำสะเทินบก
ให้พลังงานชีวภาพ 2 หน่วย
เมื่อเห็นเจ้ากบตัวนั้นอยู่ตรงหน้าแล้ว ฟ่างหยุนก็อดที่จะตื่นเต้นไม่ได้ แต่ในความตื่นเต้นนั้นแล้วเขาก็ยังคงมีสติเพียงพอที่จะเคลื่อนไหวอย่างเงียบเชียบ เพื่อไม่ให้เสียงนั้นไปทำให้เจ้ากบรู้ตัวว่าเขากำลังเลื้อยเข้าไปไกล้มันแล้ว กบตัวนี้เป็นกบที่โตเต็มวัย ลำตัวของมันมีความยาวขนาด 4-5 เซนติเมตร ขณะนั้นเองเจ้ากบเขียวก็กำลังหมอบอยู่บนมอสสีเขียวซึ่งดูแล้วกลมกลืนเป็นอย่างมาก ถ้าหากว่าไม่ใช่เพราะประสาทสัมผัสอันดีเยี่ยมของฟ่างหยุนแล้วละก็ คงไม่มีใครมองเห็นมันได้อย่างแน่นอน
ฟ่างหยุนยังคงเลื้อยอย่างเชื่องช้าและเงียบเชียบ มุ่งตรงไปหาเจ้ากบเขียวกำลังหมอบอยู่ โชคดีที่เจ้ากบนั้นหันหน้าไปคนละทิศทางกับฟ่างหยุน ด้วยเหตุนี้จึงทำให้มันยังคงนั่งนิ่งอย่างไม่รู้ตัว หลังจากที่เลื้อยเข้าไปหาอย่างเชื่องช้าประมาณเกือบหนึ่งนาที ฟ่างหยุนก็หยุดอยู่ตรงตำแหน่งที่เหมาะสมในการโจมตี ซึ่งห่างกับเจ้ากบเพียงแค่ 20 เซนติเมตร เขามองว่าระยะนี้เป็นระยะหวังผลที่ดีที่สุดในการจู่โจม
“ ย้ากกกก! ” ฟ่างหยุนกระชับกล้ามเนื้อทุกส่วนของร่างกายอย่างเต็มที่เพื่อเตรียมพร้อมที่จะเข้าโจมตี จากนั้นเขาก็พุ่งตรงเข้าไปหาเจ้ากบอย่างรวดเร็วและเงียบเชียบ ราวกับว่าเป็นลูกธนูที่เพิ่งจะส่งออกมาจากคันธนู และเขี้ยวอันแหลมคมของฟ่างหยุนนั้นก็งับเข้าที่กลางลำตัวของเจ้ากบ หลังจากเจ้ากบเขียวถูกกัดอย่างจังเข้าให้ มันก็มีปฏิกิริยาตอบสนองที่รวดเร็ว และแล้วการต่อสู้อันดุเดือดก็เปิดฉากขึ้น แต่ในหนังแทบจะทุกเรื่องยังไงซะ พระเอกก็ต้องเป็นผู้ชนะเสมอ ร่างกายของเจ้ากบแม้ว่าจะดิ้นแรงแค่ไหนมันก็ไม่สามารถหนีไปได้ เพราะด้วยเขี้ยวอันแหลมคมนั้นยังคงฝังอยู่ในร่างของมัน ความเจ็บปวดในร่างกายบวกกับความตื่นตระหนกที่ต้องตกเป็นเหยื่อ ทำให้มันได้แต่ส่งเสียงร้องแหลมออกมา
ในตอนนั้นฟ่างหยุนแทบไม่ต้องขยับตัวเลย เพราะฟันของเขานั้นจมลึกในลำตัวของเจ้ากบสีเขียวอย่างมั่นคง จากในตอนแรกที่เจ้ากบนั้นดิ้นสู้ขึ้นมาอย่างรุนแรง ตอนนี้แรงของมันก็ค่อยๆ ลดน้อยลงไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมันแน่นิ่งไป
เมื่อมั่นใจว่าเจ้ากบนั้นไปสู่สวรรค์แล้ว ฟ่างหยุนจึงค่อยๆเริ่มที่จะเขมือบตัวของมัน จากส่วนหัว ลงมาลำตัว จนในที่สุดร่างของเจ้ากบก็เข้าไปสู่ท้องของฟ่างหยุนอย่างเสร็จสมบูรณ์ ท้องของฟ่างหยุนนั้นพองขึ้นมา เขาเริ่มขยับตัวเล็กน้อยและในใจเขาก็กำลังวิเคราะห์รสชาติของเจ้ากบตัวนี้
“ ดูเหมือนว่าข้านั้นเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ ” ฟ่างหยุนกล่าวอย่างรู้สึกเสียใจนิดๆ และเขาก็ยังเอ่ยกับตัวเองอีกว่า “ ตอนเป็นมนุษย์เราไม่มีความคิดที่จะกินของดิบๆเลย ยิ่งเป็นกบที่เพิ่งตายสดๆแบบนี้ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ” ฟ่างหยุนคิด “ บางทีการกลับชาติมาเกิดเป็นงูมันอาจจะทำให้ตัวเราเปลี่ยนความคิดไปแล้วจริงๆ ”
หลังจากที่สูดหายใจเข้าลึกๆแล้ว ฟ่างหยุนก็หยุดความคิดพวกนี้ไปทันที “ สิ่งที่เราต้องกังวลไม่ใช่เรื่องพวกนี้แต่มันคือการวิวัฒนาการ ต้องทำยังไงถึงจะแข็งแกร่งเพียงพอ และทำยังไงถึงจะได้รับชื่อเสียงให้มากพอก่อนที่จะตาย ” นี่คือสิ่งที่ปรากฏขึ้นในหัวของเขาในตอนนี้
“ งั้นข้าควรจะเริ่มตั้งเป้าหมายจากสิ่งเล็กๆก่อนดีกว่า อย่างแรกเลยคือรีบวิวัฒนาการเพื่อที่จะเป็นนักล่าชั้นสูงสุดของห่วงโซ่อาหาร เมื่อเป็นดังนั้นแล้วเราก็ไม่ต้องมากังวลว่าจะต้องกลายเป็นเหยื่ออีกต่อไปในโลกใบนี้ ”
การล่าที่ประสบความสำเร็จของฟ่างหยุนในวันนี้นั้น มันส่งผลให้ตัวของเขาเองมีความมั่นใจขึ้นมาเป็นอย่างมาก และเขาก็คิดว่าวันนี้เขาต้องล่าเหยื่อเพื่อให้เพียงพอกับการวิวัฒนาการอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตามระหว่างที่คิดนั้นเขาก็ไม่ได้หยุดนิ่งอยู่กับที่ เขาเริ่มเลื้อยต่อไปข้างหน้าถึงแม้ว่าพุงของเขาจะป่องนูนออกมาก็ตาม
ในช่วงเวลาถัดมา ฟ่างหยุนเองนั้นเหมือนได้รับความช่วยเหลือจากพระเจ้า! ระหว่างทางที่เลื้อยมาเขาก็ได้จับไส้เดือนกินไป กบสีดำลายจุดอีกสองตัว รวมไปถึงเจ้ากบสีเขียวที่เขาเพิ่งจะกินเสร็จไป นั่นหมายความว่าเขาได้รับพลังงานชีวภาพเพิ่มขึ้นมาถึง 7 หน่วย
มันคุ้มค่ามากหากมานับๆดูแล้ว เจ้ากบเขียวที่โตเต็มวัย และกบดำลายจุดอีกสองตัวที่เขากินไปก่อนหน้านี้ ก็ถูกย่อยไปจนเสร็จสิ้นในท้องของเขาแล้ว ทำให้ฟ่างหยุนได้รับพลังงานชีวภาพขึ้นมา 4 จุดทันทีในตอนนั้น และพอทั้งหมดถูกย่อยไปแล้วมันก็ทำให้ลำตัวของเขาที่โป่งพองกลับมา แบนราบเหมือนเดิมทำให้มันมีที่ว่างพอที่จะล่าเหยื่อและกลืนกินได้อีก
ฟ่างหยุนแหงนหน้ามองบนท้องฟ้า ตอนนี้มันก็บ่ายคล้อยมากแล้วในอีกไม่กี่ชั่วโมงท้องฟ้าที่สวยแบบนี้ก็จะถูกแทนที่ด้วยความมืดมิด เขายังมีเวลาเพียงพอแน่นอนที่จะล่าเหยื่ออีกสองสามตัว
“ นั่นไง! ดูเหมือนว่าจะมีเจ้ากบลายสีทองอยู่ที่บริเวณนั้น ”
ดวงตาของฟ่างหยุนตอนนี้วาวเป็นประกาย เพราะตรงหน้าของเขานั้นมีเจ้ากบลายสีทองตัวหนึ่งนอนอยู่ในบริเวณพุ่มไม้ พุงของเจ้ากบตัวนี้ดูแล้วโป่งพองผิดปกติ แสดงว่ามันพึ่งจะกำลังกินแมลงเข้าไปอย่างแน่นอน
“ ฮ่าๆ ตราบใดที่เราสามารถจับเจ้ากบสีทองตัวนี้กินได้แล้วละก็ เราก็จะมีคะแนนทักษะเพียงพอที่จะเข้าสู่ขั้นวิวัฒนาการ ”
รอยยิ้มอันน่าเกลียดนั้นแสดงขึ้นมาบนใบหน้าของฟ่างหยุน หลังจากนั้นเขาก็เริ่มที่จะเลื้อยเข้าไปใกล้เจ้ากบตัวนั้นอย่างช้า ๆ
มันมีระยะห่างระหว่างเขากับเจ้ากบอยู่บ้าง แต่มันไม่สำคัญเพราะฟ่างหยุนนั้นมีความอดทนพอที่จะค่อยๆเลื้อยเข้าไปหาอย่างช้าๆ และเงียบเชียบ ยิ่งไกล้เท่าไร เขาก็ยิ่งเลื้อยช้าลงกว่าเดิมจนไม่เป็นที่ผิดสังเกตุ
“ ฉ่า! ” อย่างไรก็ตาม ในเวลานั้นเอง ก็มีเงาสีดำใหญ่ พุ่งออกมาจากพุ่มไม้ด้านขวาของฟ่างหยุน เงาสีดำนั้นพุ่งตรงเข้าไปยังเจ้ากบลายสีทองพร้อมตะปบมันจนล่วงกลิ้งลงไปกองอยู่บนพื้น หลังจากนั้นเงาสีดำก็มองมายังที่ฟ่างหยุนอยู่
ตัดภาพมาที่ฝั่งของฟ่างหยุนผู้ซึ่งกำลังเลื้อยเข้าไปหากบลายสีทองอย่างช้าๆ ด้วยความอดทน เมื่อเจอเหตุการณ์ดังนั้นเขาก็ต้องตกใจเป็นอย่างมาก พร้อมกับจ้องมองไปยังเงาดำที่กำลังมองหน้าเขาอยู่
“ ป้าดดดด! ” เมื่อภาพที่ปรากฏตรงหน้าคือรูปลักษณ์ที่แท้จริงของเจ้าของเงาสีดำ มันทำให้ร่างกายของฟ่างหยุนนั้นต้องสั่นอย่างรุนแรง สัญชาตญาณการเอาตัวรอดของเขากำลังบอกให้เขานั้นต้องรีบหนี จากนั้นความกลัวมันก็ยิ่งผุดเข้ามาในใจเขาเป้นอย่างมาก
“ แมวป่า ” เงาดำที่ปรากฏตรงหน้าของฟ่างหยุนนั้นก็คือแมวป่า!
แมวป่านั้นอาหารหลักของมันก็คือ สัตว์ตัวเล็กจำพวกแมลง,สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำและนก ตัวของแมวป่านั้นนับว่าเป็นศัตรูตามธรรมชาติของงูเลยก็ว่าได้
เมื่อฟ่างหยุนมองไปที่ฝั่งตรงข้ามมันก็ทำให้เขาเห็นเจ้าแมวป่าอย่างชัดเจนซึ่งตอนนั้นเองเจ้าแมวป่าตัวนี้นั้นก็กำลังจ้องหน้าของเขาอยู่ด้วยเช่นกัน ฟ่างหยุนแทบจะคลั่งออกมา เพราะตลอดเวลาเขาก็ระมัดระวังตัวเสมอ แต่ก็ยังไม่วายที่จะเจอปัญหาแบบนี้อีกจนได้
“ ตึ๊ง!! ตรวจพบเป้าหมาย ”
แมวป่า
ประเภท:สัตว์กินเนื้อ
พลังทางชีวภาพ: 150 หน่วย
ทั้งหมดนี่คือเสียงจากระบบที่ส่งไปให้ฟ่างหยุนในความคิดของเขา เมื่อฟ่างหยุนได้ยินเสียงจากระบบดังนั้นแล้ว ในใจเขาก็อดไม่ได้ที่จะอุทานออกมา “ นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันวะเนี่ย เจ้าแมวป่าตัวนี้ให้พลังงานทางชีวภาพถึง 150 หน่วย ” ฟ่างหยุนรู้สึกขอบคุณระบบเป็นอย่างมาก แต่เขาคงจะรู้สึกดีกว่านี้ถ้าหากเขาไม่ได้กลายเป็นอาหารของมันไปเสียก่อน
ในทางคุณลักษณะแล้วแมวป่านั้นมีร่างกายที่ใหญ่โตกว่าแมวบ้านเล็กน้อย หรือมีความยาวถึง 40 เซนติเมตร แต่สายตาของมันนั้นดูอาฆาตมากกว่าแมวบ้านหลายเท่า ในขณะที่เจ้าแมวป่ากำลังจับกบลายสีทองพร้อมที่จะกัดไปตรงหัวของมันแต่แล้วแววตาของเจ้าแมวป่าก็สาดส่องจ้องมองมายังทางที่ฟ่างหยุนอยู่
“ โอ้โหเจ้าแมวป่าบ้าเอ้ย มองมาอย่างงี้มันคงคิดว่าเราเป็นอาหารของมันแน่ๆ! ” คิ้วทั้งคู่ของฟ่างหยุนเริ่มขมวดเข้าหากัน เพราะสายตาที่แมวป่ามองมายังเขานั้น มันก็เหมือนเป็นการบ่งบอกว่าอันตรายถึงขั้นชีวิตกำลังจะมาถึง
ทำยังไงดีละเนี่ย! ทำยังไงกันดี! สมองของฟ่างหยุนในตอนนี้มันกลับทำงานอย่างรวดเร็ว แม้ว่าสถานการณ์ตรงหน้าจะเสี่ยงต่ออันตรายแค่ไหน แต่ในตอนนั้นเองเขาก็ไม่ได้ตื่นตระหนกไปมากมาย ซ้ำยังค่อยๆคิดหาทางรับมือกับสถานการณ์นี้อย่างรอบครอบ
“ เรามีเขี้ยวที่เต็มไปด้วยยาพิษ ” แต่ถึงอย่างไรก็ตามแมวป่านั้นมีความคล่องแคล่วว่องไวเป็นอย่างมาก และไม่มีใครจะสามารถล่วงรู้ได้เลยว่า ฟ่างหยุนจะสามารถกัดให้โดนตัวแมวป่าได้หรือไม่ และถึงแม้กัดโดนตัวมันเข้าอย่างจัง ฟ่างหยุนเองก็ไม่รู้เลยว่าพิษของเขานั้นมันจะออกฤทธิ์เมื่อใด
แล้วถ้าหากฟ่างหยุนถูกฆ่าตายโดยเจ้าแมวป่าตัวนี้ ซึ่งตอนที่แมวป่ากำลังกินเขาเข้าไป แล้วพิษดันเกิดทำงานขึ้นมา ถ้าเป็นยังงั้นแล้วก็ไม่มีใครจะรู้ได้เลยว่าพิษนั้นมาจากส่วนที่แมวป่ากินเขาเข้าไป หรือว่ามาจากการกัดของเขา
ดังนั้นแล้วฟ่างหยุนไม่สามารถเผชิญหน้าตรงๆ เพื่อต่อสู้กับเจ้าแมวป่าได้เลย ในขณะที่ฟ่างหยุนกำลังคิดไม่ตกเรื่องหาทางรับมือกับสถานการณ์นั่นเอง เจ้าแมวป่าที่เสร็จกิจจากการกินกบลายสีทองไปแล้ว มันก็เริ่มที่จะขยับและก้าวเข้ามาหาเขา!