
1516 วันที่แล้ว
โอ้แม่สาวน้อยน่ารักน่ากินน
ตอนที่ 24: ศึกแห่งการแย่งชิง
ในขณะที่ฟ่างหยุนกำลังเลื้อยผ่านพุ่มหญ้าเป็นหย่อมๆนั้น เขาก็คอยหยุดสังเกตุการณ์สถานการณ์จากบนท้องฟ้าเป็นระยะ ตอนนี้เขาได้เลื้อยออกมาจากพุ่มไม้เข้าสู่ที่โล่งแจ้งแล้วโดยที่ไม่มีพุ่มไม้ปกปิดตัวของเขาอีกต่อไป จึงทำให้เขานั้นต้องระวังตัวเป็นพิเศษจากการเป็นเป้านิ่งจากฟากฟ้า
ในสถานการณ์ที่อุณภูมิยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง ตอนนี้ปัญหาใหญ่ที่ฟ่างหยุนนั้นกำลังจะได้พบนั่นก็คือสภาวะจำศีล โดยแต่เดิมแล้วถึงแม้ว่าเขาจะเป็นงูอย่างสมบูรณ์แบบแต่เขาเองก็ไม่ได้อยากจะเข้าสู่สภาวะจำศีลเลย ตอนนี้มันจึงทำให้เขารู้ว่าเวลาของเขานั้นเหลือไม่มากแล้ว
หลังจากที่ใช้ชีวิตมาสักพักฟ่างหยุนนั้นก็เข้าใจถึงชีวิตของการเป็นงู เพราะในธรรมชาติหากว่าอุณภูมิลดลงไปถึง 15 องศาเซลเซียสหรือ 59 ฟาเรนไฮต์แล้วละก็ พวกมันจะเคลื่อนไหวได้น้อยลงเป็นอย่างมาก ดีสุดก็คือมันจะพยายามเลื้อยไปหาที่ที่มีความอบอุ่นเพียงพอ และเมื่ออุณภูมิลดต่ำลงมากกว่า 10องศาเซลเซียสหรือ 50 ฟาเรนไฮต์แล้วละก็ พวกมันจะเข้าสู่สภาวะจำศีลโดยทันที
ตามการคาดเดาของฟ่างหยุนแล้ว เวลานี้น่าจะเป็นปลายฤดูร้อนและกำลังเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ แน่นอนว่าในอนาคตอันไกล้นี้อุณภูมิจะยิ่งลดต่ำลงไปอีกมากกว่านี้แน่นอนเพราะที่นี่คือ ภูเขา ! ไม่ใช่บราซิล
ดังนั้นก่อนที่อุณภูมิจะลดต่ำลงไปมากกว่านี้ เขาต้องเตรียมการให้พร้อมก่อนวันเวลานั้นจะมาถึง และสิ่งเดียวที่เขาจะสามารถหลีกเลี่ยงการจำศีลได้ นั่นก็คือ...การวิวัฒนาการ !
แน่นอน...ถึงจะไม่แน่ใจว่าหลังจากที่ได้รับการวิวัฒนาการขั้นต่อไปแล้วร่างกายของฟ่างหยุนนั้น จะได้รับการพัฒนาด้านความต้านทานเพิ่มขึ้นมาหรือไม่ แต่เรื่องนี้เขาก็ยังไม่ต้องเป็นกังวลมาก เพราะหลังจากที่รับการวิวัฒนาการแล้วเขาจะได้รับคะแนนทักษะที่เพียงพอสำหรับอัพเกรดทักษะ “ ภูมิต้านทาน ” เพิ่มขึ้นมันจะทำให้เขาหลีกเลี่ยงสภาวะจำศีลได้อย่างแน่นอน
เพราะทักษะที่ฟ่างหยุนเล็งเห็นว่าจะต้องอัพเกรดนั้น จะเป็นประโยชน์ต่อตัวเขาอยู่สามประการและประเด็นหลักๆ ที่เขาต้องใช้มันก็คือต้านทานความหนาวที่กำลังมาเยือนซึ่งมันจำเป็นสำหรับเขามาก
ในระหว่างที่คิดหาหนทางแก้ไขปัญหาอยู่นั้น ฟ่างหยุนเองก็ยังคงเลื้อยต่อไปโดยไม่ได้หยุดพักเพื่อที่จะรีบหาเหยื่อมากินเพิ่มพลังงานทางชีวภาพให้กับตัวเขานั่นเอง ตอนนี้พลังงานทางชีวภาพของเขามีเพียงแค่ 320 หน่วยซึ่งยังอยู่ห่างไกลจากเป้าหมายนั่นก็คือ 1000 หน่วย
ทันใดนั้นเองก็มีสิ่งมีชีวิตปรากฏอยู่ตรงข้ามกับเขา ทำให้เขานั้นต้องหยุดมองมันโดยทันที
ตรวจพบเป้าหมาย !
เม่น
ประเภท:สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม
สามารถเพิ่มพลังงานทางชีวภาพได้ 20 หน่วย
สิ่งมีชีวิตที่ปรากฏต่อหน้าของฟ่างหยุนนั้น มีความยาวประมาณ 20 ถึง 25 เซนติเมตร มีร่างกายอ้วนท้วนสมบูรณ์แต่มีสายตาและการมองเห็นแค่สั้นๆ และร่างของมันนั้นก็ปกคลุมไปด้วยขนอันแหลมคม สัตว์ที่ว่านี้ก็คือเม่น
และเมื่อฟ่างหยุนจ้องมองไปที่ใบหน้าของเจ้าเม่นนั้น ก็เป็นจังหวะเดียวกันกับเจ้าเม่นที่มองเห็นฟ่างหยุนในทันที แต่ในตอนนั้นเองเจ้าเม่นกลับไม่วิ่งหนีแต่อย่างใด มันเปลี่ยนรูปร่างตัวเองให้โค้งงอลงราวกับลูกบอลโดยมีขนแหลมของมันยื่นออกมาราวกับหอก
เมื่อเห็นแบบนั้นแล้วฟ่างหยุนก็ได้แต่ถอนหายใจ พร้อมกับปล่อยมันไปโดยไม่คิดจะล่า เพราะถ้าหากเขากัดเข้าไปตรงๆที่เม่นตัวนั้นแล้วละก็ ปากของเขาต้องพรุนเป็นแน่
หลังจากที่จินตนาการถึงความเจ็บปวดนั้นเขาก็เลื้อยต่อไปข้างหน้าเพื่อหาเหยื่อรายใหม่ เดิมทีนั้นเขาอยากจะหาเหยื่อตัวใหญ่ๆ ที่ให้ค่าพลังงานทางชีวภาพเยอะๆ แบบไก่ฟ้าก่อนหน้านี้ แต่โชคของเขาคงไม่ค่อยดีอย่างที่คิด
ระหว่างทางนั้นเขาก็ได้จับกบข้างทางกินเป็นจำนวนมาก แต่พวกมันนั้นมีขนาดตัวที่ค่อนข้างเล็กจึงทำให้เขาสะสมพลังงานทางชีวภาพเพิ่มขึ้นมาได้อีกเพียงแค่ 30 หน่วยเพียงเท่านั้นทำให้ตอนนี้มีพลังงานสะสมแค่เพียง 350 หน่วย
“ โอ้...แม่สาวน้อย ! ” ฟ่างหยุนที่กำลังเลื้อยต่อไปพร้อมกับขยับลิ้นเข้าออกจากปากของเขาเพื่อตรวจจับการเคลื่อนไหวของสิ่งมีชีวิตอยู่นั้น ก็ต้องหยุดเลื้อยต่อทันที เพราะตอนนี้ทางฝั่งซ้ายของเขาเองปรากฎสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งที่กำลังเล็มหญ้าข้างทาง พร้อมกับยกหัวขึ้นมามองโดยรอบอย่างหวาดระแวงเป็นครั้งคราว
ตรวจพบเป้าหมาย
กระต่าย
ประเภท: สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม
สามารถเพิ่มพลังงานทางชีวภาพ 100 หน่วย
.............................................................
ทันทีที่ฟ่างหยุนมองเห็นสิ่งมีชีวิตนั้นกำลังกินหญ้าอยู่ ระบบก็ไม่รอช้าที่จะส่งข้อมูลมาให้เขาในทันที และแน่นอนว่าสิ่งนั้นก็คือเจ้ากระต่าย
ฟ่างหยุนรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันทีทันใด ตอนนี้อารมณ์ของเขาเปลี่ยนไปเพราะเขารู้สึกว่า โชคเริ่มที่จะเข้าข้างเขาแล้วเพราะก่อนหน้านั้นก็เจอกับไก่ฟ้าตอนนี้มาเจอกับกระต่ายตัวโตอีก ที่สำคัญไปกว่านั้นมันให้พลังงานทางชีวภาพมากถึง 100 หน่วยเลยทีเดียว ถ้าหากว่าสามารถจับมันมากินได้แล้วละก็ พลังงานสะสมจะเพิ่มขึ้นไปถึง 450 หน่วย !
แต่อย่างไรก็ตามไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะจับกระต่ายมากินเป็นอาหาร เพราะกระต่ายนั้นเป็นสัตว์ที่ค่อนข้างตื่นตัวสูง และมากกว่านั้นมันทั้งยังคล่องแคล่งและว่องไวเป็นอย่างมาก
ฟ่างหยุนจำได้ดีถึงเหตุการณ์แบบนี้ เพราะว่าตอนเขายังเป็นมนุษย์อยู่นั้นเขาเคยดูสารคดีเกี่ยวกับกระต่ายที่ถูกตามล่าจากหมาป่าสองตัวมาก่อน ซึ่งหลายๆคนก็คงเดาว่าผลของมันก็คือกระต่ายคงถูกหมาป่าจับกินเป็นอาหารอย่างแน่แท้ แต่มันกลับไม่เป็นอย่างนั้น เมื่อการล่าสิ้นสุดลงฝ่ายที่พ่ายแพ้นั้นก็คือหมาป่าทั้งสองเพราะมันไม่สามารถจับกระต่ายได้ทันและต้องเลิกลาต่อกันไปในที่สุด
ตอนนี้ฟ่างหยุนค่อยๆเลื้อยเข้าไปหาเจ้ากระต่ายอย่างเชื่องช้าและเงียบงัน และพอฟ่างหยุนข้าไปไกล้เจ้ากระต่ายเพียงแค่ 1 เมตร มันถึงกับหยุดกินพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมามองซ้ายมองขวาในทันที
หลังจากที่มองไปรอบๆด้วยความหวาดระแวง เพียงแค่ฟ่างหยุนหายใจออกมาเบาๆนั้นก็ทำให้เจ้ากระต่ายถึงกับตกใจและมองไปยังตำแหน่งที่ฟ่างหยุนหยุดอยู่
ตอนนี้เจ้ากระต่ายเห็นฟ่างหยุนเข้าจนได้แล้ว และฟ่างหยุนเองก็รู้ตัวดีว่าถูกพบเจอจนได้ และในตอนนั้นเองก็เป็นโอกาศทองโอกาศเดียวเขาจึงไม่ปล่อยมันไป เขากระชับร่างกายทุกส่วนพร้อมกับพุ่งเข้าไปโจมตีเจ้ากระต่ายในทันที
“ นี่แน่ะ...งับเข้าให้ ” ความเร็วราวกับสายฟ้าฟาดของฟ่างหยุนนั้นรวดเร็วเป็นอย่างมาก ในพริบตาเดียวเขี้ยวของเขาก็จมอยู่ที่ส่วนขาของเจ้ากระต่าย !
แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ เจ้ากระต่ายตัวนี้สะบัดขาของมันอย่างรุนแรงมาก ทำให้ฟ่างหยุนที่ติดอยู่ขับขามันนั้นหลุดและลอยกลิ้งตกลงมาบนพื้น มันใช้จังหวะนี้วิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต หลังจากนั้นไม่นานฟ่างหยุนก็มองไม่เห็นวี่แววของมันอีกเลย
ฟ่างหยุนตอนนี้ไม่ได้รู้สึกเสียใจหรือเสียดายแต่อย่างใด เขามองไปยังทิศทางที่กระต่ายวิ่งหนีหายไป พร้อมกับค่อยๆเลื้อยไปตามทิศทางนั้น พร้อมกับขยับลิ้นเข้าออกจากปากของเขาเพื่อตรวจสอบความเคลื่อนไหวของสิ่งมีชีวิต
หลังจากเลื้อยไปประมาณ 4 - 5 ร้อยเมตรแล้ว ฟ่างหยุนก็ต้องหยุดเคลื่อนไหวและมองตรงไปทิศทางเบื้องหน้า และไม่ไกลจากเขาเท่าไรนักนั้นก็ปรากฏร่างของกระต่ายนอนดิ้นชักอยู่บนพื้นเป็นระยะ ซึ่งแน่นอนว่ามันคือตัวเดียวกันที่ถูกเขากัดเมื่อสักครู่นี้ เพราะในระหว่างที่เขากัดเข้าไปตรงที่ขาของมัน เขาก็ไม่ลืมที่จะปล่อยพิษเข้าไปในตัวมันเช่นกัน และด้วยความตื่นตกใจกลัวจนวิ่งหนีอย่างเอาเป็นเอาตายทำให้หัวใจของมันนั้นเต้นแรง ทำให้พิษยิ่งเข้าสู่กระแสเลือดไปทั่วร่างกายเร็วมากกว่าปกติ และนี่คือเหตุผลว่าทำไมเขาถึงสามารถพบเจอมันได้อย่างง่ายดาย เนื่องจากเขารู้อยู่แล้วว่ายังไงซะพิษของเขาก็ต้องทำงานในไม่ช้า
ฟ่างหยุนเลื้อยไปหยุดอยู่ตรงหน้าของมัน สายตาของเขาในตอนนี้มองดูมันราวกับว่าเป็นลูกแกะในกำมือและปล่อยให้มันค่อยๆหมดลมหายใจไปอย่างช้าๆ เมื่อเจ้ากระต่ายไปสู่สวรรค์แล้วเขาก็อ้าปากพร้อมที่จะกลืนกินมัน
ทันใดนั้นเอง ! ก็มีเสียงกรอบแกรบดังขึ้นมาจากพุ่มไม้ไม่ไกลจากเขานั้น มันมาจากฝั่งด้านซ้ายเมื่อมองไปจุดนั้นเขาก็เห็นงูตัวหนึ่งเลื้อยพุ่งออกมาจากพุ่มไม้พร้อมกับมุ่งหน้าตรงมาจุดนี้ งูตัวนี้มีความยาวพอๆ กับขนาดของฟ่างหยุนเลยก็ว่าได้ โดยที่หลังของมันนั้นมีลายจุดสีดำสลับน้ำตาลสองแถว
“ งูภูเขาสีดำ ! ใช่แล้วมันคืองูภูเขาสีดำนี่เอง ” ที่สำคัญที่สุดนั้นฟ่างหยุนรู้ได้ทันทีเลยว่าเขาเคยพบกับงูชนิดนี้มาก่อนแล้ว ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เขานั้นกำลังขยายอาณาเขตในการล่ามาถึงที่นี่ ตอนนั้นความยาวของเขามีเพียงแค่ 1 เมตรซึ่งเจ้างูภูเขาสีดำนี้มันยาวกว่าเขามาก แต่ตอนนี้ในเมื่อสูสีราวกับว่าตัดหัวตัวเท่าแล้ว เขาก็ไม่ลังเลที่จะต่อสู้กับมัน
เพราะเมื่อสองวันก่อนหน้านี้ในขณะที่เขากำลังออกล่าเหยื่อ ฟ่างหยุนเองก็ไม่พบกับร่องรอยของงูตัวนี้มาก่อนเลย ใครจะไปคิดว่าวันนี้นั้นเขาจะมาพบกับมันเข้าแบบนี้ และแน่นอนว่าการกระทำของเจ้างูภูเขาสีดำในตอนนี้ดูเหมือนว่ามันต้องการที่จะเข้ามาแย่งเหยื่อของฟ่างหยุนอย่างแน่นอน
เมื่อคาดเดาได้ดังนั้นแล้วฟ่างหยุนจึงส่งเสียงเตือนเจ้างูภูเขาสีดำไป ว่าอย่าเข้ามายุ่งเรื่องของตน และในขณะที่เขามองจ้องไปที่ตัวของมันนั้น ระบบก็ส่งข้อมูลมาให้ทันที
ตรวจพบเป้าหมาย !
งูภูเขาสีดำ
ประเภท: สัตว์เลื้อยคลาน
สามารถเพิ่มพลังงานทางชีวภาพได้ 80 หน่วย !
.........................................................................................................................................
โอ้แม่สาวน้อยน่ารักน่ากินน