px

เรื่อง : ตำนานงูยักษ์เขมือบโลก
ตอนที่ 28 : การเผชิญหน้าอีกครั้งกับเจ้านกอินทรีย์


ตอนที่ 28 : การเผชิญหน้าอีกครั้งกับเจ้านกอินทรีย์

 

          ต้องใช้เวลาถึงห้าวันกว่าอาการบาดเจ็บที่หางของฟ่างหยุนถึงจะกลับมาใช้การได้อย่างเดิม ในช่วงเวลาห้าวันที่ผ่านมานั้นเรียกได้ว่าเป็นช่วงที่แสนลำบากสำหรับเขาเลยก็ว่าได้ เพราะอาการบาดเจ็บนั้นทำให้ประสิทธิภาพในการล่าของเขาลดลงเป็นอย่างมาก ทำให้เขานั้นได้รับพลังงานทางชีวภาพจากการล่าสัตว์เล็กในระแวกนี้เพียงแค่ 232 หน่วยเพียงเท่านั้น

 

          แต่โชคกลับเข้าข้างเขาเป็นอย่างมาก ตอนนี้ร่างกายของเขากลับมาหายดีจนเป็นปกติแล้ว นั่นหมายความว่าเขาสามารถออกล่าสัตว์ใหญ่ได้อย่างเต็มที่ ตอนนี้พลังงานทางชีวภาพของฟ่างหยุนนั้นมีถึง 763 หน่วย ถ้าหากเขายังโชคดีต่อเนื่องแล้วละก็ เขาอาจจะสามารถสะสมพลังงานทางชีวภาพได้เพียงพอต่อการวิวัฒนาการในหนึ่งถึงสองวันนี้เป็นแน่

 

          และที่ต้องกล่าวถึงในช่วงหลายวันที่ผ่านมานั้น ค่าชื่อเสียงของฟ่างหยุนเองก็เพิ่มขึ้นถึง 9,854 คะแนน หากว่ามันยังคงรักษาระดับไปแบบนี้แล้วละก็ เขาคิดว่ามันมีแนวโน้มว่าจะถึง 10,000 ในวันสองวันนี้อีกเช่นกัน

 

          สิ่งเหล่านี้เป็นยาชูกำลังใจให้กับฟ่างหยุนเป็นอย่างดี เขารับรู้ตัวเองได้เลยว่าอีกไม่นานทักษะ “ ภูมิต้านทาน ” จะได้รับการพัฒนาเป็นขั้นที่สองได้อย่างง่ายดาย

 

          เมื่อกำลังมองไปยังพื้นที่ด้านหน้าแล้วฟ่างหยุนจึงเกิดความรู้สึกลังเลเล็กน้อย เพราะทางด้านหน้านี้ค่อนข้างจะโล่งแจ้งแทบจะไม่มีอะไรปกคลุมเขาจากวิสัยการมองเห็นจากฟากฟ้าเลยก็ว่าได้ แต่แล้วเขาก็ตัดสินใจเลื้อยไปต่ออย่างเด็ดเดี่ยว

          สำหรับฟ่างหยุนแล้วตัวเขารู้ดีว่าถ้าหากยังคงหากินอยู่แค่บริเวณไกล้ๆนี้ มันจะไม่สามารถช่วยให้เขาเข้าสู่การวิวัฒนาการได้อย่างรวดเร็วเป็นแน่ หากเขาต้องการที่จะทำภารกิจให้สำเร็จโดยเร็ว เขาก็ต้องกล้าที่จะเสี่ยงเดินทางต่อไปข้างหน้า

 

          เมื่อฟ่างหยุนนั้นเลื้อยมาถึงระหว่างพุ่มไม้กับต้นหญ้าแล้ว เขาหยุดสังเกตการณ์หาสิ่งมีชีวิตเป็นระยะๆเพราะหลังจากที่เขาเลื้อยติดต่อกันมากกว่าหนึ่งชั่วโมงโดยการคาดคะเนแล้วน่าจะไกลกว่า 2 กิโลเมตร แต่เขากลับไม่พบสิ่งมีชีวิตใดๆเลยแม้แต่น้อย

 

          “ วันนี้คงไม่มีเหยื่อให้กินเสียแล้ว ” ระหว่างที่เขากำลังจะถอดใจอยู่นั่นเอง สายตาของเขานั้นก็เหลือบไปเห็นบางสิ่งบางอย่างอยู่บนต้นไม้ และเมื่อมองไปไกล้ๆแล้วมันก็คือรังนก ฟ่างหยุนไม่รอช้าที่จะเลื้อยขึ้นไปบนนั้น และในที่สุดเขาก็พบกับไข่ 5 ฟองเรียงกันอย่างเป็นระเบียบอยู่ในรัง แต่ละลูกมีเส้นผ่าศูนย์กลางถึง 3 เซนติเมตร !

 

          ไม่นานเขาก็ทราบได้จากระบบว่าไข่เหล่านี้นั้นเป็นไข่ของนกหัวขวานสีเทา เพราะไข่เหล่านี้มีขนาดใหญ่กว่าปกติจึงสามารถให้พลังงานทางชีวภาพได้ถึง 10 หน่วยต่อฟอง

 

          หลังจากที่กลืนไข่ทั้งหมดลงท้องแล้ว ฟ่างหยุนก็ทำการเลื้อยลงมาจากต้นไม้พร้อมกับมุ่งหน้าต่อไปทางด้านภูเขาเพื่อหาเหยื่อรายต่อไป

 

          คราวนี้ไม่ต้องเสียเวลานานเขาก็พบเข้ากับสิ่งมีชีวิตบางชนิดที่อยู่ไม่ไกลจากตำแหน่งของเขามากนัก สัตว์ชนิดนี้มีขนาดเทียบเคียงได้กับแมวป่า ตอนนี้มันซ่อนตัวอย่างเงียบๆไกล้กับโพรงหญ้าและดูเหมือนว่ามันกำลังกินอะไรบางอย่างอยู่ด้วย

 

          จากมุมมองของฟ่างหยุนนั้นเขาสามารถมองเห็นขนาดของมันได้อย่างชัดเจน ความยาวของลำตัวของมันประมาณ 50 เซนติเมตร ขนนั้นเป็นสีน้ำตาลและมีจุดสีดำอยู่ตามลำตัว ใต้ดวงตาของมันนั้นมีสีดำคล้ำอยู่เหมือนกับมนุษย์ที่ไม่ได้หลับนอนมาหลายวัน และมีจุดสีขาวเหนือดวงตาและจมูก ปากของมันยื่นยาวออกมาเหมือนกับลูกสุนัข !

 

          ตรวจพบเป้าหมาย !

          ชะมด

          ประเภท: สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม

          สามารถเพิ่มพลังงานทางชีวภาพได้ 150 หน่วย

 

          หลังจากที่ตรวจพบเจ้าสิ่งมีชีวิตนี้ได้แล้ว ระบบเจ้ากรรมก็ไม่รอช้าให้เสียเวลา มันรีบส่งข้อมูลเกี่ยวกับสัตว์ชนิดนี้เข้ามาในหัวของฟ่างหยุนทันที

 

          “ ถึงแม้ว่าจะเป็นชะมด แต่กลับให้พลังงานมากถึง 150 หน่วย ” ฟ่างหยุนค่อนข้างประหลาดใจกับพลังงานชีวภาพที่จะได้รับ แต่หลังจากที่ตรวจสอบอย่างไกล้ชิดแล้วเขาก็ได้เห็นว่าเจ้าชะมดตัวนี้มันอวบอ้วน เมื่อเห็นรูปร่างของมันแล้วเขาคาดคะเนว่าน้ำหนักของมันอยู่ราวๆที่ 10 กิโลกรัมเป็นอย่างน้อย

 

          ถึงแม้ว่าอยากจะที่จะกลืนมันลงไปในท้อง แต่นั่นก็ต้องใช้ความพยายามเป็นอย่างมากเช่นกัน เขาหรี่ตาลงเล็กน้อยพร้อมกับเลื้อยเข้าไปไกล้ตัวชะมดมากกว่าเดิม ดูเหมือนว่าเจ้าชะมดตัวนี้จะอ้วนกว่าที่เขาคิดไว้เสียอีก

 

          แต่ด้วยความเสียดายที่มันให้พลังงานถึง 150 หน่วย จึงทำให้ฟ่างหยุนนั้นอยากที่จะลองกลืนมันสักครั้ง อย่างน้อยเขาก็จะได้รู้ว่าสิ่งที่เขาคิดนั้นมันจะสามารถทำให้เป็นจริงได้หรือไม่

 

          และแน่นอนว่าก่อนที่จะกลืนมันลงไปในท้องได้ เขาก็ต้องฆ่ามันให้ตายเสียก่อน และเมื่อฟ่างหยุนเลื้อยเข้าไปไกล้กับมันมากขึ้นแล้ว เขาจึงได้เห็นว่ามันกำลังทำอะไรอยู่

 

          เจ้าชะมดกำลังนอนกินผลไม้บนพื้นอย่างสุขสำราญ ด้วยความเพลิดเพลินนี้จึงทำให้มันไม่แม้แต้จะสนใจสิ่งรอบข้างเลยก็ว่าได้ จึงทำให้ฟ่างหยุนคิดขึ้นมาเล่นๆว่าเจ้าชะมดตัวนี้ทั้งโง่ ทั้งประมาท ทำไมมันถึงรอดจากเงื้อมมือเพชฌฆาตมานานถึงขนาดนี้ได้ และเมื่อฟ่างหยุนได้ระยะห่างจากชะมดประมาณครึ่งเมตร เขาก็เปิดฉากโจมตีทันที

 

          “ นี่แน่ะ ! หมับเข้าให้ ” เจ้าชะมดที่ถูกฟ่างหยุนฉกเข้าให้อย่างจัง ตอนนี้มันถึงกับสะดุ้งโหยง พร้อมกับกระโดดจากพื้นขึ้นไปในอากาศสูงถึงครึ่งเมตร แต่อย่างไรก็ตามฟ่างหยุนที่เป็นคนในร่างงูนั้นได้เตรียมการมาเป็นอย่างดี ในขณะที่เจ้าชะมดกระโดดอยู่นั้น เขาใช้ส่วนครึ่งท่อนล่างของลำตัวพยุงเขาไว้กับพื้น และใช้ครึ่งบนที่เหลือพุ่งเข้าหาชะมดที่กำลังลอยตกลงมาจากแรงโน้มถ่วงซึ่งทำให้มันตกลงมาจากอากาศอย่างรวดเร็ว เป้าหมายของฟ่างหยุนนั้นคือที่ขาส่วนหลังของเจ้าชะมด เพราะมันไม่ได้ระวังส่วนนั้นเลย

 

          “ ปู้ดดดดด ! ” ในจังหวะที่ฟ่างหยุนนั้นกัดไปที่ขาของมัน เขาจึงได้กลิ่นเหม็นเน่าจนแทบจะอ้วกออกมา ฟ่างหยุนที่กำลังกัดขาหลังของเจ้าชะมดตอนนี้เขาต้องทิ้งจังหวะนั้นในทันที โดยที่เขาต้องรีบเลื้อยหนีห่างจากบริเวณนั้นไป 2 – 3 เมตรเพื่อที่จะสูดอากาศบริสุทธิ์เอาไว้หายใจ ทำไมมันช่างน่ารังเกียจเช่นนี้ !

          ทันทีที่ชะมดได้รับอิสรภาพจากการโจมตีของฟ่างหยุน มันก็รีบวิ่งหนีหายเข้าไปในป่า ตอนนั้นเองฟ่างหยุนก็ทำได้แต่มองตามทิศทางที่เจ้าชะมดวิ่งหนีไป ในเวลานั้นปากของฟ่างหยุนเองก็มีอาการกระตุกเป็นจังหวะ

 

          ฟ่างหยุนนั้นมีความรู้แค่ว่าเฉพาะสกั๊งค์เท่านั้นที่สามารถปล่อยแก๊สเหม็นเน่าแบบนี้ออกมาได้เวลาพวกมันตกอยู่ในอันตราย แต่เขาไม่คาดคิดเลยว่าชะมดตัวนี้จะมีความสามารถแบบเดียวกันกับสกั๊งค์ด้วย บางทีนี่อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เจ้าทึ่มชะมดสามารถเอาชีวิตรอดมาจนถึงตอนนี้ได้

 

          แต่ช่างน่าสงสารเสียนี่กระไร ฟ่างหยุนนั้นวางแผนที่จะฆ่ามันด้วยพิษตั้งแต่แรกแล้ว ดังนั้นในขณะที่เขากัดเข้าไปที่ขาหลังของมัน เขาก็ไม่ลืมที่จะปล่อยพิษมรณะให้แล่นเข้าสู่กระแสเลือดของมันอีกด้วย

 

          แน่นอนว่าหลังจากที่ฟ่างหยุนเลื้อยตามการตรวจจับสารเคมีของสิ่งมีชีวิต เขาก็พบว่าเจ้าชะมดโชคร้ายตัวนั้นนอนอยู่บนพื้นที่ห่างจากเขาเพียงไม่กี่ร้อยเมตรเท่านั้น

 

          ในขณะนี้เจ้าชะมดโชคร้ายทำได้แต่นอนชักกระตุกอยู่บนพื้นเท่านั้น มันพยายามที่จะหายใจเข้าออกแต่ก็ทำได้แค่เพียงครั้งคราว และเมื่อสายตาของมันเหลือบมองเห็นการมาของฟ่างหยุนแล้ว เจ้าชะมดก็พยายามที่จะใช้แรงเฮือกสุดท้ายในการหนี แต่อย่าว่าหนีเลยแม้จะยืนขึ้นมามันก็ไม่สามารถทำได้เพราะพิษที่เข้าไปสู่ร่างกายของมันตอนนี้ทำให้ขาและทุกๆส่วนนั้น ไร้ซึ่งเรี่ยวแรง

 

          ฟ่างหยุนคลานไปหยุดอยู่ตรงหน้าของเจ้าชะมด พร้อมกับมองดูมันต่อสู้จนลมหายใจสุดท้าย ในที่สุดมันก็แน่นิ่งไปโดยไม่มีอาการใดๆตอบสนอง เมื่อมั่นใจว่าเขาได้ส่งเจ้าชะมดไปสู่สวรรค์แล้ว เขาจึงเริ่มทำการกลืนมันจากส่วนหัวเข้าไป

          การกลืนชะมดตัวอ้วนนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เขาจะพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะให้เขาสามารถยัดมันลงไปในปากได้ และไม่นานท้ายที่สุดเขาก็ส่งมันลงไปสู่กระเพาะได้สำเร็จ

 

          ร่างกายฟ่างหยุนตอนนี้โป่งพองราวกับว่าจะระเบิดออกมาให้ได้ แม้ว่าทักษะต่างๆรวมถึงประสบการณ์อันโชกโชนนั้นจะสอนให้เขารู้จักอดทนกับความเจ็บปวดมาตลอด แต่ตอนนี้เขากลับรู้สึกอึดอัดเป็นอย่างมาก

 

          “ หวังว่ามันจะย่อยเร็วๆนี้นะ ” ฟ่างหยุนภาวนาออกมาพร้อมกับค่อยๆเลื้อยตรงไปที่พุ่มไม้เพื่อที่จะนอนพักรอให้การย่อยนี้เสร็จสมบูรณ์ พร้อมหน้าท้องที่แบนราบเหมือนดังเดิม

 

          ถ้าหากว่าตอนนี้เปรียบเหมือนกับในอดีตแล้ว เขาอาจจะต้องใช้เวลานานถึง 3 ชั่วโมงในการย่อยเหยื่อที่มีขนาดลำตัวใหญ่ถึงเพียงนี้ แต่ตอนนี้เขาใช้เวลาเพียงแค่ 1 ชั่วโมงก็สามารถย่อยมันได้สำเร็จ

 

          “ เฮ้อออออ ! ” หลังจากคลานออกจากพุ่มไม้แล้ว เขาก็สูดลมหายใจเข้าไปในปอดลึกๆ  ก่อนหน้านี้ฟ่างหยุนนั้นเป็นกังวลมากว่าท้องเขาอาจจะแตกเนื่องจากเขากินเหยื่อที่มันใหญ่เกินไป แต่โชคดีที่มันไม่เกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้นและที่สำคัญตอนนี้เขาได้รับพลังงานทางชีวภาพถึง 150 หน่วย

 

          “ ระบบช่วยเปิดฐานข้อมูลของข้าด้วย ” ฟางหยุนพูดขึ้นมาเบาๆในใจ ไม่นานนักม่านแสงก็ปรากฏขึ้นมา

 

 

          รายการคุณสมบัติของท่านฟ่างหยุน

          ระดับ: 6

          พลังงานทางชีวภาพ: 923/1000

          คะแนนทักษะ: 1

          ความยาวของลำตัว: 1.5 เมตร

          เส้นผ่าศูนย์กลาง: 3.6 เซนติเมตร

          อำนาจ: 3.0

          พลังป้องกัน: 5.0

          ความเร็ว: 2.5

          ว่องไว: 3.0

          วิญญาณ: 4.0

          ความแข็งแกร่งทางกายภาพ: 3.8

          ทักษะ: พิษมรณะ 2/5,ภูมิต้านทาน 1/5,ย่อยในพริบตา 2/5

          ค่าชื่อเสียง: 9854/10000000

 

          “ ตอนนี้มีพลังงานทางชีวภาพสะสมถึง 923 หน่วย ถ้าวันนี้โชคดีต้องได้เข้าสู่การวิวัฒนาการเป็นแน่ ”

 

          เมื่อเห็นพลังทางชีวภาพมีเยอะขนาดนี้แล้วจึงทำให้ฟ่างหยุนนั้นร่าเริงขึ้นมาทันที แม้ว่าเกือบจะท้องแตกตายจากการกลืนชะมดก่อนหน้านี้เข้าไป แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่ามันเป็นสิ่งที่ควรจะทำเป็นอย่างยิ่ง เพราะอย่างน้อยตอนนี้พลังงานชีวภาพของเขาก็มีถึง 923 หน่วย ขาดแค่เพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น ถ้าหากว่าเขาสามารถหาจับไก่ฟ้าหรือกระต่ายมากินได้เพียงเท่านี้ก็จะสามารถวิวัฒนาการขั้นต่อไปได้แล้ว

 

          ตอนนี้เขาค่อย ๆ คลายความตื่นเต้นลงพร้อมกับเลื้อยมุ่งต่อไปเบื้องหน้า ฟ่างหยุนภาวนาขอร้องต่อพระเจ้าว่าขอให้เขาได้พบกับเหยื่อที่มีขนาดใหญ่สักทีเถอะ

 

          แต่เมื่อคลานไปไกลถึงหนึ่งกิโลเมตรแล้วเขาก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะพบกับสัตว์ใหญ่ชนิดใด แต่ตามข้างทางนั้นก็ยังพอมีกบและสัตว์ขนาดเล็กให้เขาได้จับกินสะสมพลังงานทางชีวภาพทำให้ได้รับมาอีก 12 หน่วย

 

          เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า ตอนนี้พระอาทิตย์กำลังจะลาลับขอบฟ้าไปแล้ว ฟ่างหยุนที่กำลังคลานไปตามพุ่มไม้ได้แต่เป็นกังวล ในตอนแรกนั้นเขาหวังว่าจะสามารถรวบรวมพลังงานทางชีวภาพให้ครบตามเงื่อนไขพร้อมกับเข้าสู่การวิวัฒนาการในวันนี้เลยให้ได้ และเขาก็คิดว่าเขาคงจะมีโชคดีอยู่บ้าง แต่ความจริงกลับไม่เป็นอย่างนั้นเลย ตอนนี้เขาไม่พบกับเหยื่อของเขาเลยสักตัว

 

          ในขณะที่เขากำลังจะยอมแพ้อยู่แล้วนั้น ลิ้นที่ขยับเข้าออกเพื่อตรวจจับสิ่งมีชีวิตก็ตรวจเจอเข้ากับกลิ่นของบางอย่างที่ทำให้เขารู้สึกคุ้นเคยขึ้นมาทันที และเมื่อตามกลิ่นนี้ไปเขาก็ไปหยุดอยู่ตรงพุ่มไม้ด้านหน้า ไม่ไกลจากตัวเขานักนั้นปรากฏเป็นร่างของกระต่ายกำลังกินหญ้าด้วยความหวาดระแวงเพราะมันยกหัวของมันขึ้นมาเหลียวมองรอบๆเป็นระยะ

 

                   “ตรวจพบเป้าหมาย”

          กระต่าย

          ประเภท: สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม,สัตว์กินพืช

          สามารถให้พลังงานทางชีวภาพ: 100 หน่วย

 

          หลังจากที่ได้ยินระบบแจ้งเตือนเสร็จสิ้นแล้ว ฟ่างหยุนก็รู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมากเพราะขณะที่เขากำลังเตรียมตัวที่จะเลื้อยเข้าไปหาเจ้ากระต่ายทันใดนั้นเขาก็รู้สึกได้ว่ามีเงาบางอย่างวนเวียนอยู่เหนืออากาศบนตัวของเขา

 

          ฟ่างหยุนจึงไม่รอช้าพร้อมกับเงยหน้าขึ้นไปมอง เพื่อรู้ให้ได้ว่าเป็นใครเป็นเจ้าของเงาอันนี้ มันทำให้เขาเห็นว่าในอากาศสูงนั้นมีนกตัวหนึ่งบินวนเป็นวงกลมรอบบริเวณที่เขากำลังนอนอยู่

 

          มันคือเจ้านกอินทรีย์ !

 

          ฟ่างหยุนมองไปที่เจ้านกอินทรีย์พร้อมกับกัดฟันแน่นจนดัง กรอด กรอด ด้วยการที่มีนกอินทรีย์มาบินอยู่ข้างบนแบบนั้นแล้วมันทำให้เขาไม่กล้าที่จะรีบออกไปล่าเจ้ากระต่าย เพราะถ้าหากเขาขยับตัวโผล่ออกไปแล้วละก็ เขาจะต้องถูกเจ้านกอินทรีย์มองเห็นอย่างแน่นอน

 

          ตอนนี้มีความเป็นไปได้สูงว่าเจ้านกอินทรีย์กำลังเล็งเป้ามาที่เจ้ากระต่าย และไม่ต้องสงสัยเลยว่าถ้าออกไปตอนนี้ฟ่างหยุนได้กลายเป็นอาหารว่างหลังเมนูหลักอย่างเป็นแน่ เมื่อคิดถึงผลของการกระทำโดยไม่คิดแล้ว เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกไม่สบายใจ

 

          “ นกอินทรีย์ตัวนี้เกือบจะฆ่าข้ามาแล้วรอบหนึ่ง ตอนนี้มันก็ยังจะมาแย่งอาหารของข้าอีก...อะไรของมันวะเนี่ย ” ฟ่างหยุนกัดปากพูดด้วยความโกรธ

 

          ในขณะที่กำลังขุ่นเคืองไปด้วยความโกรธในใจของฟ่างหยุน ตอนนั้นก็เป็นเวลาเดียวกันกับที่เจ้านกอินทรีย์บินลงมาโฉบเอากระต่ายไป ฟ่างหยุนทำได้เพียงมองตามเจ้ากระต่ายด้วยสายตาละห้อย

         

รีวิวผู้อ่าน