ตอนที่ 33 : ทีมเวิร์ค
“ แอ๊ววววว... ” ภายใต้เสียงหอนอย่างวังเวงที่ดังก้อง ทำให้ฟ่างหยุนพยายามมองไปยังต้นกำเนิดของเสียงนั้น ภาพที่ค่อยๆปรากฏตรงหน้าของเขาเป็นสัตว์ชนิดหนึ่งที่มีขนสีน้ำตาลทองค่อยๆ โผล่ออกมาจากที่ซ่อนอย่างช้าๆทันทีที่มันออกจากที่ซ่อนมาเต็มตัวแล้วมันก็ส่งเสียงหอนอีกรอบราวกับว่าส่งสัญญาณอะไรบางอย่างพร้อมกับกระโจนพุ่งเข้าไปหาเจ้าแพะภูเขาในทันที
เจ้าแพะที่กำลังกินหญ้าอยู่อย่างสบายใจนั้นทันทีที่มันได้ยินเสียงหอนดังขึ้นมันก็ตื่นตระหนกตกใจเป็นอย่างมากพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมา ตอนนี้มันได้เห็นชัดแล้วว่ากำลังมีบางสิ่งบางอย่างพุ่งเข้ามาหามันอย่างรวดเร็วจึงทำให้มันต้องรีบหันหัวพร้อมกับวิ่งหนีไปอีกทาง
ขณะที่ฟ่างหยุนกำลังมองไปยังที่สัตว์นักล่าตัวนั้น ระบบก็ส่งข้อมูลของมันเข้ามาในหัวของเขาทันที
ตรวจพบเป้าหมาย !
แจ็คคัลหรือจิ้งจอกสีทอง
ประเภท: สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม
สามารถเพิ่มพลังงานทางชีวภาพได้ 350 หน่วย
ทันทีที่การแจ้งเตือนของระบบสิ้นสุดลง ฟ่างหยุนก็รู้สึกกระปี้กระเป่าขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว
แจ็คคัล หรือ จิ้งจอกสีทอง เป็นที่รู้จักกันดีว่ามันเป็นสัตว์ในตระกูลเดียวกับหมาป่า คนส่วนใหญ่นั้นมักจะคิดว่าพวกมันคือสัตว์ตัวเดียวกัน นอกจากนี้พวกมันยังชอบอาศัยอยู่กันเป็นฝูงซึ่งฝูงเล็กจะมีสมาชิก 2 - 3 ตัว ถ้าหากอยู่รวมกันเป็นฝูงใหญ่แล้ว สมาชิกอาจจะมีถึง 12 ตัวเลยก็ว่าได้
การที่แจ็คคัลหรือสุนัขจิ้งจอกสีทองปรากฏตัวขึ้นที่นี่ในตอนนี้ นั่นหมายความว่าต้องมีสมาชิกตัวอื่น อยู่ในระแวกเดียวกันนี้อย่างแน่นอน
และมันก็เป็นจริงอย่างที่ฟ่างหยุนคิดเอาไว้เรื่องสมาชิกตัวอื่นๆ เพราะอยู่ๆก็มีแจ็คคัลอีกตัวโผล่ออกมาจากซอกหิน พร้อมกับวิ่งเข้าไปขวางทางที่แพะภูเขากำลังวิ่งหนีมา
เห็นได้ชัดเลยว่าเจ้าแจ็คคัลตัวแรกที่โผล่ออกมานั้น มันรับหน้าที่ต้อนแพะภูเขาให้ตื่นตระหนกตกใจจนทำให้มันวิ่งหนีไปอีกทาง พร้อมกันนั้นสมาชิกที่เหลือซึ่งซุ่มรออยู่ก่อนหน้านี้นั้น ก็จะโผล่เข้ามาล้อมแพะภูเขาให้มันหาทางหนีได้ยากขึ้น และแน่นอนว่าแผนนี้ของพวกแจ็คคัลนั้นสำเร็จ
บนยอดเขานั้นขณะที่เจ้าแพะได้มองเห็นว่ามีแจ็คคัลโผล่ออกมาขวางทางมัน มันจึงเปลี่ยนทิศทางในการวิ่งออกไปด้านซ้ายแต่วิ่งออกไปไม่ทันไร ก็มีแจ็คคัลอีกตัวโผล่มาขวางทางมันอีกเช่นเดิม
ตอนนี้มีสมาชิกของพวกแจ็คคัลนั้นโผล่มาเพิ่มอีกสอง ซึ่งแน่นอนว่าพวกมันได้ทำการล้อมแพะภูเขาจนจนมุมเข้าเสียแล้ว
แจ็คคัลทั้ง 5 ตอนนี้จับกลุ่มกันเป็นวงกลมโดยมีแพะภูเขาอยู่ตรงกลาง ซึ่งขณะที่แพะภูเขากำลังสั่นไปด้วยความกลัวนั้น พวกมันจึงค่อยๆตบเท้าเดินเข้ามาเพื่อทำให้วงล้อมนั้นแคบลง และแคบลงมากขึ้นโดยที่สายตาของมันนั้นจ้องแพะภูเขาอย่างไม่ลดละ
ในด้านของแพะภูเขาสถานการณ์ตอนนี้ค่อนข้างแย่ เพราะมันนั้นถูกล้อมรอบไปด้วยสัตว์นักล่าถึง 5 ตัว มันพยายามที่จะส่งเสียงร้องหาความช่วยเหลือและมองไปรอบๆเพื่อหาหนทางหนีเอาชีวิตรอด แต่ถึงพยายามมองหาช่องทางเพียงใด วงล้อมของพวกแจ็คคัลก็บีบคั้นไกล้เข้ามาเท่านั้น ในที่สุดเจ้าแพะภูเขาก็ทนที่จะอยู่เฉยไม่ไหว มันจึงได้หลับตาพร้อมกับวิ่งฝ่าวงล้อมของฝูงตัวแจ็คคัลออกมาทางด้านซ้ายโดยไม่คิดชีวิต
แต่ปฏิกิริยาของพวกแจ็คคัลนั้นค่อนข้างไวพอสมควรมันไม่ปล่อยให้อาหารมื้อใหญ่ของมันในครั้งนี้หลุดหนีไปได้ มันจึงพุ่งเข้ากัดที่บริเวณสะโพกของเจ้าแพะภูเขาอย่างรุนแรง จากนั้นมันก็ใช้กรงเล็บของมันตะปบไปที่บริเวณแผ่นหลัง
แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ เจ้าแพะภูเขาไม่ลดละความพยายาม มันยังคงวิ่งหนีอย่างบ้าคลั่งต่อไปอย่างสุดความสามารถแต่ด้วยการวิ่งที่มีจิ้งจอกแจ็คคัลติดอยู่บนหลังมันนั้นด้วย จึงทำให้ความเร็วของมันลดลงไปอย่างมากด้วยเหตุนี้จึงทำให้แจ็คคัลที่เหลือไม่รอช้า และจู่โจมเข้าตามส่วนต่างๆของร่างกายเจ้าแพะอย่างรุนแรง ฉากฉุดกระชากลากถูกันบนพื้นจึงเกิดขึ้นก่อให้เห็นเศษฝุ่นตลบอบอวนลอยวนอยู่ในบริเวณตะลุมบอน
และบทสรุปก็ออกมาอย่างเดาได้ไม่ยาก เจ้าแพะภูเขานั้นถูกฆ่าตายอย่างน่าอนาถจากน้ำมือของกลุ่มแจ็คคัล พวกมันล้อมร่างที่นอนแน่นิ่งบนพื้นพร้อมกับกัดแทะกินเนื้อของเจ้าแพะภูเขาอย่างหิวโหย ยิ่งกัดแทะมากเท่าไร กลิ่นเลือดของเจ้าแพะก็ยิ่งฟุ้งกระจายมากเท่านั้น
เมื่อเห็นฉากแบบนี้แล้วฟ่างหยุนผู้ซึ่งกำลังซุ่มดูอยู่บนกิ่งไม้นั้นมีความรู้สึกว่าอยากจะเข้าไปขอร่วมวงกัดกินซากแพะกับพวกแจ็คคัลเป็นอย่างมากแทนที่จะรู้สึกสยดสยองกับกองเลือดขนาดนี้ตอนนี้เขาชินชากับเรื่องพวกนี้ไปเสียแล้ว
อย่างไรก็ตามเขายังคงคุมสติให้อยู่กับเนื้อกับตัวได้เป็นอย่างดี เพราะถ้าหากต้องต่อสู้เพื่อแย่งชิงแล้วเพียงแค่แจ็คคัลตัวเดียวนั้นเขาสามารถฆ่ามันได้สบายๆ หรือถ้าหากสู้กับพวกมันสองตัวเขาก็ยังพอมีโอกาศจะชนะได้บ้าง แต่ถ้าพูดถึงแจ็คคัล 3 ตัวขึ้นไปแล้วคนที่จะตกอยู่ในอันตรายนั้นไม่ใช่พวกแจ็คคัลแต่จะเป็นตัวเขานั่นเอง เพราะพวกแจ็คคัลที่มีมากกว่า 3 ตัวจะทำงานกันเป็นทีมอย่างยอดเยี่ยมและยิ่งมีมากเท่าไรผลของการจู่โจมก็จะได้เปรียบมากเท่านั้น
ผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงในที่สุดฝูงแจ็คคัลก็อิ่มหนำสำราญจากการกัดแทะซากแพะภูเขา ตอนนี้สิ่งที่พวกมันเหลือไว้ตรงหน้ามีแค่เพียงกองกระดูดกับเศษเลือด
ฟ่างหยุนเฝ้าดูพวกมันกำลังสลายตัวไปในป่าของภูเขาหลังจากที่มันเสร็จภารกิจนี้แล้ว หลังจากที่พวกมันหายไปอย่างไร้ร่องรอยแล้ว ฟ่างหยุนจึงค่อยๆเคลื่อนตัวเองลงจากต้นไม้เพื่อเดินทางต่อไปยังพื้นที่โล่งกว้าง แม้ว่าบริเวณนี้จะมีสัตว์นักล่าอาศัยอยู่ แต่เขาก็ยังจำเป็นต้องออกไปสำรวจอาณาเขตต่ออยู่ดี
เมื่อเลื้อยขึ้นไปจนถึงจุดสูงสุดของก้อนหินแล้ว ฟ่างหยุนก็เริ่มที่จะมองไปรอบๆ เพื่อสำรวจภูมิประเทศ เขามองเห็นได้ชัดเลยว่าถึงแม้ภูเขาลูกนี้จะมีป่าไม้อยู่ประปราย แต่อาณาเขตของมันกินพื้นที่ไปกว้างมาก อย่างน้อยๆเขาก็สามารถเห็นป่าเขาลำเนาไพรจนสุดลูกหูลูกตาจากจุดนี้ได้
หลังจากที่มองทิวทัศน์อันแสนยาวไกลจนสุดลูกหูลูกตาแล้ว ฟ่างหยุนเองจึงเปลี่ยนทิศทางในการมองไปยังบนยอดเขาเพื่อดูสถานการณ์ข้างหน้า บนพื้นดินไม่ไกลจากตัวของเขาเองมากนักปรากฏให้เห็นถึงหย่อมหญ้าเขียวขจีอย่างอุดมสมบูรณ์ บางแห่งก็มีรอยที่พึ่งถูกกัดกินจนเห็นได้ชัด
ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมเขาถึงพบกับแพะภูเขาที่นี่ เพราะหญ้าอันอ่อนนุ่มละมุนเหล่านี้เป็นอาหารชั้นดีของพวกมัน
ในขณะนี้พระอาทิตย์เริ่มที่จะคล้อยตัวลับกับภูเขาแล้วทำให้แสงของมันสาดส่องตกกระทบมาที่ผืนป่า แสงที่กระทบกับต้นไม้ใบหญ้าทำให้เกิดแสงระยิบระยับดุจทองคำ ราวกับว่านี่เป็นทิวทัศน์ที่ไม่สามารถหาชมที่ไหนมาก่อนมันสวยงามราวกับป่าในสวรรค์
น่าเสียดายที่เขาไม่สามารถอยู่ชมทิวทัศน์อันสวยงามที่นี่ได้อีกต่อไป เพราะเขานั้นมีจุดมุ่งหมายอย่างแรงกล้าที่จะต้องเข้าสู่การวิวัฒนาการโดยเร็วที่สุด ดังนั้นแล้วเขาจึงต้องจำใจจากและออกเดินทางไปยังเบื้องหน้าต่อทันที
แต่ตอนนี้เขากลับพบบางสิ่งบางอย่าง ซึ่งเขาต้องเพ่งความสนใจทั้งหมดไปที่มัน เพราะใต้ก้อนหินเบื้องหน้านั้นปรากฏเหมือนกับบังเกอร์หลบภัยของสัตว์บางชนิด ซึ่งถ้าหากเดาไม่ผิดแล้วมันคือโพรงของกระต่าย
เป็นธรรมดาที่กระต่ายส่วนใหญ่นั้นขุดโพรงเพื่ออยู่อาศัย แต่ก็มีคนไม่มากนักที่จะรู้ด้วยว่าพวกมันนั้นก็ชื่นชอบอาศัยอยู่ในถ้ำที่มีขนาดเล็กด้วยเช่นกัน
เหลือเวลาไม่มากนักแล้วที่ท้องฟ้าจะเข้าสู่ความมืดมิด แต่ฟ่างหยุนกลับไม่มีความคิดที่จะกลับไปยังที่รังนอนของเขาเลย เพราะความคิดก่อนหน้านี้นั้นเขาต้องการที่จะสำรวจพื้นที่ให้ได้มากที่สุดโดยการเลื้อยในลักษณะทวนเข็มนาฬิกาจนกว่าเขาจะเลื้อยกลับไปถึงทะเลสาบ
แต่แผนนั้นก็ต้องยกเลิกไป เพราะตอนนี้มันเกือบจะมืดแล้ว และเขาก็ไม่ค่อยถนัดในการหากินตอนกลางคืนสักเท่าไหร่ ดังนั้นเขาจึงต้องการที่จะพักผ่อน ส่วนสถานที่ในการจะพักผ่อนนั้นก็คงไม่ใช่ที่ไหนไกล ฟ่างหยุนได้จับจองโพรงกระต่ายแห่งนี้ไว้ในใจแต่แรกเห็น
ฟ่างหยุนรีบตวัดลิ้นเข้าออกจากปากเพื่อตรวจสอบการเคลื่อนไหวของสิ่งมีชีวิต เพื่อให้แน่ใจว่าโพรงนี้เป็นของกระต่ายจริงๆ ไม่ได้เป็นโพรงของงูตัวอื่นๆ และถ้าหากมันเป็นโพรงของงูจริงๆแล้วละก็ เขานั้นจะสามารถรับรู้ได้จากการดมกลิ่นในครั้งนี้ทันที และที่สำคัญโพรงนี้ก็ไม่ใช่โพรงของงูจริงๆด้วย
โพรงนั้นไม่ค่อยจะกว้างสักเท่าไหร่นัก แต่มันก็สามารถรองรับตัวของฟ่างหยุนได้อย่างพอดี ทำให้เขานั้นสามารถเลื้อยตรงเข้าไปได้อย่างง่ายดาย ในขณะที่เลื้อยเข้าไปยังไม่ถึงหนึ่งเมตรนั้นก็ปรากฏเสียงมีสัตว์บางชนิดที่ค่อย ๆ ขุดหลุมจากปลายทางอีกด้านหนึ่ง
“ ต้องเป็นกระต่ายเป็นแน่ ” ฟ่างหยุนทำได้เพียงแค่คิด เพราะในโพรงไม่มีแสงสว่างเลยแม้แต่น้อย จึงทำให้ตอนนี้ฟ่างหยุนไม่สามารถมองเห็นอะไรได้ แต่อย่างไรก็ตามลิ้นที่ตวัดเข้าออกตลอดเวลานั้น สามารถตรวจจับกลิ่นของสิ่งมีชีวิตได้อย่างแม่นยำจึงทำให้เขารู้ว่าสิ่งนั้นมันคือกระต่าย
ฟ่างหยุนที่รับรู้ได้แบบนั้นแล้วเขาก็ไม่รอช้าที่จะเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการจู่โจม เพราะทันทีที่มองเห็นเจ้ากระต่ายที่กำลังขุดหลุมมาจากปลายทางอีกด้านหนึ่งปรากฏตัวขึ้นอย่างชัดเจนแล้วเขาก็พุ่งเข้าไปกัดมันอย่างรวดเร็ว การถูกกัดในครั้งนี้ทำให้มันตกใจเป็นอย่างมากเพราะใครจะคาดคิดว่าโพรงแสนรักจะมีเพื่อนไม่ได้รับเชิญเข้ามาอยู่รอตนก่อนหน้าแล้ว
ในขณะที่กำลังตกใจอยู่นั้นเจ้ากระต่ายโง่เขลาก็ยังคงมองแขกไม่ได้รับเชิญอย่างแข็งทื่อโดยไม่คิดจะหนีจึงทำให้มันถูกกัดเต็มๆไปที่ลำคอ
หลังจากที่กัดเข้าอย่างจังที่บริเวณลำคอแล้ว ฟ่างหยุนก็ไม่ลืมที่จะพ่นพิษเข้าไปสู่กระแสเลือดของเจ้ากระต่ายอย่างเลือดเย็น
ภายใต้ความเจ็บปวดที่ในชีวิตนี้ไม่เคยรู้สึกมาก่อน เจ้ากระต่ายจึงสะดุ้งตื่นออกจากความฝันพร้อมกับพยายามดีดดิ้นลำตัวมันให้หลุดออกจากคมเขี้ยวอย่างรุนแรง แต่มันก็สายเกินไปแล้วเพราะนาทีที่ถูกกัดเข้าไปบริเวณลำคอ ชะตาชีวิตของเจ้ากระต่ายก็ถูกลิขิตแล้วว่ายังไงก็ต้องไปสู่สวรรค์
การดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอดของเจ้ากระต่ายเริ่มอ่อนแรงลง และอ่อนแรงลงไปเรื่อยๆอย่างรวดเร็ว เพราะพิษที่ถูกปล่อยออกมาจากปากของฟ่างหยุนนั้นตอนนี้ประสิทธิภาพของมันรุนแรงพอๆ กับงูพิษอันดับต้นๆของโลกเลยก็ว่าได้
ท่ายที่สุดแล้วเจ้ากระต่ายก็แน่นิ่งไปพร้อมกับหัวใจที่หยุดเต้น ฟ่างหยุนจึงค่อยๆคลายคมเขี้ยวของเขาออกจากคอของมันพร้อมกับค่อยๆ กลืนมันลงไปสู่ท้องของเขาในส่วนที่ลึกที่สุดของโพรง
หลังจากนั้นเพียงครู่เดียวเขาก็ได้รับการแจ้งเตือนจากระบบว่าตอนนี้เขาได้รับพลังงานชีวภาพเพิ่มขึ้นมาอีก 100 หน่วย
ตอนนี้พลังงานทางชีวภาพของเขารวมกันได้ถึง 2,240 หน่วยแล้ว และเหลืออีกเพียงแค่ 760 หน่วยเขาก็สามารถเข้าสู่การวิวัฒนาการขั้นต่อไปได้
จำนวนเหยื่อในอาณาเขตนี้นั้นมีมากเกินกว่าที่เขาจินตนาการเอาไว้ ซึ่งการรวบรวมพลังงานทางชีวภาพที่เหลือเพียงแค่ 760 หน่วยนั้น คงไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไรพร้อมกันนั้นเขาคงจะสามารถบรรลุเป้าหมายได้ในเร็ววัน
ในขณะที่กำลังคิดถึงความสำเร็จอยู่นั้น ตอนนี้หนังท้องตึงหนังตาก็เริ่มหย่อน เขาเริ่มรู้สึกง่วงขึ้นมาเป็นอย่างมาก แต่ก่อนที่จะเข้าสู่ดินแดนแห่งความฝันนั้น ฟ่างหยุนเองก็ได้ยินเสียงของสัตว์ร้ายบางชนิดดังก้องขึ้นมา แต่เป็นเพราะตอนนี้เขาอยู่ในโพรง เขาไม่มีความจำเป็นที่จะต้องกังวลเกี่ยวกับอันตรายแต่อย่างใด จึงทำให้ไม่นานนักเขาก็หลับตาลงไปจากความเหนื่อยล้า