ตอนที่ 34 : ถูกล้อม
เช้าตรู่ของวันต่อมา ฟ่างหยุนตื่นขึ้นมาพร้อมกับความสดชื่น เขาค่อยๆเลื้อยออกจากโพรงกระต่ายอย่างเชื่องช้า เพื่อเตรียมพร้อมที่จะสำรวจอาณาเขตต่อไป เขามีวางแผนว่าถ้าเป็นไปได้การสำรวจอาณาเขตน่าจะเสร็จสิ้นภายในวันนี้
ถึงแม้ว่าเขาจะไม่สามารถกลืนเจ้าแพะภูเขาที่โตเต็มวัยได้ อย่างน้อยเขาก็สามารถกินลูกของมัน ที่สำคัญไปกว่านั้นเหยื่อจำพวกกระต่ายในระแวกนี้ก็ชุกชุมยิ่งนัก มันคุ้มค่ามากที่เขาได้เดินทางมาสำรวจบริเวณนี้ เขาจึงทำเครื่องหมายไว้ในใจว่าที่นี่เหมาะแก่การล่า
เมื่อออกไปยังไม่ไกลจากโพรงเดิม ฟ่างหยุนก็ต้องดีใจเป็นอย่างมากเพราะที่นี่เต็มไปด้วยโพรงกระต่ายอีกมากมายหลายหลุม จึงทำให้เขานั้นไม่ลืมที่จะจดจำสถานที่ไว้ เพื่อที่จะได้กลับมาล่าอีก
และเมื่อมุดเข้าออกจากโพรงกระต่ายประมาณสามสี่รังแล้ว เขาก็ต้องยอมแพ้ เพราะทุกครั้งที่มุดเข้าไปเขาต้องกลับออกมาด้วยมือเปล่าทุกที อาจจะเป็นเพราะว่าพวกมันตื่นตั้งแต่เช้าและออกไปหาอาหารแล้ว จึงเหลือไว้เพียงความว่างเปล่าภายในรัง
ระหว่างที่เลื้อยไปต่ออย่างสบายใจอยู่นั้น เขาก็ต้องหยุดชะงักในทันที เพราะตอนนี้สายตาของเขากำลังมองเห็นบางสิ่งบางอย่างในทุ่งหญ้าที่ไม่ไกลจากจุดที่อยู่ของเขามากนัก
ฝูงแกะภูเขากำลังยืนเล็มหญ้าอยู่อย่างสบายใจ ! โดยกลุ่มของมันในครั้งนี้ประกอบไปด้วยสมาชิกที่โตเต็มวัยถึง 8 ตัว และลูกน้อย อีก 2 ตัว และเมื่อจ้องมองไปยังลูกแพะน้อย 2 ตัวแล้วฟ่างหยุนก็อดไม่ได้ที่จะตื่นเต้นพร้อมกับตาลุกประกายเป็นวาว
ลูกแพะทั้งสองกำลังตามหลังสมาชิกตัวอื่นๆ พร้อมกับส่งเสียงร้องอย่างน่ารักออกมาเป็นครั้งคราว ฟ่างหยุนจึงเลือกที่จะล่าพวกมันเป็นอาหารหลังจากที่พิจารณาอยู่ครู่ใหญ่
เพราะระหว่างลูกแพะทั้งสองตัวนั้น จะมีตัวเล็ก 1 ตัว และตัวที่ใหญ่กว่าอีก 1 ตัวซึ่งเหตุผลง่ายๆเลยที่เขาเลือกจะล่าเจ้าตัวใหญ่กว่านั้นเป็นเพราะมันต้องให้พลังงานทางชีวภาพที่เยอะพอสมควรแก่เขา อย่างที่สองคือตอนนี้มันอยู่ห่างจากฝูงของมันเป็นอย่างมาก จึงทำให้มีโอกาศล่ามันได้สำเร็จกว่าอีกตัว ดังนั้นแล้วเจ้าลูกแพะตัวใหญ่จึงกลายเป็นเป้าหมายของเขาไปโดยปริยาย
ตรวจพบเป้าหมาย
ลูกแพะภูเขา
ประเภทสัตว์: เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเยาว์วัย
สามารถเพิ่มพลังงานทางชีวภาพได้ 150 หน่วย
หลังจากที่ระบบแจ้งเตือนมาดังนั้นแล้วฟ่างหยุนก็ไม่ได้ใส่ใจเพราะตอนนี้เขาเอาแต่จ้องลูกแพะพร้อมกับเคลื่อนที่เข้าไปหามันอย่างเงียบงันและหลังจากเลื้อยเข้าไปได้สักพักระยะห่างระหว่างเขากับเจ้าลูกแพะก็ไกล้กันไม่ถึง 10 เมตร
ด้วยสีสันบนร่างกายของฟ่างหยุน ถ้าหากว่าเป็นพื้นที่ในป่าบนภูเขาโดยเฉพาะบนพื้นที่เต็มไปด้วยเศษซากใบไม้ร่วง มันจะทำให้เขาพรางตัวได้อย่างแนบเนียน แต่พอมาอยู่บนพื้นหญ้าที่เขียวชอุ่มแล้วสีสันของเขาจึงไม่เป็นผลต่อการพรางตัวได้มากสักเท่าไหร่
แต่อย่างไรก็ตามเขาเคลื่อนที่ไปอย่างเงียบงัน จึงทำให้เขาเองไม่ได้กลายเป็นจุดดึงดูดความสนใจสักเท่าไดนักของกลุ่มแพะภูเขาพวกนี้
ฟ่างหยุนยังคงเลื้อยต่อไปไม่หยุดจนตอนนี้ระยะห่างระหว่างเขากับลูกแพะไกล้ราวๆ 3 เมตร
ทันใดนั้นลูกแพะที่กำลังเล็มหญ้ากินอยู่ก็ได้เงยหน้าขึ้นมาพร้อมกับมองจ้องไปที่เขา เขาถูกพบเข้าจนได้ ! ฟ่างหยุนรู้สึกเสียหน้าเป็นอย่างมาก เพราะเขาไม่คาดคิดเลยว่าเขาจะถูกพบเจอระหว่างที่กำลังจะล่าเหยื่อได้
แต่ในระหว่างที่เขากำลังคิดว่าตัวเองจะต้องล้มเหลวจากการล่าในครั้งนี้แล้ว เจ้าลูกแพะกลับจ้องมาที่เขาด้วยความอยากรู้อยากเห็นโดยไม่ได้ส่งเสียงร้องจากความกลัวแต่อย่างใด บางทีมันอาจจะไร้เดียงสาจนไม่รู้ว่าฟ่างหยุนนั้นเป็นนักล่าก็ได้
บางทีในความเข้าใจของเจ้าแพะภูเขาพวกนี้อาจจะมองว่ามีแต่แจ็คคัลเท่านั้นที่เป็นภัยคุกคามต่อพวกมัน หรืออาจจะเป็นเพราะพวกมันไม่ค่อยพบเจอกับงูสายพันธุ์อื่นนอกจากงูเหลือมที่มาล่าพวกมันมากนัก
ฟ่างหยุนไม่ปล่อยโอกาสนี้ให้หลุดลอยไปได้ เขาพุ่งเข้าไปฉุกที่มันทันที ด้วยความตกใจเจ้าลูกแพะที่เห็นการโจมตีออกมาจากงู มันจึงรีบกระโดดถอยหลังไปอย่างไม่รู้ตัว แต่ฟ่างหยุนเองนั้นได้เตรียมพร้อมมาอย่างดีแล้วเขาจึงไล่ตามมันไปพร้อมกับกัดตรงไปที่ขาของมัน
“ แบะๆๆ ! ” เจ้าลูกแพะภูเขากรีดร้องด้วยความเจ็บปวดมันนั่งยองๆ อยู่บนพื้นพร้อมกับร้องออกมา ตอนนี้แพะทั้งฝูงรู้แล้วว่ามีอันตรายอยู่ไกล้ตัว พวกมันรีบวิ่งเข้ามาโอบลอบลูกแพะเป็นวงกลมโดยมีลูกแพะอยู่ตรงกลาง แพะตัวผู้โตเต็มวัยสองตัวก้มหัวลงพร้อมกับยื่นเขาออกมาทางฟ่างหยุนเพื่อเป็นการข่มขู่ พวกมันพยายามจะทำให้ฟ่างหยุนนั้นหนีกลับไปให้ได้
ฟ่างหยุนเมื่อเห็นดังนั้นแล้วเขาจึงค่อยๆเลื้อยถอยออกมา เพราะเขานั้นไม่มีจุดประสงค์ที่จะต่อสู้กับแพะฝูงนี้แต่แรกอยู่แล้ว และเป็นเพราะตอนที่เขากัดเข้าไปที่ขาของลูกแพะเขาก็ได้พ่นพิษไปในนั้นด้วยยังไงซะ มันก็ต้องตายในไม่ช้าอยู่ดี
แน่นอนว่าไม่ถึงสองนาทีต่อมาก็มีเสียงล้มลงดังตึง มาจากร่างของลูกแพะตอนนี้มันนอนกองอยู่กับพื้นพร้อมกับหัวใจที่หยุดเต้น
แพะภูเขาตัวอื่นก็ยังคงยืนอยู่ข้างๆซากของลูกแพะโดยที่ไม่แม้แต่จะขยับไปไหน พวกมันพยายามที่จะใช้เขาของมันกระตุ้นให้ลูกแพะรู้สึกตัว เพราะพวกมันไม่รู้จริงๆ เลยว่าทำไมอยู่ๆ ลูกแพะก็ล้มแน่นิ่งไป
นี่คงจะเป็นครั้งแรกของพวกแพะภูเขาที่ต้องมาพบเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ หลังจากที่ผ่านไปชั่วโมงกว่า พวกมันจึงยอมแพ้พร้อมกับเดินทางจากไปทั้งฝูง แต่คราวนี้พวกมันพยายามที่จะปกป้องลูกแพะที่เหลือโดยการโอบล้อมมันไว้ตรงกลางเพื่อรักษาชีวิตของสมาชิกอย่างแน่นหนา
เมื่อเห็นว่าพวกแพะภูเขาจากไปโดยสิ้นเชิงแล้ว ฟ่างหยุนจึงรีบเลื้อยตรงไปยังร่างของลูกแพะพร้อมกับกลืนกินมันลงไปอย่างรวดเร็ว
หลังจากที่กลืนแพะน้อยลงสู่ท้องแล้วเขาก็รู้สึกอิ่มขึ้นมาเป็นอย่างมาก ตอนนี้เขาพยักหน้าให้กับความพอใจในการล่าของเขา ฟ่างหยุนค่อยๆลากร่างที่นูนเป็นลูกคลื่นของตัวเองไปยังใต้ก้อนหินใหญ่เพื่อรอให้กรดในกระเพาะของเขาย่อยร่างของลูกแพะให้เสร็จสิ้นเสียก่อน
ในขณะที่กำลังนอนรอการย่อยอยู่นั้น ในใจของเขาก็หวนคิดคำนึงถึงตอนที่เป็นมนุษย์ เขาคิดถึงบ้านและครอบครัวเป็นอย่างมาก ถ้าหากว่าเขายังคงเป็นมนุษย์อยู่แล้วละก็ชีวิตเขาคงจะง่ายกว่านี้อย่างแน่นอน
เพราะตอนที่เขายังเป็นมนุษย์อยู่นั้นเขาไม่ต้องห่วงเรื่องหุงหาอาหารเอง ไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยของชีวิตเลย ถ้าหากย้อนกลับไปได้จริงๆ เขาคงไม่ต้องมาเครียดกับเรื่องวิวัฒนาการกับค่าชื่อเสียงตามที่ระบบส่งมอบให้กับเขาก็ได้
ฟ่างหยุนคิดได้ดังนั้นก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เขาสะบัดหัวเพื่อสลัดความคิดพวกนั้นออกไป และเปลี่ยนเอาความคิดถึงนั้นกลับมาเป็นแรงผลักดันเพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายให้สำเร็จจากนั้นเขาก็จะได้กลับไปบ้านที่บ้านเพื่อกลับไปหาคนที่เขารัก
“ เราจะต้องทำให้สำเร็จ เพื่อที่จะได้กลับไปบ้านและกลับไปหาครอบครัว ! ” เขาเอ่ยกับตัวเองขึ้นมาในใจ ทันทีที่รู้สึกว่าในท้องของเขาตอนนี้ไกล้จะย่อยลูกแพะอย่างเสร็จสมบูรณ์แล้ว เขาจึงค่อยๆเลื้อยต่อไปยังเบื้องหน้า
เดิมทีนั้นเขาคิดว่าถ้าหากเขาพยายามเลื้อยไปอย่างรวดเร็วแล้วละก็เขาอาจจะจบการสำรวจพื้นที่ในวันนี้เลยด้วยซ้ำ แต่ความเป็นจริงกับสิ่งที่ฝันนั้นค่อนข้างมีความแตกต่าง ตอนนี้เขาไม่ได้อยู่ไกล้จุดหมายเลยแม้แต่น้อย
เพราะเมื่อวานที่เขากำลังสำรวจภูมิประเทศของภูเขาลูกนี้อยู่นั้นมันค่อนข้างกว้างขวางเป็นอย่างมาก แต่ถึงจะมีพื้นที่กว้างขวางขนาดไหน เขาคาดคะเนว่าเส้นผ่าศูนย์กลางของมันก็น่าจะไม่เกิน 10 กิโลเมตร
แต่วันนี้เขาได้เลื้อยมาค่อนวันแล้ว และยังไม่สามารถมองเห็นร่มเงาไม้ของป่าได้เลย เขาจึงเริ่มที่จะประเมิณมันได้ว่าวันนี้เขาอาจจะเลื้อยมาไกลถึง 10 กิโลเมตรแล้วก็เป็นได้
แต่นั่นก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นโชคร้ายสำหรับเขาเลยสะทีเดียว เพราะระหว่างทางที่เขาได้เลื้อยมานั้นนอกจากแพะภูเขาแล้วเขาก็ยังได้พบกับฝูงแกะอีกเสียด้วย ซึ่งจำนวนของพวกมันนั้นไม่น้อยเลย ที่กล่าวมานี้ยังไม่รวมพวกสัตว์ขนาดเล็กจำพวกหนู นก แมลงสาบ และอื่นๆอีกมากมาย
และช่วงบ่ายนั้นเขาก็สามารถจับกระต่ายและหนูพุกกินอีกอย่างละตัว จึงทำให้ตอนนี้เขาสามารถสะสมพลังงานทางชีวภาพเพิ่มมาได้อีก 130 หน่วยบวกกับเจ้าลูกแพะภูเขาก่อนหน้านี้อีกด้วย
วันนี้เขาได้รับพลังงานทางชีวภาพรวมแล้ว 280 หน่วย ทำให้ทั้งหมดที่เขามีตอนนี้แตะถึง 2,520 หน่วยแล้ว หากเขายังคงรักษาสถิติความรวดเร็วในการล่าได้แบบนี้ต่อไป ภายในวันสองวันนี้เขาต้องเข้าสู่การวิวัฒนาการได้อย่างแน่นอน
และหลังจากการวิวัฒนาการในครั้งต่อไปเสร็จสิ้น ความยาวลำตัวของเขาอาจจะพัฒนาไปถึง 3 เมตร เมื่อถึงตอนนั้นแล้วมันก็จะทำให้เขาสามารถกลืนเหยื่อที่มีขนาดใหญ่ขึ้นได้นั่นเอง
และสิ่งที่สำคัญไปกว่านั้น คือหลังจากที่ได้รับการวิวัฒนาการครั้งต่อไปแล้วเขาจะได้รับคะแนนทักษะถึง 7 คะแนนรวมกับ 1 ที่มีอยู่ นั่นก็เท่ากับว่าจะกลายเป็น 8 คะแนน มันเพียงพอที่เขาจะสามารถใช้มันอัพเกรดทักษะ “ ภูมิต้านทาน ” ได้อย่างเพียงพอ
เมื่อรู้ว่ารางวัลคือเงื่อนไขสองอย่างนี้รวมกันแล้ว มันทำให้ฟ่างหยุนนั้นรู้สึกทะเทอทะยานเป็นอย่างมาก จากสิ่งที่เขาคาดไว้ ถ้าหากเขามีโอกาสพบกับฝูงของเจ้าแจ็คคัลอีกครั้ง แม้ว่าทั้ง 5 ตัวจะโจมตีมาพร้อมกัน เขานั้นก็อาจจะตบสั่งสอนพวกมันไปได้อย่างง่ายดาย
ถ้าอีกฝ่ายไม่ยั่วโมโหเขา เขาก็จะไม่เข้าไปหาเรื่องพวกมันก่อนเช่นกัน แต่ถ้าพวกมันกล้าที่จะเข้ามาหาเรื่องเขาก่อนแล้วละก็ฟ่างหยุนรับรองได้เลยว่าเขาจะสั่งสอนพวกมันให้รู้จักรสชาติของความตายอย่างแน่นอน
ในขณะที่ฝันกลางวันจบลง ฟ่างหยุนก็แหงนหน้ามองท้องฟ้า ดูเหมือนว่าตอนนี้พระอาทิตย์ไกล้จะลับขอบฟ้า และในไม่ช้าก็จะถูกความมืดมิดเข้ามาแทนที่
“ ได้เวลาหาที่พักผ่อนแล้วหล่ะ ” ฟ่างหยุนบอกกับตัวเอง เพราะตอนนี้สภาพอากาศข้างนอกนั้นถ้าหากไม่มีแสงอาทิตย์สาดส่องแล้วอุณภูมิจะลดลงไปเป็นอย่างมากและที่สำคัญความมืดมิดนั้นจะเข้ามาแทนที่โดยเร็ว
ฟ่างหยุนวางแผนที่จะไปหาโพรงกระต่ายเหมือนเมื่อวานนี้ เพื่อเอาไว้นอนพักเก็บแรงที่จะออกสำรวจพื้นที่ต่อในตอนเช้า เขาจึงเลื้อยต่อไปพร้อมกับตวัดลิ้นเข้าออกจากปากของเขาตลอดเวลา
อย่างไรก็ตามหลังจากที่เลื้อยไปได้สักพัก ฟ่างหยุนก็ต้องหยุดชะงักโดยทันพลันเพราะตอนนี้เขารู้ตัวแล้วว่ากำลังถูกปิดล้อมอยู่
ซึ่งตอนนี้ปรากฎให้เห็นเหล่าแจ็คคัลทั้ง 5 ยืนรอบตัวเขาที่อยู่ตรงกลางฝูงของพวกมัน เป็นที่น่าตลกขบขันเอาอย่างมาก เพราะก่อนหน้านี้ฟ่างหยุนกำลังคิดอยู่ว่าจะสั่งสอนพวกมันให้รู้จักรสชาติของความตายซึ่งเขาจะทำอย่างนั้นก็ต่อเมื่อได้รับการวิวัฒนาการครั้งต่อไปเสร็จสิ้นแล้ว แต่ตอนนี้พวกมันกลับมาโผล่ล้อมรอบฟ่างหยุนซึ่งยังไม่ได้เข้าสู่การวิวัฒนาการในรอบต่อไป และที่สำคัญดูเหมือนว่าพวกแจ็คคัลเหล่านี้จะไม่ได้มาอย่างสันติเอาเสียด้วย
แน่นอนว่าตอนนี้มันเป็นเรื่องบังเอิญ แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะมันทำให้ฟ่างหยุนเป็นใบ้ไปชั่วขณะเสียทีเดียว