ตอนที่ 36 : การพบเจอโดยบังเอิญ
ฟ่างหยุนจ้องมองพวกแจ็คคัลทั้ง 4 ที่อยู่นอกโพรง ดวงตาของพวกมันนั้นจ้องมาที่เขาราวกับจะกัดกินเลือดกินเนื้อให้ได้ พวกมันพยายามส่งเสียงขู่พร้อมกับกัดฟันใส่ฟ่างหยุนด้วยความโกรธเป็นระยะ
ถ้าฟ่างหยุนนั้นยังคงเป็นนักเรียนมัธยมปลายที่ไร้เดียงสาอย่างที่เคยเป็นมาก่อน เขาคงจะต้องหวาดผวากับฉากที่โหดเหี้ยมจากสัตว์ป่าตรงหน้านี้
แต่ตอนนี้มันกลับทำให้เขาไม่ได้รู้สึกกลัวอะไรเลยแม้แต่น้อย หัวใจของเขาแข็งแกร่งขึ้นกว่าแต่ก่อนเป็นอย่างมาก
ในขณะที่เล่นสงครามประสาทกันด้วยการจ้องตาอยู่นั้น ในกลุ่มของแจ็คคัลก็มีพวกมันตัวหนึ่งเริ่มที่จะใช้กรงเล็บขุดโพรงเข้ามา
“ เจ้าพวกนี้มันกัดไม่ปล่อยจริงๆ ” เมื่อเห็นดังนั้นแล้วฟ่างหยุนก็กรอกตาขึ้นมองบน เหตุผลที่พวกมันทั้ง 4 เฝ้าเขาและไม่ยอมหนีห่างไปไหนคงไม่ใช่เพราะความหิวอย่างแน่นอน พวกมันอยู่ที่นี่เพราะความแค้นจากการที่เพื่อนในกลุ่มถูกฟ่างหยุนฆ่าตายนั่นเอง ดังนั้นมันจึงต้องมาแก้แค้นให้กับเพื่อน !
เมื่อรู้ถึงจุดประสงค์อันแน่ชัดของพวกแจ็คคัลแล้ว ฟ่างหยุนก็ค่อยๆเลื้อยกลับลงมาที่โพรงพร้อมกับจ้องมองการใช้กรงเล็บของพวกมันขุดหลุมให้ลึกที่สุดเท่าที่พวกมันจะทำได้
หลังจากเวลาผ่านไปเพียงแค่ 10 นาทีพวกมันก็ต้องยอมแพ้ให้กับความเหนื่อยล้า เพราะใช้ความพยายามเป็นอย่างมากแล้ว ความลึกของหลุมที่มันสามารถขุดได้ก็มีเพียงแค่ 80 เซนติเมตร เท่านั้น ดินของที่นี่แข็งมากกว่าที่คิดเอาไว้
ถึงแม้ว่ามันจะล้มเลิกความคิดที่จะขุดต่อแล้ว แต่มันก็ไม่ได้จากไปไหน พวกมันยังคงเฝ้ารอการกลับมาของฟ่างหยุนที่ทางเข้าของโพรงอย่างต่อเนื่อง
ฟ่างหยุนที่อยู่ในโพรงและเฝ้ามองการกระทำของพวกมันตลอดเวลา เขาไม่ได้รู้สึกกังวลกับภัยคุกคามเลย ที่สำคัญไปกว่านั้นเขากลับหัวเราะออกมาดังๆด้วยซ้ำจากการกระทำที่โง่เขลาของพวกมันโดยการมานั่งเฝ้างูแบบนี้ เพราะในการเผาผลาญพลังงานในร่างกายงูนั้นช้ากว่าสัตว์อื่นหลายเท่า ดังนั้นหลังจากที่งูอิ่มหนำสำราญจากการล่าเหยื่อแล้วมันสามารถรอได้ถึงมากกว่า 2 อาทิตย์จึงจะกลับไปหากินอีกรอบ
“พวกมันจะเฝ้าแบบนี้ได้นานสักเท่าไหร่กัน ? ” ฟ่างหยุนคิดด้วยความสงสัย เมื่อเขาเดาถึงผู้ชนะอย่างไม่ยากเย็นในศึกการรอคอยครั้งนี้แล้ว เขาจึงค่อยๆหลับตานอนต่อ
เวลาผ่านล่วงเลยไปถึงหนึ่งวันหนึ่งคืนเต็มๆแล้ว ฟ่างหยุนที่กำลังลืมตาตื่นขึ้นมานั้น เขาได้ลองเลื้อยออกไปสำรวจที่ปากทางของโพรงอีกครั้ง ปรากฏว่าพวกมันทั้ง 4 ก็ยังคงเฝ้าอยู่ที่ตำแหน่งเดิมโดยไม่จากไปไหน
เมื่อมองจากความมุ่งมั่นของพวกแจ็คคัลแล้ว ฟ่างหยุนคาดว่าศึกในครั้งนี้น่าจะกินเวลาต่อเนื่องถึง 5 วันและในใจลึกๆแล้วเขาก็หวังว่าพรุ่งนี้เช้าพวกมันยังคงจะเฝ้ารอเขาอยู่แบบเดิม
หลังจากที่ตื่นขึ้นมาในเช้าวันใหม่อีกครั้ง ฟ่างหยุนก็เลื้อยออกไปทางหน้าปากทางเข้าของโพรงตามปกติเพื่อตรวจสอบ แต่วันนี้เขาเอาลิ้นตวัดเข้าออกเพื่อตรวจจับความเคลื่อนไหวว่าตำแหน่งที่ตั้งของพวกแจ็คคัลเหล่านี้ซ่อนอยู่ตรงไหน แต่เขาก็ต้องแปลกใจเป็นอย่างมากเพราะวันนี้พวกมันทั้ง 4 ไม่อยู่แล้ว
หลังจากที่ลังเลว่าการตรวจจับสิ่งเคลื่อนไหวของเขานั้นผิดเพี้ยนไปจากเดิมหรือเปล่า เขาจึงค่อยๆเลื้อยโผล่หัวออกมาจากปากทางของโพรงและมองไปรอบ ๆ ปรากฏว่ามันเป็นจริง ! เพราะตอนนี้แจ็คคัลทั้ง 4 นั้นหายไปแล้ว
ฟ่างหยุนค่อยๆเลื้อยปีนขึ้นไปบนยังก้อนหินสูง และพยายามมองหาที่ซ่อนรอบๆโดยคิดว่ามันอาจจะหลบซ่อนอยู่ก็เป็นได้ แต่ถึงอย่างนั้นแล้วเขาก็ไม่พบกับพวกมันจริงๆ
ฟ่างหยุนแน่ใจชัดเจนแล้วว่าพวกมันยอมแพ้และจากไปอย่างสิ้นเชิง ตอนนี้เขากลับส่ายหัวด้วยความผิดหวัง เขาคิดว่าแจ็คคัลพวกนี้จะมีความมุ่งมั่นในการแก้แค้นให้กับสหายของพวกมันมากกว่านี้ แต่แล้วมันก็ต้องทำให้เขาผิดหวัง เพราะยังไม่ถึง 2 วัน 2 คืนดีเลยพวกมันก็ละทิ้งความมุ่งมั่นเอาเสียแล้ว
ในความเป็นจริงแล้ว แจ็คคัลเหล่านี้ไม่ควรถูกตำหนิ แต่ต้องได้รับการชื่นชมเสียด้วยซ้ำ เพราะความมุ่งมั่นภักดีที่จะแก้แค้นให้กับเพื่อนนั้นหาดูยากมากจากสัตว์แทบจะทุกชนิดในป่า
ฟ่างหยุนถอนหายใจด้วยความโล่งอก ก่อนที่เขาจะพบว่าซากของสมาชิกตัวหนึ่งนั้นนอนตายอยู่ไม่ไกลจากเขา
ใช่เลย! มันคือตัวที่ฟ่างหยุนฆ่า เช่นเดียวกับสัตว์หลายชนิดอื่นๆ ที่อยู่รวมกันเป็นฝูง พวกมันจะไม่นิยมกินซากศพของเพื่อนร่วมสายพันธุ์ ยกเว้นแต่ว่าสัตว์บางชนิดที่ไม่รังเกียจจะกินซากของเพื่อนตัวเองในยามที่ขาดแคลนและหิวโหย
แต่เห็นว่าแจ็คคัลทั้ง 4 นั้นไม่ใช่สัตว์จำพวกหลังอย่างแน่นอนพวกมันแค่ป้องกันเพื่อนของตัวเองจากนักล่าตัวอื่นก็เท่านั้น
ดังนั้นซากศพที่ยังค่อนข้างสมบูรณ์ของแจ็คคัลตัวนี้ จึงตกเป็นอาหารของฟ่างหยุนโดยปริยาย เขาไม่รอช้าพร้อมกับรีบเลื้อยเข้าไปข้างๆ ลำตัวของมันก่อนที่จะอ้าปากกว้างกลืนกินร่างของมันลงไปสู่ท้องของเขา ทำให้ฟ่างหยุนนั้นได้รับพลังงานทางชีวภาพถึง 350 หน่วยอย่างไม่ได้ตั้งใจ
ซากศพที่ตายมาหลายวันของแจ็คคัลตัวนี้ขึ้นอืดแล้ว จึงทำให้ขนาดของมันนั้นใหญ่กว่าแจ็คคัลขนาดปกติดังนั้นหลังจากที่กลืนมันลงท้องไปแล้วมันเลยทำให้ร่างกายของฟ่างหยุนนั้นนูนบวมเป็นลูกคลื่นที่ใหญ่ผิดปกติหลายเท่า
หลังจากที่กรดในกระเพาะทำงานจนสามารถย่อยสลายร่างของเจ้าแจ็คคัลอย่างเสร็จสมบูรณ์แล้ว เขาได้รับพลังงานชีวภาพเพิ่มขึ้นมา 350 หน่วย ตอนนี้เขาจึงมีพลังงานทางชีวภาพสะสมทั้งหมด 2870 หน่วย
การวิวัฒนาการขั้นต่อไปนั้นไกล้เข้ามาแล้ว ! ทำให้ฟ่างหยุนอดที่จะรู้สึกตื่นเต้นไม่ได้ เขาเริ่มทำการสำรวจต่อโดยขณะที่เขากำลังสำรวจเส้นทางนั้นเขาทำได้เพียงหวังว่าจะเจอเหยื่ออีกจนทำให้เขาสำเร็จการวิวัฒนาการได้โดยเร็ว
หลังจากเวลาผ่านล่วงเลยไปแล้วครึ่งค่อนวันฟ่างหยุนได้รับพลังงานทางชีวภาพเพิ่มมาจากหนูนาที่เขาจับกินอีก 5 ตัว ทำให้เขานั้นได้รับพลังงานทางชีวภาพเพิ่มขึ้นมาอีก 75 หน่วย
และแล้วตอนนี้เขาก็สามารถวนกลับมาถึงภูเขาได้เป็นที่เรียบร้อย เพราะเขาเดินทางสำรวจมาได้อย่างราบรื่น และระหว่างทางนั้นเขาก็ไม่พบวี่แววของเหล่าแจ็คคัลทั้ง 4 อีกเลย
“ ในที่สุดก็สำรวจภูเขานี้เสร็จสิ้นเสียที ! ” ฟ่างหยุนถอนหายใจด้วยความโล่งอก ขณะที่เกือบจะเลื้อยมาถึงจุดนี้เขาก็ได้พบเจอกับแพะภูเขาอีก 2 ฝูงดังนั้นเขาจึงมีแผนขึ้นมาในหัวว่าวันนี้เขาจะจับลูกๆของพวกมันมากินเป็นอาหารเพื่อสะสมพลังงานทางชีวภาพให้เข้าสู่เงื่อนไขการวิวัฒนาการให้ได้เลย
แต่แล้วโชคก็ไม่ค่อยเข้าข้างเขาสักเท่าไหร่ เพราะพวกแพะภูเขาเหล่านี้นั้นมีระบบป้องกันตัวเป็นอย่างดี เรียกได้ว่าแทบจะไม่เปิดโอกาสให้ฟ่างหยุนได้โจมตีเลยก็ว่าได้ ที่สำคัญแพะฝูงนี้มีความตื่นตัวกับการพบเจองูมากกว่าฝูงอื่นๆ จึงทำให้เขาพลาดโอกาสไปอย่างน่าเสียดาย
สลัดความคิดเดิมๆไปเขาจึงมองตรงไปยังป่าที่อยู่ฝั่งตรงข้าม เมื่อเทียบกับป่าอื่นๆแล้ว บริเวณนั้นจะมีต้นไม้ประปราย น้อยกว่าบริเวณอื่นๆ
ป่าตรงข้ามนั้นอาจจะดูไม่ค่อยพิเศษนักเท่าไหร่ แต่ก็อาจจะมีเหยื่อให้ล่าหลงเหลืออยู่บ้าง แต่ก็คงจะไม่ชุกชุมเท่าบริเวณอื่นๆที่เขาสำรวจมา ดังนั้นเขาคิดว่าบริเวณนี้น่าจะเหมาะสมกว่าในการจะตั้งรกรากเพื่อเป็นที่อยู่อาศัย
เมื่อวางแผนที่กำลังจะเลื้อยต่อไปในขณะที่เขากำลังหันหัวอยู่นั้น รูม่านตาของเขาก็ต้องหรี่ลง เพราะตอนนี้มีบางสิ่งบางอย่างดึงดูดสายตาเขาไม่ให้มองจ้องไปทางอื่นนอกจากพื้นดินตรงนั้น
เพราะมันเหมือนเส้นทางบางอย่างที่ราบมากและค่อนข้างจะกว้างขวาง ซึ่งดูแล้วไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นจากการกระทำของสัตว์ป่า แต่ดูเหมือนว่าร่องรอยที่ถูกทิ้งไว้นั้นจะเป็นร่องรอยของล้อรถ !
ฟ่างหยุนค่อยๆเลื้อยไปบนทางราบนั้นเพื่อดูให้แน่ชัด และยิ่งมากดูมากเท่าไหร่เขาก็ยิ่งแน่ใจมากเท่านั้นว่ามันเป็นรอยของยานพาหนะ
“ อาจจะมีรถบางอย่างผ่านมาตรงนี้ ” ฟ่างหยุนตกตะลึงเป็นอย่างมาก เขาไม่คิดเลยว่าป่าลึกในภูเขาขนาดนี้จะมีรถยนต์ผ่านมาได้
เขามองเห็นได้อย่างชัดเจนแล้วว่าพื้นถนนนั้นถึงแม้จะดูราบเรียบแต่มันก็เต็มไปด้วยลูกรังและหลุมทั้งใหญ่ทั้งน้อย และถ้าหากถนนเส้นนี้นั้นเชื่อมต่อกับถนนที่อยู่ด้างล่างภูเขาจริงๆ รถที่จะขึ้นมาได้บนที่แบบนี้ได้ก็มีเพียงแค่รถจิ๊บ หรือรถ 4x4 บางประเภทเท่านั้นถึงจะสามารถไต่ขึ้นมาได้
เมื่อนึกได้แบบนั้นเขาก็โล่งใจขึ้นมาอีกเปราะ อย่างไรก็ตามนี่เป็นสิ่งที่ไม่สามารถมองข้ามได้เลย เพราะถ้าหากมีคันแรกผ่านมาที่นี่ มันก็เป็นไปได้สูงว่าในอนาคตก็จะมีคันอื่นๆ ผ่านขึ้นมาอีก ดังนั้นแล้วเขาต้องเตรียมพร้อมรับมือกับมนุษย์ที่จะเข้ามาในไม่ช้า เขาคิดอีกว่าครั้งต่อไปอาจจะไม่สวยหรูเหมือนครั้งที่ผ่านมาก็ได้
ฟ่างหยุนคิดไปด้วยพลางเลื้อยมุ่งหน้ากลับไปสู่ที่รังนอนของเขาด้วย แม้ว่าตอนนี้เวลามันจะเข้าช่วงบ่ายคล้อยมาแล้ว แต่ภายใต้ความเร็วในการเลื้อยของเขาเขามั่นใจได้เลยว่าเขานั้นจะถึงที่รังนอนในเวลา 2 - 3 ชั่วโมงข้างหน้าได้อย่างแน่นอนและที่สำคัญในตอนนี้นั้นท้องฟ้าก็ยังคงไม่มืดสนิท
หลังจากที่ตัดสินใจเลื้อยอย่างรวดเร็วเพื่อกลับรังแล้ว มันก็เป็นไปตามที่เขาคาดไว้เขามาถึงหลังจากนั้นภายใน 2 ชั่วโมง
ในเวลานี้ท้องฟ้าเริ่มจะมืดสลัวๆเขาว่ายน้ำข้ามทะเลสาบเล็กๆ เพื่อกลับเข้ารังเตรียมตัวพักผ่อน
ทันใดนั้นก็ฟ่างหยุนเองก็ต้องหยุดชะงักขึ้นมาทันทีพร้อมกับหันไปที่ทะเลสาบ เพราะเขานได้ยินเสียงของบางสิ่งบางอย่างในน้ำดังมา จึงทำให้เขามองเห็นฝูงปลากำลังว่ายหนีมันอย่างแตกตื่น คล้อยหลังฝูงปลาปรากฏให้เห็นถึงเงาดำๆ กำลังไล่ตามพวกปลาไปอย่างไม่ลดละ
“ อะไรกันเนี่ย...! มีสัตว์ชนิดอื่นมาหากินในบริเวณบ้านของเราอย่างนั้นรึ ? ”