px

เรื่อง : ตำนานงูยักษ์เขมือบโลก
ตอนที่ 41 : เหยื่อล่อชั้นดี


ตอนที่ 41 : เหยื่อล่อชั้นดี

 

          และแล้วฟ่างหยุนก็ได้พบว่าเบื้องหน้าของเขานั้น มีสัตว์ขนปุยสีทองกำลังก้มๆเงยๆ เพื่อเลียน้ำผึ้งที่ซึมออกมาจากรังเป็นระยะ

 

          สัตว์ชนิดนี้มีขนาดลำตัวที่ยาวถึง 1 เมตรและหางของมันกลับสั้นกว่าขนาดของลำตัว

 

          เมื่อมองไปยังสัตว์ที่กำลังเลียกินน้ำผึ้งอย่างเอร็ดอร่อย ฟ่างหยุนก็อดไม่ได้ที่จะตลกขบขันขึ้นมา เขาไม่ได้คาดคิดเลยว่าในขณะที่เขาละสายตาจากรังผึ้งเพียงแค่ไม่นาน ก็ดันมีตัวอะไรไม่รู้มาขโมยลิ้มรสชาติของมันก่อนเขาเสียแล้ว

 

          “ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องดีที่จะมาขโมยของผู้อื่นกิน ” ตาของฟ่างหยุนหรี่เล็กลง เขาค่อยๆเลื้อยเข้าไปหาเจ้าหัวขโมยวายร้ายตัวนี้อย่างรวดเร็ว

 

          ตรวจพบเป้าหมาย

หมีหมา

ประเภท: สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม

สามารถเพิ่มพลังงานทางชีวภาพได้ 200 หน่วย

 

          เจ้าหมีหมาตัวนี้สามารถให้พลังงานชีวภาพได้มากเท่ากับลิงที่โตเต็มวัย ซึ่งนั่นทำให้ฟ่างหยุนรู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก

          เพราะจะว่าไปแล้ว พลังทางชีวภาพถึง 200 หน่วยนั้นไม่ใช่จำนวนเล็กน้อย เพราะก่อนหน้านี้หลังจากที่กินเจ้าลิงทั้ง 2 ตัวลงไปแล้วเขาก็ได้รับพลังงานแค่ 300 หน่วย และถ้าหากว่าวันนี้เขาสามารถล่าเจ้าหมีหัวขโมยนี่ได้สำเร็จแล้วละก็ เขาจะได้รับพลังงานทางชีวภาพถึง 500 หน่วยไปเต็มๆ  และที่สำคัญวันนี้ก็พึ่งจะเที่ยงฉะนั้นแล้วเขายังมีเวลาเหลืออีกครึ่งค่อนวัน ก่อนดวงอาทิตย์จะลาลับขอบฟ้าไป

 

          ถึงจะคิดได้อย่างนั้น ตอนนี้ฟ่างหยุนก็ยังคงเลื้อยมุ่งหน้าเข้าไปหามันอย่างสงบนิ่งและระมัดระวังมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า

 

          เจ้าหมีหมาที่กำลังมีความสุขกับรังผึ้งตอนนี้มันได้พยายามที่จะเอามือสองข้างนั้นแหวกรังผึ้งออกมากิน ที่สำคัญไปกว่านั้นมันกลับไม่รู้สึกตัวเลยว่าตอนนี้ข้างหลังของมันกำลังมีเพชรฆาตลำตัวยาว 3 เมตรเลื้อยเข้าไปหามันอย่างช้าๆ

 

          และเมื่อระยะระหว่างทั้งคู่นั้นเหลือสั้นเพียงแค่ 2 เมตร ฟ่างหยุนไม่รอช้าเขาเปิดฉากโจมตีโดยการพุ่งเข้าไปกัดที่ลำตัวของหมีหมาโดยตรงทันที

 

          แต่ปฏิกิริยาของหมีหมานั้นก็ใช่ว่าจะดูถูกได้ เพราะตอนนี้มันสามารถสัมผัสได้ว่ากำลังมีบางสิ่งบางอย่างพุ่งมาทางด้านหลังของมัน ดังนั้นแล้วมันจึงรีบกระโดดขึ้นมาเพื่อหลบหลีกอย่างรวดเร็ว แต่ฟ่างหยุนก็ได้เตรียมการมาเป็นอย่างดีแล้วในเมื่อเห็นเจ้าหมีหมาพยายามกระโดดหลบเขาก็เอี้ยวตัวในอากาศพร้อมกับพุ่งเข้าไปกัดอย่างไม่พลาดเป้า

 

          หลังจากที่กัดโดนมันอย่างจังแล้ว ฟ่างหยุนก็รีบใช้ลำตัวของเขาพันรอบตัวของเจ้าหมีหมาในทันที เขาใช้พลังทุกส่วนที่มีของกล้ามเนื้อนั้นส่งแรงรัดเจ้าหมีหมาอย่างสุดความสามารถ ในเมื่อทำอะไรไม่ได้ดังนั้นแล้วเจ้าหมีหมาถึงกับร้องขึ้นมาด้วยความเจ็บปวด เพราะตอนนี้กระดูกของมันหลายๆส่วนเริ่มที่จะหักจากการบีบรัดจนสามารถทำให้ได้ยินเสียงดัง กรอบแกรบขึ้นมา และที่สำคัญไปกว่านั้นที่ปากของเจ้าหมีหมาก็มีเลือดไหลออกมาเป็นสาย แน่นอนว่านั่นเป็นเพราะเครื่องในนั้นถูกทำลายจากแรงบีบรัดครั้งนี้

 

          หลังจากที่แน่ใจแล้วว่าเจ้าหมีหมาไปถึงสวรรค์อย่างชัดเจน ฟ่างหยุนก็กลืนมันสู่ท้องของเขาทันที

 

          เมื่อมองดูรังของผึ้งที่กองอยู่ตรงหน้าแล้ว ฟ่างหยุนจึงเกิดความลังเลขึ้นมา เพราะโดยเดิมทีแล้วแผนของเขาคือตัดรังผึ้งให้ตกลงมาจากต้นไม้เพื่อที่จะได้ลิ้มลองรสชาติของมัน แต่อย่างไรก็ตามพอเขามาพับเจอกับเจ้าหมีหมาตัวนี้เข้าเขาจึงต้องเปลี่ยนใจไปกินมันแทน

 

          ในป่านี้มีสัตว์มากมายหลายชนิดที่ชื่นชอบการกินน้ำผึ้ง และด้วยเหตุนี้ฟ่างหยุนจึงคิดว่าเขานั้นอาจจะใช้มันเป็นกับดักล่อสัตว์เหล่านั้นให้ออกมาก็เป็นได้

 

          เมื่อคิดดังนั้นแล้ว เขาจึงเริ่มทำการเคลื่อนย้ายรังไปที่อื่น โดยเขานั้นใช้หางพันรอบ ๆ รังและลากมันไปกับพื้น

 

          เพราะถ้าหากว่าทิ้งมันไว้ที่เดิมอยู่อย่างนั้นแล้วจะไม่มีสัตว์ตัวไหนกล้าเข้ามากินจากกลิ่นเลือดที่คละคลุ้งกระจาย

 

          เมื่อพบที่ดี ๆ ในการจะวางกับดักแล้ว เขาก็เลือกที่จะวางรังผึ้งนั้นไว้ไกล้ๆกับโคลนต้นไม้เพื่อที่จะให้ง่ายต่อการซุ่มซ่อนตัว

          ตอนนี้สีของเกล็ดบนตัวเขานั้นดูคล้ายคลึงกับใบไม้แห้งรอบๆ และถ้าหากว่าไม่สังเกตดูให้ดีแล้ว ก็จะไม่สามารถมองเห็นตัวของฟ่างหยุนได้เลย

 

          หลังจากที่รอมาประมาณ 1 ชั่วโมงแล้ว เหยื่อตัวแรกที่เข้ามาติดกับนั่นก็คือเจ้านกตัวน้อย แต่ด้วยขนาดลำตัวที่มันเล็กเกินไปนั้น ทำให้สามารถเพิ่มพลังงานทางชีวภาพได้เพียงแค่ 1 หน่วย จึงทำให้ฟ่างหยุนขี้เกียจจะเสียเวลากับมัน เขาจึงโผล่หน้าออกไปหามันจากที่ซ่อนเพื่อให้มันตกใจกลัวและบินหนีไปนั่นเอง

 

          หลังจากนั้นไม่นานก็มีหนูนาตัวใหญ่ปรากฏตัวขึ้นมา มันค่อยๆยื่นหัวออกมาจากพุ่มไม้เพื่อดมกลิ่นพิสูจน์ และหลังจากที่มองไปรอบๆว่าปลอดภัยแล้วมันจึงวิ่งตรงเข้าไปหารังผึ้งอย่างรวดเร็ว

 

          ตาของฟ่างหยุนหรี่ลงอีกครั้งพร้อมกับจ้องมองไปที่หนูนา ถึงแม้ว่าจะเห็นดังนั้นแล้วเขาก็ยังไม่เคลื่อนไหวไปไหนแม้แต่น้อย เพราะว่าตอนนี้หนูนานั้นยังมาไม่ถึงในระยะหวังผล

 

          เมื่อเจ้าหนูนาวิ่งมาถึงด้านข้างของรังผึ้งแล้ว มันพยายามที่จะมองไปรอบๆ เพื่อตรวจสอบถึงอันตรายอีกครั้งอย่างระแวดระวังพอรู้ว่าไม่มีใครอยู่แล้ว มันจึงเริ่มลงมือก้มกินน้ำผึ้งจากรังนั้นทันที

 

          แต่ในขณะนั้นเองก็มีเงาสีดำบินออกมาจากพุ่มไม้ด้านข้าง เขี้ยวอันแหลมคมนั้นกัดเข้าไปเต็มๆที่ลำคอของเจ้าหนูนาซึ่งแรงกระแทกจากการบีบกดขากรรไกรอย่างรุนแรงนั้นส่งผลให้มันไม่สามารถดิ้นหนีไปไหนได้

 

          หลังจากที่ร่างนั้นถูกกลืนลงสู่ท้องแล้ว ฟ่างหยุนก็รีบกลับเข้าประจำอยู่ที่จุดเดิมในทันทีถึงแม้ว่าจะมีแต่สัตว์ขนาดเล็กจำพวกหนูนาเข้ามาติดกับ แต่พวกมันเหล่านั้นก็ส่งผลให้ฟ่างหยุนสามารถสะสมพลังงานทางชีวภาพไปได้ถึง 330 หน่วยแล้วในวันนี้

 

          พอตกกลางคืนฟ่างหยุนก็ไม่ได้ทิ้งห่างจากรังผึ้งไปไหน เขาตั้งมันไว้ข้างๆตัวเพื่อที่ว่าจะไม่มีสัตว์ตัวใดสามารถขโมยมันไปได้ในเวลาที่เขานอนหลับ

 

          ด้วยวิธีการเช่นเดิมดังนี้ ฟ่างหยุนใช้มันล่าเหยื่อติดต่อกันถึง 3 วัน โดยที่เขานั้นเปลี่ยนบริเวณในการตั้งกับดักไปเรื่อยๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะใน 3 วันที่ผ่านมานี้ทำให้มีสัตว์มากมายหลายร้อยตัวถูกส่งไปสวรรค์ด้วยน้ำมือของเขาเอง ที่เอ่ยมานั้นไม่ได้นับรวมกับเจ้าหมีหมาและสัตว์อื่นๆ ที่เขาล่าพวกมันก่อนหน้านี้อีกด้วย ดูๆไปแล้วกับดักรังผึ้งอันนี้จะมีประสิทธิภาพในการช่วยล่าเหยื่อต่อเขาเป็นอย่างมาก

 

          ตอนนี้พลังชีวภาพทั้งหมดที่เขามีอยู่ที่ 4,750 หน่วยแล้วขาดอีกเพียงแค่ 6,000 กว่าหน่วยเขาก็จะสามารถเข้าสู่การวิวัฒนาการในครั้งต่อไปได้แล้ว ซึ่งดูเหมือนว่าอาจจะเป็นไปได้ในอนาคตอันไกล้นี้

 

          นอกจากนี้แล้วในช่วง 3 วันที่ผ่านมาฟ่างหยุนได้มีโอกาสพบเจอกับอริเก่า นั่นก็คือพวกลิงฝูงเดิมนั่นเอง ทันทีที่พวกมันเห็นตัวฟ่างหยุน มันก็จะรีบหนีไปไกลอย่างไม่รอช้าเพราะมันเกรงว่าพวกมันอาจจะทำให้ฟ่างหยุนโมโหขึ้นมาอีกก็เป็นได้

 

          “ โชคดีจริงที่น้ำผึ้งนี้ไม่เสื่อมคุณภาพง่ายๆ ดังนั้นแล้วเราจะใช้มันล่าสัตว์ไปได้อีกนาน ”ฟ่างหยุนตอนนี้กำลังซุ่มตัวอยู่ในพุ่มไม้และมองไปที่รังนั้นด้วยความภาคภูมิใจ เพราะการล่าสัตว์ในวิธีนี้นั้นมีประสิทธิภาพเป็นอย่างมาก ตราบใดที่เขายังคงใช้วิธีนี้ต่อไปเรื่อยๆ เขาอาจจะเข้าสู่การวิวัฒนาการได้อีกใน 2 - 3 วันข้างหน้า

 

          “ อื้อหือ...มีสัตว์บางชนิดกำลังมา ”ทันทีที่ได้ยินเสียงฝีเท้าของสัตว์ที่กำลังเดินไกล้เข้ามา ฟ่างหยุนก็อดตื่นเต้นที่จะไม่มองไปยังทิศทางของเจ้าของเสียงฝีเท้านั้นไม่ได้

 

          ภายใต้ความคาดหวัง ฟ่างหยุนได้มองลอดออกไปทางช่องว่างระหว่างพุ่มไม้ จึงทำให้เขานั้นพบกับเจ้าของเสียงฝีเท้านั้นเข้าเต็มๆ

 

          อย่างไรก็ตามทันทีที่เขามองเห็นมันเข้าแล้ว หัวใจเขาก็แทบจะหยุดเต้นขึ้นมาทันที

 

          ตรวจพบเป้าหมาย

แจ็คคัล

ประเภท: สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม

สามารถเพิ่มพลังงานทางชีวภาพได้ 350 หน่วย

 

          ตอนนี้แจ็คคัลได้ปรากฏตัวต่อหน้าฟ่างหยุนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และที่สำคัญเจ้าแจ็คคัลตัวนี้ต้องเป็นตัวเดียวกับฝูงที่สหายของมันถูกฟ่างหยุนฆ่ามาก่อนหน้านั้นอย่างแน่นอน

 

          แจ็คคัลมักจะอยู่รวมกันเป็นฝูง ดังนั้นถ้าหากว่ามีสมาชิกตัวใดตัวหนึ่งปรากฏตัวขึ้นที่นี่ แน่นอนว่าตัวอื่นๆ ก็ต้องอยู่บริเวณแถวๆนี้ด้วยอย่างแน่นอน

 

          และหลังจากที่ผายลมยังไม่ทันหายเหม็น เมื่อตัวแรกปรากฏขึ้นได้ไม่นานนัก ทั้งสามตัวที่ตามมาข้างหลังก็โผล่ขึ้นมาติดๆ

 

          “ เจ้าพวกนี้แหละไม่ผิดแน่ ” เมื่อเห็นสมาชิกทั้ง 4 ตัวปรากฏขึ้นตรงหน้า เขาก็แน่ใจได้ทันทีเลยว่ามันเป็นฝูงเดียวกันกับที่เคยเจอมาก่อนหน้านี้

 

          “ โอ้...หรือว่าพวกมันจะได้กลิ่นของข้าเข้าแล้ว ? ” ที่เขาต้องอุทานอย่างนี้ขึ้นมา นั่นเป็นเพราะว่าถึงแม้เขาจะซ่อนตัวอยู่ในพุ่มไม้ แต่เจ้าแจ็คคัลทั้ง 4 นั้นไม่ได้สนใจรังผึ้งที่เป็นกับดักล่อเลยแม้แต่น้อย ตอนนี้พวกมันทุกตัววิ่งกรูตรงเข้ามาหาตำแหน่งที่เขากำลังซ่อนตัวอยู่นั่นเอง

 

          “ พวกบ้าเอ้ย ! ” ทันทีที่อุทานออกมา ฟ่างหยุนจึงรีบหันหลังกลับพร้อมกับเลื้อยขึ้นไปบนต้นไม้อย่างรวดเร็ว

 

          “ บรู๊วววววววววว ! ” แจ็คคัลทั้งสี่ยืนอยู่กันพร้อมหน้าใต้ต้นไม้ที่ฟ่างหยุนปีนขึ้นไป ตอนนี้พวกมันได้ส่งเสียงเห่าหอนดังก้องออกมา นั่นเป็นเพราะว่าพวกมันไม่สามารถปีนต้นไม้ไล่ตามฟ่างหยุนได้ จึงทำให้พวกมันทำได้เพียงแค่เห่าขู่

 

          เมื่อเห็นเจ้าแจ็คคัลเหล่านี้ตามมาไม่ได้ ฟ่างหยุนก็แลบลิ้นปลิ้นตาใส่พวกมัน พร้อมกับคิดในใจว่าไม่นานเมื่อพวกมันเหนื่อย มันก็คงหนีไปเองแหละ

 

          แต่เมื่อได้เห็นการกระทำที่เกิดขึ้นต่อหน้าแล้ว มันทำให้ฟ่างหยุนต้องหัวร้อนขึ้นมาอย่างรุนแรง

          เพราะทันทีที่พวกแจ็คคัลรู้ตัวแล้วว่าไม่สามารถทำอะไรฟ่างหยุนได้ พวกมันจึงตัดสินใจมุ่งหน้าตรงไปยังรังผึ้งที่กองทิ้งเอาไว้ พร้อมกับตะกรุยตะกรายกลืนกินมันอย่างเอร็ดอร่อย ชนิดที่ว่าไม่เหลือไว้ให้แม้แต่หยดเดียว !

         

         

 

         

รีวิวผู้อ่าน