px

เรื่อง : ตำนานงูยักษ์เขมือบโลก
ตอนที่ 42 : มนุษย์ในภูเขา


ตอนที่ 42 : มนุษย์ในภูเขา

 

          เมื่อมองเห็นฉากใต้ต้นไม้ที่เกิดขึ้นนั้น ฟ่างหยุนก็ทำได้แต่กัดฟันกรอด เพราะเขาได้วางแผนแล้วว่าจะใช้รังผึ้งนี้เป็นเหยื่อล่อในระยะยาว แต่เจ้าแจ็คคัลเหล่านี้นอกจากจะทำลายรังผึ้งของเขาแล้ว พวกมันยังกินน้ำผึ้งทุกหยดโดยไม่เหลือไว้แม้แต่เศษซาก

 

          เขาคิดว่าการใช้แผนนี้นั้นทำให้ชีวิตในการล่าสัตว์ของเขาง่ายขึ้นมากว่าเดิมเป็นหลายเท่าตัว แต่สิ่งที่ทำให้เขาต้องรู้สึกรำคาญไปมากกว่านั้นก็คือเจ้าแจ็คคัลทั้ง 4 ตัวนี้นอกจากมันจะกินเสร็จแล้ว มันก็ยังไม่จากไปไหนพร้อมกับนั่งรอใต้ต้นไม้เพื่อเฝ้ารอให้เขาเลื้อยลงมา

 

          เห็นได้ชัดเลยว่าแจ็คคัลทั้ง 4 นี้ยังมีความแค้นต่อฟ่างหยุนจากการที่เขานั้นได้ฆ่าเพื่อนของมันไปเป็นอย่างมาก และพอมีโอกาสได้พบกันอีกครั้งในตอนนี้ พวกมันจึงไม่ลดละความพยายามและจากไปอย่างง่ายดาย

 

          เมื่อเห็นการกระทำของพวกมันดังนั้นแล้ว เขาก็ไม่รู้จะพูดอะไรได้แต่ส่ายหัวไปมาพร้อมกับดูถูกเหยียดหยามพวกมันในใจ ตอนนี้เขาเลื้อยไปบนกิ่งไม้กิ่งหนึ่ง พร้อมกับเลื้อยข้ามต่อไปอีกกิ่งหนึ่ง ป่าแห่งนี้นั้นอุดมสมบูรณ์เป็นอย่างมากด้วยเหตุนี้แล้วต้นไม้ส่วนใหญ่จึงเชื่อมต่อกันราวกับว่าเป็นสะพาน

 

          ฝูงแจ็คคัลเห็นดังนั้นแล้วก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย แต่พวกมันก็ยังคงตามฟ่างหยุนต่อไปอย่างไม่ลดละ และหลังจากที่ตามฟ่างหยุนมาไกลมากกว่า 3 กิโลเมตรแล้วพวกมันก็ต้องเหนื่อยและถอดใจไปโดยปริยาย เพราะตอนนี้พวกมันเข้าใจอย่างแจ่มแจ้งแล้วว่า ถึงแม้อยากจะล้างแค้นให้เพื่อนขนาดไหน แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะตามล่างูในป่าทึบเช่นนี้ ดังนั้นทางเดียวที่จะทำได้ก็คือต้องรอจังหวะที่พบกับฟ่างหยุนอีกครั้งในพื้นที่โล่ง

          หลังจากที่คลาดกันกับเจ้าแจ็คคัลทั้ง 4 แล้วฟ่างหยุนจึงค่อยๆเลื้อยลงจากต้นไม้สู่พื้นดิน ตอนนี้เขามุ่งหน้าเพื่อที่จะกลับไปหารังนอนของเขาแล้ว

 

          เป็นเพราะเขาต้องอาศัยอยู่ในป่าล่าสัตว์มาถึง 3 วัน แม้ในยามนอนหลับก็ไม่สามารถที่จะหลับได้ลึกจากการที่ต้องระวังตัวอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นแล้วเมื่อเขากลับไปถึงถ้ำเขาจึงรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาเป็นอย่างมากพร้อมกับหลับตาลงและพักผ่อนจริงจังได้ในที่สุด เขาเลือกหินที่ยื่นออกมาตรงผนังถ้ำและใช้ตรงนั้นเป็นจุดนอนพักเพื่อที่จะเตรียมเข้าสู่ดินแดนแห่งความฝันต่อไป

 

          หลังจากที่นอนหลับพักผ่อนติดต่อกันมาเป็นเวลาถึง 2 วัน ตอนนี้สภาพร่างกายและจิตใจของฟ่างหยุนก็กลับมาพร้อมเต็มประสิทธิภาพดังเดิมแล้ว เขาจึงตัดสินใจที่จะเดินทางออกไปล่าเหยื่อต่อทันที

 

          ในหลายวันที่ผ่านมานั้นเขาได้มีโอกาสพบกับเจ้าแจ็คคัลฝูงเดิมถึง 4 - 5 ครั้งแต่ทุกๆครั้งก็ไม่ได้เกิดปัญหาขัดแย้งกันขึ้นมาแต่อย่างใด เพราะตลอดเวลาที่พบกันนั้นฟ่างหยุนอยู่บนต้นไม้

 

          แม้ว่าเจ้าแจ็คคัลทั้งสี่นั้นจะไม่ใช่ภัยคุกคามอะไรต่อฟ่างหยุน แต่การที่นักล่าอยู่ร่วมกันในป่าแห่งนี้ก็ไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่นัก

 

          เปรียบเหมือนสุภาษิตที่ว่า “ เสือสองตัว ไม่สามารถอยู่ถ้ำเดียวกันได้ ” เพราะด้วยเหตุที่เป็นแบบนี้นั้นประการแรกคือเรื่องทรัพยากรด้านอาหารมีจำกัดบนภูเขาแห่งนี้ และหากว่ามีนักล่าชั้นสูงบนห่วงโซ่อาหารอยู่ด้วยกันยังไงสะในไม่ช้าก็ต้องต่อสู้กันอยู่ดี

 

          แม้ว่าเหยื่อในป่าแห่งนี้นั้นจะหาไม่ยาก แต่จำนวนของเหยื่อที่ฟ่างหยุนนั้นต้องการล่าให้เพียงพอต่อการวิวัฒนาการของเขาค่อนข้างสูง และทุกๆครั้งที่วิวัฒนาการเสร็จสิ้น จำนวนของเหยื่อก็จะยิ่งทวีคูณขึ้นไปอีกมาก ดังนั้นแล้วการที่แจ็คคัลทั้งสี่ยังคงอาศัยอยู่ในป่านี้ด้วยแล้ว จึงส่งผลกระทบต่อเขาอย่างรุนแรง

 

          ยิ่งไปกว่านั้นเพียงแค่การออกล่าของพวกมันก็ส่งผลกระทบเป็นอย่างมาก เพราะแต่ละครั้งที่พวกมันออกล่าเหยื่อจะหวาดระแวงขึ้นจึงทำให้พวกมันตื่นตระหนกตกใจ เพียงแค่ได้ยินเสียงใบไม้หล่น สัตว์ต่างๆก็เผ่นเป็นป่าราบแล้ว

 

          ถึงแม้ว่าจะคิดไม่ตกขนาดไหน แต่ถึงอย่างไรแล้วเขาก็ไม่สามารถทำอะไรกับสถานการณ์เช่นนี้ได้ ถึงแม้ว่าตอนนี้เขาจะแข็งกร่างมากขึ้นกว่าเดิมแล้วแต่เขาก็ยังไม่แน่ใจเลยว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไรหลังจากที่ต้องต่อสู้กัน ดังนั้นแล้วเขาจึงไม่สามารถไล่พวกมันออกจากป่านี้ไปได้

 

          “ เราจะต้องจัดการกับพวกมันทันทีที่มีโอกาส ” ฟ่างหยุนคลานไปด้วยบ่นไปด้วยจากความเกลียดชังที่มีในใจ หลังจากที่พวกมันปรากฏตัวขึ้นในป่านี้แล้วฟ่างหยุนก็ไม่สามารถล่าเหยื่อได้อย่างราบรื่นอีกเลย ถึงแม้ว่าจะพยายามอย่างหนักแต่เขาก็สามารถสะสมพลังงานชีวภาพได้เพียง 1,120 หน่วยจาก 3 วันที่ผ่านมา

 

          เพื่อที่จะรักษาสภาพในการเติบโตอย่างรวดเร็วของพลังงานทางชีวภาพแล้วนั้น เขาจะต้องแก้ไขปัญหาแจ็คคัลทั้งสี่ให้ได้อย่างรวดเร็วที่สุด

 

          แต่ในโชคร้ายยังมีโชคดีอยู่บ้าง ตอนนี้พลังงานที่สะสมทั้งหมดรวมๆแล้วได้ 5,870 หน่วย เหลืออีกไม่มากแล้วการวิวัฒนาการขั้นต่อไปก็จะมาถึง

 

          ด้วยเหตุนี้แล้วฟ่างหยุนจึงสามารถล่าสัตว์อย่างสงบเสงี่ยมต่อไปในป่า มิเช่นนั้นแล้วอาจจะเกิดปัญหาระหว่างแจ็คคัลทั้งสี่กับเขาอีกก็ได้

 

          สถานที่ที่เขากำลังอยู่ตอนนี้นั้นก็คือป่าบริเวณหลังถ้ำ พื้นดินที่นี่ค่อนข้างจะเรียบและต้นไม้กระจัดกระจายไม่หนานัก แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีสัตว์ขนาดเล็กจำนวนมากอาศัยอยู่

 

          ทันใดนั้นฟ่างหยุนก็ต้องหยุดเลื้อยทันที เขาตวัดลิ้นเข้าออกปากอยู่สักพักตาของเขาจึงส่องแสงประกายแวววาวออกมา

 

          ฟ่างหยุนเลี้ยวไปทางซ้ายเล็กน้อยด้วยความระมัดระวังไม่นานนักเขาก็เห็นไก่ฟ้าตัวหนึ่งกำลังหากินอยู่ตรงหน้า

 

          ทันทีที่พบกับไก่ฟ้าแล้วนั้น เขาจึงหยุดเคลื่อนไหวทันทีราวกับว่าไม่มีตัวตน สีสันบนร่างกายของเขานั้นกลมกลืนไปกับสภาพแวดล้อมราวกับว่าเป็นใบไม้ที่เฉาตายแล้ว

 

          เจ้าไก่ฟ้านั้นจึงเดินหากินอย่างสบายอกสบายใจ มันหันมองซ้ายมองขวาเป็นระยะๆโดยที่มันไม่ได้สังเกตเลยว่าฟ่างหยุนนั้นเลื้อยเข้ามาหาจนเกือบจะถึงตัวมันแล้ว

 

          ฟ่างหยุนจ้องไปที่ไก่ฟ้าอย่างตาไม่กระพริบ ตอนนี้เขากำลังคิดถึงระยะห่างของตัวเองและไก่ฟ้า เพราะตอนนี้มันอยู่ห่างจากเขาถึง 2 เมตร แต่ระยะที่จะหวังผลได้จากการจู่โจมนั้นต้อง 1เมตรกำลังดี ดังนั้นแล้วเขาจึงรอมันให้เดินเข้ามาไกล้กว่าเดิม

 

          ไกล้แล้ว ! ไกล้แล้ว !  ไก่ฟ้าเดินเข้ามาอย่างช้าๆ ในที่สุดมันก็มาปรากฏตัวอยู่ในระยะการโจมตีหวังผลของฟ่างหยุนเข้าจนได้

 

          ฟ่างหยุนกระชับกล้ามเนื้อทุกส่วนพร้อมที่จะโจมตีเจ้าไก่ฟ้าตัวนี้อย่างรวดเร็ว แต่แล้วจู่ๆก็ต้องมีอุบัติเหตุบางอย่างเกิดขึ้น

 

          “ ตู้ม ! ” โดยไม่มีการเตือนล่วงหน้าแต่อย่างใด ก็ปรากฏเสียงอึกทึกกึกก้องไปทั่ว เจ้าไก่ฟ้าที่กำลังอยู่หน้าฟ่างหยุนนั้นก็ตื่นตระหนกตกใจเป็นอย่างมาก มันรีบร้องออกมาด้วยเสียงอันแหลมคมพร้อมกับบินหนีไปอย่างรวดเร็ว และไม่ใช่เจ้าไก่ฟ้าตัวเดียวที่ตกใจกับเสียงนั้น แต่ฟ่างหยุนเองก็ต้องรู้สึกตกใจเป็นอย่างมากเช่นกัน

 

          เขาไม่ได้ไล่ตามไก่ฟ้าที่บินหนีออกไป ตอนนี้เขาพยายามมองหาต้นตอของเสียงนี้ต่างหาก

 

          “ เสียงแบบนี้มันเสียงปืนชัดๆ ? ” เมื่อเขาคิดได้อย่างนั้นแล้วดวงตาของเขาก็ต้องเบิกกว้างออกมาด้วยความตกตะลึง

 

          “ ในป่าแห้งแล้งบนภูเขาแบบนี้จะมีเสียงปืนได้ยังไงกัน ? ” ฟ่างหยุนรู้สึกสับสนเป็นอย่างมาก แต่แล้วอยู่ๆเขาก็จำภาพของรอยล้อรถที่ปรากฏอยู่บนทางภูเขาแห่งนั้นได้ จึงทำให้เขาร้อง อ๋อ ออกมาทันที

 

          “ ต้องมีใครสักคนมาที่ภูเขาแห่งนี้อย่างแน่นอน ” ฟ่างหยุนลังเลขึ้นมาครู่ใหญ่ แต่แล้วในที่สุดเขาก็ตัดสินใจเลื้อยตรงไปยังทิศที่มาของเสียงปืนนั้นเพื่อที่จะดูให้เห็นกับตัวเองว่ามันเกิดอะไรขึ้น

          หลังจากที่เลื้อยมาเกือบจะ 2 กิโลเมตรฟ่างหยุนเองก็ได้ยินเสียงของเครื่องยนต์รถดังขึ้น เสียงนั้นทำให้เขาตกใจเป็นอย่างมาก เขาจึงตัดสินใจเลื้อยขึ้นต้นไม้ไปอย่างรวดเร็ว

 

          เมื่อตอนนี้ลำตัวของเขาห้อยอยู่บนกิ่งไม้แล้ว เขาจึงพยายามมองไปยังพื้นที่โล่งที่อยู่ไม่ไกลจากที่นี่และแล้วมันก็ทำให้เขานั้นมองเห็นว่ามีเงาบางสิ่งบางอย่างประมาณ 3 ตัวกำลังวิ่งหนีอย่างรวดเร็ว มันรวดเร็วราวกับว่าหนีตายอะไรมาสักอย่าง

 

          “ เฮ้ย...นั่นมันฝูงแจ็คคัลเหล่านั้นนี่นา ? ” ฟ่างหยุนพยายามมองไปที่พวกมันอีกครั้ง ก่อนจะรู้สึกแน่ใจแล้วว่าพวกมันนั้นคือฝูงแจ็คคัลคู่อริของเขา เมื่อนึกได้ดังนั้นแล้วเขาก็รู้สึกหมั่นไส้พวกมันด้วยความเกลียดชังที่มี

 

          แต่อย่าลืมว่าสมาชิกของพวกมันทั้งหมดนั้นมีถึง 4 ตัว แล้วอีกตัวที่เขาไม่เห็นละมันไปอยู่ที่ไหนกัน

 

          ในขณะที่ฟ่างหยุนกำลัง งงงวยไปด้วยความสงสัยอยู่นั้น จู่ๆก็มีรถกระบะคันใหญ่โผล่ขึ้นมาต่อหน้าเขาในทันที ซึ่งสิ่งที่เขากำลังเห็นอยู่นี้คือรถกระบะคันนั้นขับไล่ตามเจ้าแจ็คคัลทั้ง 3 ตัวนั่นเอง

 

          เสียงเครื่องยนต์ที่ฟ่างหยุนเองก็เคยได้ยินมาก่อนหน้านี้น่าจะเป็นรถกระบะสองคันนี้อย่างแน่นอน

 

          “ ปั้ง ! ” ทันใดนั้นเองก็มีเสียงปืนดังขึ้นมาอีกนัด และในบรรดาฝูงแจ็คคัลที่กำลังวิ่งหนีอย่างเอาเป็นเอาตายนั้นก็ได้มีพวกมันตัวหนึ่งล้มลงไปกองกับพื้น

          ตอนนี้ฟ่างหยุนมองเห็นอย่างชัดเจนแล้วว่ามีชายคนหนึ่งยืนอยู่บนหลังรถกระบะคันแรก จากตำแหน่งที่ฟ่างหยุนซุ่มมองอยู่นั้นแม้ว่าจะไม่สามารถทำให้เขามองเห็นรูปลักษณ์ของชายคนนั้นได้อย่างชัดเจนนัก แต่มันก็พอที่จะทำให้เขารับรู้ได้ว่าชายคนนั้นสวมเสื้อหนังพร้อมกับหมวกบนหัว ในมือของเขานั้นถือปืนอยู่หนึ่งกระบอก ดังนั้นจึงสรุปได้ว่าเสียงปืนที่ดังมาตลอดทางนี้มาจากฝีมือของเขานั่นเอง

 

          “ ปั้ง ! ปั้ง ! ” หลังจากที่มีเสียงปืนดังขึ้นต่อเนื่องอีกสองนัด เจ้าแจ็คคัลที่เหลือทั้ง 2 ตัวนั้นก็ล้มลงจมกองเลือดในที่สุด เมื่อเห็นฉากอันแสนทรมาณแบบนี้เกิดขึ้นแล้วฟ่างหยุนก็อดไม่ได้ที่จะตกใจซ้ำสอง เขาเข้าใจในทันทีเลยว่าก่อนหน้านี้ที่พวกมันโผล่มาแค่ 3 คงเป็นเพราะอีก 1 นั้นโดนส่งไปรอที่สวรรค์ก่อนแล้ว

 

          ตอนนี้ถึงแม้จะเห็นคู่อาฆาตของตนเองนั้นตายต่อหน้าต่อตา แต่ฟ่างหยุนเองกลับไม่มีความสุขเลยแม้แต่น้อย เขากลับรู้สึกว่าตอนนี้มีลมหนาวๆพัดมาโดนตัวเขาจนมันหนาวเข้าไปถึงกระดูกสันหลัง

 

          ชายหนุ่มคนนี้เข้ามาในภูเขาด้วยจุดประสงค์ที่จะมาล่าสัตว์ป่าหรอกรึ ? เมื่อตอนที่ฟ่างหยุนยังเป็นมนุษย์อยู่นั้นเขาเคยฝันว่าอยากจะจับปืนเข้าป่าล่าสัตว์ และเดินลึกเข้าไปในป่าภูเขาเพื่อที่จะสำรวจธรรมชาติที่สวยงาม

 

          แต่ตอนนี้เขานั้นกลับชาติมาเกิดเป็นงูแล้ว ดังนั้นการที่จะทำตามฝันของเขากลับมองว่ามันไม่รู้สึกเท่เอาเสียเลย ที่มากไปกว่านั้นเขามองว่ามันโหดร้ายทารุณเป็นอย่างมาก

 

          เมื่อฟ่างหยุนกำลังมองไปที่ร่างของพวกแจ็คคัลด้วยหัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะ และแล้วรถกระบะสองคันนั้นก็หยุดและจอดลง

          “ พยัคฆ์ดำ มังกรเสือดาว ไปเร็ว ไปเอาร่างของเจ้าแจ็คคัลทั้ง 3 ตัวมา ” ทันทีที่ชายหนุ่มในชุดแจ็คเก็ตตะโกนออกมาแบบนั้นแล้ว สุนัขล่าสัตว์ทั้งสองของเขาก็กระโจนลงจากรถกระบะพร้อมกับมุ่งหน้าเข้าไปที่ร่างของแจ็คคัลทั้ง 3 ด้วยความรวดเร็ว

         

         

 

รีวิวผู้อ่าน