
1450 วันที่แล้ว
ทำไมต้องเป็น ข้า เจ้า ด้วยอ่ะ มันยุคปัจจุบันและไม่ใช่กำลังภายในด้วยนิอ่านแล้วมันแปลกๆ
ตอนที่ 43 : การไล่ล่าที่แสนจะอันตราย
หลังจากที่สุนัขล่าสัตว์ทั้งสองกระโจนลงจากรถกระบะไปอย่างรวดเร็วแล้ว ชายหนุ่มในเสื้อหนังแจ็คเก็ตก็ตามพวกมันลงมาเช่นกัน เขาเริ่มที่จะผ่อนคลายอิริยาบถภายใต้ต้นไม้พร้อมกันนั้นเขาก็เอามือล้วงเข้าไปในกระเป๋าเพื่อนำบุหรี่ขึ้นมาสูบ
“ เฉาซี ฝีมือการยิงปืนของเจ้าพัฒนาไปมากแล้วนี่ ขนาดพวกมันอยู่ตั้งไกลก็ยังสามารถจัดการได้ในนัดเดียว ” ในขณะนี้มีชายหนุ่มคนหนึ่งร่างกายเต็มไปด้วยรอยสัก เขากระโดดออกมาจากห้องโดยสารรถกระบะ พร้อมกันนั้นเขาก็เอ่ยปากประจบประแจงชายคนแรกเป็นอย่างดี
และในขณะที่เขากำลังพูดอยู่นั้นก็ได้มีชายอีกสองคนกระโดดลงจากท้ายกระบะและมุ่งหน้าเข้าไปหาชายหนุ่มที่สวมแจ็คเก็ตในทันที
“ เฉาซี วันนี้การล่าสัตว์ของเรานั้นต้องเป็นไปได้สวยแน่ ดูสิขนาดว่าเราพึ่งจะมาถึงก็ยังล่าเจ้าแจ็คคัลได้ตั้ง 4 ตัวแล้ว ยังไงซะวันนี้ก็ต้องเป็นวันที่ดีแน่ๆ ” ในบรรดาชายสองคนที่กำลังเดินตรงเข้ามา หนึ่งในนั้นก็เอ่ยชมชายหนุ่มด้วยความดีใจเช่นกัน
เมื่อได้ยินเช่นนั้นแล้ว เฉาซีก็หัวเราะออกมาเสียงดัง เขาภูมิใจในตัวเองเป็นอย่างมาก บางทีอาจจะเป็นเพราะเฉาซีนั้นได้รับอิทธิพลมาจากพ่อของเขา จึงทำให้เขานั้นชื่นชอบในกิจกรรมแปลกๆ ที่น้อยคนนักจะเข้ามาทำอย่างเช่นการล่าสัตว์ในป่า บวกกับความที่ครอบครัวของเฉาซีนั้นค่อนข้างที่จะมีเส้นสาย จึงทำให้เขานั้นได้ครอบครองปืนไปไหนมาไหนได้ทุกเวลาตามที่เขาต้องการ ดังนั้นเขาจึงมีความมั่นใจในตัวเองเป็นอย่างมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการยิงสัตว์ป่าอย่างแม่นยำและชำนาญ และทุกๆครั้งที่เขาขึ้นมาบนภูเขาเพื่อล่าสัตว์แล้วละก็ เขามักจะได้สัตว์ป่าติดไม้ติดมือกลับไปเสมอ
เทือกเขาแห่งนี้ก็นับว่าเป็นหนึ่งในพื้นที่ล่าสัตว์ของเฉาซี แต่เขานั้นเองก็ไม่ได้มาที่นี่บ่อยนัก เพราะเขาค่อนข้างจะดูถูกขนาดลำตัวของสัตว์ป่าที่นี่เป็นอย่างมาก ดังนั้นแล้วเขาจึงชอบที่จะไปล่าสัตว์ในป่าใหญ่ที่ไม่ค่อยมีคนเข้าไปมากนักเพื่อจะล่าที่หายากอย่างเช่น เสือ สิงโต และหมี เป็นประจำ
เช่นเดียวกับเทศกาลล่าสัตว์ ที่มักจะจัดขึ้นทุกปีในสาธารณะรัฐโรปส์ ตัวเขาเองก็ติดตามพ่อของเขาไปล่าสัตว์หายากในทุกๆครั้ง แต่น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่งเพราะงานรื่นเริงแบบนี้ไม่ได้จัดขึ้นบ่อยนัก
แต่ในบางครั้งเขาเองก็จะมาที่ภูเขาเล็กๆแบบนี้เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศให้ตัวเอง สิ่งที่ทำให้ต้องเป็นที่น่าประหลาดใจมากนักนั่นก็คือ หลังจากที่ผ่านป่ามาถึงภูเขาได้สักพัก เขาก็สามารถล่าสัตว์ได้ถึง 4 ตัวแล้วซึ่งนี่ก็ถือว่าไม่ได้เลวร้ายอะไรเลยสำหรับการล่า และที่สำคัญไปกว่านั้นแล้วระหว่างทางที่เขาขับรถขึ้นมา เขาก็ได้พบกับฝูงแพะจำนวนไม่น้อย ตามที่เหล่าลูกน้องได้กล่าวไว้ วันนี้เขาจะล่าสัตว์ให้ได้จำนวนมากอย่างแน่นอน
“ แจ็คคัล 4 ตัวนี้เป็นแค่ของเด็กเล่น ตอนที่ข้านั้นไปเทศกาลล่าสัตว์กับพ่อเมื่อปีที่แล้วเราสองคนสามารถยิงเสือโคร่งเบงกอลที่มีน้ำหนักมากถึง 100 กว่ากิโลแหนะ ”
เฉาซีพยายามที่จะถ่อมตัวสุภาพต่อหน้าคนอื่น แต่แล้วเขาก็อดไม่ได้ที่จะคุยโวโอ้อวดเรื่องชัยชนะของเขาและพ่อที่มีในตอนนั้นซึ่งเป็นความภาคภูมิใจอย่างมาก ทันทีที่เขาพูดจบเขาก็ต้องเงยหน้าพร้อมกับมองไปยังสุนัขของเขา
“ มังกรเสือดาว กับ พยัคฆ์ดำ กำลังเจออะไรบางอย่างเข้า ! ” เขาเห็นว่าไม่ไกลจากที่เขากำลังพักอยู่มากนัก สุนัขล่าสัตว์สองตัวก่อนหน้านี้ที่วิ่งไปหาร่างของแจ็คคัล ตอนนี้พวกมันหยุดอยู่ที่พุ่มไม้พร้อมกับส่งเสียงเห่าออกมาอย่างไม่หยุดยั้ง
เมื่อมองไปที่ร่างไร้วิญญาณทั้งสามที่นอนจมกองเลือดของตัวเองอยู่นั้น ฟ่างหยุนก็รู้สึกว่าหัวใจของเขาหวิวขึ้นมาทันที เขารู้ดีว่าเขาไม่สมควรจะอยู่ที่นี่อีกต่อไปไม่เช่นนั้นแล้วจุดจบของเขาก็คงจะมาถึงในไม่ช้าแบบเดียวกับฝูงของเหล่าแจ็คคัลพวกนั้น
ชายหนุ่มที่กำลังสวมเสื้อแจ็คเก็ตนั้นเป็นผู้ชำนาญในการยิงปืนเป็นอย่างมาก ถ้าหากฟ่างหยุนถูกพบโดยชายหนุ่มคนนั้นแล้วละก็ เขาไม่มีทางที่จะหนีพ้นเงื้อมมือของชายคนนี้ได้เป็นอันขาด
ที่สำคัญไปกว่านั้นอีกฝั่งมีสุนัขล่าสัตว์ ตราบใดที่พวกมันวิ่งผ่านมาทางนี้ ดูเหมือนว่าจะมีแนวโน้มที่จะถูกพบตัวเอาเสียง่ายๆเลยก็ว่าได้
เมื่อคิดได้อย่างนั้นแล้ว ฟ่างหยุนก็ค่อยๆเลื้อยไปตามกิ่งไม้อย่างระมัดระวัง ตอนนี้เขาเริ่มผ่อนคลายขึ้นมาบ้างแล้ว เนื่องจากการเคลื่อนไหวของเขานั้นไม่เป็นที่ดึงดูดสายตาของคนกลุ่มนั้นนัก
แต่ในขณะที่ฟ่างหยุนกำลังเลื้อยหนีอยู่นั้น เจ้าสุนัขล่าสัตว์สองตัวที่กำลังยืนอยู่ข้างๆศพพวกแจ็คคัลก็หันหน้ามามองตรงที่ตำแหน่งของเขาพร้อมกัน หลังจากนั้นพวกมันก็วิ่งตรงเข้ามาอย่างไม่รอช้า ฟ่างหยุนถึงกับเหงื่อตก เขาคิดในใจว่าเขาไม่น่าประมาทเร็วขนาดนี้
“ พยัคฆ์ดำ มังกรเสือดาว พวกเจ้าเห็นอะไรน่ะ ? ” ในเวลานั้นฟ่างหยุนได้ยินชายหนุ่มที่สวมเสื้อแจ็คเก็ตตะโกนถามสุนัขของเขาด้วยเสียงอันดังก้อง ทันทีที่สุนัขทั้งสองได้ยินเช่นนั้นแล้วพวกมันก็ยิ่งรีบตะกุยตะกายเข้าไปในพุ่มไม้ทันทีโดยมีชายหนุ่มที่เป็นเจ้านายพร้อมกับปืนที่เขาถือมาในมือตามาอย่างไม่ลดละ
“ ไอ้บ้าเอ้ย... ! ” เมื่อเห็นฉากนี้เกิดขึ้นแล้ว ฟ่างหยุนก็รีบหันหัวกลับและหนีไปทันที ระหว่างที่กำลังเลื้อยหนีด้วยความรวดเร็วนั้น ร่างอันใหญ่โตของเขาก็เสียดสีกับหญ้าจนเกิดเป็นเสียงดัง
“ เฉาซี ดูเหมือนว่านี่จะเป็นงูเหลือมงูหลามนะ ”
ข้างหลังของชายหนุ่มปรากฏชายร่างใหญ่ที่เต็มไปด้วยรอยสัก เขามองเห็นร่องรอยบนหญ้าที่ฟ่างหยุนทิ้งไว้ขณะเลื้อยหนีไป ทันใดนั้นดวงตาเขาก็สว่างขึ้นและพูดออกมาว่า
“ ดูเหมือนจะเป็นงูเหลือมงูหลามจริงๆด้วย ” พวกชายฉกรรก์ เหล่านี้ล้วนได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี ในขณะที่พวกเขาทุกคนนั้นวิ่งไล่ล่าอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่ละคนก็ล้วนแต่ไม่ได้แสดงท่าทีเหน็ดเหนื่อยออกมาเลย แม้แต่หน้าของพวกเขาก็ยังไม่แดงหรือเหงื่อแม้แต่เม็ดเดียวก็ยังไม่ผุดขึ้นบนใบหน้าของชายหนุ่มพวกนั้น
เช่นเดียวกับชายที่มีรอยสักนั้นแม้ว่าเขาจะกำลังพูดออกมาในขณะที่กำลังวิ่งอยู่ แต่อัตราการหายใจของเขานั้นก็ยังคงที่โดยไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเลยแม้แต่น้อย
“ ฮ่าฮ่าฮ่า คืนนี้พวกเราได้กินซุปงูแล้วโว้ย ! ” เฉาซีหัวเราะตามแล้วกล่าวตบท้าย
“ พยายามจับมันตอนเป็นๆมาให้ได้ พวกเราจะได้ดื่มเลือดอุ่นๆของมันตอนที่เรากลับไปถึงบ้าน ” เมื่อได้ยินเช่นนั้นแล้ว ชายสามคนที่กำลังวิ่งตามหลังมาก็ถึงกับตาโตออกมาด้วยความดีใจ แม้ว่าซุปงูนั้นจะอร่อยมาก แต่ในเลือดงูนั้นอุดมไปด้วยสารอาหารมากกว่า ดังนั้นหลังจากที่เขาได้ยินเฉาซีพูดขึ้นมาแบบนั้นแล้ว พวกเขาทุกคนก็ต่างเร่งฝีเท้าอย่างเอาเป็นเอาตาย
ฟ่างหยุนที่กำลังเลื้อยหนีให้พ้นความตายตรงหน้าอยู่นั้น เมื่อได้ยินที่เด็กหนุ่มที่ใส่เสื้อแจ็คเก็ตพูดขึ้นมาแบบนั้นแล้วจึงทำให้เขานั้นโกรธขึ้นมา
“ ซุปงูเอย เลือดงูเอย จับตอนเป็นๆเอย ! ”
ฟ่างหยุนผู้ซึ่งเป็นฝ่ายหนีอย่างบ้าคลั่ง เมื่อเขาได้ยินเช่นนั้นแล้วก็อยากที่จะหันหลังกลับมากัดชายหนุ่มคนนั้นทันที
เขากรีดกรายตัวลงบนพื้นหญ้าอย่างรวดเร็วในบางครั้งก็ถูกกิ่งไม้จากพุ่มไม้ฟาดบ้าง หรือตอนที่เขานั้นเลื้อยขึ้นไปบนหินที่มีความแหลมคมทั้งหมดทั้งมวลนี้ไม่ได้ทำให้เขาบาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย แต่สิ่งที่นำพาความเจ็บปวดมาให้เขามากที่สุดนั่นก็คือความเจ็บใจที่เกิดจากคำพูดของคนเหล่านี้
อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้ชะลอตัวเลยแม้แต่น้อย เพราะตอนนี้สุนัขล่าสัตว์ไล่ตามหลังเขามาติดๆแล้ว หากเขาชะลอตัวลงแม้แต่นิดเดียว ฟ่างหยุนเกรงว่าพวกมันจะจับเขาได้ทันและที่สำคัญด้านหลังสุนัขสองตัวนี้ก็ยังมีผู้ใหญ่อีก 4 คนไล่ตามเขามาอีกเช่นกัน
ที่จริงแล้วเขาไม่ได้เกรงกลัวอันตรายใดๆจากทั้งคนทั้งสุนัขที่ไล่ล่าเขามาติดๆ แต่ปัญหามันติดอยู่ที่ว่าปืนในมือของชายหนุ่มคนนั้น เพราะถ้าหากอยู่ในระยะยิงหวังผลของชายหนุ่มคนนั้นแล้วเขาเกรงว่ากระสุนของมันคงจะพาเขาไปสวรรค์อย่างแน่นอน อีกอย่างเกล็ดของเขาก็ยังไม่หนาพอที่จะป้องกันมันได้
สุนัขล่าเนื้อทั้งสองนี้เป็นพันธุ์เดียวกับที่คนในชาติก่อนของเขาเรียกว่า บูลด๊อก มันจะดุร้ายเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเวลาที่มันหลั่งสารอาดีนารีนออกมาแล้ว มันจะไม่รู้สึกเจ็บปวดต่อสิ่งใดๆทั้งสิ้นจนกว่ามันจะตายนอกจากนี้แล้วมันยังก้าวร้าวเป็นอย่างมาก
หลังจากที่เลื้อยสุดความสามารถมาได้ถึง 4 - 5 กิโลเมตรแล้ว ฟ่างหยุนก็เริ่มรู้สึกเหนื่อยล้า แต่ถึงอย่างนั้นความเร็วของเจ้าสุนัขสองตัวนี้ก็ไม่ได้ลดลงไปเลยแม้แต่น้อย และตอนนี้เขาก็ได้ยินเสียงเห่าของมันไกล้เข้ามาเป็นอย่างมากแล้ว
“ ไม่นะถ้ายังเป็นแบบนี้อยู่อีก คงจะไม่รอดแน่ ” ด้วยความเร็วของฟ่างหยุนตอนนี้ไม่สามารถสลัดสุนัขที่กำลังไล่ล่าให้หลุดพ้นไปได้ เพราะด้วยความที่เขานั้นเป็นงู จึงเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่จะวิ่งเร็วกว่าสุนัข
ถ้าหากฟ่างหยุนยังคงหนีต่อไปเรื่อยๆแบบนี้แล้ว แรงที่มีทั้งหมดก็จะหายไปและเมื่อนั้นเขาก็จะถูกพวกมันจับได้อย่างแน่นอน เมื่อนึกได้ดังนั้นแล้วดวงตาเขาก็หรี่ลง ไม่มีทางเลือกเขาต้องกำจัดสุนัขทั้งสองนี้ให้ได้ ตอนนี้ชายสี่คนที่ไล่ตามมาก็คล้อยหลังห่างไปพอสมควร ฝั่งฟ่างหยุนเองก็พยายามที่จะคิดคำนวณว่าคนพวกนั้นจะมาทันหลังจากที่เขาฆ่าสุนัขนี้ได้หรือไม่
ขณะที่กำลังคิดแบบนี้อยู่นั้น ฟ่างหยุนก็พบกับต้นไม้ตรงหน้าเขาไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อยจึงได้รีบเลื้อยขึ้นไปบนนั้นทันที
“ โฮ่ง ! โฮ่ง ! ” บูลด๊อกสองตัวรีบวิ่งเข้าไปหาต้นไม้นั้น พร้อมกับกระโดดขึ้นไปทำให้ฟันอันแหลมคมของมันนั้นงับเข้าใส่หางฟ่างหยุนอย่างจัง ทันทีที่ถูกกัดเข้าเขาก็แสดงปฏิกิริยาตอบโต้ออกมาทันทีโดยการหันหลังกลับไปกัดที่สุนัขตัวนี้เต็มๆ ทำให้เขาทั้งคู่นั้นร่วงลงมาจากต้นไม้สูงราวๆ 1 เมตรทันที
“ เอ๋ง ! ” เจ้าบูลด๊อกอีกตัวที่อยู่ข้างล่างได้แต่มองเพื่อนร่วมงานของมันกำลังลอยตกลงมาจากต้นไม้พร้อมกับร่างที่ถูกจมฝังอยู่ด้วยเขี้ยวของงูด้วยความประหลาดใจ
ทันทีที่ร่างของฟ่างหยุนและบูลด๊อกตัวแรกตกลงมาถึงพื้นจึงเกิดเสียงดังสนั่นไปทั่ว ในทันใดนั้นเขาก็รีบถอนเขี้ยวออกจากสุนัขตัวแรกและเตรียมพร้อมที่จะโจมตีอีกตัวในทันที
ทำไมต้องเป็น ข้า เจ้า ด้วยอ่ะ มันยุคปัจจุบันและไม่ใช่กำลังภายในด้วยนิอ่านแล้วมันแปลกๆ