px

เรื่อง : ตำนานงูยักษ์เขมือบโลก
ตอนที่ 50 : เวลาที่ผ่านไปอย่างรวดเร็ว


ตอนที่ 50 : เวลาที่ผ่านไปอย่างรวดเร็ว

 

          มันเป็นทางลาดที่ขวางฟ่างหยุนให้ไม่สามารถไปข้างหน้าต่อได้ โดยที่ทางลาดนั้นกว้างประมาณ 2 เมตรแต่ไม่ลึกมาก พร้อมกันนั้นก็ได้มีน้ำไหลผ่านมันไปข้างหน้า เขาติดสินใจโผล่หัวจากน้ำและมุดเข้าไปตรวจสอบในทางลาดนั้น ทันทีที่มองเห็นอย่างชัดเจนแล้วเขาก็เดาได้เลยว่านี่ต้องเป็นทางกักน้ำเข้าไปใช้ในอ่างเก็บน้ำของชาวประมง

 

          เมื่อยังไม่ค่อยแน่ใจนักสักเท่าไหร่ ฟ่างหยุนก็เลยเลื้อยตรงเข้าไปในอ่างเก็บน้ำนั้น เขาว่ายเข้าไปได้ราวๆ 100 เมตรและแล้วสิ่งที่ต้องทำให้เขาสะดุดและไม่สามารถไปต่อได้นั่นก็คืออวนดักปลาที่ขวางกั้นเอาไว้

 

          เมื่อเห็นดังนั้นแล้วฟ่างหยุนจึงว่ายน้ำไปที่ขอบฝั่งพร้อมกับเลื้อยข้ามอวนลงไปในน้ำอีกครั้ง

 

          ครั้งนี้ไม่มีสิ่งใดจะมาขวางกั้นเขาได้อีกแล้ว และเมื่อเริ่มที่จะว่ายน้ำลึกต่อไปอีก 10 เมตร พื้นที่ที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าก็กว้างขึ้นในพริบตา ตอนนี้เขาได้มาถึงอ่างเก็บน้ำเรียบร้อยแล้ว

 

          ฟ่างหยุนพยายามที่จะมองดูจำนวนของปลาในอ่างนี้ เพราะถ้าหากที่นี่มีจำนวนปลามากมายต่อความต้องการของเขาบางทีเขาอาจจะอาศัยอยู่ที่นี่สักพักหรือไม่แน่เขาอาจจะอยู่ที่นี่จนหมดฤดูหนาวเลยก็ได้

 

          ในช่วงฤดูกาลนี้ สัตว์หลายชนิดเริ่มเข้าสู่สภาวะจำศีล แทนที่จะเหนื่อยไปตามล่าพวกที่เหลือบางทีการอยู่ที่นี่อาจจะคุ้มค่ามากเสียกว่า

          ตอนนี้ฟ่างหยุนได้ว่ายน้ำสำรวจไปรอบๆอ่างแล้ว หัวใจของเขานั้นอิ่มเอมไปด้วยความสุขจากความสมหวังของเขา อ่างนี้มีปลาจำนวนมากมายหลายชนิดอาศัยอยู่ พร้อมกันนั้นเขายังพบกับแอ่งน้ำที่มีปลามากมายอยู่ในนั้นอีกด้วย

 

          นอกจากนี้แล้วอ่างเก็บน้ำแห่งนี้ยังเทียบได้กับทะเลสาบขนาดใหญ่ ฟ่างหยุนคาดเดาว่าพื้นที่ของมันคงราวๆ 300 เอเคอร์ !

 

          อะไรจะใหญ่ขนาดนั้น ! สนามฟุตบอลมีพื้นที่ประมาณ 1.32 เอเคอร์ ถ้าหากเอามาบวกลบคูณหารแล้ว อ่างเก็บน้ำแห่งนี้สามารถเอาสนามฟุตบอลมารวมกันได้ถึง 227 สนาม

 

          นอกจากนี้แล้วจากการสำรวจของฟ่างหยุนนั้น ความลึกรอบๆโดยรวมก็ 6 เมตร และส่วนที่ลึกที่สุดนั้นลึกมากถึง 9 เมตร

 

          ต้นน้ำของอ่างเก็บน้ำนี้ก็คือหมู่บ้านที่เขาเคยผ่านมาก่อนหน้านั้น โดยมีฝั่งขวาเป็นเขื่อนคอนกรีตควบคู่ไปทั้งสองฝั่งก็มีบันไดที่ทำจากหินอ่อนดูแล้วสะดุดตาเป็นอย่างมาก

 

          มากไปกว่านั้นบนชายฝั่งทั้งสองด้านก็มีสิ่งปลูกสร้างอย่างมากมายหลายแห่ง พร้อมกับปลูกต้นไม้เรียงรายอย่างสวยงามเป็นจำนวนมากดังนั้นแล้วจึงทำให้สถานที่แห่งนี้นั้นดูดีมีสเหน่ห์ไม่น้อยเลยทีเดียว

 

          ทางฝั่งซ้ายที่อยู่ด้านปลายสุดของอ่างเก็บน้ำนั้นหันหน้าไปทิศทางเดียวกับเนินเขา ซึ่งมันก็ไม่ได้สูงมากมาย ดูแล้วน่าจะไม่ถึง 100 เมตรด้วยซ้ำ มีการสร้างทางระบายน้ำจากเนินเขาซึ่งเมื่อน้ำมีจำนวนมากขึ้นแล้วมันจะค่อยๆ ไหลลงไปจากที่นั่นและรวมกันเข้ากับอ่างเก็บน้ำนั่นเอง

 

          หลังจากที่ทำการสำรวจอาณาเขตรอบๆอ่างเก็บน้ำอยู่นั้น ฟ่างหยุนก็เริ่มที่จะมองหาสถานที่เอาไว้เป็นรังนอน และหลังจากที่เลื้อยไปได้สักพักแล้วเขาก็พบกับสถานที่ที่โดนใจเขาเป็นอย่างมาก

 

          เขาพบกับถ้ำที่อยู่มุมซ้ายของเนินเขาซึ่งไม่ค่อยจะมีอะไรโดดเด่นมากนัก แม้ว่ามันจะไม่ค่อยกว้างขวางแต่มันก็เพียงพอสำหรับรองรับร่างกายของเขาได้ ที่สำคัญไปกว่านั้นภายในถ้ำจะถูกน้ำท่วมขึ้นมาเพียงแค่ครึ่งเดียว ส่วนครึ่งที่เหลือเขาสามารถใช้ในการหลับนอนได้อย่างสะดวกสบาย

 

          หลังจากพบที่อยู่อาศัยชั่วคราวแล้วฟ่างหยุนจึงเริ่มลงหลักปักฐานอยู่ที่นั่น เวลานั้นผ่านไปอย่างรวดเร็วเพียงแค่พริบตาเดียวก็ผ่านไปถึง 3 เดือนแล้ว

 

          ตอนนี้เป็นช่วงปลายฤดูหนาวแล้วและมันก็ทำให้อุณภูมินั้นต่ำสุดขั้วไปเลย โชคดีที่ฟ่างหยุนนั้นอัพเกรดทักษะภูมิคุ้มกันถึงระดับที่ 3 ไม่งั้นแล้วความหนาวแบบนี้อาจจะแช่แข็งให้เขากลายเป็นไอศรีมรสงูไปเสียแล้วก็ได้

 

          ในขณะที่เขากำลังซุ่มซ่อนตัวอยู่ใต้น้ำอยู่สักพักสายตาเขาก็ไปพบเข้ากับสิ่งมีชีวิตบางอย่าง ฟ่างหยุนจึงพยายามเพ่งสายตาจ้องไปที่มันอย่างไม่กระพริบ ภาพสิ่งมีชีวิตที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าเขานั้นคือปลาคาร์ฟตัวยาวใหญ่ ลำตัวของมันยาวถึง 30 เซนติเมตร

 

          ทันใดนั้นระบบก็ส่งข้อความแจ้งเตือนเข้าไปในหัวของเขาทันที

 

          ตรวจพบเป้าหมาย

ปลาคาร์ฟ

ประเภท: สัตว์น้ำ

สามารถเพิ่มพลังงานทางชีวภาพได้ 30 หน่วย

 

          ฟ่างหยุนยังคงนิ่งเงียบอยู่ที่เดิมโดยไม่ขยับไปไหนเพื่อเป็นการไม่ให้ปลาคาร์ฟรู้ว่าเขาซ่อนตัวอยู่ที่นั่น ทันใดนั้นเจ้าปลาคาร์ฟก็ค่อยๆว่ายน้ำเข้ามาหาเขาอย่างเชื่องช้า ทันทีที่มันเข้ามาถึงระยะไม่เกินครึ่งเมตรซึ่งเป็นระยะโจมตีหวังผล ฟ่างหยุนก็พุ่งเข้าไปกัดที่ลำตัวของมันอย่างรวดเร็ว

 

          ปลาคาร์ฟที่ถูกกัดเข้าเต็มๆ ด้วยความตกใจมันจึงรีบดิ้นอย่างรุนแรงทำให้น้ำรอบๆกระเพื่อมเป็นลูกคลื่น แต่พลังของมันก็ไม่สามารถทำให้รอดชีวิตจากฟ่างหยุนไปได้อยู่ดี

 

          ฟ่างหยุนคาบเจ้าปลาคาร์ฟตัวนี้พร้อมกับเลื้อยไปที่ถ้ำของเขา ขณะนี้มันหยุดเคลื่อนไหวแล้ว เขาจึงใช้ส่วนท่อนบนของเขาเลื้อยขึ้นไปนำปลาคาร์ฟวางไว้บนแทนหินนั้น พอวางเสร็จเขาก็นำส่วนที่เหลือของเขาเลื้อยขึ้นไปตามจนอยู่ในตำแหน่งเดียวกันทั้งตัวแล้ว หลังจากนั้นเขาก็ค่อยๆ กลืนปลาคาร์ฟเข้าไปสู่ท้องของเขา

 

          สองนาทีต่อมาระบบก็ส่งการแจ้งเตือนมายังเขาว่าได้รับพลังงานทางชีวภาพ 30 หน่วยสำเร็จแล้ว ความเร็วขนาดนี้สามารถบ่งบอกประสิทธิภาพของทักษะ ย่อยในพริบตา ได้เป็นอย่างดี

 

          “ ระบบช่วยเปิดฐานข้อมูลของข้าด้วยเถิด ” หลังจากที่บอกระบบไปเช่นนั้นแล้ว เขาก็เริ่มที่จะผ่อนคลายอิริยาบถด้วยการเปลี่ยนท่านอนโดยการขดลำตัวเข้าหากันอย่างสบายใจ หลังจากนั้นไม่นานม่านแสงก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า

 

          คุณสมบัติของท่านฟ่างหยุน

          ระดับ: 9

          พลังงานทางชีวภาพ: 9,420/12,000

          ความยาวลำตัว: 4.0 เมตร

          คะแนนทักษะ: 0

          เส้นผ่าศูนย์กลาง: 12 เซนติเมตร

          ความแข็งแรง: 30

          พลังป้องกัน: 20

          ความเร็ว: 10

          ความคล่องแคล่ว: 12

          วิญญาณ: 13

          ความแข็งแกร่งทางกายภาพ: 10

          ทักษะ: พิษมรณะ 4/5 ,ย่อยในพริบตา 3/5 ,ภูมิคุ้มกัน 3/5 ,การพรางตัว 2/5

 

          ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมานี้พลังงานทางชีวภาพของเขาถึง 9000 กว่าหน่วยแล้ว ตอนนี้ดูเหมือนว่าการวิวัฒนาการในครั้งต่อไปจะอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม

 

          ฟ่างหยุนเองคาดว่าเขานั้นน่าจะได้รับการวิวัฒนาการก่อนจะหมดสิ้นฤดูหนาวอย่างแน่นอน แต่ในความเป็นจริงนั้นความเร็วขนาดนี้ถือว่าช้าเป็นอย่างมาก เพราะช่วงสามเดือนที่ผ่านมานี้เขาออกล่าสัตว์ราวกับว่าเขาเป็นคนที่นับถือศาสนาพุทธ คือล่าแค่พอประทังความหิว

 

          ส่วนเหตุผลนั้นไม่ต้องเดาให้ยากเลย นั่นเป็นเพราะเขากังวลว่าถ้าหากล่าถี่เกินไปแล้วมันจะเป็นการดึงดูดความสนใจจากเจ้าของฟาร์มปลานั่นเอง

 

          เพราะทุกๆสองสามวันนั้นเขามักจะพบกับชายชราที่มีอายุราวๆ 50 ปีพายเรือเล็กเข้ามาลาดตระเวนในอ่างเก็บน้ำแห่งนี้บ่อยๆ จึงทำให้เขาคิดว่าชายคนนี้คือเจ้าของอย่างแน่นอน

 

          ซึ่งในอ่างเก็บน้ำแห่งนี้นั้นชุกชุมไปด้วยฝูงปลามากมาย จากจำนวนร้อยกว่าตัวที่หายไปจากการถูกฟ่างหยุนจับกิน แน่นอนว่าคงไม่เป็นที่ผิดสังเกตุ

 

          ฟ่างหยุนไม่ต้องการที่จะมีประเด็นกับมนุษย์ ดังนั้นแล้วเขาจึงพยายามหลีกเลี่ยงการปะทะอย่างมากที่สุด

 

          อย่างไรก็ตามปลาเหล่านี้ก็ยังคงอาศัยอยู่ทั่วไปในอ่างแห่งนี้โดยที่ไม่มีทีท่าว่าพวกมันจะมีขางอกออกมาแล้ววิ่งหนีขึ้นบกไป

 

          ตามอย่างที่ฟ่างหยุนคาดคิดเอาไว้ ตอนนี้พลังงานชีวภาพที่ขาดอยู่นั้นก็ไม่ได้มากมายอะไรซึ่งนั่นหมายความว่าถ้าหากได้รับการวิวัฒนาการในครั้งนี้ ระดับของเขาจะขึ้นไปสู่ระดับที่ 10

 

          หลังจากที่ได้รับการวิวัฒนาการมาถึง 9 ครั้ง ลำตัวของเขาก็ยาวถึง 5.5 เมตร พร้อมกับเส้นผ่าศูนย์กลางอีก 16 เซนติเมตร ในระดับเพียงเท่านี้ถือว่าดูน่าตกใจเป็นอย่างมากแล้ว

 

          ตามขนาดร่างกายของเขาในปัจจุบันแล้วไม่ใช่เรื่องยากเลยที่จะกลืนกินมนุษย์ที่โตเต็มวัยเข้าไปอย่างง่ายดายถ้าหากเขานั้นต้องการที่จะทำมัน

 

          คุณสมบัติอื่นๆ นั้นก็ยังแสดงสถิติในการเติบโตที่ค่อนข้างน่าพอใจเป็นอย่างมาก นอกจากนี้แล้วการวิวัฒนาการในครั้งต่อไปนี้จะทำให้เขาได้รับคะแนนทักษะถึง 9 คะแนนซึ่งแน่นอนว่าเขาจะนำไปใช้อัพเกรดทักษะ ภูมิต้านทาน ให้มันสูงขึ้นต่อไป

 

          และหลังจากนั้นค่าพลังป้องกันก็จะสูงขึ้นไปถึง 28 หน่วย เกล็ดบนลำตัวของเขาก็จะดูแวววาวระยับจับตาราวกับว่ามันทนทานเป็นพิเศษ ตอนนี้เขาสามารถรับรู้ได้ถึงพลังป้องกันอันแข็งแกร่งของตัวเองแล้ว

 

          เมื่อตอนที่เขานั้นได้เผชิญหน้ากับชายหนุ่มในเสื้อหนังแจ็คเก็ตพร้อมกับสุนัขบูลด็อกคู่ใจอีก 2 ตัวบนภูเขาวู่หลง หนึ่งในบูลด๊อกสามารถกัดทะลุเข้าไปถึงเนื้อของเขาได้

 

          ตอนนี้ฟ่างหยุนมั่นใจเป็นอย่างมากว่าถึงแม้จะปล่อยให้สุนัขบูลด๊อกนั้นกัดเขาเป็นชั่วโมงมันก็ไม่สามารถทำได้แม้แต่รอยขีดข่วนบนผิวหนังและเกล็ดของเขา

 

          การพัฒนาอย่างต่อเนื่องทำให้ฟ่างหยุนแข็งแกร่งเป็นอย่างมากดังนั้นแล้วจึงทำให้เขาอดที่จะตื่นเต้นเป็นไม่ได้ แน่นอนว่าวันหนึ่งในภายภาคหน้าเขาจะต้องกลายเป็นอสูรร้ายราชาของสัตว์ทั้งปวงได้อย่างแน่นอน

 

          หลังจากที่วิวัฒนาการในครั้งนี้สำเร็จแล้วเขาจึงเริ่มคิดที่จะวางแผนต่อไปในอนาคต ฟ่างหยุนคาดว่าต้นฤดูใบไม้ผลิมาถึงเมื่อไหร่เขาจะออกล่าเหยื่ออย่างบ้าคลั่งเพื่อสะสมพลังงานทางชีวภาพให้ได้มากที่สุดก่อนที่จะออกเดินทาง และถ้าหากเขาสามารถได้รับรู้เกี่ยวกับข้อมูลทางภูมิศาสตร์ของโลกใบนี้แล้วด้วยนั้นมันจะเป็นอะไรที่วิเศษเป็นอย่างมาก

 

          เพราะสถานที่ที่เขานั้นอยากจะไปอยู่อาศัยมากที่สุดก็คือสถานที่ที่คล้ายกับป่าฝนอย่างอเมซอนหรือทุ่งหญ้าสะวันน่าอย่างประเทศแอฟฟริกาเหมือนที่เขารู้มาในชาติที่แล้ว

 

          เพราะสถานที่ประเภทนี้นั้นเหมาะสมที่สุดสำหรับงูอย่างเขาเพื่อที่จะอยู่อาศัย มันอุดมสมบูรณ์มากมายไปด้วยฝูงสัตว์ที่สำคัญไปกว่านั้นโอกาศพบกับมนุษย์ก็จะน้อยลงเช่นกัน

 

          เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วและตอนนี้ฤดูใบไม้ผลิก็เดินทางมาถึงแล้วทำให้อุณภูมิที่นั่นเริ่มสูงขึ้นอย่างช้าๆ ฟ่างหยุนที่กำลังหลับใหลอยู่ในถ้ำตอนนี้เขาก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาจากการหลับไหลเพราะตอนนี้มันถึงเวลาแล้วที่เขาจะต้องแจ้งเกิด !

         

รีวิวผู้อ่าน

apirakbungkrai
1562 วันที่แล้ว

.


  แสดงความคิดเห็น