px

เรื่อง : Castle of Black Iron
Chapter 80: พลังงานที่เพิ่มขึ้นอย่างกับติดจรวด


Chapter 80: พลังงานที่เพิ่มขึ้นอย่างกับติดจรวด

 

ในที่สุดฝนก็ได้หยุดลงเมื่อคืนนี้ ผลก็คือเช้านี้อากาศในหุบเขานั้นค่อนข้างดีเลยทีเดียว  จางเทีย ดูเหมือนจะได้กลิ่นหญ้าลอยมาด้วยแต่เส้นทางในหุบเขานั้นเละอย่างมากและยังลื่นอีก ถ้าไม่ระวังอาจลื่นล้มเอาง่ายๆ  จางเทีย ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเดินทางช้าลงไปอีก

 

ไม่นานหลังจากที่ จางเทีย ออกมาจากฐาน เขาก็ได้พบกับกลุ่มเด็กสองกลุ่มกำลังทำการล่าหาอาหารอยู่ แต่ละกลุ่มนั้นมีคนกว่า 10 คน  ในตอนที่ จางเทีย ผ่านพวกนั้นมา มีคนมองอย่างตะลึงมาที่ตะกร้าด้านหลังของเขาแต่ไม่นานพวกนั้นก็มองแบบดูถูกมาที่ จางเทีย ก่อนจะเชิดหน้าแล้วไปจัดการเรื่องตัวเองต่อ...

 

ในไม่กี่วันที่ผ่านมา จางเทีย นั้นไม่รู้สึกอะไรกับสายตาเหล่านี้แล้ว  ไม่รู้ว่าเขาอ่านมันมาจากไหน จางเทีย จำประโยคหนึ่งได้  ชายที่ทนอยู่คนเดียวไม่ได้จะไม่มีวันโต  ในสถานการณ์ตอนนี้สำหรับ จางเทีย แล้วมันทำให้เขาต้องเติบโต

การเติบโตของจิตใจนี้คือผลของ Castle of Black Iron

 

หลังจากทำงานหนักมาหลายวัน จางเทีย ได้พลังงานมากว่า 2000 หน่วยโดยการเทหินและแร่เหล็กลงไปในบ่อแห่งความวุ่นวาย  จำนวนพลังงานนั้นเพิ่มขึ้นมาเป็นร้อยเท่า  หลังจากที่เปลี่ยนเป็นพลังงานแล้วหินและแร่นั้นก็เพิ่มความแข็งแกร่งให้กับ Castle of Black Iron ด้วยจำนวนพลังงานที่มีตอนนี้ มันสามารถใช้แค่เล็กน้อยในการปรับเปลี่ยนภูมิศาสตร์ด้านใน  ยกตัวอย่างเช่นบ่อเล็กๆแต่ จางเทีย ตอนนี้ยังไม่พอใจกับขนาดของมัน  เขาต้องการที่จะเพิ่มพลังงานให้มากกว่านี้และค่อยตัดสินใจตอนที่ฝึกเสร็จ

 

อีกอย่างเพื่อเพิ่มพลังงานแล้ว ค่าออร่าเองก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วด้วย  จางเทีย พบว่าเมล็ดที่ ย่าเทเรซ่า ให้มานั้นได้งอกขึ้นมาและเติบโตขึ้นมาอย่างดี  นอกจากนี้พวกมันฝรั่งและข้าวโพดและฟักทองเองก็เติบโตได้ดีเช่นกัน

จางเทีย ไม่รู้ว่าทำไมในไม่กี่วันมานี้เขารู้สึกเหมือนโดนตามตอนที่เขาไปที่เหมืองแต่เช้านี้ความรู้สึกนั้นได้หายไป นี่ทำให้ จางเทีย สงสัยว่าเขากำลังจะบ้ารึเปล่าแต่สุดท้ายเขาก็ไม่ได้คิดอะไรเรื่องนี้มากนัก

 

หลังจากฝนตกครั้งแรกในเดือนมิถุนายน หุบเขานี้ปกคลุมไปด้วยดอกไม้ที่งอกออกมา  ก้านสีขาวของดอกไม้โผล่ออกมาจากพื้นดินทีละต้นๆรอคอยโอกาสการมาถึงของสายลมที่จะพัดพามันไป  จางเทีย รู้สึกค่อนข้างดีเลยทีเดียว เขาหยิบมันขึ้นมาก่อนจะโยนดอกไม้เหล่านั้นเก็บไว้ในตะกร้าของเขา

……

 

ครึ่งชั่วโมงต่อมา จางเทีย ก็ได้มาถึงเหมืองที่ใกล้ที่สุดซึ่งห่างจากปราสาทเพียง 200 ม. มีหลายคนมาที่เหมืองแห่งนี้และมีรอยรถเลื่อนที่เคยใช้ขนส่งของ  พื้นดินนั้นเต็มไปด้วยตะไคร่น้ำ  เหมือนมีคนเคยบอกเขาว่าที่นี่เคยรุ่งเรืองแล้วเหมืองนี่น่าจะเป็นที่สำคัญเลยทีเดียวแต่ตอนนี้กลับถูกทิ้งร้างไว้และให้เด็กผู้โชคร้ายมาขุดมันเพื่อแลกกับอาหาร

 

เพราะที่นี่อยู่ใกล้ปราสาทเกินไป มันจึงง่ายที่สาวๆจะเห็น  มีผู้ชายไม่กี่คนที่เลือกที่จะมาขุดที่เหมืองนี่ เพราะพวกเขากลัวสีหน้า ดังนั้นแล้วเหมืองนี่จึงไม่ได้มีคนมากเหมือนเหมืองอื่นๆ

 

ไม่นานมานี้มีคนหน้าใหม่เข้ามาที่เหมืองนี้ ส่วนคนหน้าเก่าๆก็ได้หายไป  จางเทีย เดาว่าน่าจะมีมากกว่า 10 คนรวมถึงตัวเขาเองด้วยที่ซึ่งมาที่เหมืองนี่ทุกวัน   ส่วนมากก็เพราะงานนี้น่ะไม่ได้มีเกียรติอะไรเลยแม้แต่นิด คนที่ขุดเหมืองส่วนมากก็ไม่ได้เป็นที่เตะตาให้มาพูดคุยด้วย  จางเทีย ไม่มีเพื่อนเลยด้วยซ้ำแม้ว่าจะทำงานที่นี่สักพักแล้ว  แต่มันก็ทำให้เขารู้สึกวางใจ  เขาสามารถทำอะไรก็ได้ตามต้องการโดยไม่ต้องกังวลถึงคนอื่น

 

มีหินแตกมากมายตามพื้นด้านนอกเหมือง ทำให้มันเดินง่ายกว่าเดิมเนื่องจากมีโคลนน้อยลง   ทางเข้าเหมืองนั้นมีขนาดใหญ่วัดได้ก็น่าจะหลายสิบตารางเมตร  หลังจากที่จัดอุปกรณ์ให้เข้าที่แล้ว จางเทีย ก็ได้เอาคบไฟขึ้นมาจุดก่อนจะเดินเข้าไปใน ถ้ำ...

 

แม้ว่ามันจะเป็นตอนกลางวันแต่หลังจากที่เดิมมาได้ไม่กี่สิบเมตรมันก็ยากที่จะมองเห็นด้านหน้าได้  ถ้า จางเทีย ไม่ได้มีคบไฟ เขาคงเดินลึกต่อไปไม่ได้อีก ต้องขอบคุณเส้นทางข้างหน้าที่มันไม่ค่อยมืดเท่าไหร่ ดังนั้น จางเทีย จึงเดินหน้าต่อไปได้อย่างง่ายดาย

 

แสงไฟและเสียงเดินของ จางเทีย ทำให้ค้างคาวด้านในหลายตัวตกใจ มันกระพือปีกและส่งเสียงดังออกมา  นี่เองก็ทำให้คนที่เข้าไปข้างในต้องกลัวและ จางเทีย เองก็ไม่มีข้อยกเว้นแต่หลังจากที่เข้าไปหลายรอบ จางเทีย ก็เริ่มชินกับมัน

 

แสงจากคบไฟทำให้เงาของ จางเทีย พาดไปที่กำแพง ในตอนที่เขาเดินไปข้างหน้า เงาก็ไปกับเขาด้วย  แต่ละครั้งที่เขาเข้ามา เขาอดไม่ได้ที่จะส่องดูเงาโดดไปมาที่กำแพง  นอกจากเงาของเขาแล้วก็มีเครื่องหมายแปลกๆมากมายซึ่งมันเหมือนเป็นวงบางอย่างบนกำแพงและพื้นของเหมือง  จางเทีย มั่นใจว่าเครื่องหมายเหล่านี้ไม่ได้ทิ้งไว้โดยคนแน่  ทุกครั้งที่เขาเห็นรอยเหล่านั้น จางเทีย จะคิดถึงเรื่องงูกินทองที่ ชอร์วิน  เคยพูดให้ฟังที่เกิดในที่นี้เมื่อ 30 ปีก่อน  เขาเห็นหลุมที่มีรอยแปลกๆและยังมีเส้นผ่านศูนย์กลางกว่า 3-4 ม. เมื่อไหร่ก็ตามที่เขาคิดถึงงูที่สามาถรกลืนกินทุกสิ่งเลื้อยออกมาจากรูนั้น เขามักจะขนลุก และรู้สึกว่ามีสัตว์ประหลาดคอยจ้องมองเขาอยู่  แม้ว่าเขาจะรู้ว่ามันเป็นแค่จินตนาการแต่ จางเทีย ก็ระวังทุกการเดินในตอนที่เขาเดินผ่านรูแปลกๆพวกนั้นมา

 

เขาได้ยินเสียงพลั่วสับลงไปที่แร่ดังขึ้นมาตรงหน้าเขา  จางเทีย ใจเย็นขึ้นเล็กน้อย หลังจากเดินมาได้หลายร้อยเมตรในถ้ำ ในที่สุดเขาก็มาถึงอีกด้านของรูนี่สักทีและพบกับพื้นที่อันกว้างใหญ่ตรงหน้า  พื้นที่นี้ใหญ่กว่าลานของเมืองแบล็คฮ็อตและดูเหมือนถ้ำหินปูน  จางเทีย เห็นไฟริบหรี่ไม่กี่อันทั่วพื้นที่นั้นซึ่งมาจากคบไฟของคนที่มาถึงก่อนเขา แต่ในความมืดมิดนั้นแสงจากคบไฟไม่ต่างจากตะเกียงที่กำลังจะดับซึ่งให้แสงสว่างให้กับพื้นที่เล็กๆเท่านั้น  เสียงเคาะยังคงดังก้องในพื้นที่นี้  เสียงที่สะท้อนข้างในนั้นดูเหมือนว่าจะอยู่ห่างไกลกัน  สำหรับคนที่เดินผ่านรูนี้แน่นอนว่าพวกเขาต้องถอนหายใจด้วยความโล่งอกและรู้สึกดีใจเมื่อเห็นแสงและเสียงสะท้อนจากรูนี้ อย่างน้อยมันก็จริงสำหรับ จางเทีย ....

 

ก็อย่างเช่นเคย จางเทีย เลือกที่ที่แยกตัวออกจากคนอื่นมาทำงานของเขา สถานที่ที่เขาเลือกนั้นอยู่อีกรูหนึ่งซึ่งมันก็อยู่ในพื้นที่ใต้ดินเช่นกัน   แม้ว่าเขาจะมีคบไฟในมือแต่เขามองเห็นคนอื่นในรูนั้นได้ไม่ง่ายนัก  อีกอย่างมีทางแยกอื่นๆและทางเลี้ยวในรูนี้ด้วยซึ่งนำให้เข้าไปลึกอีก  ดังนั้นมันจึงถือได้ว่าที่ที่ จางเทีย เลือกนั้นสามารถทำให้เขาทำอะไรก็ได้ตามใจ

 

เขามาถึงที่ที่เขาทำงาน เขาได้วางกับดักเล็กๆไว้ตรงทางเข้ารูโดยใช้หินไม่กี่ก้อน  กับดักนี้จะเตือนเขาถ้ามีใครเข้ามาในรู หลังจากที่วางหินไว้ตรงทางเข้าแล้ว จางเทีย ก็ผ่อนคลายได้เต็มที่

 

เขาเอาคบไฟปักเข้าที่กำแพง  พื้นที่หลายสิบตารางเมตรตรงหน้าสว่างขึ้นมา  เขาวางตะกร้าลงไปที่พื้นแล้วเทคบไฟที่เหลือออกมา  เขาเอามีด ,ขวาน,และอาหารแห้งออกจากเอว  หลังจากที่กินน้ำแล้วเขาก็ได้เอาพลัวขึ้นมาและเริ่มทำงานเก็บแร่พร้อมกับทำเสียงดังก้องไปทั่วถ้ำแห่งนี้ !

 

ในตอนที่ จางเทีย กำลังขุดเหมืองอยู่นั้นก็ได้มีเหยี่ยวส่งสารที่นำข่าวล่าสุดจากเมืองแบล็คฮ็อตมายังปราสาท ข่าวบอกว่าเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นในเมืองเมื่อวานนี้และเรื่องใหญ่นี้เกี่ยวข้องกับจดหมายที่ จางเทีย ส่งไป  หลังจากผ่านมาหนึ่งอาทิตย์ก็ได้เกิดเรื่องที่สะเทือนไปทั้งพันธมิตรอันดามัน ส่วนพายุที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้เป็นเหมือนตัวแทนของความวุ่นวายที่ใหญ่กว่าที่จะมาถึง......

รีวิวผู้อ่าน