"รีบวางระเบิดเชอร์รี่ดิ"
"ไม่ๆๆ ใส่พริกขี้หนูตรงนี้จะช่วยเก็บแสงแดดได้ 25 ดวง"
ริชาร์ดไม่ได้เล่นเองมากว่าชั่วโมงนึงแล้ว ยังมีคนคอยกำกับอยู่ข้างหลังเขาไม่ต่ำกว่า 20 คน ว่าวซื่อๆ ก็ครึ่งหนึ่งของคนทั้งห้องเกม กำลังดูเกมบนหน้าจอคอมฯเขาอยู่
ทุกคนส่งเสียงจอแจกันด้วยความกระตือรือร้นว่าจะนำต้นไม้มารวมกันอย่างไร พอเล่นถึงระดับ 19 ริชาร์ดก็เริ่มลนเล็กน้อย ในที่สุดก็หยุดลงที่ระดับที่ 25
"เฮ่อ น่าเสียดาย"
"ริชาร์ด เอ็งแม่มงี่เง่าทิ้งให้ตัวเองติดกำแพงถั่วตั้งนาน"
"ริชาร์ดคุณเมิงลงมาเลย เอ็งหมดสิทธิ์ยึดคอมฯ แล้วเฟ้ย"
"ไอ้จั๊ดง่าวเอ๊ย ทำไมเราต้องรอเล่นเกมเครื่องนี้เครื่องเดียวด้วยเล่า วิลเลี่ยมมีซีดี เราทุกคนก็ลงเล่นได้เฟ้ย"
"แจ่ม วิลเลี่ยมลงเกมให้ตูด่วน!!"
กลุ่มคนมาห้อมล้อมเฉินม่อทันที เฉินม่อถึงกับหูหนวกเพราะมีพวกเสียงดังอยู่ข้างๆ 2-3 คน
เขารีบยื่นซีดีเกมให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนที่ใกล้ที่สุด กลุ่มคนผลัดออกจากเขาทันที ไปล้อมรอบคนที่ถือซีดีแทน
เมื่อเห็นกลุ่มทหารผ่านศึกกำลังตบตีแย่งชิงกันอยู่ เฉินม่อก็แอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก ดูเหมือนว่าเกมคลาสสิกก็จะเป็นเกมคลาสสิกต่อไป เกมกลยุทธ์นี้ได้รับความนิยมอย่างมากในยุโรปและอเมริกา
เฉินม่ออยู่ในห้องเล่นเกมมาสามชั่วโมงแล้ว ตอนนี้ทั้งห้องก็เล่นเกม Plants vs. Zombies เพื่อนร่วมชั้นบางคนตกใจกับฉากร้อนแรงในห้องเกม ใช้เวลาไม่นานในการดู ก็สามารถเข้าใจถึงสิ่งที่พวกเพื่อนร่วมชั้นกำลังเล่นกันอยู่
พวกเขาทุกคนไม่ใช่คนโง่ ไม่มีคนโง่ที่ไหนจะเข้ามหาวิทยาลัยลอนดอนได้ แต่ตอนนี้คนเหล่านี้มองเฉินม่อด้วยความตกตะลึงพรึงเพริด สายตาในการมองวิลเลี่ยมของพวกเขาหลายคนเปลี่ยนไป
เฉินม่อมองไปที่นาฬิกาของเขา คิดว่าตอนนี้เกือบจะเที่ยงแล้วแถมไม่มีใครผ่านระดับจนจบหลังจากเล่นมาตั้งแต่เช้า
เฉินม่อเดินไปที่ผนังกระดานดำในห้องเล่นเกมและปรบมืออย่างแรง พูดเสียงดังว่า "เฮ้ เฮ้ พวกหยุดก่อน ทุกคนดูนี่"
หลังจากหลังจากจอแจกันอยู่ซักพักกลุ่มผู้มีความสามารถก็หยุดเกมและมองไปที่เฉินม่อ พวกเขาทั้งหมดกลายเป็นแฟนเกมตัวยง พวกเขาอาจจะรู้ว่าเกมนั้นดีหรือไม่ แต่วิลเลี่ยมกำลังจะได้รับโชค
พอเฉินม่อเห็นทุกคนมองมาที่เขา ก็เริ่มพูดว่า : "พวกนายทุกคนรู้ดีว่าเกมนี้ออกแบบมาเพื่อให้คนเล่น แต่เป้าหมายสูงสุดคือการขายเพื่อหาเงิน ฉันเลยอยากถามทุกคนว่าถ้าเกมนี้ขายได้ 5 ปอนด์พวกนายจะซื้อกันมาเล่นใช่ไหม? แน่นอนเพื่อเป็นการตอบแทนที่ตอบคำถาม ฉันจะให้ซีดีเกมไปฟรีๆ"
หลังจากฟังคำถามของ เฉินม่อ ทุกคนก็กรีดร้องโดยไม่ปล่อยให้ เฉินม่อ รอนาน
"แน่นอนว่าฉันจะซื้อมันในราคา 5 ปอนด์เกมยอดนิยมตอนนี้สามารถขายได้อย่างน้อย 8 ปอนด์ขึ้นไป"
"วิลเลี่ยมฉันต้องการซื้อซีดี 4 แผ่นในราคา 5 ปอนด์ตอนนี้เลย"
"ไม่มีปัญหา ราคาไม่แพงเลย"
เฉินม่อ ได้ยินว่าพวกเขาสามารถรับราคา 5 ปอนด์ได้ แถมอีกหลายคนยังคงคิดว่า 5 ปอนด์นั้นถูกไป เฉินม่อเลยมีความมั่นใจขึ้นมากเกี่ยวกับแผนต่อไป
จอแจกันไปอีกซักพักเฉินม่อก็ปรบมือเรียกความสนใจ ขอให้ทุกคนเงียบและพูดว่า : "พวกเราเป็นเพื่อนกัน หลายคนก็รู้สถานการณ์ครอบครัวของฉัน ฉันไม่มีเงินมาก ไม่สามารถหาเจ้ามือเกมรายใหญ่ที่จะช่วยให้ฉันโปรโมตเกม ก็เลยคิดหาวิธี ฉันไม่รู้ว่าเจ้าไหนยอมรับได้ "
เฉินม่อ่ลังเลอยู่พักหนึ่งพลางคิดว่าจะพูดอย่างไร
"เฮ้ วิลเลี่ยมฉันบอกได้เลย ว่าเกมของนายจะต้องได้รับความนิยม แต่วิลเลี่ยม ฉันคิดว่านายควรลงทะเบียนเกมตอนนี้ดีกว่า ไม่งั้นนายจะต้องเจอกับปัญหาใหญ่ในอนาคตแน่" โรเบิร์ต คาร์เตอร์จากโรงเรียนกฏหมายเตือนเฉินม่อ
เขากับเฉินม่อมีความสัมพันธ์ที่ดีเพราะเขาเป็นคนผิวดำและไม่สนใจเรื่องสีผิวของเฉินม่อ ทั้งสองออกไปเล่นด้วยกันอยู่สองสามครั้ง หลังจากที่พวกเขาพบกันในชมรมเกมก็กลายเป็นเพื่อนกัน
"ขอบใจนะโรเบิร์ต นายมั่นใจได้เลยเมื่อไม่กี่วันก่อนฉันเพิ่งไปจดทะเบียนลิขสิทธิ์ทั้งสตอรี่เกมและการออกแบบเกมรวมถึงลิขสิทธิ์ทั้งหมดที่สามารถลงทะเบียนสำหรับเกม ไม่ว่าจะเป็นพืชหรือตัวละครในเกมได้" เฉินม่อกล่าวขอบคุณ
เขารู้ว่าโรเบิร์ตเป็นคนใจดี แถมสามารถเตือนเขาในทันที บอกได้คำเดียวว่านี่แหละเพื่อน ดูได้จากเขาเป็นเพียงคนเดียวในห้องนี้ที่เตือนวิลเลี่ยมเกี่ยวกับเรื่องนี้โดยไม่สนจำนวนคนในห้องเลย?
แม้ว่านักศึกษาบางคนจะไม่ได้คาดหวังเรื่องนี้นัก แต่ก็มีนักศึกษาหลายคนในชมรมที่สนใจจะแอบพัฒนานอกเวลาไปขายบริษัทเกมเพื่อเอาเงิน
เฉินม่อกล่าวต่อไปว่า : "ฉันได้รับใบรับรองลิขสิทธิ์เมื่อวาน ตอนนี้ฉันคิดว่าถ้าพวกนายสามารถยอมรับราคา 5 ปอนด์ได้ นักศึกษาที่เหลือก็คิดว่ามันเป็นที่ยอมรับสำหรับเกมที่ขายได้มากกว่า 5 ปอนด์
ดังนั้นฉันจะขายเกมนี้ให้พวกนายในราคา 4 ปอนด์แล้วพวกนายก็ไปขายต่อ 6 ปอนด์ให้เพื่อนร่วมชั้นหรือเพื่อนที่พวกนายรู้จัก พวกนายรับได้ไหม?"
ทันทีที่เฉินม่อพูดจบ เพื่อนร่วมชั้นในห้องก็เริ่มจอแจเสียงดังกันอีกครั้ง
"นี่เป็นความคิดที่แจ่ม ฉันจะสั่งซื้อกับนายทันทีเลย เกม EPS ที่ฉันซื้อครั้งล่าสุดมีราคาตั้ง 12 ปอนด์แถมเกมนี้ก็ไม่สนุกเท่าเกมนายเลย ฉันว่าฉันสามารถขายซีดีได้เป็น 100 แผ่น"
"แค่ 100 แผ่นหรอ ฉันคิดว่าฉันขายได้มากกว่า 200 แผ่นอีกในชุมชนของฉัน ฉันขายได้ 200 คนด้วยนักเรียนระดับประถมและมัธยมต้นจำนวนมาก ในชุมชนมีเด็กๆ เหล่านี้ คงจะคลั่งกันแน่ถ้าเจอเกมที่พวกเขาชอบ"
"เฮ้ ไรอันพวก นายแม่มสมแล้วกับการเรียนการตลาด ทำไมฉันคิดไม่ได้ว่าจะขายในชุมชน ฉันคิดแค่ว่าจะบอกพวกเพื่อนร่วมชั้นหรือไม่ก็พวกเพื่อนสนิท แบบนี้ก็แจ่มไปเลย ฉันว่าถ้าเกมนี้อยู่ในชุมชนของฉันนะ มันคงจะได้รับความนิยมอย่างสุดติ่งกระดิ่งแมวแน่นอน”
"บางทีเราน่าจะเปิดจอโชว์วางโน็ตบุ๊คสักสองสามเครื่องไว้ในพื้นที่มหาลัยเรานะ แล้วให้ศิษย์เก่าลองเล่นดูก็ได้ ถ้าที่มหาลัยของเราเป็นที่นิยมทุกคนก็ไปขายของที่มหาวิทยาลัยอื่นได้ นายคิดว่าไง สนป่าว?"
"น่าสนใจเป็นความคิดที่ดีน่าลองในมหาวิทยาลัยของเราก่อนพวกเราจะจัดตั้งทีมขายด้วยกันถ้าเราลองในมหาลัยจะได้ไม่ต้องเสียแรงหรือเงินมากเกิน พวกนายใครต้องการเข้าร่วม ก็มาได้เลย มาสมัครกับฉันนี่"
"เพิ่มฉันด้วย ฉันอยากจอยด้วย"
"อีกอย่างฉันคิดว่าเราน่าเปิดรับสมัครในนามของชมรมเกมของมหาลัย ถ้าสมัครวันนี้เราคงจะตอบกลับในวันพรุ่งนี้"
เฉินม่อฟังการอภิปรายอย่างกระตือรือร้นของทุกคนเกี่ยวกับการโปรโมตเกม หัวใจของเขาก็เบ่งบาน ในที่สุดมีคนมากกว่า 50 คนเจรจาร่วมกันทุกคนเสียเงิน 4 ปอนด์ให้เฉินม่อและจะได้รับเงิน 6 ปอนด์
เฉินม่อรู้ดีว่าราคานั้นต่ำไปหน่อย แต่ตอนนี้เกมยังไม่เป็นที่รู้จักเขาสามารถโปรโมตเกมได้ในราคาต่ำเท่านั้น สำหรับ 4 ปอนด์เขาสามารถได้รับกำไรมากกว่า 3 ปอนด์ เขาจะได้รับมากขึ้นอีก เพราะคนกว่า 50 คนกำลังโปรโมตให้เขาฟรี เป็นพนักงานขายที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายมาก แถมยังสามารถกระตุ้นการทำงานของทุกคนได้
ท้ายที่สุดถ้าคุณขายได้คุณจะได้รับมากกว่าหนึ่งสิ่ง เพื่อนร่วมชั้นเรียนในที่นี้ ล้วนเป็นทหารผ่านศึก หลายคนเคยพัฒนาเกมมาก่อนและรู้ว่าเกมไหนดีไม่ดียังไง
เฉินม่อขอให้โรเบิร์ตและนักศึกษากฎหมายระดับสูงหลายคนทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษากฎหมายให้กับเฉินม่อ ด้วยราคาที่เป็นกันเองโดยให้ซีดีเกมพวกเขาคนละ 25 แผ่น
หลังจากที่ทุกคนพูดคุยเกี่ยวกับข้อกำหนด รายละเอียดและแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายทั้งหมดแล้ว เฉินม่อก็หยิบปากกากับกระดาษออกมาเพื่อถามชื่อและจำนวนซีดีของทุกคนที่พวกเขาต้องการ
คนส่วนใหญ่ไม่ต้องการมากนักในการขายครั้งแรก แต่อย่างน้อยขอแผ่นจากเฉินม่อกันเป็นสิบๆ คน ยังมีนักการตลาดหลายคนก็ขอมากกว่า 200 แผ่น
หลังจากนับทุกคนเฉินม่อก็ผงะกับข้อมูลที่เจอ 1,050 เขียนบนกระดาษเฉลี่ยดูแล้วก็คนละ 20 แผ่น
หลังจากโรเบิร์ตกับคนอื่นๆ จัดเรียงเอกสารทางกฎหมายแล้วพวกเขาก็อ่านให้ทุกคนฟัง
เฉินม่อ ใช้ลิขสิทธิ์เกมเป็นหลักประกันในการเรียกเก็บเงินมัดจำจากทุกคนเป็นเงิน 4 ปอนด์ต่อแผ่นเกม แล้วซีดีก็จะพร้อมสำหรับทุกคนภายในหนึ่งสัปดาห์
เฉินม่อได้เรียนรู้เกี่ยวกับตลาดการค้นหาราคาซีดีรอมแบบตายตัวในลอนดอนมาก่อน
ราคา 0.8 ปอนด์สำหรับแผ่นน้อยกว่า 10,000 แผ่น
0.6 ปอนด์ สำหรับมากกว่า 10,000 แต่น้อยกว่า 50,000
0.5 ปอนด์ สำหรับมากกว่า 50,000 แผ่น
แม่มเอ๊ย เฉินม่อจำได้ว่าในปี 2000 ซีดีรอมในประเทศจีนขายราคาเพียง 5 หยวน แต่จะไม่ใช่ของแท้ ถ้าของแท้ดูเหมือนจะขายได้มากกว่า 100 หยวน พี่ชายคนก่อนของเขาซื้อ Warcraft ของแท้มันมีราคามากกว่า 100 หยวน
หลังจากที่ทุกคนจ่ายเงินเพื่อเซ็นสัญญา เฉินม่อก็ถือเงิน 4,200 ปอนด์ไว้ในมือและรู้สึกตื่นเต้นสุดระงับ นี่เป็นกองทุนก้อนแรกของเขาตั้งแต่เขาเกิดใหม่มา เขาไม่ได้คาดหวังว่าจะผ่านก้าวแรกมาได้อย่างง่ายดาย
เฉินม่อเอาเงินกลับไปที่หอพัก รีบไปหาศาสตราจารย์ที่เขาติดต่อไว้ก่อนหน้านี้
ในความเป็นจริงตามสิ่งที่รู้ พวกเขาสามารถผลิตสำเนาได้น้อยกว่า 10,000 ชุดในเวลาน้อยกว่า 3 วัน แต่จุดประสงค์ของการเซ็นสัญญากับศิษย์เก่าเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์คือเพื่อเผื่อเวลาอีกสองสามวันในกรณีที่เกิดเรื่องไม่คาดคิด
เขาใช้ลิขสิทธิ์เกมเป็นประกัน หากมีปัญหาเขาเชื่อว่าเพื่อนร่วมชั้นกว่า 50 คนจะฉวยโอกาสกระโดดออกไปสร้างปัญหาแน่ บางทีพวกเขาอาจจะรอให้เฉินม่อมีปัญหา พวกนี้หลายคนก็เคยทำมันมาก่อน แอบขายให้บริษัทเกมก่อน
เขาไม่กล้าเสี่ยง เลยหารูปแบบตายตัว เฉินม่อวางแผนที่จะไรท์ 5,000 แผ่นเองโดยตรง
มีค่าใช้จ่าย 4,000 ปอนด์เพื่อรับซีดี 5,000 แผ่นใน 3 วัน ยังมีเงินเหลืออีก 200 ปอนด์พร้อมเงินในมือของเขา เฉินม่อ ตั้งใจจะจดทะเบียนบริษัท 2 บริษัทใน 3 วันนี้
ภาษีส่วนบุคคลในสหราชอาณาจักรสามารถสูบได้สูงถึง 50% ตราบใดที่รายได้ต่อปีมากกว่า 150,000 ปอนด์ จะต้องจ่ายภาษีบุคคลธรรมดา 50% ของรายได้ทั้งหมด
กำไรจากภาษีนิติบุคคลประจำปีอยู่ที่ 26% จากรายได้ต่อปี 300,000 ปอนด์เท่านั้น หลังจากปี 2012 ก็ลดลงไปเหลือ 24%
เพราะงั้น หลังจากได้ยินคำเตือนของโรเบิร์ตเฉินม่อรู้สึกว่าเขาต้องจดทะเบียนบริษัททันที
========================