Martial god space ตอนที่ 187 การชุมนุมของผู้เชี่ยวชาญ
เย่ ซีหวิน ออกจากกลุ่มของ เชี่ยน เชี่ยน เขารู้ว่ามันเป็นเรื่องยากสำหรับพวกเขาที่จะดำเนินต่อไปถ้าไม่มีความช่วยเหลือจากเขา ความแข็งแกร่งของพวกเขาค่อนข้างจำกัด แต่เวลานี้ความแข็งแกร่งของพวกเขากำลังจะทะลวงขอบเขตขึ้นไปอีกขั้นโดยการนำทางของ เย่ ซีหวิน นอกจากนี้ถือว่าเป็นมากกว่าการชดเชยเวลาสำหรับกลุ่มของพวกเขา ดังนั้นหากไม่มี เย่ ซีหวิน ไม่ใช่ว่าพวกเขาจะทำอะไรไม่ได้เลย
แต่ก่อนที่จะไป เย่ ซีหวิน เอาแผนที่จาก ชิ เฟย และสังเกตดูอย่างรอบคอบ
หลังจากที่ เย่ ซีหวิน ไปแล้ว ชิ เฟย ก็หันกลับมามองและกล่าวว่า " เชี่ยน เชี่ยน การพบเขามันนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลง เขาเป็นคนน่ากลัวเกินไป"
"ข้าไม่ทราบเบื้องหลังของเขา แต่พิจารณาความแข็งแรงของเขา, และจิตใจของเขาในอนาคต เขาจะกลายเป็นบุคคลในตำนานอย่างแน่นอน และบางทีในเวลานั้นเราจะได้ยินเรื่องเกี่ยวกับตัวเขาด้วย " เชี่ยน เชี่ยน พึมพำ
"ไปกันเถอะ" เชี่ยน เชี่ยน หันไปรอบ ๆ แล้วพูดว่า " เราไม่สามารถเดินทางต่อไปได้อีกแล้ว พวกเราควรจะพึงพอใจในสิ่งที่เราได้รับจนถึงตอนนี้"
สมาชิกในกลุ่มพยักหน้า เพราะพวกเขารู้ว่าแม้จะมี ซู่ หยิงเตา อยู่กับพวกเขาก็เป็นไปไม่ได้สำหรับพวกเขาที่จะก้าวต่อไป
เย่ ซีหวิน เดินตรงไปยังพื้นที่ส่วนกลางของสุสานตามทางปูของกระดูกของคนตาย และขณะที่เขากำลังเข้าใกล้พื้นที่ส่วนกลางของสุสานมากขึ้นปราณปีศาจก็มีความเข้มข้นมากขึ้นในขณะที่ปีศาจโครงกระดูกก็ยิ่งดูน่าเกรงขาม
อย่างไรก็ตาม, เขาต้องเผชิญหน้ากับนักรบที่มีพลังมากขึ้น และเกือบทั้งหมดเป็นผู้เชี่ยวชาญลมปราณมหาเทพขั้นที่ 5 หรือสูงกว่า ในความเป็นจริงผู้มีพลังลมปราณมหาเทพขั้นที่ 3 ไม่มีทางที่พวกเขาจะอยู่รอดได้ที่นี่
การจะพบเจอผู้ฝึกวยุทธเพียงขั้นที่ 2 อย่าง เย่ ซีหวิน ที่ระดับความลึกของสุสานก็ยิ่งยากที่จะกล่าวถึงและไม่เคยมีมาก่อน
สิ่งหนึ่งที่สามารถมองเห็นคือสุสานขนาดยักษ์ในระยะไกล ในขณะที่ด้านนอกของมันปูไปด้วยชิ้นส่วนจากกระดูกของคนตาย
เย่ ซีหวิน มองไปที่สุสานซึ่งราวกับว่ามันอยู่ตรงหน้าเขา แต่ดูเหมือนจะไกลมาก
" เย่ ซีหวิน สุสานของผู้บัญชาการปีศาจนี้ไม่ได้ตั้งอยู่ในเวลาและสถานที่เดียวกันกับพื้นที่ที่เต็มไปด้วยชิ้นส่วนกระดูกทั้งหมดในเวลาและสถานที่จากโลกของเจ้า เป็นไปไม่ได้ที่เจ้าเพียงแค่ต้องการจะเดินเข้าไปยังสถานที่แห่งนี้เท่านั้น ทางเดียวคือการทำลายพื้นที่มิติ " แววตาที่เต็มไปด้วยประสบการณ์ของ เยโม่ ได้มองเห็นผ่านสถานการณ์จริงของสุสานนี้
แน่นอนว่าเย่ ซีหวิน ได้เห็นจากที่ไกลๆ ถึงวิธีที่เหล่าจอมยุทธที่ทรงพลังกำลังฉีกกระชากพื้นที่มิติเพื่อวิ่งเข้าไปในรอยแตกของมิติ
เย่ ซีหวิน กำลังจะไป แต่ เยโม่ ก็กล่าวว่า " รอก่อน เย่ ซีหวิน, ข้ารู้สึกถึงการปรากฏตัวของคนของลัทธิมาร!"
เย่ ซีหวิน รู้สึกประหลาดใจสักครู่หนึ่ง ว่าทำไมคนของลัทธิมารถึงมาที่นี่มันค่อนข้างเหลือเชื่อ แต่เขาก็นึกขึ้นมาได้ว่าสถานที่แห่งนี้คือสุสานของผู้บัญชาการปีศาจ ดังนั้นลัทธิมารอาจจะทิ้งมันไป หรือถูกปล้นโดยคนอื่น
เย่ ซีหวิน ปิดตาของเขาเพื่อสัมผัสถึงสถานที่ที่ห่างไกลมาก เขารู้สึกกลิ่นอายของผู้เชี่ยวชาญหลายคนของลัทธิมาร ซึ่งเป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเขาจะซ่อนลมหายใจของปีศาจจาก เย่ ซีหวิน
อย่างไรก็ตาม กลิ่นอายของคนลัทธิมารเหล่านี้ ปนไปด้วยปราณปีศาจที่ไม่มีที่สิ้นสุดอยู่ใต้น้ำทะเลในสุสาน ซึ่งคนส่วนใหญ่ไม่มีทางตรวจพบ แต่เนื่องจาก เย่ ซีหวิน ได้ฝึกฝนเคล็ดวิชาปีศาจเช่นเดียวกับคนของลัทธิมาร ดังนั้นเขาจึงสามารถรับรู้ได้จากระยะไกล
ลัทธิมารมีกองกำลังจำนวนมาก ได้ประจำการและเตรียมความพร้อมในการซุ่มโจมตี อย่างไรก็ตามพวกมันไม่ได้โจมตีใคร จริงๆแล้วพวกมันกำลังรอบางสิ่ง หรือกำลังเตรียมการณ์เพื่อพยายามจะทำอะไรบางอย่าง?
จากมุมมองของคนทั่วไปมันง่ายที่จะคาดเดา บางทีพวกมันไม่ต้องการที่จะรุกรานในขณะนี้ แต่ตรรกะเดียวกันนี้ไม่สามารถใช้กับองค์กรเช่น ลัทธิมารได้ เพราะอย่างไรก็ตาม เป้าหมายหลักของพวกมันคือ การรุกรานทุกคนและครอบครองโลกนี้เพื่อเผ่าพันธ์ของปีศาจ ดังนั้นจึงเป็นการยากที่จะคาดเดาสิ่งที่เกิดขึ้นในจิตใจของพวกเขา
นอกจากนี้ มีความผันผวนเล็กน้อยในปราณปีศาจ แม้ว่ามันจะถูกปกคลุมอยู่ภายใต้ปราณปีศาจของสุสายแห่งนี้ แต่ เย่ ซีหวิน ก็ยังคงรู้สึกได้และรู้ว่าลัทธิมารได้เตรียมการสร้างอาร์เรย์อย่างลับๆ แต่ยังไม่ทราบเหตุผลที่อยู่เบื้องหลัง
เย่ ซีหวิน เดินไปมาสักครู่แล้วแต่ไม่กล้าจะเข้าไปข้างใน หรือไม่ลัทธิมารกำลังการวางแผนอะไรบางอย่าง และถ้าเขาเข้าไปข้างในเขาอาจตกอยู่ในกับดักของพวกมัน
" เย่ ซีหวิน , เจ้าสามารถเข้าไปข้างในและมั่นใจว่ามันจะไม่เป็นอะไร" เยโม่ กล่าวว่า " ลัทธิมารกำลังจัดเตรียมรูปแบบภายนอกของอาร์เรย์ เพราะพวกมันพยายามไม่ใช้คนจำนวนมาก เพื่อไม่ต้องการเป็นจุดสนใจ ดูเหมือนว่าพวกมันพยายามที่จะใช้รูปแบบนี้เพื่อทำให้เกิดรอยร้าวโดยตรงกับส่วนลึกของสุสาน ซึ่งมันจะได้รับสมบัติที่มีอยู่ในส่วนลึกของสุสานแห่งนี้ "
เยโม่ ได้อธิบายสิ่งต่างๆ ให้ เย่ ซีหวิน ฟัง
" ตอนนี้เจ้าอยู่ตามลำพัง เจ้าควรออกไปจากที่นี่ตอนนี้ แน่นอนว่ามีผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากอยู่ที่นี่ และอีกหลายแห่งยังคงเดินทางมาอีกเรื่อย ๆ เมื่อถึงเวลาคับขัน เจ้าสามารถเป็นเพียงแค่ปลาโง่ๆ ว่ายวนไปมา " เยโม่ กล่าวว่า " คนของลัทธิมารมักจะเป็นคนที่มีอิทธิพลมาก , หยิ่งผยองและโหดเหี้ยม แต่คราวนี้พวกมันค่อนข้างระวังตัว ดังนั้นแน่นอนว่าต้องมีผู้เชี่ยวชาญที่ทรงพลังในหมู่ของศัตรู จึงทำให้พวกมันระมัดระวังตัวในขณะนี้
"เอ่อ" เย่ ซีหวิน พยักหน้าแล้วตัดสินใจและบินไปทันที เขารีบบินขึ้นไปที่ด้านบนสุดของภูเขากระดูก และฉีกกระชากพื้นที่มิติและเดินเข้าไปใน
เมื่อเห็นร่างคนอื่นวิ่งเข้าไปภายใน รอยยิ้มอันหนาวเหน็บได้ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของผู้นำลัทธิมาร ในขณะที่เจตจำนงแห่งการฆ่าได้ปรากฏอยู่ในแววตาของเขา อย่างไรก็ตามเขาก็ไม่ทำอะไรบุ่มบ่าม
เย่ ซีหวิน ฉีกกระชากช่องมิติเพื่อเข้าสู่พื้นที่มิติที่สุสานตั้งอยู่จริง แม้ว่าทิวทัศน์โดยรอบจะดูคล้าย ๆ กันราวกับว่าเขาเกือบจะมองเห็นสิ่งที่อยู่ข้างนอก แต่ เย่ ซีหวิน รู้ว่านั่นไม่ใช่ภายนอก ซึ่งเป็นมิติที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
"ข้าไม่เคยคิดว่าสุสานของผู้บัญชาการปีศาจนี้ จะมีการรักษาความปลอดภัยที่แน่นหนาเช่นนี้ และมีสองพื้นที่มิติที่แตกต่างกัน" เย่ ซีหวิน คิดออกมาดัง ๆ
เขาเหลือบมองไปรอบ ๆ และเห็นภูเขาที่ไม่มีที่สิ้นสุดของกระดูกทุกหนทุกแห่ง ขณะนี้มีหลายคนกำลังซ่อนอยู่หลังภูเขากระดูกเหล่านี้และรอให้สุสานเปิดออก
เย่ ซีหวิน ยังต้องหลยซ่อนตัวอยู่หลังภูเขาของกระดูก
"นี่คืออะไร อำนาจอันยิ่งใหญ่เหล่านั้น, มีลักษณะบางอย่างที่ไม่สอดคล้องกัน ถ้านี่เป็นสุสานของจักรพรรดิไม่สามารถแม้แต่จะเข้าใกล้จักรพรรดิได้ โดยไม่คำนึงถึงตำแหน่งบุคคลระดับจักรพรรดิสุสานของเขามักจะคล้ายคลึงกับตัวของเขาเอง สุสานของบุคคลระดับจักรพรรดิจะมีรูปร่างพิเศษ ด้วยโครงสร้างและลวดลายและภายในมีรัศมีนับร้อยลี้ เจตจำนงแห่งการฆ่าที่น่าสะพรึงกลัวจะบิดเบือนกฎแห่งโลกปีศาจมากมายนับไม่ถ้วน ทำให้พวกมันกลายเป็นอาวุธกฎแห่งโลกปีศาจที่น่าสะพรึงกลัว " เยโม่ กล่าว
"สุสานของผู้บัญชาการปีศาจนี้ด้อยกว่าสุสานของจักรพรรดิ เพียงแค่มองความผันผวนนี้ในช่องพื้นที่มิตินี้จะเห็นได้ชัดเจนถึงการพังทลายลง มันเกิดจากการชิงชัยของเกาะล้านอมตะ และอาณาจักรสัตว์ปีศาจมาเป็นเวลาหลายปี บางทีนั่นอาจเป็นเหตุผลว่าทำไมพื้นที่ที่นี่ไม่เสถียรและใกล้จะพังทลายลง "เยโม่ กล่าวว่า" ในบรรดาผู้เชี่ยวชาญทุกคนที่มาถึงที่นี่, ไม่มีใครอยู่ในขอบเขตระดับตำนานอย่างแน่นอน เนื่องจากพื้นที่ที่นี่เปราะบางเกินไป และถ้าผู้มีพลังขอบเขตระดับตำนานปรากฏขึ้น จะไม่สามารถทนต่อความผันผวนที่เกิดจากผู้มีพลังขอบเขตระดับตำนานได้ แม้ว่าจะมีเพียงเล็กน้อย แต่ความผันผวนที่เกิดจากผู้มีพลังเช่นนี้ อาจนำไปสู่การพังทลายของพื้นที่นี้ได้ในทันที ดังนั้นเมื่อพิจารณาจากสถานการณ์นี้แล้ว เจ้ายังพอมีโอกาส. "
"บุคคลระดับจักรพรรดิก็สามารถตายได้ด้วยหรือ?" เย่ ซีหวิน ถาม เพราะตามที่ เยโม่ เคยกล่าวไว้ว่าบุคคลระดับจักรพรรดิเป็นสิ่งมีชีวิตที่ยิ่งใหญ่สามารถปกครองโลกทั้งหมดได้ แต่บุคคลดังกล่าวอาจตายได้เช่นกัน
"แน่นอนตั้งแต่สมัยโบราณ มีการเสียชีวิตของบุคคลระดับจักรพรรดินับไม่ถ้วน ในเอกภพนี้ไม่มีใครที่ไม่สามารถหนีจากความตายได้ "เยโม่ กล่าวและถอนหายใจ
เย่ ซีหวิน เงียบและไม่พูดอะไร เพียงแค่เปิดใช้งานเคล็ดวิชาปิดกั้นลมปราณของตัวเอง เพื่อไม่ให้ถูกค้นพบให้นานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
ในเวลานี้ผู้มีพลังไร้เทียมทานได้ปรากฏตัว เขามีรูปร่างหน้าตาราว ๆ 20 ปี สวมเสื้อผ้าสีขาวและถือหอกเอาไว้ในมือของเขา รัศมีที่กล้าหาญอันรุ่งโรจน์ ดูเหมือนหอกที่สง่างามของเขา ทำให้ผู้คนไม่กล้ามองตรงๆ มาที่เขา
ชายคนนี้ปรากฏตัวออกมาอย่างกะทันหัน มีการผันผวนในการค้นหาจิตวิญญาณของผู้เชี่ยวชาญหลายคน มีผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากที่ใช้การค้นหาจิตวิญญาณไปด้วยกัน ซึ่งสามารถสื่อสารกันได้โดยใช้การค้นหาจิตวิญญาณได้ซึ่งจะเห็นได้ชัด โดยเฉพาะผู้เชี่ยวชาญระดับการเพาะบ่มเหนือกว่าระดับลมปราณมหาเทพขั้นที่ 5 สามารถใช้การค้นหาจิตวิญญาณ และยกเว้นสัตว์ประหลาด เช่น เย่ ซีหวิน ผู้เชี่ยวชาญระดับการเพาะบ่มที่ต่ำกว่าลมปราณมหาเทพขั้นที่ 5 ไม่สามารถใช้การค้นหาจิตวิญญาณเพื่อค้นหาคนอื่นๆ และใช้เพื่อการสื่อสาร
อย่างไรก็ตาม การสื่อสารของพวกเขา ไม่สามารถหนีการตรวจจับของกระจกเทียนหยวน และการสื่อสารนั้นก็ดังขึ้นภายในจิตใจของ เย่ ซีหวิน
"ข้าไม่ได้คาดหวังว่าแม้แต่ ไป่ หวู่ฮั่น ก็ไม่อาจพบร่องรอยของสมบัติ!"
"ใช่, เขารู้จักคนที่สวมเสื้อสีขาว เขาเป็นคนที่เลือดเย็น จิตใจเต็มไปด้วยการฆ่าฟันและกระหายเลือดเป็นคนที่โหดเหี้ยมมาก ไม่มีใครรู้ว่าเขาฆ่าผู้ที่ทรงพลังโดยหอกยาวของเขาไปแล้วกี่คน แม้เป็นคนนิกายอิสระ เขาก็เป็นอัจฉริยะที่หาได้ยาก และได้รับพรสวรรค์มาจากพระเจ้า! "
"ข้าไม่คาดหวังว่าจะพบสมบัติของผู้บังคับบัญชาปีศาจ แม้มันจะดึงดูดผู้มีพลังระดับสุดยอดของลมปราณมหาเทพขั้นที่ 9 ตอนนี้เราคงไม่มีโอกาส, อ้า.. โชคร้ายจริงๆ เลย!"
"ไม่ต้องกังวล, จำนวนผู้มีพลังไร้เทียมทาน จะมาถึงที่นี่เพื่อเป็นสมบัติ มากกว่าที่จะเป็นเพียงแค่ผู้มีพลังไร้เทียมทาน เช่น ไป่ หวู่ฮั่น เพียงแค่ปล่อยให้พวกเขาฆ่ากัน ในขณะที่เราคอยดูสถานการณ์และค่อยหาโอกาสช่วงชิงมันมา "
หลังจากการปรากฏตัวของผู้มีพลังไร้เทียมทานนี้ เย่ ซีหวิน เข้าใจทันทีว่า คนอื่นๆ อีกหลายคนก็คิดแบบเดียวกัน พวกเขาเพียงเสแสร้ง และรอเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ในฐานะบุคคลที่สาม
แต่ ไป่ หวู่ฮั่น เป็นคนแรกที่กล้าเปิดเผยต่อหน้าทุกคน โดยไม่ปกปิดความแข็งแกร่งของเขา ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขามีความมั่นใจในความแข็งแกร่งของตัวเองอย่างชัดเจน
หลังจากการปรากฏตัวอย่างฉับพลันของ ไป่ หวู่ฮั่น เร็วๆ นี้ ผู้เชี่ยวชาญคนที่สองที่เข้ามาในพื้นที่นี้ได้อย่างรวดเร็ว มันเป็นเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่สวมเสื้อคลุมน้ำเงินอายุประมาณ 17 ปี แม้ว่าเขาจะดูอ่อนเยาว์ แต่กลิ่นอายของเขาก็น่าสนใจมาก
"แม้แต่สุดยอดอัจฉริยะของตระกูลซิ่ง, ซิ่ง หลาง ก็โผล่ออกมา เขาไม่ได้อ่อนแอกว่า ไป่ หวู่ฮั่น และในฐานะผู้นำรุ่นเยาว์ของตระกูลซิ่ง ซึ่งแทบจะไม่มีคู่แข่งเมื่อเจอเพลงกระบี่ของเขา "
" ตายจริง, ผู้มีพรสวรรค์อันไร้เทียมทานจำนวนมากได้มาถึงสถานที่แห่งนี้ ทุกคนช่างเป็นบุคคลที่มีพรสวรรค์มากที่สุดในรัศมี 100,000 ลี้ ได้มารวมตัวกันที่นี่? " มีใครบางคนอุทานออกมาดัง ๆ
หลังจากนั้นไม่นานการปรากฏตัวของหญิงสาวจำนวนมาก นำโดยผู้หญิงในเสื้อผ้าที่ประดับที่ดูประณีตและโดดเด่น ชื่อของเธอคือ ซิ้ง หมิงเยว่ และเธอเป็นสาวกของพระราชวังหญิงซึ่งมีอิทธิพลอย่างมากในทะเลจีนตะวันออก
ที่ถัดมาก็คืออัจฉริยะผู้ไร้เทียมทานคนใหม่ของเกาะล้านอมตะ, ซ่าง กวน นอกจากนี้เขายังมีออร่าทรงพลังที่ไม่มีใครเทียบ และดูสูงส่ง
ร่างสุดท้ายที่มาถึงไม่ใช่มนุษย์ แต่เป็นจระเข้ยักษ์สองหัวที่มีความยาว 10 เมตร ดวงตาเรืองแสงในที่มืด เขาเป็นหนึ่งในคนชั้นนำของสัตว์ปีศาจรุ่นเยาว์
ลมหายใจของเขาดีกว่าลมหายใจของผู้ฝึกวรยุทธคนอื่นๆ อีกหลายคน