(update ทุกวันๆละ 2 ตอนน้า แต่บางวันอาจมากกว่านั้น)
เล่มที่ 1 ตอนที่ 3 - ฉันจะต้องเอาตัวรอด
อะแฮ่ม อะแฮ่ม!! ฉันรู้สึกคันในลำคอทั้งยังอึดอัด ยิ่งไปกว่านั้นฉันรู้สึกแสบปวดแสบร้อนและมีกลิ่นเหม็นแปลกๆในปาก มันรู้สึกเหมือนกินไข่เน่าที่ปรุงด้วยก๊าซซัลเฟอร์ ลำคอของฉันเหมือนถูกแผดเผา หรือมันเป็นเพราะสารเคมีกรดที่อยู่ในดิน?
อย่างไรก็ตาม เสียงแหบห้าวของฉันช่วยเสริมให้ฉันเหมือนผู้ชายวัยแรกรุ่น
ทันใดนั้น ทุกอย่างเกิดขึ้นก่อนที่ฉันจะล้มลง ก็ฉายภาพให้เห็นซ้ำกรอความเร็วไปข้างหน้าเหมือนดูภาพยนตร์ ฉันนึกถึงวัตถุทรงกลมที่เห็นในที่จอดรถผู่ถัวซาน การเดินทางเหมือนจริงมาก ความคิดไร้สาระพรั่งพรูอยู่ในหัวของฉัน ฉันก้มลงมองเท้าของตัวเองอย่างช้าๆ และมันก็เป็นไปตามที่คาด ฉันยืนเท้าเปล่า!! รองเท้าของฉันหลุดลอยไปตอนอยู่ในที่จอดรถ
หรือว่าจริงๆแล้ว……!!?
*ติง!*
*ตวง!*
*กวง!*
*ฮง!*
*วูมม!*
ระเบิดที่น่ากลัวดังก้องอยู่ในหัวของฉัน ราวกับจักรวาลแหลกสลายหายไปในอากาศบางเบา
ไม่...ไม่มีทาง!!
*แกว๊กกก!! แกว๊กกก!!* ทันใดนั้นเสียงเสื้อผ้าฉีกขาดก็ดังมาจากทิศทางของกองไฟ "อ๊ากกก!! อ๊ากกก!! ไม่!! ไม่!!"
เสียงกรีดร้องของหญิงสาวติดอยู่ในหัวของฉัน นำพาฉันกลับมาสู่โลกความจริงอีกครั้ง แต่ก็ยังมีเสียงติดค้างก้องอยู่ในหัว ฉันวิตกจริต!! นับตั้งแต่ครั้งแรกที่พ่อตีฉัน ฉันก็ไม่เคยรู้สึกตึงเครียดเช่นนี้มาก่อน อาจเป็นเพราะว่าพ่อเฆี่ยนตีฉันบ่อยจนฉันคุ้นชิน ขณะที่ฉันเติบใหญ่ พ่อของฉันก็ฝึกฝนให้ฉันรับมือกับทุกสถานการณ์ด้วยความใจเย็น - ใครจะไปคิดว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้น
การลักพาตัว การปล้นอาวุธ ทักษะการเอาตัวรอดจากแผ่นดินไหวหรือไฟไหม้ก็คือส่วนหนึ่งของทักษะที่พ่อสอนฉัน พ่อยังได้ฝึกสอนฉันให้ไปเชิญหน้ากับสถานการณ์ที่ไม่น่าจะเป็นไปได้เลย - การคุกคามด้วยความหวาดกลัว พ่อเคยโทรเรียกเพื่อนของพ่อให้มาต่อสู้กับฉัน อย่างไรก็ตาม เขาไม่เคยฝึกฝนฉันให้รู้จักกับการย้ายถิ่นฐาน!!
ครั้งนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าทำให้ฉันสูญเสียความเยือกเย็น ความเครียดทำให้หัวใจเต้นแรง ใบหน้าแสบร้อน ฝ่ามือเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ มันเป็นไปได้อย่างไร? ถ้าหากเรื่องนี้มันเป็นเรื่องจริง ฉันกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ย่ำแย่ ฉันควรจะพูดให้น้อยที่สุด!!
การถูกลักพาตัวด้วยกลุ่มคนที่เห็นไม่ชัด ย่อมไม่รู้ถึงเจตนาดีหรือเจตนาร้าย แต่การถูกขังกรง ทำให้ฉันรู้สึกย่ำแย่ ตอนนี้ฉันกำลังตื่นตระหนก ทั้งยังมองไม่เห็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้า แต่เมื่อพิจารณาจากปืนที่ศัตรูถือ มันไม่มีทางเป็นปืนในยุคของฉันอย่างแน่นอน ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฉันอยู่ที่ใด? แล้วฉันจะกลับบ้านได้อย่างไร!!?
หลัวปิง เธอต้องใจเย็น!! เธอจะต้องใจเย็น!!
คิดถึงสิ่งที่พ่อสอนเวลาเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ร้าย!! ช่วงเหตุการณ์วิกฤตนี้ การเอาตัวรอดเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด!! อย่าทำตัวโง่เอาแต่ตื่นตระหนกหรือตะโกนเด็ดขาด!!
เอาตัวรอดก่อนเป็นอันดับแรก เมื่อมีชีวิตรอด ฉันก็จะเข้าใจถึงสถานการณ์!!
ฉันจะต้องใจเย็น!! ใจเย็นเข้าไว้!! ใจเย็นๆ!! รีบนึกถึงคำสอนของพ่อเวลารับมือกับสถานการณ์ร้าย
ใช่แล้วล่ะ!! มันก็แค่เหตุการณ์ที่คล้ายกับการจับตัวประกัน หลัวปิง เธอต้องทำได้!! เธอจะต้องทำได้!!
ฉันรับตาก่อนอกสูดลมหายใจเข้า ถอนลมหายใจออก หายใจเข้า หายใจออก ฉันพยายามสุดความสามารถในการควบคุมสติอารมณ์ เพื่อเผชิญหน้ากับสถานการณ์อันน่าเหลือเชื่อแบบนี้
"จับเธอ!! อย่าปล่อยให้เธอวิ่งไปมา!!"
"อ๊าา!! ได้โปรดเมตตา ปล่อยฉันไปเถอะ ปล่อยฉันไป…..อ๊าาาา!! อย่ามาแตะต้องฉัน ไม่!! ไม่!!"โลกทั้งใบเต็มไปด้วยเสียงกรีดร้องและเสียงอันแสนสยดสยองจากหญิงสาว รวมถึงเสียงหัวเราะอันโหดเหี้ยมและบ้ากาม
ฉันลืมตาขึ้น หญิงผู้นั้นน่าสงสารมาก ฉันจะต้องช่วยเธอ!!
เหอเล่ยจับหัวของเขาด้วยความโกรธ เสียงร้องของเธอทำให้เขาทรมาน เขาเดือดดาลเหมือนสัตว์ร้ายที่พยายามดิ้นรนจากกับดักแต่ก็ไม่อาจหลุดพ้นจากพันธนาการได้
เสียงโหยหวนของหญิงสาวเตือนให้ฉันสงบสติ ฉันจะต้องหาวิธีเอาตัวรอด เห็นได้ชัดเลยว่า มันคงไม่ฉลาดเลยหากยังต้องติดอยู่ในกรงต่อ
ฉันได้รับข้อมูลที่ใช้งานได้อยู่ 2 อย่าง
ประการแรก เด็กผู้หญิงที่อยู่ที่นี่เป็นสิ่งมีค่าและสามารถขายได้ในราคาดี ถ้าหากฉันยังติดอยู่ที่นี่ ตัวตนที่แท้จริงของฉันที่เป็นเด็กผู้หญิงจะต้องถูกเปิดเผย ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเวลา แล้วถ้าเกิดเรื่องแบบนั้น สภาพของฉันก็คงไม่ต่างจากผู้หญิงคนนั้น!!
ประการที่สอง ผู้ชายที่อยู่ที่นี่เป็นเหมือนสิ่งของไร้ค่า ทำได้เพียงแค่รอคอยและอาจถูกกิน แม้ว่าฉันจะไม่เชื่อเรื่องนี้ แต่ด้วยสถานการณ์พิเศษ เหตุผลนี้ก็ควรถูกนำมาพิจารณา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อฉันถูกขังอยู่กับกลุ่มชายที่มีชื่อว่าอาซิงและเหอเล่ย เห็นได้ชัดว่าพวกเขาแตกต่างจากคนอื่นๆ ตรงที่ฉันอยู่น่าจะเป็นที่อยู่ของพวกที่มีสถานะพิเศษ และการอยู่ในกรงเดียวกับพวกสถานะพิเศษนันไม่ดีเลย!!
ฉันจะต้องหนี
และฉันก็ไม่สามารถนั่งทนดูหญิงสาวเหมือนกับฉันถูกละเมิดได้
ฉันกำลังมองไปรอบๆและเห็นว่าไม่มีใครคอยจ้องมองพวกเรา มันทำให้ฉันเชื่อว่าพวกเขาใช้คนเฝ้าน้อยกว่าที่คิด ดูเหมือนจะมีเพียงชายคนเดียวที่อยู่ใกล้ ซึ่งเขากำลังยืนพิงกรงที่อยู่ตรงข้ามพวกเราพร้อมรอยยิ้มประสงค์ร้าย เขาเรียนริมฝีปากกลืนน้ำลายราวกับว่ากำลังรอคอยคราวของเขา
ฉันหันไปมองเพื่อนนักโทษอีก 2 คนที่อยู่ในกรง "เฮ่ย!!" ฉันเรียกความสนใจจากพวกเขาด้วยเสียงแหบแห้ง "เหอเล่ย นายดูเหมือนนักสู้ นายสู้เป็นหรือไม่?"
เหอเล่ยมองกลับมาหาฉันด้วยความสงสัย สายตาอันเฉียบแหลมของเขามองออกไปด้านนอกและกล่าวว่า "ผมออกไปข้างนอกไม่ได้" ดวงตาของเขาลุกเป็นไฟ "ถ้าหากผมออกไปได้ ผมจะฆ่าพวกมันทั้งหมด" เขากัดฟันแน่นและกล่าวย้ำคำเดิม "ฆ่าพวกมันทั้งหมด!!"
"ฆ่าพวกมันทั้งหมด?"ฉันต้องบอกเขาด้วยความตกใจ เขาดูอายุมากกว่าฉันแค่ 2-3 ปีเป็นอย่างมาก ชายหนุ่มอายุ 18 พูดคำว่า "ฆ่า" เต็มปากได้อย่างไร? นี่ฉันอยู่ในโลกแบบไหนกันแน่?
ฉันไม่มีเวลาจะคิดแล้ว ฉันได้แต่ถามด้วยน้ำเสียงกระซิบว่า "มีคนหลายคนอยู่ข้างนอก พวกมันล้วนมีปืน นายมั่นใจจริงหรือ?"
เหอเล่ยกำหมัดแน่นก้มหน้าลงต่ำด้วยความโกรธ "ผมรู้วิธีใช้ปืน แต่พวกมันยึดเอาปืนของผมไป!"
"แต่พวกเราออกจากกรงไม่ได้….."อาซิงกล่าวขณะที่เขายังคงนอนขดอยู่ที่มุมกรง เขาดูเหมือนนายน้อยจากตระกูลที่ร่ำรวย ร่างกายของเขาหยุดสั่นและเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ยังคงกอดตัวเองเอาไว้แน่น เขามองเหอเล่ยผ่านช่องว่างระหว่างแขน
ฉันจ้องมองไอ้พวกคนเลวที่อยู่ด้านนอก และหันไปยิ้มให้กับเหอเล่ย "ผมจะเอาปืนให้คุณ"
เหอเล่ยตกใจมาก "อย่างไร?"
"รอและดู"ฉันหันกลับไปเอาไหล่กระแทกกรง พร้อมกับเรียกด้วยเสียงแหบแห้ง "เห้ย!! เห้ย!!"
พวกทหารไม่สนใจฉัน เขากำลังชะเง้อคอดูหญิงสาวที่กำลังจับง่ามขาของเขาอย่างไม่สบอารมณ์ ดูเหมือนเขาจะทนรอไม่ไหวแล้ว
ฉันหยิบก้อนหินที่ตกอยู่ข้างกรงขว้างใส่เขา "เห้ย!!"
ทหารคนนั้นหันกลับมาจ้องฉันทันที "นายมีปัญหาอะไร?"
ฉันถอดเสื้อแจ็คเก็ตออก และมัดมันไว้ที่เอว "หยุดมอง แล้วเข้ามาเล่นสนุกกับฉันสิ"
เหอเล่ยและอาซิงตัวแข็งทื่อเมื่อเห็นฉัน ฉันมองพวกเขาและหันกลับไปมองทหารซึ่งกำลังมองฉันอย่างมีเลศนัย "เธอก็ด้วยเหรอ?"
"เข้ามาสิ ที่นี่แทบจะไม่มีผู้หญิงเลย เดี๋ยวผมจะเป็นเพื่อนเล่นกับนายเอง สิ่งที่นายต้องทำคือเล่นกับผมด้วยความทะนุทะน้อมหน่อยนะ"ฉันบิดตัวด้วยท่วงท่ายั่วยวน ขณะปลดกระดุมชุดนักเรียน ฉันดึงเสื้อลงด้านข้างเพื่อให้เห็นไหล่อันเรียบเนียนและผิวหนังอันสะอาดสะอ้าน
ทหารคนนั้นเดินตรงเข้ามาหาฉันทันที "นายนี่มันลามกจริงๆ ผมคิดว่านายคงกระหายผู้ชายตลอดเวลาแน่ๆ ดี เดี๋ยวผมจะทำให้นายพึงพอใจเอง!!"เขาหยิบกุญแจออกมาเปิดประตูกรงขังด้วยความรีบร้อน ตัวของฉันยังคงจ้องมองเขาด้วยสายตายั่วยวน และกวักมือเรียก "มานี่สิ!!"
เขารีบกระโจนเข้ามาหาฉัน ซึ่งฉันก็ยกขาพาดไหล่ของเขา *ปังงง!!* จากนั้นก็ผลักเขาชนกับประตูกรง ขาขวาของฉันอยู่เยื้องใบหน้าของเขาแค่เพียงเล็กน้อย ทุกคนที่อยู่ในห้องขังจ้องมองฉันด้วยความตกใจ เมื่อมาถึงจุดนี้ ทหารคนนั้นรู้สึกตื่นเต้นมากจนเลือดไหลออกจากจมูก
**********เอ๋ๆๆ แปลกๆ ผมและนาย******