(update ทุกวันๆละ 2 ตอนน้า แต่บางวันอาจมากกว่านั้น)
เล่มที่ 1 ตอนที่ 6 - ยาแก้พิษ
เหอเล่ยมองดูหญิงสาวที่กำลังตกใจและกำหมัดกัดฟันด้วยความโกรธ เขาเตะกองไฟที่อยู่ด้านข้างจนประกายไฟฟุ้งกระจาย
"พวกเราปล่อยมันหลุดมือไป 2 คน!! หัวหน้าของพวกมันไม่อยู่ที่นี่!!"อาซิงกล่าวอย่างฉับพลัน
ดูเหมือนว่าอาซิงจะเริ่มนับจำนวนศพด้วยเหตุผลบางอย่าง จริงๆแล้วเขาก็ไม่ใช่คนธรรมดา
เหอเล่ยหันมองรอบๆเพื่อหาปืนของตัวเอง
อาซิงค้นตัวศพและพบปืน 2 กระบอก "อยู่นี่….ปืนของนาย" เขาโยนปืน 2 กระบอกให้กับเหอเล่น ซึ่งเหอเล่ยก็รีบโยนปืนในมือทิ้งเพื่อคว้าเอาปืน 2 กระบอกของตัวเอง ปืนทั้งสองกระบอกมีสีดำพิมพ์ลายสายฟ้าสีเงิน ปืนทั้งสองกระบอกลอยผ่านอากาศเป็นแนวเส้นโค้งถึงมือเหอเล่ย เขารับปืนแล้วหมุนตัวอย่างมีสไตล์และยิ้มอย่างพึงพอใจ ในขณะที่เขาถือปืน ความตื่นเต้นในดวงตาของเขามันเหมือนกับเสือจากัวร์ที่พร้อมจะออกล่าเหยื่อ!!
"มองหายาแก้พิษ!!"เหอเล่ยออกคำสั่ง อาซิงรีบค้นหาจากศพคนอื่น ในชั่วพริบตา ดวงตาของเขาก็ส่องประกาย เขาพบเข็มฉีดยาขนาดเล็กที่บรรจุของเหลวสีฟ้าบนตัวศพโจร
เขาพิจารณาเข็มฉีดยา จากนั้นก็โยนให้กับเหอเล่ย เหอเล่ยรับเข็มแล้วแทงเข้าที่คอของตัวเองทันที ฉันได้แต่ตกตะลึง ดูเขาชีพของเหลวเข้าร่างกาย เหอเล่ยถูกวางยา?
หลังจากเขาโยนเข็มฉีดยาทิ้ง เขาก็หลับตาแล้วสูดลมหายใจเข้าลึกๆ สิ่งที่เกิดขึ้นต่อไปมันทำให้ฉันประหลาดใจสุดขีด ฉันมองเห็นวงแหวนแสงคล้ายสายฟ้ากระพริบรอบตัวของเขา อย่างไรก็ตาม วงแหวนแสงก็หายไปอย่างรวดเร็ว ราวกับว่ามันเป็นเพียงภาพจินตนาการของฉัน
เขาลืมตาขึ้น ภายใต้นัยน์ตาสีดำ ดวงตาของเขาดูคมชัด
"ระวังตัว โดยปกติแล้ว หัวหน้าของพวกมันก็เป็นนักผจญรังสีที่มีพลังพิเศษ"อาซิงลุกขึ้นยืนและจ้องมองเหอเล่ยอย่างประหม่า
"เxี้ยอะไรเนี้ยย?"ฉันจ้องมองเขาด้วยความสงสัย เขามองกลับมาด้วยความแปลกใจ โดยที่นัยน์ตาของเขาปรากฏแสงสว่างวาบสีม่วงอีกเส้น "ไม่ใช่เxี้ย แต่เป็นมนุษย์!! นักผจญรังสี!! ว่าแต่คุณไม่ใช่นักผจญรังสีเหมือนกับผมหรือ?"เขาจ้องมองฉันด้วยความสงสัย ในที่สุดฉันก็เห็นประกายแสงสีม่วงนัยน์ตาของเขาอย่างชัดเจน
"นายสวมอะไรเข้าไปในดวงตาของนาย?"ฉันชี้นิ้วไปที่ตาของเขา ขณะที่เขาตกใจและรีบมองออกไปด้านข้าง ทันใดนั้นคนในกรงด้านข้างก็ตะโกนว่า "ไป!! วิ่งออกไปข้างนอก!!"
เหอเล่ยและอาซิงดูตกใจมาก เหอเล่ยมองกลับมาที่พวกเรา "อยู่ที่นี่ เดี๋ยวผมจะฆ่าพวกมันทั้งหมด!!"จากนั้นเขาก็หยิบปืนขึ้นมือและเริ่มออกไปไล่ล่า
"รอผมด้วย!!"อาซิงไล่ตามเขาไป
"ฉันมองดูหญิงสาวที่นอนขดตัวอยู่ข้างกองไฟผุๆ เธอกอดเสื้อที่เหอเล่ยให้เธอแน่น ฉันค่อยๆนั่งยองลงข้างๆเธอ ฉันตั้งใจจะยื่นมือไปปลอบเธอ แต่ถึงอย่างนั้นน้ำเสียงของฉันก็ฟังดูเหมือนผู้ชาย ซึ่งเธอเองก็คงกำลังรังเกียจผู้ชายมาก
กระเป๋าของฉัน
ฉันสอดส่ายสายตามองไปรอบๆ และเป็นไปตามที่คาด ฉันเห็นกระเป๋าสกปรกของฉันตั้งอยู่ในกองสิ่งของที่อยู่ใกล้ๆกองไฟ กระเป๋าสีดำของฉันเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบฝุ่น
ฉันรีบหยิบกระเป๋าแล้วเปิดมันออก เฮ้อ โชคดีจริงๆทุกอย่างยังคงอยู่ครบ ฉันหยิบกล่องนมออกมาแล้วเดินไปหาหญิงสาวคนเดิม เธอขดตัวและพยายามถอยห่าง เธอช่างเหมือนกับสัตว์ที่กำลังตื่นตระหนก ใครที่เข้าไปเธอจะทําให้เธอหวั่นกลัวหมด นอกจากคนที่มอบเสื้อผ้าให้เธอปกปิดร่างกาย
ฉันจึงจำเป็นต้องหยุดเดิน แล้ววางนมไว้ห่างจากเธอประมาณ 1 เมตร "ไม่ต้องกังวลนะ ตอนนี้เธอปลอดภัยแล้ว นี่คือนม"
เมื่อฉันพูดคำว่า 'นม' เธอดูตกใจมาก แม้เธอจะขดตัวแน่น แต่สายตาของเธอก็จดจ่ออยู่กับกล่องนมในมือของฉัน เมื่อเธอเห็นกล่องนมสีหน้าของเธอก็เต็มไปด้วยความกังวลราวกับว่าเธอไม่เคยเห็นกล่องนมในมือของฉันมาก่อน เธอระแวงกล่องนมของฉันอย่างกับว่าฉันกำลังยื่นยาพิษน่าสงสัยให้กับเธอ
ฉันยังคงจ้องมองเธอ ก่อนจะดื่มนมในกล่องเล็กน้อย สายตาที่ตื่นตัวและสงสัยก็ยังคงไม่ลดลง ฉันจึงทิ้งกล่องนมไว้ที่พื้นประมาณ 1 เมตรเหมือนเดิม และหันไปไล่ตามอาซิงกับเหอเล่ยโดยไม่ได้หันมาหาเธออีก
ฉันเองก็เป็นเด็กผู้หญิงเหมือนกับเธอ และเคยได้ยินเรื่องราวทุกอย่างที่เธอเพิ่งเผชิญ ถ้าเป็นฉันฉันก็คงสวมกอดร่างกายตัวเองแน่นด้วยความกลัว ฉันคงจะกลัวทุกคนที่เข้าใกล้ แต่ที่ต่างกันคือ ฉันคงจะสูญเสียสติในการควบคุมตน และไล่ล่าทุกวันเหมือนกันเหอเล่ย!! จนพวกมันคนสุดท้ายจะต้องตายด้วยเงื้อมมือของฉัน
ประสบการณ์ที่เธอได้รับมันเลวร้ายมาก คนพวกนั้นมันสมควรตาย!!
ความโกรธที่เกิดขึ้นในใจของฉันลบล้างความกลัวทั้งหมด ฉันวิ่งผ่านกรงนักโทษและเห็นผู้คนยืนจับลูกกรงอยู่อย่างเงียบๆ สิ่งที่ฉันเห็นคือใบหน้าอันแสนสกปรก ดวงตาของพวกเขามีสีที่แตกต่างกัน ต่างคนต่างจ้องมองด้วยความกังวลและหวาดกลัว ความกลัวที่กำลังจะถูกความกลัวอันใหญ่กว่ากลืนกิน ถ้าหากเหอเล่ยไม่สามารถฆ่าคนที่หนีรอดไปได้ เห็นได้ชัดเลยว่าคนเหล่านี้กำลังกลัวพวกโจรหวนกลับมา
ถ้าหากโจรร้ายหนีไปได้ ฉันนึกไม่ออกเลยว่าพวกมันจะกลับมาแก้แค้นด้วยวิธีใด!!
ฉันมาถึงทางเข้าโกดังที่มีไฟสลัวและเห็นเหอเล่ยกับอาซิงยืนอยู่ที่ทางเข้าโกดัง เหอเล่ยผลักประตูเข้าไป พายุที่รุนแรงพุ่งออกมาจากประตูโกดังทันทีเหมือนพายุทราย พายุรุนแรงจนลืมตาขึ้นแทบจะไม่ได้ แต่ในขณะเดียวกัน เหอเล่ยก็ยืนอยู่ท่ามกลางพายุ เขาดูตัวเล็กเป็นพิเศษ ถึงอย่างนั้น ประกายแสงก็ปรากฏขึ้นบนมือของเขาทำให้เขากลายเป็นร่างพร่ามัวไม่มีใครละสายตาจากเขาได้
เหอเล่ยและอาซิงวิ่งออกจากโกดังทีละคน เมื่อฉันไปถึงประตู ฉันถึงกับตะลึง โลก….ที่กำลังใกล้ตาย!!
ฉันมองเห็นทะเลสาบอันไร้พรมแดนเบื้องหน้า ภายใต้แสงจันทร์สว่างไสว ทะเลสาบทั้งหมดมีสีเบอร์กันดีแปลกๆราวกับมีคนลอกผิวโลกออกมา เคยเห็นเนื้อสีแดงเน่าข้างใต้ บรรยากาศส่งกลิ่นเหม็นเน่าฉุน พร้อมกับแสงจันทร์ที่แปดเปื้อนไปด้วยสีแดงเข้มน่าขนลุก
บนท้องฟ้าเข้ม มีแผ่นวงกลมลอยอยู่ แล้วถัดจากมันก็มีพระจันทร์!! พระจันทร์เสี้ยว!! ดูเหมือนขนาดของมันจะเท่ากับดวงจันทร์ธรรมดา แต่สภาพแวดล้อมโดยรอบเป็นหลุมเป็นบ่อดูไม่ราบเรียบ แล้วมันก็อยู่ใกล้กับพวกเรามาก
เดี๋ยวก่อนนะ มันคงไม่ใช่ดวงจันทร์เพราะมันมีแสงดาวระยิบระยับ วิบวับเหมือนกับสัญญาณไฟบนตึกสูง นอกจากนี้ยังมีจุดสีดำหนา เคลื่อนไหวคล้ายกับกำลังโคจรรอบโลกอย่างช้าๆ
"บรึ้นนน บรึ้นนน!!"ทันใดนั้น ฉันก็ได้ยินเสียงเครื่องยนต์ทำงาน
ลมพายุสงบทันที บนทะเลสาบไร้พรมแดนมองเห็นเป็นร่างเหอเล่ยกำลังไล่ตามโจร ข้างหน้าของเขา…..มีรถมอเตอร์ไซค์ 2 คัน?
บ้าเอ้ย!! เหอเล่ยกำลังไล่ตามมอเตอร์ไซค์ด้วยเท้าเปล่า!!? แถม สิ่งที่ท่อไอเสียมอเตอร์ไซค์พ่นออกมาไม่ใช่ควันแต่เป็นไฟสีฟ้า!! แม้แต่เสียงของมอเตอร์ไซค์เองก็เหมือนหลุดออกมาจากภาพยนตร์ไซไฟ