เล่มที่ 1 ตอนที่ 9 - ทำให้เขาระเบิด
"ฮ่าฮ่าฮ่า!! ปืนเป็นเพียงสิ่งของไร้ประโยชน์ พลังของข้าคือกลายเป็นหินหลังจากตาย!!"เขาฉีกยิ้ม ภายใต้ดวงตาแดงก่ำเป็นไปด้วยความตื่นเต้นที่จะได้สังหารผู้อื่น
กลายเป็นหิน? หืม? เขาไม่ได้กลายเป็นฟอสซิลแทนหรือ?
"ตาย!!"เขาส่งเสียงคำรามและนั่งลงกลายเป็นฐานปืนที่แข็งแกร่ง จากนั้น เขาก็ยกมือขึ้นแล้วเล็งมาที่พวกเรา
"ระวัง!!"อาซิงตะโกน ทันใดนั้น ก้อนหินก็พุ่งออกมาจากนิ้วมือหัวหน้าโจร!!
ถูกต้อง!! มันมีก้อนหินสีแดงเข้มยิงออกมาจากนิ้วมือของเขาจริงๆ!!
ปะปรังประปรังปังงง!! เขายิงก้อนหินออกจากนิ้วมือทั้ง 10 นิ้วอย่างต่อเนื่องเหมือนกับปืนกล!! พวกมันออกมาในลักษณะเหมือนกระสุนจริงๆ!!
เพล้งง!! ทันใดนั้นฉันก็รู้สึกเจ็บแปล๊บที่หัวเข่าขวา ราวกับว่าขาขวาทั้งขาของฉันสูญเสียเรี่ยวแรง ฉันคิดว่าฉันจะต้องตายที่ดีแน่!!
ฉันกำลังจะเริ่มร้องไห้อย่างจริงจัง ฉันมาถึงโลกใบไหนสักแห่งและเอาชีวิตนี้รอดมาได้อย่างหวุดหวิด และตอนนี้ฉันกำลังจะตายจากกระสุนหินที่ยิงออกมาจากนิ้วมือคนตาย? ฉันเสียใจมากที่มันเกิดเหตุการณ์ฉับพลัน และเมื่อไม่นานมานี้ ฉันก็เพิ่งจะจองตั๋วทัวร์คอนเสิร์ตคุณชายกั๋วไป
แต่แล้ว ฉันก็รู้สึกว่ามีใครบางคนกำลังอกเอวฉันจากด้านหลัง เขาพาฉันหลุดพ้นจากฝูงกระสุนหิน
ในตอนที่เขาพาฉันออกไป เวลารอบตัวของฉันดูเหมือนจะเดินช้าลง ในสายตาของฉัน ก้อนหินเคลื่อนผ่านอากาศอย่างช้าๆ และฉันก็เห็นกระแสอากาศที่เกิดขึ้นด้านหลังกระสุนหินอย่างชัดเจน
ในพริบตา พวกเราก็หยุด ฉันรู้สึกคลื่นไส้ราวกับเพิ่งลงมาจากรถไฟเหาะ เหอเลยวางฉันลงและหายวับไปต่อหน้าต่อตาฉันอีกครั้ง ฉันถูกพาตัวออกมาห่างจากเขตระยะกระสุนหิน ฉันนั่งอยู่บนพื้นสีแดงเข้มที่ส่งกลิ่นเหม็นและมองเข้าไปในหัวเข่าผ่านขากางเกงที่ชุ่มเลือด ฉันมองเห็นรูและเลือกที่กำลังไหลออกมาจากบาดแผลอย่างต่อเนื่อง
ฉันหลงลืมความเจ็บปวดอันแสนสาหัสไปชั่วขณะ ถ้าหากสัตว์ประหลาดตัวนั้นมีภูมิต้านทานต่ออาวุธทุกชนิด แล้วเหอเล่ยจะเอาชนะศึกครั้งนี้ได้อย่างไร? ถ้าหากเขาพ่ายแพ้ พวกเรารวมไปถึงคนที่อยู่ในโกดังก็ต้องกลับไปตกอยู่ในอันตราย และ….หญิงสาวคนนั้น……
*แหวะ!*เสียงเกือบอาเจียนดังขึ้น อาซิงก็ถูกเหอเล่ยโยนออกมาด้วย เห็นได้ชัดว่าอาซิงก็ยังไม่สามารถปรับตัวเข้ากับความเร็วในการเทเลพอตได้ เขาที่กำลังพยายามพยุงตัวขึ้นนั่งคุกเข่า สภาพดูย่ำแย่กว่าฉันอีก
เหอเล่ยจ้องมองมาที่พวกเราด้วยสายตาเย็นชาขณะที่เขาพูดว่า "พวกนายสองคนรอตรงนี้!!"จากนั้นเขาก็หายวับไป หัวหน้าโจรร่างหินลุกขึ้นยืนแล้วยิงกระสุนก้อนหินออกไปทั่วทุกทิศทาง
เหอเล่ยเคยบอกว่าเขาเกลียดคนจากเมืองพระจันทร์เงิน แต่อย่างไรก็ตาม เมื่ออาซิงตกอยู่ในอันตราย เขาก็เข้าไปช่วยเหลืออาซิงโดยไม่ลังเล
"นายกำลังบาดเจ็บ นายต้องรีบห้ามเลือด"อาซิงฟื้นคืนสติ เขาจะมองขาที่บาดเจ็บของฉันขณะจับเข่าตัวเอง
ความเจ็บปวดที่เคยมีกลายเป็นความรู้สึกชา แม้ฉันจะรู้วิธีห้ามเลือด แต่บาดแผลก็เหมือนกับการถูกยิงด้วยลูกกระสุนปืน ลึกและทะลุทะลวง!!
"ให้ผมช่วย"เขาคุกเข่าลงต่อหน้าฉัน เขายังคงขมวดคิ้วสีหน้าอดกลั้นความรู้สึกไม่สบายจากอาการคลื่นไส้ เขายื่นมือไปบริเวณรูเพื่อจะฉีกกางเกง แต่เขาก็ทำไม่ได้ "วัสดุนี้มันอะไรกัน?" เขาถามด้วยความตกใจ
"ผมทำเอง"ฉันเบื่อหน่ายความเจ็บปวดและดึงกางเกงขึ้น โชคดีที่ชุดนักเรียนของฉันหลวม น่องของฉันเปียกชุ่มไปด้วยเลือด ทำให้ผิวหนังที่ดูเรียบเนียนของฉันซีดจางลงทันทีเมื่อเทียบกับเลือดแดง
อาซิงจ้องมองน่องของฉัน และมีความสงสัยอยู่ในสายตา
ร่างกายของฉันอาจจะไปด้วยเหงื่อเย็นๆจากความเจ็บปวด ฉันดึงกางเกงขึ้นเหนือเข่า เผยให้เห็นแผลเลือดไหล ขณะที่ฉันถามว่า "นายจะห้ามเลือดได้อย่างไร?"
อาซิงกลับคืนสู่ความเป็นจริง แล้วหยิบลูกบอลเล็กๆออกมาจากกระเป๋า ลูกบอลโลกนี้เหมือนขนมที่มีสีขาว ระหว่างที่เขาจับน่องของฉัน เขาและดูตกตะลึง ขนตาล่างของเขาสั่นไหวภายใต้แสงจันทร์ ราวกับว่ามันมีบางอย่างทำให้เขาตกใจมาก
จากนั้นเขาก็วางลูกบอลสีขาวลงบริเวณบาดแผลหัวเข่าของฉันอย่างระมัดระวัง ทันใดนั้นสิ่งมหัศจรรย์บางอย่างเกิดขึ้น ลูกบอลสีขาวพองตัวอุดรูบาดแผล ทำให้เลือดหยุดไหลไปพร้อมกับความเจ็บปวดที่หายไป
นี่มันเป็นเทคโนโลยีแบบไหนกันนะ? หยุดเลือดได้เร็วขนาดนี้เลย? แล้วมันจะไม่ส่งผลกระทบต่อเส้นเลือดและเส้นประสาทของฉันหรือ?
ฉันต้องมองบาดแผลที่ถูกปิดผนึก ส่วนอาซิงก็ดึงขากางเกงของฉันลงอย่างระมัดระวัง "สิ่งนี้จะหยุดเลือดได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น เดี๋ยวตอนหลัง ผมจะให้พวกเหนือมนุษย์มารักษาให้กับนาย"
"พวกเหนือมนุษย์จากเมืองพระจันทร์เงิน?" ฉันมองเขาด้วยความตกใจ แต่เขาก็เงยหน้ามองพระจันทร์เสี้ยวที่อยู่ในอากาศ ทันใดนั้น จุดแสงก็บินตรงมาจากพระจันทร์อันแสนงดงามคล้ายกับดวงดาว
อาซิงลุกขึ้นยืนและจ้องมองเหอเล่ย สายลมยามค่ำคืนพัดผ่าน ภายใต้แสงจันทร์ ประกายแสงสีม่วงปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา ทันใดนั้นเขาก็ตะโกนว่า "เหอเล่ย หนีไปเร็ว!!"
กระแสลมกรรโชก เหอเล่ยมาปรากฏตัวต่อหน้าพวกเรา เขาเงยหน้ามองแสงที่กำลังเข้าใกล้ จุดแสงระเบิดขนาดใหญ่พุ่งตกลงมาจากท้องฟ้ากระแทกเข้ากับตัวมนุษย์หิน *ครึ้นนน* หลังจากเสียงระเบิดดังกึกก้อง โลกทั้งใบก็เหลือเพียงแค่ฝุ่นละออง
หัวหน้าโจรร่างหิน แตกกระจายเป็นชิ้นๆ….
สายลมยามค่ำคืนพัดผ่านอีกครั้ง ทำให้ฝุ่นฟุ้งกระจายไม่เหลือร่องรอยใดๆ
"ในที่สุดมันก็ลงมือทำ"เหอเล่ยจ้องมองอาซิงอย่างเย็นชา อาซิงไม่โต้ตอบใดๆ จากนั้นเหอเล่ยก็หันมาที่ฉัน "แผลของนายเป็นอย่างไรบ้าง?"
"เลือดหยุดไหลแล้ว"อาซิงตอบ
เหอเล่ยจ้องมองไปที่อาซิงอีกครั้ง พวกเขาต่างก็เงียบ และก้มหน้าลงช่วยเหลือฉันราวกับว่าความอึดอัดหายไปชั่วขณะ
ทั้ง 2 ดึงแขนฉันขึ้นคนละข้างและช่วยพยุงฉัน ขาขวาของฉันเปื้อนเลือดและปวดเมื่อย ฉันไม่สามารถออกแรงได้เหมือนปกติ
ฉันต้องมองทั้งสองคนและกล่าวว่า "ผมจำคำพูดคำนึงได้ ภาพวาดงดงามเกิดขึ้นจากหลายแปรง เหอเล่ย บางทีนายอาจจะเกลียดคนของเมืองพระจันทร์เงิน แต่อาซิงก็มีแนวทางของตัวเอง เขาพยายามทุกวิถีทางเพื่อช่วยนาย"
เหอเล่ยยังคงเงียบในขณะที่อาซิงก็ไม่พูดจาตอบโต้ พวกเขาพยายามช่วยฉันอย่างเงียบๆ
คนค่อยๆออกมาจากโกดังทีละคน พวกเขากอดกันอย่างตื่นเต้น
ยานอวกาศทรงกลมแบนทะยานจากท้องฟ้าลงมาจอด มีแสงไฟสีฟ้ากระพริบอยู่กับตัวยาน ที่ปีกด้านข้างมีสัญลักษณ์รูปพระจันทร์เสี้ยว ภายใต้พระจันทร์เสี้ยวมีลวดลายเหมือนไม้พาย สัญลักษณ์ที่เห็นดูเหมือนเรือพระจันทร์
ยานอวกาศลอยอยู่บนอากาศ มันเล็กมากและบรรจุคนได้เพียงแค่ 2-3 คน ทางเข้าเปิดออก มีนักบินในชุดเครื่องแบบสีเงินออกมาดู เขาพยักหน้าให้กับอาซิง และอาซิงก็มองเข้าไปหาเหอเล่ย "ผมคงต้องไปแล้ว"
เหอเล่ยเหลือบมองเขาด้วยความเงียบ เขาจ้องมองผู้คนที่เดินออกมาจากโกดัง มีคนนึงวิ่งเข้ามาและถามว่า "หัวหน้า พวกเราควรจะทำอย่างไรกับคนเหล่านั้นดี?" เขาชี้ไปทางคนที่อยู่ด้านข้าง ดูเหมือนว่าคนของเหอเล่ยจะไม่ใช่คนกลุ่มเดียวที่ถูกจับตัวมา ในบรรดาคนเหล่านั้นก็มีผู้หญิงรวมอยู่ด้วย