เล่มที่ 1 ตอนที่ 20 - นกศพครั้งหนึ่งเคยเป็นมนุษย์
กรงเล็บขนาดใหญ่ปิดกั้นฉันจากด้านหน้า มันคือกรงเล็บของสัตว์ประหลาด เธอกำลังปกป้องฉันเหมือนว่าฉันเป็นลูกของเธอ
ชายคนนั้นมองไปข้างหน้าและยังคงคำนวณ จากนั้นก็เริ่มเขียนอะไรบางอย่างลวกๆด้วยมือขวา เมื่อเขาหยุดเขียนเขาก็ยกหนังสือหันมาทางฉันเพื่อให้ฉันได้อ่านข้อความของเขา "ผมชื่อว่าราฟเฟิล ผมเป็นซินเนสเทอร์ตี้ ผมกำลังคำนวณว่าต้องใช้กระจกกี่บานเพื่อทำให้พืชผลของเราได้รับแสงแดดเพียงพอ โปรดอย่าคิดว่าผมเป็นคนแปลกประหลาด คุณสบายดีหรือไม่?"
ฉันจ้องมองเขาด้วยความตกตะลึง ขณะที่เขายกหนังสือเล่มเล็กขึ้นมาและมองไปข้างหน้าพร้อมกับคำนวณอย่างต่อเนื่อง มันให้ความรู้สึกเหมือนมีกระดานดำขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยสูตรคำนวณทางคณิตศาสตร์ที่ซับซ้อนอยู่ตรงหน้าเขา แม้ว่าฉันจะไม่ค่อยเข้าใจว่าซินเนสเทอร์ตี้คืออะไร แต่ฉันรู้สึกว่าเขากำลังทำหลายต่อหลายอย่างพร้อมกันอย่างมีประสิทธิภาพ
เขาเขียนลงบนหนังสือเล่มเล็กอีกครั้ง และแสดงให้ฉันเห็นว่า "อย่ากลัวเลย เมืองโนอาห์ไม่ทำร้ายเด็กผู้หญิง ผู้นำของพวกเราคือเจ้าหญิงอาร์เซนอล เจ้าหญิงทรงเป็นห่วงคุณมาก จึงทรงผมให้มาดูคุณ"
เจ้าหญิงอาร์เซนอล - ผู้นำของพวกเขาที่นี่เป็นผู้หญิง
เมื่อรู้เช่นนี้ ฉันก็รู้สึกปลอดภัยมากขึ้น แต่ฉันก็ไม่กล้าคลายความระแวง แม้ว่าครูฝึกทหารเช่อชื่อจะแสดงความเมตตาและความเป็นมิตรต่อฉัน…….ฉันก็ยังไม่เคยลืมเลือนความหวาดกลัวที่เกิดขึ้นตอนเผชิญหน้ากับงูพิษที่เพิ่งผ่านไป………….
ฉันสงบสติอารมณ์
เขาเห็นว่าฉันไม่ได้พูดโต้ตอบ เขาจึงหยิบหนังสือขึ้นมาเขียน "คุณหิวไหม?"
ฉันมองไปที่เขาและกล่าวว่า "นายพูดกับฉันได้ไหม?" ฉันตกตะลึงเมื่อได้ยินเสียงของตัวเอง มันคือเสียงของเด็กผู้หญิงไม่ใช่เสียงแหบห้าวที่เกิดขึ้นจากสารเคมีที่ไหม้อยู่ในคออีกแล้ว ฉันรู้สึกดีมาก ฉันต้องการเผชิญหน้ากับราฟเฟิลเพื่อจะได้สบตาตอนคุยกับเขา
เขาดูแข็งขืนและเริ่มคำนวณกลางอากาศ จากนั้นก็ยกหนังสือให้ฉันดู "ผมอาย"
ฮะ? ฉันอึ้งไปเลย เขาดูลำบากใจมาก
เขาพลิกหนังสือไปอีกหน้า และขีดเขียนลงบนกระดาษ ก่อนจะยกให้ฉันดูอีกครั้ง "ผมรู้สึกประหม่าที่ต้องเผชิญหน้ากับเด็กผู้หญิง แต่เจ้าหญิงและหัวหน้าเช่อชื่อต้องการให้ผมมา พวกเขาบอกผมว่าผมดูอ้อนแอ้น คุณน่าจะไม่กลัว เออ...ผม….ดูอ้อนแอ้นหรือเปล่า?"
ฉันมองไปที่ใบหน้าด้านข้างของเขา ใบหน้าของเขาดูเล็กเพราะผมที่บังใบหน้าด้านข้างบางส่วน ฉันเห็นว่าจมูกของเขาไม่ยาวเกินไป แต่ขนตาของเขายาวงอน ในขณะที่เขากระพริบตาขนตาสีเงินของเขาพริ้วไปมา เขาดู…ยากเล็กน้อยที่จะตัดสินว่าเขาเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง
นอกจากนี้ ร่างกายของเขายังดูอ่อนแอทำให้ผู้คนรู้สึกว่าเขาบอกบาง เมื่อสิ่งมีชีวิตสิ่งหนึ่งเห็นสิ่งมีชีวิตอีกอย่างที่อ่อนแอกว่า พวกเขาจะรู้สึกปลอดภัย มนุษย์ก็มีกระบวนการคิดคล้ายกัน เมื่อเราเห็นคนที่มีรูปร่างกำยำกว่า พวกเราจะรู้สึกตื่นตัว ในทางกลับกัน พวกเราจะไม่ค่อยระมัดระวังเมื่อเห็นเด็กๆที่น่ารัก
อย่างไรก็ตาม เมื่อวานลูกก็ได้สอนบทเรียนให้กับฉัน เด็กตัวเล็กๆในโลกใบนี้ไม่ได้อ่อนแอ
ฉันไม่ได้ตอบกลับเขา เขาจึงหยิบหนังสือขึ้นมาเขียน เขาออกจะดูก่อนเล็กน้อยและยกให้ฉันอ่าน "ผมไม่ได้อ้อนแอ้นบอบบาง!! ผมคือผู้ชายที่แข็งแกร่ง!!"
"อุ๊บบ!!"ฉันอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา ฉันรู้สึกว่าเขาเหมือนเด็กที่กำลังโกรธเพราะมีคนมาล้อเขาว่าเขาตัวเล็ก
เขาหยุดส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวแล้วเหลือบมองฉัน ฉันรีบตื่นเสียงหัวเราะและจ้องมองไปที่เขา เขารีบหันหน้าหนีและแสดงท่าทางคำนวณ ปากกาในมือของเขาก็ไม่หยุดเขียนเช่นกัน
"คุณชื่ออะไร?"
"หลัวปิง"
"คุณพอจะบอกผมได้หรือไม่? ดูเหมือนคุณจะมาจากเมืองพระจันทร์เงิน"
"พวกเราอยากรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น"
ฉันกลายเป็นคนเงียบแต่ก็เข้าใจดี จากวิธีที่อาซิงปฏิบัติต่อฉันเมื่อคืนก่อน ผู้คนบนโลกนี้ต่างตื่นตัวกับคนแปลกหน้า ฉันถูกพบอยู่ในก็สวยหลบหนีที่เป็นทรัพย์สินของเมืองพระจันทร์เงิน ดังนั้นพวกเขาจึงคิดว่าฉันคงมาจากเมืองพระจันทร์เงินด้วย และตัวตนนี้ มันก็ดีกว่าคนแปลกหน้าหรือบุคคลต้องสงสัย
"ไม่เป็นไร ถ้าคุณไม่อยากพูดถึงมัน"เขาเขียนหนังสือและยื่นให้ฉันอ่าน
ฉันมองไปที่เขา "มีชายคนหนึ่งจากเมืองพระจันทร์เงินมารับตัวฉัน แต่พวกเขาก็โยนฉันทิ้ง"
"ทำไม!?"เขาเขียนแล้วยังเพิ่มเครื่องหมายตกใจ
"เพราะว่า…...ฉันไม่ใช่ยอดมนุษย์หรือเด็กผู้หญิง โอ้ อันที่จริงแล้ว ตอนนั้นพวกเขามองไม่ออกเลยว่าฉันเป็นเด็กผู้หญิง"
ราฟเฟิลเก็บหนังสือและไม่ได้เขียนอะไรเพิ่ม ราวกับว่าเขาปิดสมองครึ่งหนึ่งที่กำลังสนทนากับฉัน
"ที่นี่มันคืออะไรแล้วฉันอยู่ที่ไหน? ฉันสูญเสียความทรงจำ ฉันจำไม่ได้ว่าฉันมาจากที่ไหนแล้วจำไม่ได้ว่าบ้านฉันอยู่ที่ไหน"ฉันใช้ข้ออ้างเรื่องความทรงจำอีกครั้ง
ทันใดนั้น เขาก็หยุดและหันมามองฉัน ฉันมองเห็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออก ทั้งยากที่จะระบุเพศ
เขามีดวงตาสีฟ้าอมเทาคู่งามหนังตาสองชั้น…..มันคือสิ่งที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน นอกเสียจากตอนใส่คอนแทคเลนส์ ดวงตาที่ระลึกของเขาทำให้พวกเรายิ่งดูไม่เข้าใจ ในส่วนลึกของดวงตามันเปล่งประกายไปด้วยปัญญาและความเจิดจรัสของจักรวาลอันกว้างใหญ่ เขามีจมูกที่โด่ง ในทางกลับกันเขามีปากเล็กบอบบางเหมือนเด็กผู้หญิงริมฝีปากของเขาเปล่งประกายและมีสีสดใส
เจ้าหญิงและครูฝึกทหารเช่อชื่อพูดถูก เขาดูอ้อนแอ้นอ่อนช้อย ใครก็ตามที่เห็นภาพลักษณ์เช่นนี้จะเผลอไม่ระแวงโดยไม่รู้ตัว บางคนอาจจะรู้สึกอยากปกป้องเขาแทน
เขาจ้องมองฉันด้วยสายตาตื่นตระหนก หูที่ซ่อนอยู่ใต้ผมกลายเป็นสีแดงระเรื่อ สิ่งที่เขาพูดเป็นเรื่องจริง เขารู้สึกประหม่าเมื่อต้องคุยกับสาวๆ การแสดงออกของเขาไม่มีทางปลอมแปลงขึ้นมาได้ เพราะมันคือปฏิกิริยาแรกพบ
เขาหยิบหนังสือขึ้นมาด้วยความกังวลและขีดเขียนอีกครั้ง "ที่นี่คือเมืองโนอาห์ คุณปลอดภัยแล้ว พวกเราจะปกป้องคุณ"
ความรู้สึกสับซ้อนก็เกิดขึ้นทันทีที่เห็นสิ่งที่เขาเขียน ฉันรู้สึกประทับใจและมีคำถามมากมายเกิดขึ้นในหัว ตัวอย่างเช่น มันเกิดอะไรขึ้นกับโลกใบนี้? อะไรคือยอดมนุษย์? อะไรคือนักผจญรังสี? แต่ฉันก็ไม่กล้าถาม ถ้าหากฉันถามมากเกินไป ฉันกลัวว่ามันจะกลายเป็นการเปิดเผยความจริงว่าฉันมาจากโลกอื่น พวกเขาอาจจะมองฉันเปลี่ยนไป และมันอาจจะทำให้ฉันตกอยู่ในอันตรายอีก
ฉันกอดร่างของฉันและมองไปด้านข้าง ฉันเจอคำถามเหมาะสมซึ่งฉันก็ถามว่า "สัตว์ปะหลาดตัวนี้คืออะไร?"
เขาหยิบหนังสือเล่มเล็กขึ้นมา "นี่คือนกศพ - มนุษย์กลายพันธุ์และวิวัฒนาการกลายเป็นสัตว์ประหลาด พวกมันแข็งแกร่งเรื่องการโจมตี!! เธอน่าจะเป็นกลุ่มรุ่นที่ 3"
"อะไรนะ? พวกเขาเป็นมนุษย์!"ฉันอุทานด้วยความตกใจ ฉันยื่นมือไปจับกรงเล็บที่เคยปกป้องฉัน บรรพบุรุษของเธอเคยเป็นมนุษย์!? พลังเปลี่ยนรูปลักษณ์ที่น่ากลัว ยอมแม้กระทั่ง…..ขจัดความเป็นมนุษย์เพื่อพลัง เธอพูดไม่ได้ อาจเป็นเพราะบรรพบุรุษของเธอเคยเป็นมนุษย์หรือเปล่า เธอถึงเข้าใจในสิ่งที่ฉันพูด บางทีเธออาจจะเข้าใจจริงๆ