px

เรื่อง : หลานชายของจักรพรรดิศักดิสิทธิ์เป็นเนโครแมนเซอร์
Chapter 6: เจ้าชายเป็นคนหัวหมอ -1


 

นี่มันไม่ใช่เรื่องธรรมดาทั่วไปเลยสักนิด

 

ภายในค่ำคืนเดียว หมู่บ้านได้ล่มสลายลง เหลือทิ้งไว้เพียงผู้รอดชีวิตประมาณแค่หนึ่งร้อยคน

 

พวกเขาต่างรวมตัวกันอยู่ที่ด้านหน้าโบสถ์ที่ใกล้จะผุพัง ไม่ว่าจะเป็นเด็ก คนแก่หรือภรรยาต่างคร่ำเคร่งอธิษฐานกันอย่างสิ้นหวัง ภายในตึก ในขณะที่พวกผู้ชายต่างลากศพไปยังสุสาน

 

เมื่อเรื่องมันเงียบสงบลง ตัวแทนของหมู่บ้าน หัวหน้าหมู่บ้านเดินมาหาฉันขอบคุณสำหรับการช่วยเหลือครับ ฝ่าบาท

 

ฉันวิตกกังวล หมู่บ้านนั้นล่มสลายก่อนที่น้ำศักดิ์สิทธิ์จะได้แจกจ่ายกันอีกงั้นเหรอ? มันทำให้ฉันมีเรื่องต้องทำอีกเยอะเลย จากการเกิดเหตุการณ์แบบนี้

 

ไม่ใช่ว่ามันมีพาลาดินอยู่ในหมู่บ้านงั้นเหรอ? ฉันถามออกมา นึกถึงพาลาดินที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านที่ใหญ่ที่สุด ซึ่งเขามีหน้าที่คอยจับตาดูฉันเอาไว้

 

หลังจากเกิดเหตุการณ์ขึ้น พวกเราได้ไปตามหาเขามาแล้ว ยังไงก็ตาม สถานที่ที่เขาอยู่กลับเป็นปริศนาซะอย่างงั้น หัวหน้าหมู่บ้านตอบกลับ

 

แล้วส่งจดหมายไปยังจักรวรรดิทีโอเครติคหรือยัง?

 

แน่นอนละว่าเขายังคงโดนลงโทษขับไล่อยู่ แต่เขายังเป็นถึงเจ้าชาย ซึ่งการที่เจ้าชายยังคงอยู่ที่นี่ พาลาดินยังปรากฏตัวขึ้น เนื่องจากเจ้าของร่างกายนี้ออกไปอาละวาดมา ดังนั้นมันไม่มีทางที่พวกผู้คนชั้นสูงจะไม่เห็นการเคลื่อนไหวของฝูงซอมบี้เช่นนี้

 

อย่างน้อยที่สุด พวกเขาก็น่าจะที่ส่งกองกำลังอัศวินหรืออะไรสักอย่างมา

 

นั่นมันพวกเราพยายามที่จะส่งคนส่งสารไปแล้วครับ แต่ว่า..”

 

แต่?

 

เขาน่าจะถูกฆ่าตาย โดยซอมบี้ระหว่างทางไปแล้วครับ

 

“…”

 

มันมีซอมบี้ซ่อนตัวอยู่ตลอดทางไปยังโรเนีย แม้แต่การติดต่อจากผู้คอยสอดส่องยังถูกตัด…”

 

ซอมบี้ของโลกนี้มันช่างน่ามหัศจรรย์เสียนี่กระไร

 

พาลาดินที่คอยดูแลหมู่บ้านหายตัวไป ด้วยเหตุนี้ ซอมบี้จึงใช้โอกาสนี้ในการบุกโจมตีและพวกมันยังตัดเส้นทางออกอีก นั่นหมายความว่าพวกมันสามารถใช้หัวได้?

 

ถ้ามันเป็นแบบนั้นแล้ว เจ้าพวกนี้มันคงน่ากลัวยิ่งกว่าซอมบี้ที่มาจากในหนังเสียอีก ซอมบี้พวกที่วิ่งเหมือนกับพวกนักวิ่งมาราธอนหน่ะ

 

อีกอย่างหนึ่ง การหาต้นตอของโรคระบาดยังเป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้ ถ้ามันมาจากอีกสิ่งหนึ่งที่มีสติปัญญา คอยสั่งการคนอื่น

 

มีซอมบี้อยู่มากเท่าใด?

 

ประมาณ 30ตัวครับ นั่นคือเท่าที่พวกเราเห็นตอนวิ่งหนีออกมา

 

หมู่บ้านที่อยู่ใกล้กับโบสถ์นั้นมีประมาณสี่หมู่บ้าน ฉันไปยังหมู่บ้านที่ล่มสลายไปแล้วเมื่อวาน ดังนั้นนั่นหมายความว่า ในคืนเพียงคืนเดียว หมู่บ้านที่เหลือทั้งสามต่างถูกกวาดออกไปจากในแผนที่แล้ว

 

ถ้ามันมีประมาณสามสิบตัวแล้ว นั่นหมายความว่ามันมีซอมบี้ประมาณสิบตัวในแต่ละหมู่บ้าน? หรือว่าพวกมันร่วมมือกันบุกโจมตีหมู่บ้านด้วยกัน มันไม่เหมือนกับว่าพวกเรากำลังจะจัดการกับรังซอมบี้หรืออะไรแบบนั้นเสียหน่อย ดังนั้นมันไม่จำเป็นต้องกลัวซอมบี้ที่วิ่งไม่ได้หรอก และทำได้เพียงแต่เดินมาอย่างเชื่องช้า อีกอย่างหนึ่ง การโดนกัดเพียงหนึ่งครั้งก็ไม่ได้เปลี่ยนให้กลายเป็นซอมบี้อีกด้วย

 

โอเค แล้วไงต่อ?

 

พวกเราต้องการให้ท่านติดต่อกับปราสาทครับ ฝ่าบาท

 

แต่เจ้าไม่ได้บอกว่าถนนทั้งหมดมันถูกปิดงั้นเหรอ?

 

ไม่ใช่ว่าการอธิษฐานมันมากพอแล้วงั้นเหรอครับ? อย่างเช่น การใช้เวทมนต์อะไรแบบนี้..”

 

โชคร้ายที่ฉันไม่ได้มีสกิลที่สะดวกสบายแบบนั้นนี่สิ

 

ชาวบ้านต่างมองมาที่ฉันด้วยสายตาที่คาดหวัง แต่มันเป็นหน้าที่ของฉันที่จะต้องแจ้งข่าวร้ายให้กับพวกเขา เรื่องแบบนั้นมันเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน เจ้าบอกว่าเจ้าเห็นกลุ่มซอมบี้ใช่ไหม? นั่นหมายความว่าพวกเราไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากการลุกขึ้นต่อต้านมัน จนกว่าพวกพาลาดินจะมาถึง ไม่อย่างงั้นแล้วพวกเราก็คงจะตายกันทั้งหมดนั่นแหละ

 

ฉันไม่อยากให้พวกเขามีความหวัง ดังนั้นฉันจึงบอกสถานะและตำแหน่งของพวกเรา รวมทั้งวิธีการสู้ ด้วยเหตุนี้พวกชาวบ้านจึงตกอยู่ในสภาวะตื่นตระหนก พวกเขาต่างหน้าซีด ในขณะที่บางคนร้องไห้ออกมาอย่างควบคุมไม่ได้ บางคนกรีดร้องออกมาด้วยซ้ำ

 

ชาวบ้านต่างตกอยู่ในความสิ้นหวัง

 

มันเป็นเรื่องที่เห็นได้เด่นชัดมาก ตั้งแต่ที่พวกเขากำลังจะตายโดยโรคระบาดนี่ หรือไม่ก็เปลี่ยนกลายเป็นอาหารมื้อต่อไปของซอมบี้

 

แม้ว่าฉันจะเพลิดเพลินไปกับ ค่าสถานะ แบบเดียวกันกับซอมบี้ การปรากฏตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องของซอมบี้มันก็ยังเป็นเรื่องที่อันตรายสำหรับฉันในระยะยาว ถ้าฉันเอาชีวิตรอดไปได้คนเดียว เมื่อทุกคนต่างตายกันทั้งหมด มันก็ทำให้ฉันดูแปลกไปกว่าคนอื่น ใช่ไหมละ?

 

นั่นหมายความว่าสถานการณ์ในปัจจุบันไม่ใช่สิ่งที่ดีเลยสำหรับชาวบ้านและฉันเอง

 

ได้โปรดช่วยเราด้วยครับ! ฝ่าบาท! ไม่ใช่ท่านเป็นหลานชายของจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์งั้นเหรอ?

 

แม้ว่าจะเป็นอย่างงั้น ฉันก็แค่คนธรรมดาแล้วในตอนนี้

 

ฉันจ้องไปที่หัวหน้าหมู่บ้าน ชาวบ้านเหล่านี้ต่างดูเหมือนจะพึ่งพาหลานชายจักรพรรดิที่ถูกขับไล่

 

ราชวงศ์ที่โดนขับไล่ก็ไม่ได้ต่างไปจากคนธรรมดาที่สูญเสียสถานะทั้งหมดไปหรอก คนที่ถูกขับไล่มายังที่นี่ก็ต้องทำงานที่ยากลำบาก แถมยังต้องคอยรับใช้ชาวบ้านอีก และพวกเขายังไม่ได้รับของตอบแทนกลับคืนมา มันก็ไม่มีกรณีที่คนถูกขับไล่ล้างแค้นกับชาวบ้านด้วยเช่นกัน

 

พวกเขาคงคิดว่าพวกเขาพบเจอคนรับใช้แสนดีที่อยู่ตรงนี้เข้าให้แล้วละ

 

ฉันไม่พอใจกับคำขอของพวกเขา แต่ว่าชาวบ้านก็ดูเหมือนยินดีที่จะช่วยฉันด้วยเช่นกัน

 

ถ้ามันเป็นแบบนี้แล้วละก็....ถ้าเจ้าพวกนี้มันหน้าด้านมากพอที่จะคิดว่าฉันจะ ช่วยเหลือพวกเขาอย่างจริงจังแบบนี้ ฉันคงไม่มีแผนที่จะยิ้มรับมันหรอก

 

ถ้ามันเป็นแบบนี้แล้ว ฉันคงจะไม่เพียงแค่ยิ้มและรับมันไว้อย่างเดียวหรอกนะ

 

เมื่อเป็นแบบนี้แล้ว ฉันควรที่จะหาเงื่อนไขที่ทำให้ฉันสบายที่สุด ฉันยิ้มและจ้องไปที่หัวหน้าหมู่บ้าน ในขณะที่ใช้ [เนตรจิต] ยืนยันสถานะของเขา

 

[ชื่อ : พารอค]

 

อายุ : 75

 

ความสามารถพิเศษ :  ลักขโมย ,ทำไร่ , เล่ห์กล

 

+ สถานะปัจจุบันอยู่ในสถานะหวาดกลัว]

 

รอยยิ้มของฉันปรากฏขึ้น เมื่อฉันศึกษาเขาได้สิ ฉันจะช่วยพวกเจ้าเอง

 

ชาวนาทั้งสองคนที่มาพบกับฉันคืนก่อนยิ้มออกมา ในอีกด้านหนึ่ง ชายที่เหลือทั้งหมดต่างเต็มไปด้วยท่าทางที่หวั่นกลัว

 

ปฏิกิริยาของพวกเขาที่แสดงออกมามันทำให้รู้เลยว่า แม้ว่าฉันจะทุบหน้าอกและประกาศตนออกมา คิดว่าฉันคือใครกัน? ฉันก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากหลานชายของจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์หรอกมันก็ไม่ได้ทำให้คนอื่นเชื่อมั่นในตัวฉันได้สักเท่าไหร่อยู่ดี

 

เนื่องจากว่าฉันแม่งเป็นตัวบัดซบของราชวงศ์ยังไงละ

 

ฉันใช้ภูมิหลังของราชวงศ์ในการข่มขี่ข่มเหงคนใช้และคุกคามทางเพศกับเหล่านางรับใช้ แถมฉันยังเคยพยายามที่จะข่มขืนนางในอีก ใครจะมาเชื่อฉันกัน?

 

หัวหน้าหมู่บ้านลังเลใจก่อนที่จะเปิดปากพูดออกมา แสดงให้เห็นถึงว่าเขายินดีที่จะจับเชือกเส้นสุดท้ายไว้โดยไม่มีตัวเลือกอื่นถ้าอย่างงั้น พวกเราจะอยู่ภายใต้การคุ้มครองของท่านครับ

 

เขาน่าจะเข้าใจดีว่ามันไม่มีทางเลือกที่ดีกว่าการเชื่อนักบวช ที่อยู่เบื้องหน้าของเขาแล้ว

 

แน่นอนว่ามันเป็นการกระทำที่หน้าด้าน

 

ฉันเดาว่าหนึ่งในความสามารถของเขาคือ การหน้าด้าน เมื่อเขาคอยสั่งคนที่มียศตำแหน่งสูงศักดิ์ตามที่เขาต้องการ มันจึงทำให้การกระทำที่หน้าด้านแบบนี้ฝังรางลึกเข้าไปในกระดูกของเขา

 

ช่างเถอะ มันไม่สำคัญหรอก

 

การช่วยเหลือพวกเขาคือหนทางเดียวที่ฉันจะใช้เวลาที่แสนสงบสุขกับตัวฉันเอง นอกจากนี้แล้วฉันยังไม่ต้องไปจัดการกับซอมบี้ด้วยตัวฉันเอง ด้วย

 

ยังไงก็ตาม ฉันมีข้อแม้

 

หัวหน้าหมู่บ้านตัวสั่น ก่อนที่จะหันหน้ามาหาฉัน พร้อมกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสับสน เขาถามฉันออกมาข้อแม้อะไรกันครับ…”

 

ฉันต้องการให้พวกเจ้าจ่ายเงินที่จำเป็นมาให้กับฉัน มันค่อนข้างไม่ยุติธรรมกันเลยใช่ไหมละ ที่ฉันช่วยพวกเจ้าแบบไม่คิดเงินมาโดยตลอด ใช่ไหมละ? เจ้าก็คิดว่างั้นสินะ?

 

ท่านบอกว่า...ให้พวกเราจ่ายค่าจ้างให้กับท่านงั้นเหรอครับ? แต่...แต่ว่าทุกคนที่ถูกขับไล่มาที่นี่นั้น…”

 

ฉันจ้องไปที่หัวหน้าหมู่บ้าน

 

บรรยากาศกดดันที่ฉันส่งออกมาทำให้เขาถอยตัวไปและพยักหน้าผมผมเข้าใจแล้วครับ

 

อย่าไปบอกกับพวกพาลาดินทีหลังนะ เข้าใจไหม?

 

ตราบเท่าที่ฉันอาศัยอยู่ในโบสถ์นี้ ฉันก็จะได้รับอาหารและน้ำมาแบบฟรีๆ ยังไงก็ตาม มันก็แค่นั้นแหละ ฉันไม่มีเงินไว้ใช้ด้วยซ้ำ

 

ทุกๆหนึ่งเดือน พ่อค้านักเดินทางจะโผล่ขึ้นมาในหมู่บ้าน ดังนั้นมันเป็นเรื่องที่ดีที่จะซ่อมโบสถ์โดยเงินที่ฉันจะได้รับทีหลัง จักรวรรดิทีโอเครติคทิ้งฉันไปแล้ว ฉันอาจจะต้องใช้ชีวิตทั้งชีวิตอยู่ที่นี่ ดังนั้นฉันควรที่จะหาเฟอร์นิเจอร์มีไว้สักหน่อยไหมละ?

 

โอ้ อีกอย่างหนึ่งฉันชี้ไปที่โบสถ์ที่ทรุดโทรมนั่นฉันต้องการให้พวกเจ้าซ่อมพวกมันด้วย ในขณะที่พวกเจ้าอยู่ที่นี่

 

ขอโทษนะครับ?

 

หัวหน้าหมู่บ้านมองไปที่โบสถ์ ถึงแม้ว่ามันจะเก่าและทรุดโทรม โบสถ์นี้มันใหญ่มากพอที่จะให้ชาวบ้านอาศัยอยู่กว่าร้อยคน นั่นหมายความว่าค่าซ่อมแซมมันจะค่อนข้างแพง

 

หลังจากครุ่นคิดอยู่สักพักหนึ่ง หัวหน้าหมู่บ้านก็พูดออกมาและพยักหน้าผมเข้าใจแล้ว ผมจะพยายามให้ดีที่...

 

พวกเจ้ายังต้องแบ่งปันทรัพยากรอย่างฟรีๆด้วย

 

“…..ผมจะทำเท่าที่ผมทำได้ครับ

 

เยี่ยม! ปัญหาทุกอย่างของฉันก็ถูกคลี่คลายแล้ว

 

เวลาฝนตกแล้วมันรั่วเข้าไปภายในโบสถ์ มันได้ทำให้ฉันหงุดหงิดมาสักพักหนึ่งแล้วละ

 

ไม่เพียงแค่นั้น ผลตอบแทนที่ฉันได้รับมันก็แค่มันฝรั่งและพวกผัก ฉันควรที่จะหาเนื้อกินได้บ้างแล้ว ตั้งแต่ที่ฤดูหนาวกำลังจะมาถึง ฉันอาจจะต้องให้พวกชาวบ้านมอบรางวัลที่น่าพึงพอใจให้ฉันบ้างแล้วละ ดังนั้นฉันจะได้ไม่ต้องออกไปหาฟืนมาด้วยตัวเอง

 

ฝ่าบาท! เจ้าชายครับ!”

 

ในขณะที่ฉันอยู่ท่ามกลางการคุยกับหัวหน้าหมู่บ้าน ชายคนหนึ่งรีบวิ่งมาหาพวกเรา เขาตะโกนออกมาด้วยหน้าตาที่ซีดเซียวฝูงซอมบี้บุกมาแล้วครับ!”

 

ฉันตกใจ

 

ซอมบี้มาที่นี่แล้ว?

 

นั่นหมายความว่ามันไม่จำเป็นที่พวกเขาจะต้องไปเอง ตัดสินจากที่พวกมันมารวมตัวกันที่นี่เพื่อมาล่าพวกคนที่ยังมีชีวิต พวกมันยังคงขึ้นตามสัญชาตญาณของมัน

 

มันค่อนข้างน่าโล่งอก ฉันไม่จำเป็นต้องเดินหาพวกมันทีละตัวเพื่อชำระล้างพวกมัน จำนวนงานที่ฉันต้องทำก็ลดลงไปมาก

 

เยี่ยมมาก! พวกเจ้าทั้งหมด เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม!”

 

ชาวบ้าน รวมทั้งหัวหน้าหมู่บ้านต่างหันมามองยังพวกเขา พวกเขาต่างสับสนและจ้องมาที่ฉันอย่างงุนงง

 

เอ่อ แล้วท่านละครับ?

 

ฉันยักไหล่ หลังจากที่ได้ยินคำพูดของหัวหน้าหมู่บ้านพวกเจ้าเป็นอะไรกัน? ไม่ใช่ว่าพวกเจ้าต้องการให้ฉันจัดการแก้ไขปัญหานี้ให้กับพวกเจ้างั้นเหรอ?

 

ครับ แต่ว่าทำไม...?

 

เสียงของเขาค่อยๆหายไป “…ทำไมท่านถึงใช้คำพูดที่น่ารังเกียจอย่างอุปกรณ์ กับพวกเรากันละครับ?

 

ปากของฉันยกขึ้น มันก็เห็นได้ชัดเจนแล้วนี่

 

แน่นอน ว่ามันเห็นได้อย่างชัดเจนอย่างมาก

 

ฉันมีอาชีพอยู่ 4 อย่าง

 

หนึ่ง เป็นเจ้าชาย

 

สอง เป็นผู้ดูแลสุสาน

 

สาม เป็นนักบวช

 

และสุดท้ายแล้วก็คือการเป็นเนโครแมนเซอร์

 

ไม่มีอาชีพไหนเลยที่เขาจะสามารถนำอยู่แนวหน้าและใช้วิชาดาบหรืออะไรแบบนั้นเลย

 

เอาละ หลังจากนี้พวกเจ้าต้องไปล่าซอมบี้กันแล้วละ นั่นแหละคือเหตุผล

 

“…!!”

 

หัวหน้าหมู่บ้านและชาวบ้านต่างตัวแข็งทื่อ

 

ไม่ต้องกังวลไป มันไม่ใช่ว่าพวกเจ้าจะกลายเป็นซอมบี้ไปเมื่อโดนกัด มันก็แค่ปวดเล็กน้อยและมีไข้สูงแค่นั้นแหละ พวกเจ้าวางใจได้เลย เพราะว่าข้าจะปวดใจเหมือนกัน เมื่อพวกเจ้าเจ็บปวด

 

หัวหน้าหมู่บ้านฉีกยิ้มให้ได้มากที่สุดเท่าที่เขาทำได้ รวมทั้งเหงื่อไหลออกมาจากบนใบหน้าของเขาท่าน...ฝ่าบาท นี่ไม่ใช่เรื่องตลกนะครับ ท่านบอกว่าท่านจะช่วยพวกเรานี่นา ก่อนหน้านี้

 

ฉันมองไปที่เขาและยิ้มออกมานี่มันเหมือนเรื่องตลก เพราะว่าฉันยิ้มงั้นเหรอ?

 

เขาแสดงท่าทางออกมาราวกับจะพูดว่านี่มันเรื่องไร้สาระอะไรกัน…’

 

เอาเถอะ ถ้าพวกเจ้าไม่ชอบ พวกเจ้าก็ลืมไปละกัน

 

ฉันจ้องไปที่เขาและยิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย

 

....

 

ชายที่มีรูปร่างสมส่วนยืนอยู่ด้านหน้าโบสถ์ พวกเขามีคนประมาณห้าสิบคน พวกเขาแต่ละคนต่างถืออุปกรณ์ไว้ใช้ทำนา ขวานตัดไม้ เลื่อยหรือธนูไว้ล่าสัตว์ อะไรแบบนั้น..

 

พวกเขาต่างมีรูปร่างที่ดูทนทาน บางที มันอาจจะเป็นเพราะว่าพวกเขาเป็นชาวนา คนตัดไม้ หรือนักล่า

 

เยี่ยม! พวกเขาไม่ได้ลืมอาวุธของพวกเขาออกมาด้วย ตอนที่พวกเขาวิ่งหนีออกไป แม้ว่าจะเร่งรีบก็ตาม สัญชาตญาณในการเอาชีวิตรอดของคนในโลกนี้ยังคงยอดเยี่ยม

 

โอ้ แล้วอุปกรณ์ที่พวกเจ้าออกไปจากโบสถ์ อย่าทำให้พวกมันเสียหายด้วยละ เข้าใจไหม? ฉันจะเก็บเงินจากพวกเจ้านะ ถ้าพวกเจ้าทำมันพัง

 

ชาวบ้านต่างชักสีหน้า

 

ฉันเมินพวกเขาไปและพยักหน้าอย่างพึงพอใจเยี่ยม แค่นี้ก็พอแล้วละ พวกมันอาจจะเป็นซอมบี้ แต่ตราบเท่าที่พวกเจ้าไม่ได้จัดการกับพวกสัตว์ พวกเราก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรหรอก เพราะมันค่อนข้างช้า

 

อีกอย่างหนึ่ง แม้ว่ามันจะมีพวกสัตว์มาผสมด้วย พลังโจมตีของพวกมันก็น่าจะจำกัดด้วยเช่นกัน ดังนั้นมันไม่สำคัญอะไรหรอก

 

เอาละ ความปลอดภัยของพวกเจ้าทุกคนจะต้องเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด อย่าฝืนตัวเองเกินไปกับการล่าซอมบี้ละ ถ้ามันยากไป พวกเจ้าก็คอยช่วยเหลือกันเอง ตราบเท่าที่พวกเราไม่เร่งรีบ มันจะไม่มีใครบาดเจ็บและ…”

 

ฉันปิดจมูกอย่างเร่งรีบ กลิ่นเหม็นฉุนมันลอยโชยมาจากระยะไกล พลังมารลอยละล่องกลางอากาศจนเหม็นฉุนอย่างมาก

 

ฉันเหลือบตามองไปทางป่า สายตาที่เต็มไปด้วยความกระหายเลือดค่อยล้อมรอบโบสถ์ เพียงเวลาไม่นาน ซอมบี้ที่เดินอย่างเชื่องช้าคลืบคลานออกมาจากหมอกควัน จำนวนของพวกมันมีหลายร้อยตัว

 

บ้าอะไรวะเนี่ย...

 

ทำไมมันมีเยอะขนาดนี้เนี่ย!

 

ฉันเรียกหัวหน้าหมู่บ้านที่ถอยออกไปอย่างสั่นกลัว

 

เห้ย เจ้าหัวหน้าหมู่บ้าน

 

ครับ??

 

เขาจ้องกลับมาด้วยใบหน้าที่ซีดเซียว

 

ไม่ใช่ว่าพวกเจ้าบอกว่ามีประมาณสามสิบตัวงั้นเหรอ?

 

นั่นเป็นสิ่งที่พวกเราเห็น..”

 

แม้แต่หัวหน้าหมู่บ้านยังสับสน เขาไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น

 

ฉันเริ่มที่จะนวดหน้าผากตัวเองสี่….. ไม่สิ หนึ่งในหมู่บ้านมันล่มสลายลงไปก่อนฃแล้ว ดังนั้น...จำนวนของสามหมู่บ้านรวมกันมันประมาณเท่าไหร่?

 

หัวหน้าหมู่บ้านรีบนับนิ้ว เอ่อ... หมู่บ้านที่ใหญ่ที่สุดมีคนประมาณสองร้อยคน ในขณะที่อีกหมู่บ้านน่าจะมีประมาณ 50 ถึง 100 คน อย่างน้อยมันน่าจะเกิน 300”

 

โอเค เอาละ...ตั้งแต่ที่มันมีผู้รอดชีวิตอยู่ที่นี่กับพวกเรา หนึ่งร้อยคน และพวกเจ้าเห็นประมาณสามสิบตัว ถ้างั้น คนที่เหลือละ?

 

หัวหน้าหมู่บ้านตัวแข็งทื่อและเขาจ้องกลับมาที่ฉันอย่างมึนงง ผมไม่แน่ใจเหมือนกันครับ พวกเรารีบหนีกันออกมา ดังนั้น…”

 

เอาละ ฉันเข้าใจชัดละ

 

ชาวบ้านบางกลุ่มที่หลบหนีออกมาถูกฆ่าตาย ไม่ก็พวกมันอาจจะเป็นพวกที่เดินไปมาในดินแดนแห่งความตายนี้ก็ได้ เอาเถอะ พื้นที่บริเวณนี้มันก็เป็นสถานที่แห่งสรวงสวรรค์ของพวกอันเดทอยู่ดี

 

ตาของฉันกระตุก เมื่อฉันคอยสังเกตเห็นฝูงซอมบี้ที่คลืบคลานมาหาฉันอย่างเชื่องช้า ชาวบ้านต่างตื่นตระหนกกัน

 

ฝ่าบาท พวกเราจะทำยังไงดีครับ?

 

ฝ่าบาท!!”

 

พวกเราหนีไปจะดีกว่าไหมครับ?

 

หัวหน้าหมู่บ้านพูดขัดขึ้นมาและถามฉัน

 

ฉันทำได้เพียงนวดขมับมากขึ้นกว่าเดิมมันมีทางอื่นในการจัดการกับซอมบี้ไหม?

 

ไม่ครับ มันไม่มี

 

แม้ว่าฝูงซอมบี้จะมาอะนะ?

 

หัวหน้าหมู่บ้านรีบปาดเหงื่อและตอบกลับเหตุการณ์แบบนี้มันไม่ค่อยเกิดขึ้นหรอกครับ ถ้าพวกเราพบเจอกับภัยพิบัติแบบนี้ พวกเราก็แค่แจ้งเรื่องกับเจ้าเมืองและรอจนกว่าพวกเขาจะส่งกองกำลังมา

 

ฉันอดที่จะหน้าเสียไม่ได้ ทำไมงานของฉันมันมีแต่เพิ่มขึ้นแบบนี้กัน? เดี๋ยวก่อนนะ หรือว่าฉันรับกรรมจากกระทำของเจ้าของร่างกายนี่ ที่มันทำมาในอดีตกัน?

 

ถึงแม้ว่าฉันจะรู้สึกว่ามันตลกก็ตาม แต่ก็อดที่จะรู้สึกเซงไม่ได้ มันน่าจะเป็นเรื่องเป็นไปได้ กับสิ่งที่เขาคิด

 

ตั้งแต่ที่เวทย์มนต์มันมีจริงในโลกใบนี้ ฉันก็ไม่ได้ปิดกั้นความเป็นไปได้ที่ว่าเทพนั้นมีจริง ไม่ใช่ว่าฉันเชื่อหรืออะไรก็ตาม แต่ถ้าพระเจ้ามีจริง มันก็ไม่มีทางที่พวกเขาจะไม่ทำอะไรเลย สำหรับพวกที่ก่นด่าใส่พวกเขาใช่ไหม?

 

ไอ้หลานเวร!’

 

ฉันหงุดหงิดมาก

 

การดูหมิ่นศาสนาของเจ้าของร่างกายคนก่อนมันโคตรสารเลวมาก ถ้าฉันต้องชำระบาปแทนเขาแล้วละก็ ถ้าอย่างงั้น ฉันคงตกอยู่ในปัญหาใหญ่แล้วละ

 

อ๊า! เทพีแห่งความรักและเมตตา ไกอา!”

 

เมื่อฉันตะโกนออกมา หัวหน้าหมู่บ้านและคนในหมู่บ้านต่างมองมาที่ฉันกันทั้งหมด ไม่ใช่ว่าฉันกำลังอธิษฐาน อยู่อย่างงั้นเหรอ? พวกเขาต่างดูมีชีวิตชีวามากขึ้น

 

พวกเขาอาจจะคิดว่าการมีนักบวชที่ใช้พลังศักดิ์สิทธิ์ต่อหน้าฝูงอันเดท เป็นเรื่องที่น่าไว้วางใจ แน่นอนว่าพวกผู้ชายและผู้หญิงที่ใช้พลังศักดิ์สิทธิ์จะต้องอธิษฐานก่อนที่จะรวบรวมพลัง และร่ายเวทย์

 

ยังไงก็ตาม ฉันแตกต่างออกไป

 

ฉันทำลายความคาดหวังของชาวบ้านที่มีต่อนักบวชอย่างฉันทิ้งไป

 

ความรักและเมตตาก็เชี่ยละ! ถ้าท่านทำให้ฉันต้องลำบากทรมานแบบนี้ เพราะฉันด่าท่านไปรอบหนึ่งแล้วละก็ ฉันก็จะด่าท่านให้หนักกว่านี้! ไอ้เทพีเจ้าคิดเจ้าแค้นเอ้ย!”

 

รีวิวผู้อ่าน