px

เรื่อง : หลานชายของจักรพรรดิศักดิสิทธิ์เป็นเนโครแมนเซอร์
Chapter 18: เป็นเจ้าชายนี่มันโคตรเหนื่อยเลย - 1 (ส่วนที่ 2)


 

ฉันเดินเข้าไปหาชาร์ลอตต์และกอดเธอไว้ราวกับเด็กนิสัยเสีย “ฉันเอาแต่หวาดกลัวจนกางเกงเปียกเลยนะ เจ้าก็น่าจะเห็นแล้วนี่ โอ้ พระเจ้า…! แม่งโคตรน่ากลัวเลย ฉันบอกเจ้าแล้ว! ยัยเวรนั่น! ยัยนั่นมันกล้าที่จะมาปล่อยเสน่ห์ใส่ฉันอีก! แต่ว่ายัยนั่นปฏิบัติกับฉันราวกับพวกเศษขยะ ดังนั้นยัยนั่นสมควรได้รับสิ่งที่เธอทำไปนั่นแหละ! มันช่างน่าโล่งอกจริงที่ฉันไม่ได้ฉี่ราดกางเกงตอนนั้น…!”

 

ฉันตะโกนออกมาเสียงดังก้องเพื่อที่จะทำให้มันดูน่าเชื่อ ฉันยังอดที่จะแอบเหลือบไปมองพวกพาลาดินด้วยเช่นกัน

 

พาลาดินที่เป็นหัวหน้าก้มหัวลง และฉันยังได้ยินเสียงเขาถอนหายใจออกมาดังก้อง

 

เยี่ยม! เขาน่าจะจำภาพที่น่าขยะแขยงนี้ได้แล้ว!

 

ภาพที่ฉันเอาแต่กอดหญิงสาวและตัวสั่นกลัว ในขณะที่ตะโกนออกมาดังก้องแบบนี้…!

 

แม้แต่ฉันยังรู้สึกขยะแขยงกับตัวเองเลย

 

ยังไงก็ตาม โอ้เจ้าพาลาดิน! ไปรายงานภาพที่อนาถนี้กับจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ที่เต็มไปด้วยชื่อเสียงนั่นซะ! โอ้ และอย่าลืมส่งคำทักทายของฉันไปให้กับพี่น้องด้วย

 

ได้โปรดโน้มน้าวพวกเขาให้เลิกส่งนักฆ่าหรือแม่มดมาหาฉันได้แล้วนะ เข้าใจไหม?

 

หัวหน้าพาลาดินหยิบเอากระเป๋าหนังออกมาจากกระเป๋าเสื้อและวางมันลงไปบนชั้นวางที่อยู่ใกล้ๆ

 

ฉันถามขึ้น “นั่นมันอะไร?”

 

“มันคือรางวัลจากค่าหัวของมอร์กาน่าครับ ฝ่าบาท มันมีเงินจำนวน 80 เหรียญทองในนั้น”

 

เงินประมาณ ห้าสิบเหรียญเงินก็มากพอที่จะทำให้คนธรรมดาทั่วไปอยู่ได้เป็นเดือนแล้วในโลกนี้ เมื่อคิดถึงเรื่องนี้แล้ว มันค่อนข้างจะเป็นเงินจำนวนมากเลย

 

พร้อมด้วยโชคลาภเช่นนี้แล้ว ฉันคงจะเล่นสนุกได้สักพักหนึ่ง

 

“หื้ม มันมีรางวัลด้วย?”

 

“ยังไงก็ตาม ท่านพบเจอคัมภีร์เกี่ยวกับเวทมนตร์จากแม่มดไหม ฝ่าบาท?”

 

“พวกมันคืออะไร?”

 

“พวกเราจำเป็นต้องกำจัดพวกมันทิ้งครับ”

 

“ไม่มี ฉันไม่ชอบหน้าตาพวกมัน ฉันเลยเผาพวกมันทิ้งไปละ”

 

ฉันโกหกออกมาอย่างเห็นได้ชัด

 

ฉันจะมอบบทเรียนที่ดีอย่างตำราไสยเวทให้กับพวกเอ็งได้ยังไงกัน?

 

ฉันเสี่ยงชีวิตในการที่จะได้มันมา ฉันไม่โง่พอที่จะบอกว่า โอ้ มันช่างยอดเยี่ยมมาก และมอบพวกมันให้กับพวกเจ้าแบบนั้น ใช่ไหมละ? ฉันสามารถที่จะใช้พวกมันอย่างเต็มที่ด้วยตัวเองได้

 

แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่รู้หรอกว่าฉันจะสามารถเรียนอะไรจากพวกมันได้ไหม เมื่อฉันมีพลังศักดิ์สิทธิ์แทนที่จะเป็นพลังมาร ซึ่งมันเป็นสิ่งจำเป็นของพวกเนโครแมนเซอร์

 

“ครับ”

 

ก่อนที่พาลาดินจะจากไป หัวหน้าของพวกเขาหันมามองฉันอีกครั้งหนึ่ง

 

“ฤดูหนาวได้มาถึงแล้วและอากาศของมันจะหนาวมากยิ่งขึ้น ดังนั้นได้โปรดดูแลสุขภาพด้วยครับ ฝ่าบาท”

 

“ฉันรู้แล้ว พวกเราอยู่บนภูเขากันและแม่งโคตรจะหนาวเลย”

 

“อีกอย่างหนึ่ง คลื่นแห่งความตาย กำลังจะใกล้มาถึงพวกเราแล้วครับ”

 

“อื้ม”

 

“ใช่ ฉันอ่านมาแล้ว คลื่นแห่งอันเดทจะเกิดขึ้นทุกฤดูหนาวใช่ไหม? มันน่าจะเป็นช่วงประมาณยี่สิบห้าธันวาที่มันหนาวจนเหมือนกับยุคน้ำแข็งและคลื่นแห่งนี้ก็จะเกิดขึ้น”

 

ฉันชอบที่จะให้ซานต้าปรากฏตัวมากกว่า มันเหมือนกับวันฮาโลวีนที่มีภูตผีปรากฏตัวกันมากกว่า

 

ฉันพูดออกมาพร้อมกับรอยยิ้มกว้างบนใบหน้า นี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมหัวหน้าพาลาดินจ้องมาที่ฉันโดยไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ เขาน่าจะถอนหายใจออกมา เนื่องจากการกระทำที่ไม่มีศักดิ์ศรี

 

“เตรียมอพยพไปจากที่นี่ด้วยครับ พวกเราจะคุ้มครองท่านเอง”

 

“โอ้ โออออ! จริงดิ? ฉันจะได้ไปจากที่น่าเบื่อนี่แล้วใช่ไหม? พวกเราจะไปที่ไหนกันละ?”

 

พวกเราจะไปยังประเทศเพื่อนบ้านงั้นเหรอ? หรือไปเมืองอื่นกัน?

 

ฉันต้องการที่จะออกไปท่องโล่งนี้ ไม่สำคัญว่าจะเป็นที่ไหน ฉันเต็มไปด้วยความสงสัยอยู่ดี! ตั้งแต่ที่พาลาดินจะไปกับฉันด้วย ฉันอาจจะให้พวกเขาออกค่าใช้จ่ายกับฉัน

 

การท่องเที่ยวต่างโลก พวกพระเอกจะอยู่กันแต่โรงแรมที่เลิศหรูที่สุดและกินอาหารที่อร่อยที่สุด! ในขณะที่ถูกปกป้องโดยพวกคนคุ้มกัน!

 

มันน่าสุดยอดขนาดไหนกัน?

 

ฉันเบื่อที่จะเล่นกับศพแล้ว พวกเขาคงจะไม่เป็นไรกับการพักร้อนของฉันใช่ไหม?

 

“พวกเราจะพาท่านไปยังเมืองโรเนียครับ ฝ่าบาท”

 

“อะไรนะ?”

 

เดี๋ยวก่อนนะ นี่อะไร? ที่นั่น....ไม่ใช่อยู่ใกล้กับหมู่บ้านงั้นเหรอ? ไม่ใช่ว่ามันเดินทางไปแค่ครึ่งวัน?

 

มันไม่มีของอร่อยและไม่มีอะไรน่าสนใจด้วยซ้ำ ไม่สิ มันก็แค่ปราสาทที่สร้างเพื่อป้องกันคลื่นแห่งความตาย เท่านั้นแหละ

 

ประชากรครึ่งหนึ่งภายในเมืองคืออาชญากรที่โดนขับไล่มา ดังนั้นมันจึงเข้าใจได้ว่าภายในเมืองมันแย่ถึงที่สุด มันยังถูกเรียกกันว่าสถานที่ที่ถูกทอดทิ้งหรือไม่ก็ปราสาทแห่งการเสียสละ เลย

 

เดี๋ยวก่อนนะ พวกเขาตั้งใจจะส่งหลานชายของจักรพรรดิไปยังสถานที่แบบนั้นเนี่ยนะ?

 

“ในช่วงวันที่มืดหม่นที่สุดของคลื่นแห่งความตาย การสูญเสียมันจะเพิ่มมากขึ้นครับ ท่านฝ่าบาท ดังนั้น...”

 

เอ๋ อย่าบอกนะว่า! มันไม่จริง! อย่าพูดอะไรแบบนั้นสิ!

 

“....สำหรับการเสียสละของพวกขุนนาง พวกเราต้องการให้ท่านไปทำพิธีศพครับ”

 

“...”

 

“นี่คือความปรารถนาของจักรพรรดิครับ”

 

โอ้! พระ! เจ้า!

 

มันไม่ใช่แค่ “เจ้าต้องไปที่นั่น” แต่มันกลับเป็น “เจ้าไปที่นั่นและไปทำงานซะ”

 

อ๊า ไอ้ปู่เวรนี่มัน!

 

เอาเถอะ ฉันอาจจะไม่ใช่ปู่แท้ๆของฉัน แต่ตามร่างกายของฉัน พวกเรายังเกี่ยวข้องกันด้านสายเลือดอยู่ดีนะ!

 

ไม่ใช่เจ้าต้องการจะฆ่าหลานตัวเองจากการทำงานหนักงั้นเหรอ?

 

เดี๋ยวก่อนนะ.. อย่าบอกนะว่าเขาส่งมอร์กาน่ามาเองกัน?

 

ฉันได้แต่ภาวนาว่ามันจะไม่ใช่แบบนั้น

 

ถ้าจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ตัดสินใจที่จะฆ่าฉันจริง ถ้าอย่างงั้นฉันคงจะตายไปโดยไม่ได้พูดอะไรเลย

 

เมื่อพาลาดินจากไป ชาวบ้านก็เดินมาหาฉัน

 

**

 

พวกเขาต่างกำลังทุบกันอยู่ อุปกรณ์และวัตถุดิบต่างถูกแบกไปและเฟอร์นิเจอร์ที่ดีก็ถูกนำเข้าไป

 

โบสถ์กำลังได้รับการปรับปรุงและซ่อมแซมอยู่

 

“ช่างน่าโชคดีจริงที่มันเป็นการโจมตีจากอันเดท ไม่ใช่พวกโจร”

 

พวกอันเดทที่มาจากคลื่นแห่งความตาย จะไม่สนใจบ้านเก่าหรือตึกที่ไม่มีร่องรอยของคนมีชีวิต

 

นั่นหมายความว่าหมู่บ้านหรือโบสถ์จะถูกทิ้งไว้ ตราบเท่าที่ไม่มีใครอยู่ภายใน ดังนั้นมันจึงไม่มีความสูญเสียอะไรกับการซ่อมตึกเก่าและใส่เฟอร์นิเจอร์ใหม่เข้าไป

 

“นี่คือช่างสร้างบ้านที่ดีที่สุดของหมู่บ้านครับ ถึงแม้ว่ามันจะไม่เหมือนกับตึกใหม่ พวกมันก็จะไม่มีรอยรั่วอีกต่อไปและเพดานก็จะไม่ทรุดลงครับ”

 

หัวหน้าหมู่บ้านแสดงให้เห็นถึงความภาคภูมิใจ

 

ไม่เพียงแต่เขาพาคนมาซ่อมโบสถ์ เขายังแบกฟืนไม้เข้ามาเพื่อที่จะอยู่ให้ผ่านฤดูหนาวด้วยเช่นกัน นอกจากนี้แล้ว มันยังมีวัตถุดิบอาหารไว้รอให้ฉันเก็บไปด้วย

 

การทำอาหารเป็นงานอดิเรกของฉันในชาติก่อน ดังนั้นฉันบอกได้เลยว่าการหาวัตถุดิบท้องถิ่นในโลกใบนี้กลายเป็นงานอดิเรกใหม่ของฉัน แต่ว่าชาร์ลอตต์คอยดูอาหารของฉันอยู่ ดังนั้นฉันจึงไม่ได้ยกนิ้วมือเลยสักนิ้ว

 

ฉันใส่ถุงเงินลงไปให้กับหัวหน้าหมู่บ้าน

 

“ฝ่าบาท นี่อะไรครับ..?”

 

“มันมีเงินห้าเหรียญทองในนั้น”

 

คำพูดของฉันทำให้ดวงตาของชายแก่โตขึ้น “เงินจำนวนขนาดนี้มัน...”

 

“มันเป็นรางวัลที่พวกเจ้าล่าแม่มด นี่คือส่วนหนึ่งยังไงละ”

 

แน่นอนว่าฉันก็เก็บที่เหลือไว้ใช้เอง ชาวบ้านฆ่าแม่มดไปก็จริง แต่พวกเขาไม่ได้ทำอะไรมากกันสักเท่าไหร่

 

มันเป็นการแบ่งที่ยุติธรรม

 

“พวกเรารับมันไม่ได้ครับ พวกเราต่างเป็นหนี้ของท่านกันทั้งนั้น ฝ่าบาท ดังนั้นเงินนี่มัน..”

 

หัวหน้าหมู่บ้านยิ้มจืดๆ

 

“ฉันไม่ได้ให้พวกเจ้าไปฟรีๆนะ” ฉันตอบกลับ

 

“....?”

 

“ฉันจ่ายให้พวกเจ้าก่อนไง”

 

“กับการซ่อมโบสถ์หรอครับ?”

 

ฉันส่ายหัว

 

เจ้าบ้าป่าว? นั่นมันของฟรีอยู่แล้ว ฉันจะจ่ายไปให้ทำไมกัน?

 

ฉันชี้ไปที่ก้อนหินที่วางเรียงรายเป็นหลุมศพ “พวกเจ้าไม่เห็นหรือว่ามันค่อนข้างจะลวกๆ? ไปพาคนและหาวัตถุดิบจากเมืองมาทำหลุมศพดีๆซะ ฉันได้ทำพิธีชำระล้างไปแล้ว ดังนั้นสิ่งที่เจ้าทำคือต้องทำหลุมศพดีๆ ฉันไม่ต้องการที่จะมานั่งขุดหลุมเพิ่มแล้ว ทำหลุมศพให้ดีตามที่พวกเจ้าต้องการก็พอแล้ว”

 

สิ่งที่ฉันพูดคือฉันไม่อยากยุ่งแล้ว หัวหน้าหมู่บ้านควรไปจ้างคนมาสร้างด้วยรางวัลของพวกเขา

 

“ผมเข้าใจแล้วครับ”

 

“ถ้าพวกเจ้าแอบเก็บเงินไปใช้เอง ถ้าฉันรู้ ฉันจะทุบมือของเจ้าทิ้งไปนะ เข้าใจไหม?”

 

“แน่นอนครับ”

 

หัวหน้าหมู่บ้านหัวเราะออกมา

 

ด้วยเหตุนั้น งานที่ทำนี้ก็เสร็จลง พาลาดินที่น่าหงุดหงิดก็ไปแล้วด้วยเช่นกัน ดังนั้นฉันจึงใช้เวลาเรียนหนังสือด้วยเช่นกัน

 

ในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า ฮาโลวีนของโลกนี้จะเริ่มต้นขึ้น ถึงแม้ว่ามันจะไม่ใช่เทศกาลที่สนุก แต่มันเป็นการนำกองทัพของอันเดทแทน

 

มันเป็นช่วงเวลาของศพที่ไม่เน่าเปื่อย พวกมันกระจายไปทั่วทวีป

 

เพื่อเตรียมตัวอนาคตที่เต็มไปด้วยการใช้แรงงานที่ไม่สิ้นสุดของฉัน ฉันจะใช้ช่วงเวลานี้พักผ่อนวิญญาณของฉันและทำให้ความสามารถของฉันเพิ่มสูงขึ้น

 

ถ้าฉันไม่ได้ทำแล้ว ฉันคงจะตกอยู่ภายใต้การทรมานแน่นอน!

 

นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไม...

 

“ฉันควรไปลองทำดูก่อนละ”

 

นี่คือช่วงเวลาในการเรียนรู้วิชาเนโครแมนเซอร์จากตำราไสยเวทที่โมเรียนหรือมอร์การ์น่าหรือชื่ออะไรสักอย่างเหลือทิ้งไว้

 

รีวิวผู้อ่าน