px

เรื่อง : หมอดูสาวผู้หยั่งรู้
ตอนที่4 วังมังกร


         ฟังดูมีเหตุผล คนบนถนนสายนี้ต้องรู้ว่าเขามีความสามารถจึงมาหาและยอมจ่ายเงินให้กับเขา

 

         จากนั้นสีหน้าของความไม่สบายใจได้ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอก่อนที่จะหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาและยื่นรูปนั้นส่งให้อาจารย์หวังดู

 

         "ฉันต้องการให้คุณช่วยทำนายดวงชะตาของลูกสาวให้ที นี่คือรูปลูกสาวของฉัน"

 

         ในรูปนั้นปรากฏภาพของหญิงสาวอายุประมาณยี่สิบห้าปี เธอผมยาวและกำลังยิ้มอย่างมีเสน่ห์

 

          อาจารย์หวังจ้องมองดูรูปนั้นและเงยหน้าขึ้นมองผู้หญิงตรงหน้าทันที

 

          ผู้หญิงตรงหน้านี้ สวมใส่เสื้อผ้าที่ดูธรรมดามากและถือถุงพะลุงพะลังเต็มไม้เต็มมือไปหมดซึ่งมีทั้งผักและผลไม้และอื่นๆอีกหลายอย่าง

 

           แต่เขาไม่ได้สังเกตสีหน้าแห่งความกังวลใจที่ปรากฏอยู่บนใบหน้าของเธอ จึงคิดว่า บางทีเธออาจจะเห็นว่ามีหมอดูอยู่บริเวณนี้ จึงแวะมาดูดวงโดยบังเอิญ

 

         เมื่อสังเกตดูลักษณะของผู้หญิงในรูปภาพอาจารย์หวังจึงพอจะเดาบางอย่างได้ "คุณอยากจะรู้เรื่องการแต่งงานของลูกสาวใช่หรือไม่?"

 

         เธอรู้สึกสงสัยอยู่ครู่หนึ่ง แต่จากนั้นเธอก็ปรับอารมณ์ของตนเองอย่างรวดเร็วและเอ่ยถามว่า

 

        "การแต่งงานของลูกสาวฉันจะเป็นอย่างไรบ้าง?"

 

         อาจารย์หวังนั่งลงบนเก้าอี้อย่างใจเย็นและหยิบปากกาลูกลื่นของเขาออกมาจากกล่องด้านข้าง "บอกลักษณะลูกสาวของคุณมาซักแปดอย่าง!"

 

         ทันใดนั้นนางได้บอกข้อมูลทั้งหมดและอาจารย์หวังเขียนมันลงไปบนแผ่นกระดาษ ขณะที่เขานับนิ้วและบ่นพึมพำพร้อมกับพลิกดูหนังสือคู่มือการทำนายไปมา

 

         "ผมรู้แล้ว แต่ต้องจ่ายเงินเพื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจนกว่านี้ พี่สาว!ผมคิดค่าทำนายดวงเป็นเงินสามร้อยเหรียญ"

 

        "สามร้อยเหรียญหรือ?"เธอกล่าวด้วยความลังเลใจ และเอ่ยถามว่า

 

        "คุณพอจะบอกได้หรือไม่ว่าในอนาคตลูกสาวของฉันจะมีลูกกี่คน?"

 

         อาจารย์หวังอดที่จะหัวเราะขึ้นมาไม่ได้ก่อนที่จะกล่าวว่า

 

         "พี่สาว คุณนี่เป็นคนตลกจริง ๆ ตอนนี้ลูกสาวของคุณยังไม่ได้แต่งงานด้วยซ้ำ แต่คุณคิดไปถึงเรื่องที่เขาจะมีลูกแล้วหรือ? ผมสามารถบอกคุณได้อย่างแน่นอนแต่คุณต้องให้เงินผมเพิ่มอีกสองร้อยเหรียญ"

 

         "จะบ้าหรือเปล่า แกมันคนโกหกหลอกลวง ตลบตะแลงปลิ้นปล้อน"

 

         ทันใดนั้นเธอได้ยกถุงในมือทั้งหมดฟาดไปที่ศีรษะของเขา ใครจะรู้ได้ว่าในถุงนั้นมีอะไรบ้าง แต่หน้าผากของอาจารย์หวังมีรอยแตกและมีเลือดไหลรินออกมา

 

         ดูเหมือนว่าอาจารย์หวังจะคุ้นเคยกับเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน เขาหยิบผ้าขนหนูออกมาซับที่บริเวณแผลทันที จากนั้นจึงกล่าวด้วยน้ำเสียงตัดพ้อว่า

 

         "ถ้าไม่อยากดูก็ไม่ต้องดู ไม่เห็นต้องทำร้ายร่างกายคนอื่นเลย!"

 

          "ฉันจะตีแกให้ตายไอ้คนลวงโลก"  

 

           เธอมองดูเลือดที่ไหลออกมาจากหน้าผากของเขาและความรู้สึกผิดก็ฉายผ่านออกมาจากแววตาคู่นั้น

 

         แต่เพียงครู่เดียวเธอก็ขจัดความรู้สึกผิดนั้นให้จางหายไปในทันที ขณะที่ใช้มือเท้าสะเอวของตนเองและชี้นิ้วไปยังอาจารย์หวังพร้อมกับด่าว่าเขาอย่างรุนแรง

 

        "แก ไอ้คนลวงโลก พูดจาโป้ปดมดเท็จ!ทำไมไม่ดูดวงให้ตัวเองบ้างว่าวันนี้จะโดนตีหัวหรือเปล่า?เก่งจริงๆก็ไปเรียกตำรวจมาตัดสินเรื่องนี้เลย?

 

        เมื่อได้ยินดังนั้นหัวใจของอาจารย์หวังก็ห่อเหี่ยวขึ้นมาในทันที ขณะนี้เขายกมือขึ้นมากุมหน้าผากของตัวเองเอาไว้ "จะไปไหนก็ไป ฉันจะคิดว่ามันเป็นโชคร้ายของฉันก็แล้วกัน!"

 

        เธอจ้องมองดูบาดแผลที่หน้าผากของอาจารย์หวัง พร้อมกับกระชับถุงที่ถืออยู่ในมือแน่น และเตรียมตัวที่จะก้าวเดินจากไป

 

       แต่ทันใดนั้นได้มีเสียงชัดเจนเสียงหนึ่งดังขึ้นจากทางด้านหลังของนาง "กรุณารอสักครู่"

 

        เธอหันกลับมามองดูบริเวณโดยรอบ และเห็นว่าผู้ที่เรียกนางให้หยุดคือเด็กสาวที่ดูเหมือนว่าจะเป็นนักเรียนจากนั้นเธอจึงจ้องมองด้วยความสงสัยและเอ่ยถามว่า

 

        "มีอะไรหรือ?" หลินชิงหยินเดินเข้ามาหาเธอพร้อมกับจ้องมองดูใบหน้าของหญิงผู้นั้นและกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ชัดเจนว่า

 

        "ดูจากหน้าคุณป้าแล้ว ตำแหน่งประตูวังมังกรมีสิ่งชั่วร้ายปกคลุมทำให้มืดมน ดังนั้นคุณป้าจะไม่มีทายาทเอาไว้สืบสกุล"

 

        พ่อค้าหาบเร่ที่ยืนอยู่ด้านข้างอาจารย์หวังตีแขนของเขาพร้อมกับเอ่ยถามด้วยเสียงที่แผ่วเบาว่า

 

        "วังมังกรอยู่ที่ไหน"

 

        "จะไปรู้ได้อย่างไรเล่า?"

 

         อาจารย์หวังกลอกตาไปมาและกล่าวอีกว่า

 

         "ถ้าฉันรู้มากขนาดนั้นคงจะไปเปิดร้านเป็นเรื่องเป็นราวแล้ว ไม่ทนมานั่งตากแดดอยู่อย่างนี้ทุกวันหรอก"

 

          เขาจำเด็กสาวคนนี้ได้อย่างแม่นยำ เมื่อครู่เขาได้พบกับเธอที่ร้านหนังสือ และเขาคิดว่าเธอพยายามที่จะสร้างจุดขายของตนเอง ดังนั้นเขาจึงดึงร่างของหลินชิงหยินออกมาและกล่าวตักเตือนเธอว่า

 

          "อย่าพูดจาเหลวไหล ผู้หญิงคนนี้จะทำร้ายหนูนะ ถ้าคำพูดของหนูทำให้เธอโกรธ"

 

        หลินชิงหยินผลักมือของอาจารย์หวังออกไปและกล่าวว่า

 

        "เดิมทีคุณป้ามีลูกชายและลูกสาว แต่ต้องมาตายตอนอายุได้เพียงแค่ สามขวบ ซึ่งนั่นทำให้คุณป้าไม่มีทายาท

 

         แต่ด้วยความใจกว้างและใจดีของท่านป้า จึงได้ลูกสาวคนนี้มา คุณป้าไม่มีทายาทเป็นของตนเองแต่มีหลาน"

 

         หลินชิงหยินกล่าวพลางยื่นมือของตนเองออกไปด้านหน้า

 

        "ขอดูรูปลูกสาวหน่อยจะได้ไหมคะ?"

 

         หญิงผู้นั้นดูมีอาการตกตะลึงขณะที่รีบหยิบโทรศัพท์ออกมาและส่งรูปให้กับหลินชิงหยินดู หลังจากดูรูปแล้วเธอจึงคืนโทรศัพท์กลับไปให้คุณป้าและกล่าวว่า

 

        "ลูกสาวของคุณป้ามีชีวิตที่ดี ถึงแม้จะมีความผกผันบ้างในตอนที่มีลูก แต่ทุกอย่างจะราบรื่นในวัยผู้ใหญ่ ส่วนชีวิตการแต่งงานของเธอนั้นก็ดีมากเธอเพิ่งให้กำเนิดฝาแฝดชายหญิงคู่หนึ่งในปีนี้"

 

       เมื่อได้ยินดังนั้นคุณป้าจึงตบต้นขาของตนเองแล้วรีบจับมือของหลินชิงหยินด้วยความตื่นเต้นขณะที่กล่าวว่า "สาวน้อย คำทำนายของหนูนั้นแม่นจริง ๆ แล้วหนูรู้หรือไม่ว่าป้าจะถามอะไร?" หลินชิงหยินยิ้มกว้างก่อนที่จะกล่าวว่า

 

         "คุณป้าต้องการหาพ่อและแม่ที่แท้จริงของลูกสาวคนนี้!" "ถูกต้อง!" คุณป้าคนนั้นเอื้อมมือไปคว้าสิ่งที่เธอบอกกล่าวกับอาจารย์หวังและเขาได้เขียนลงในกระดาษเมื่อครู่นี้

 

        และเมื่อหันกลับมาหาหลินชิงหยินเธอได้แสดงรอยยิ้มที่จริงใจขณะที่กล่าวว่า "ป้าจะขอรบกวนอาจารย์น้อยช่วยคำนวณให้ป้าที…"

 

        หลินชิงหยินจ้องมองดูกระดาษในมือของคุณป้าท่านนั้น เธอเอื้อมมือไปปลดเป้ออกจากด้านหลังของตนเอง จากนั้นจึงหยิบกระดาษแข็งออกมาและส่งให้คุณป้าดูทันที อาจารย์หวังชะเง้อมองด้วยความอยากรู้อยากเห็นและพบว่าบนกระดาษแผ่นนั้นเขียนว่า 'ค่าดูดวงหนึ่งพันเหรียญ'

 

         เขาใช้มือปิดปากของตนเองแล้วจ้องมองไปยังหลิงชิงหยินด้วยแววตาที่แสดงถึงความนับถือ ขณะที่มีความคิดอยู่ภายในใจว่า สาวน้อยคนนี้ช่างอำมหิตกว่าที่เขาคิดเอาไว้มาก!

 

รีวิวผู้อ่าน