“ข้ามิกล้าหรอกท่านแม่” ซูชิงรีบลุกขึ้นไปเพื่อเดินเข้าไปพยุงแม่สามี แต่กลับถูกหยิกที่แขนอย่างรุนแรง ทำให้ใบหน้าของนางซีดเผือดลงอย่างเห็นได้ชัด
แม้ว่าซูชิงจะทุกข์ทรมานสักเพียงใด ก็มิเคยปริปากบ่น
เมื่อเห็นเช่นนี้ หลี่ชิจึงยิ้มเยาะอย่างพึงพอใจ
"ข้าคิดไว้แล้วมิมีผิด คนอกตัญญูอย่างเจ้า แม้ได้ยินว่าข้ามาถึงแล้ว ก็ยังมิออกมาต้อนรับ เจ้ามิได้เคารพข้าในฐานะแม่สามีอีกต่อไปแล้ว ใช่หรือไม่?”
แม้ว่าซูชิงจะเจ็บแขน แต่ก็ยังมิกล้านวดมัน นางส่ายหัวอย่างรวดเร็ว
“ท่านแม่ ข้ามิกล้าทำเช่นนั้นจริง ๆ เหยาเอ๋อเพิ่งฟื้นจากอาการเป็นลม ข้าเป็นห่วงนางมาก จนออกมารับท่านแม่มิทัน”
หลี่ชิเบิกตาขึ้นเล็กน้อย คิ้วของนางขมวดขึ้น ราวกับว่าจะจ้องจับผิด
“เจ้ากำลังกล่าวว่า ข้าทำผิดต่อเจ้าเช่นนั้นหรือ? อย่าคิดว่าข้าหลงกลเจ้า
เมื่อเฉิงเอ๋อยังมีชีวิตอยู่ เจ้าแอบยุยงให้เขามิเคารพแม่ของตนเอง
เจ้าทำให้ครอบครัวข้าต้องแตกแยก! ตอนนี้เฉิงเอ๋อตายไปแล้ว เจ้าก็ดูหมิ่นข้ามากขึ้น เจ้ามันเป็นนางอสรพิษ!
ในตอนแรก หากข้ารู้ว่า เจ้าจะเป็นเช่นนี้ ข้าจะขอให้เฉิงเอ๋อไปจากเจ้า! บางทีบ้านของข้าอาจจะมีลูกหลานเต็มบ้านไปหมด!”
ในขณะนั้นมู่หยุนเหยาเริ่มรู้สึกโกรธแค้นมากขึ้นไปอีก
บิดาของนางเดินทางไปเมืองหลวงเพื่อหางานทำ แต่พวกเขาขาดการติดต่อกัน
หลังจากบิดาจากไปสามเดือน พวกนางก็ได้รับทราบข่าวการเสียชีวิตของเขา
มารดาของนางร้องไห้จนเป็นลมไปหลายครั้ง จากนั้นงานศพได้ถูกจัดขึันอย่างเร่งรีบ
แต่หลี่ชิก็ยังสร้างความวุ่นวายในงานศพ โดยกล่าวโทษซูชิงที่มิสามารถให้กำเนิดบุตรชายได้ ทำให้มิมีผู้ใดแบกโลงศพให้มู่เฉิง
ในขณะที่ซูชิงล้มป่วยลง หลี่ชิก็ยิ่งดุร้ายมากขึ้น นางขนข้าวของออกจากบ้านอย่างต่อเนื่อง
ยิ่งไปกว่านั้นนางได้กล่าวเปรยอยู่บ่อยครั้งว่า งานแต่งงานที่น่าอับอายจะเกิดขึ้นระหว่าง ซูชิง กับ จางไคชู ในฐานะนางบำเรอ!
มู่หยุนเหยามิสามารถอดทนได้อีกต่อไป นางจ้องมองไปที่หลี่ชิด้วยสายตาที่ต้องการจะฆ่าเสียให้ตาย
"ออกไป! ออกไปจากบ้านของข้า!"
หลี่ชิพุ่งตัวขึ้นจากที่นั่งและชี้นิ้วไปที่ซูชิง
“ดีมากซูชิง! ชะตาของเจ้ามิเพียง แต่ทำให้บุตรชายของข้าเสียชีวิตเท่านั้น เจ้ายังสามารถเลี้ยงดูบุตรสาวให้เลวทรามได้อีกด้วย!
ข้าเห็นแล้วว่า เจ้าต้องการจะทำให้ผู้หญิงแก่ผู้นี้โกรธ!
เจ้าแต่งงานเข้ามาในบ้านของข้าเป็นเวลาสิบสองปีเพื่อให้กำเนิดไข่ใบเดียว ที่เติบโตขึ้นมาเป็นสิ่งอัปมงคล!
เจ้ามิได้ช่วยทำงานใดๆ เพียงแค่ให้กำเนิด เลี้ยงลูก และทำให้บุตรชายของข้ากบฏต่อข้า! ดีมาก!"
“ท่านแม่! ข้ามิได้ทำเช่นนั้น” ซูชิงส่ายหัวอย่างแรง
หลี่ชิเริ่มร้อนรน ขณะที่กล่าวว่า
“ฮึ่ม! ตอนนี้ เฉิงเอ๋อตายไปแล้ว บ้านนี้มิจำเป็นต้องต้อนรับเจ้าอีกต่อไป พรุ่งนี้เจ้าควรเก็บข้าวของและย้ายออกไปอยู่บ้านของจางไคชูเสีย!”
“ท่านแม่ ข้าบอกท่านแล้ว ข้าต้องการดูแลเหยาเอ๋อไปอีกครึ่งชีวิตข้างหน้า ข้าแต่งงานใหม่มิได้!”
“ฮ่า! เจ้าใช้ชีวิตอย่างฟุ่มเฟือยมาโดยตลอด หากเจ้าแต่งงานกับจางไคชู เจ้าจะได้อยู่อย่างสุขสบาย
เจ้าจะมิรู้สึกขอบคุณที่ได้รับโอกาสนี้ได้อย่างไร
จางไคชูเป็นคนใจกว้างมาก แม้ว่าเขาจะพาเจ้าไปเป็นเพียงนางบำเรอ เขาก็ให้ของขวัญของหมั้นกับข้ามากมาย
ข้ารับมาแล้ว ดังนั้นเจ้ามิมีทางเลือกอื่นนอกจากต้องไป แม้ว่าเจ้าจะมิต้องการก็ตาม! เจ้ามิมีสิทธิ์มาค้ดค้านอันใด!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ใบหน้าของซูชิงก็ซีดลงไปอีก
“ท่านแม่ ยังมิถึงสองเดือนนับตั้งแต่สามีของข้าเสียชีวิต ข้ายังคงโศกเศร้า…”
“การตายของเฉิงเอ๋อ เกิดจากความโชคร้ายของเจ้า! เจ้าที่มิปฏิบัติตามคุณธรรมของสตรี…”
หลี่ชิเดินตามเข้ามา ขณะที่นางมองไปยังมู่หยุนเหยา ซึ่งยังคงนอนอยู่บนเตียง นางผลักซูชิงไปด้านข้าง และดึงร่างของมู่หยุนเหยาขึ้นมา
“เจ้าแต่งงานเข้ามาในครอบครัวของข้าได้เพียงเก้าเดือน จากนั้นก็คลอดลูกตัวน้อยตัวนี้
ผู้ใดจะรู้ว่า มันคืออสุจิของใคร? เจ้ามิใช่ผู้หญิงที่บริสุทธิ์ผุดผ่อง เจ้าจะกล่าวถึงความโศกเศร้าอันใด? ช่างน่าหัวเราะ!”
“ท่านแม่……ท่าน……ท่าน……กล่าวเช่นนี้ได้อย่างไร?” ซูชิงเกือบจะหมดสติเมื่อได้ยินคำกล่าวนั้น
เมื่อนางตั้งครรภ์กับมู่เฉิง หลี่ชิได้กระทำต่อซูชิงอย่างโหดร้ายทารุณเพราะนางมิได้ช่วยทำงานใด ๆ
หลี่ชิใช้ประโยชน์จากช่วงเวลาที่มู่เฉิงมิอยู่ โดยการพาลูกสะใภ้ไปซักผ้า
. ในตอนนั้นซูชิงบังเอิญลื่นล้ม ทำให้มู่หยุนเหยาคลอดก่อนกำหนด
ซึ่งสิ่งนี้ทำให้ร่างกายของซูชิง อ่อนแอลง แต่ตอนนี้หลี่ชิกำลังใช้สิ่งนี้เพื่อกล่าวหาว่านางนอกใจ!
“เจ้าไร้ยางอาย! เจ้าสามารถหลอกเฉิงเอ๋อได้ แต่หลอกข้ามิได้หรอก!
เจ้าเป็นตัวกาลกิณี และนั่น! พรุ่งนี้คนของ จางไคชูจะมารับเจ้าไป
เจ้าควรรีบไปทำความสะอาดตัวเองดีกว่า นอกจากนี้โปรดนำนางโสเภณีตัวน้อยนี้ไปด้วย มิฉะนั้นนางจะทำให้แผ่นดินของตระกูลมู่ต้องมัวหมอง!”
(“ไคจู” หมายถึง“คนร่ำรวย” ดังนั้น เชึยง ไคจู จึงเป็นคนร่ำรวยที่มีนามสกุล จาง)