px

เรื่อง : จอมนางพิชิตบัลลังก์
ตอนที่4 รอยแผลเป็น


        หลี่ชิตกใจกับท่าทีของนาง และก้าวถอยหลังโดยมิรู้ตัว

 

        มู่หยุนเหยาก้าวไปที่โต๊ะข้างๆอย่างรวดเร็ว นางทุบชามกระเบื้อง และถือชิ้นส่วนที่แตก เดินตรงมาข้างหน้า มองไปที่มีดสั้นของหลี่ชิและเอ่ยว่า

 

         “เจ้ารับเงินของจางไคชู ที่ได้จากการขายตัวข้ามาแล้ว ถ้าข้ามีรอยแผลเป็น เจ้าจะอธิบายให้เขาฟังอย่างไร”

 

         ดวงตาของหลี่ชิเบิกกว้าง

 

         “เจ้า……เจ้ากำลังพูดเรื่องไร้สาระอันใด! ข้า……” นางโสเภณีน้อยตัวนี้รู้ได้อย่างไร?

 

           มู่หยุนเหยาใช้เศษกระเบื้องกรีดผิวขาวซีดของตนเองอย่างแรง มีเลือดหยดลงมาจากใบหน้าของนางทันที

 

        ความเข้มของสีเลือดทำให้ดวงตาเบิกโพลงด้วยความตกใจ

 

        มู่หยุนเหยาเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องรูปลักษณ์ของนาง มิเพียงแค่มีรูปโฉมที่งดงามเท่านั้น ผิวพรรณของนางยังบอบบาง เนียนนุ่มและอ่อนละมุนยิ่งนัก

 

        เปรียบดังเต้าหู้อ่อน ราวกับว่าการบีบเพียงครั้งเดียวจะทำให้เกิดรอยช้ำขึ้นมาได้

 

        โดยปกติแล้ว หลายคนยืดคอ รอคอย เพื่อต้องการที่จะได้ยลโฉมของนาง

 

         "หยุด!" หลี่ชิกำลังลุกลี้ลุกลน

 

         นางได้รับเงิน 50 เหรียญจาก จางไคชู ซึ่งมาจากการขายมู่หยุนเหยา

 

        หากนางมิสามารถนำตัวมู่หยุนเหยาไปมอบให้เขาได้ มิเพียงแต่จะสูญเสียเงินนางยังจะสร้างศัตรูกับผู้มีอิทธิพลประจำหมู่บ้าน

 

       ในหมู่บ้านบนภูเขาเล็ก ๆ แห่งนี้ การที่ทำให้ จางไคชู ขุ่นเคืองเท่ากับเป็นการฆ่าตัวตาย

 

        มู่หยุนเหยายังคงกดเศษกระเบื้องลงบนใบหน้าของนาง

 

       “เมื่อจางไคชูเห็นอาการบาดเจ็บที่เจ้าทำกับท่านแม่และข้า เขาจะมีความสุขน้อยกว่านี้แน่นอน ผู้ใดจะรู้ เขาอาจจะเอาเงินส่วนหนึ่งของเจ้าคืนไปก็ได้”

 

        เลื่อนวันนัดออกไปอีกสี่วัน ในสี่วันนี้เราจะดูแลอาการบาดเจ็บของเรา   เมื่อได้เข้าไปอยู่ในตระกูลจางแล้ว ข้าอาจร้องขอให้เจ้าได้รับเงินรางวัลพิเศษ”

 

        หลี่ชิเบิกตากว้าง การแสดงออกของนางมิเต็มใจอย่างเห็นได้ชัด ยกเว้นว่าเมื่อนางได้ยินประโยคสุดท้าย ก็แทบจะกระโดดขึ้นด้วยความดีใจ

 

      “เจ้ากล่าวจริงหรือ”

 

        “ข้าจะโกหกเจ้าเพื่อประโยชน์อันใดกัน”

 

        “ดีมาก ข้าจะเชื่อเจ้าครั้งนี้แค่ครั้งเดียว นางโสเภณีตัวน้อย แต่ถ้าเจ้าสองคนกล้าใช้เล่ห์เหลี่ยม ข้าจะหักขาของเจ้า และขายเจ้าให้กับซ่องโสเภณีแน่นอน 

 

        เจ้าก็เลือกเอาแล้วกันว่า จะรับใช้ผู้ชายคนเดียว หรือให้ความบันเทิงกับผู้ชายเป็นกลุ่ม”

 

       หลี่ชิยิ้มเยาะ นางแน่ใจว่าคนโชคร้ายทั้งสองนี้มิสามารถหลุดรอดไปจากฝ่ามือของนางได้

 

        ดังนั้นนางก็อาจยินยอมทำตามคำขอของมู่หยุนเหยา

 

        เมื่อถึงเวลา นางจะต้องขอเงินเพิ่มอย่างแน่นอน

 

        เมื่อได้ยินการสนทนาของพวกเขา ซูชิงก็แทบทรุด นางเป็นสะใภ้ของตระกูลมู่ และมู่หยุนเหยาเป็นหลานสาวของนาง ท่านย่าจะคิดร้ายต่อพวกเราได้อย่างไร

 

          ดวงตาของมู่หยุนเหยาเต็มไปด้วยความเกลียดชังและความขมขื่น นางกล่าวอย่างเย็นชาว่า

 

          “ออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้!”

 

          หลี่ชิหัวเราะเยาะมู่หยุนเยา

 

           นางยืดเสื้อผ้าออกและทำท่าตบฝุ่น

 

          “รังที่เต็มไปด้วยสิ่งที่ไม่เป็นมงคล เจ้าคิดว่าข้าอยากจะอยู่ที่นี่อย่างนั้นหรือ? กลัวรองเท้าสกปรกด้วยซ้ำ! เพ๊ะ!”

 

          หลังจากที่หลี่ชิพ่นน้ำลายออกมาจนหมดแล้ว ก็ออกไปจากบ้าน

 

          ซูชิงมิสามารถพยุงตนเองให้ลุกขึ้นมาจากพื้นได้ นางปิดปาก และสำลักคำพูดออกมาว่า

 

         “เหยาเอ๋อ เหยาเอ๋อผู้น่าสงสารของแม่ มู่เฉิงเจ้าทิ้งเราไปแบบนั้นได้อย่างไร……”

 

         มู่หยุนเหยาโยนเศษกระเบื้องทิ้งไปด้านข้าง และใช้มือที่สั่นเทาของนางโอบกอดซูชิง

 

         “ท่านแม่อย่าร้องไห้ อย่าร้องไห้ ข้าจะปกป้องท่านแม่เอง จะมิมีผู้ใดรังแกท่านแม่ได้!”

 

         การกลับมาเกิดใหม่ของนางครั้งนี้และเมื่อยังเห็นว่า มารดาของนางยังมีชีวิตอยู่ โศกนาฏกรรมเช่นนั้น จะต้องมิเกิดขึ้นอย่างแน่นอน

 

         ผู้ใดที่เป็นหนี้ ผู้ใดที่ทำร้ายนาง จะต้องเอาคืนทั้งหมด!

 

         นางลดเปลือกตาลง ดวงตาที่ใสราวกับน้ำเปลี่ยนเป็นเย็นยะเยือกชั่วขณะ ราวกับว่า นางเป็นปีศาจ ที่มีกรงเล็บออกมาจากขุมนรก

 

          หลังจากที่ซูชิงร้องไห้สักครู่ นางก็กลับมามีสติทันที

 

        “เหยาเอ๋อ จางไคจูมิใช่คนดี ห้ามเข้าบ้านจาง เด็ดขาด!

 

        เจ้ามีไหวพริบมาก ที่สามารถถ่วงเวลาเอาไว้ได้ แม่จะปกป้องเจ้าเอง เราต้องหนีไปให้ไกลที่สุด แม่มีเงินอยู่บ้าง……ใช่ข้ามีเงินใช้เป็นค่าเดินทางได้……”

 

         ซูชิงรีบเดินไปเปิดลิ้นชัก

 

         นางสละชีวิตได้ แต่บุตรสาวของนางต้องปลอดภัย

 

         การปกป้องมู่หยุนเหยาซึ่งเป็นบุตรสาวเพียงคนเดียว นางยอมได้ แม้ว่าจะต้องแลกด้วยชีวิต

 

         นางพลิกลิ้นชักทั้งหมด แต่ก็มิพบเงินห้าเหรียญที่เก็บเอาไว้

 

          “เป็นไปได้อย่างไร? ข้าเอาวางไว้ที่นี่……”

 

          “ท่านแม่……ท่านทำได้อย่างไร!”

 

           ดวงตาของซูชิงเต็มไปด้วยความสิ้นหวังและความเกลียดชัง

 

         นางตำหนิสามีของนางที่ตายเร็วเกินไป และโทษตนเองที่มิได้เห็นธาตุแท้ของหลี่ชิก่อนหน้านี้

 

        ที่สำคัญที่สุด นางตำหนิความไร้พลังของตนเอง

 

         “อย่ากลัวไปเลยท่านแม่ มันเป็นเพียงที่อยู่อาศัยของตระกูลจาง มิใช่ถ้ำเสือ หรือวังมังกร!” มิมีผู้ใดล่วงรู้ได้ว่า เมื่อถึงเวลานั้นฝ่ายใดจะเป็นผู้ตาย!

 

รีวิวผู้อ่าน