px

เรื่อง : เกมเอาชีวิตรอดในโลกแห่งหายนะ Sovereign of Judgment
SOJ บทที่ 1 โลกใบใหม่ /ตอนที่ 11 เกมชิงบัลลังก์ (2)


บทที่ 1 โลกใบใหม่ /ตอนที่ 11 เกมชิงบัลลังก์ (2)

 

ฟุ่บ!

 

ตราสัญลักษณ์เรืองแสงของราชาแต่ละคนปรากฏขึ้นบนหน้าผากของทั้งราชาและบริวาร ราชาแต่ละคนต่างก็ได้ชื่อเป็นของตัวเอง

 

สัญลักษณ์ของ จง มินจี เป็นรูปของอัศวินที่เปื้อนไปด้วยเลือด เธอได้รับชื่อของ ราชาอัศวันคลั่ง

 

ชอ จุนซัง ได้ตราสัญลักษณ์เป็นรูปเพชรฆาต เขาได้รับชื่อ ราชานักฆ่า

 

คิม พิจุง ได้ตราสัญลักษณ์เป็นรูปนายพราน เขาได้รับชื่อ ราชานายพราน

 

บนหน้าผากของ ชอ ฮโย เป็นตราสัญลัษณ์รูปธงสีดำ ผ้าที่ใช้ทำธงเหมือนเสื้อผ้าขิงยมฑูตไม่มีผิด เขาได้รับชื่อ ราชาไร้บริวาร

 

การระบุว่าใครเป็นราชาทำได้ง่ายๆเพราะสัญลักษณ์บนหน้าผากของราชานั้นใหญ่และส่องสว่างกว่าของบริวาร สามารถแยกได้ทันที่ว่าใครเป็นราชาใครเป็นบริวาร

 

ในปัจจุบันมีผู้ประกาศตนเป็นราชา 43 คน แต่มีบัลลังก์ 5 ที่เท่านั้น

 

แต่ละกองทัพได้เริ่มจะทิ้งระยะห่างซึ่งกันและกันแล้ว มีคู่แข่งเยอะเกินกว่าที่จะเป็นคนเริ่มการต่อสู้ได้อย่างปลอดภัย เกิดสงครามประสาทอย่างรุนแรงขึ้นระหว่างกลุ่มที่อยู่ใกล้กัน สงครามประสาทอันน่าเบื่อหน่ายอาจดำเนินต่อเรื่อยๆ

 

ถ้าไม่ใช่เพราะ ชอ ฮโย

 

ในขณะที่กองทัพอื่นๆต่างระวังกันไปมาและทิ้งระยะห่างซึ่งกันและกัน ชอ ฮโย ก็ได้พุ่งตัวไปหาเป้าหมายแล้ว เขาพุ่งไปหาตัวแทนนักเรียน ราชานักล่า คิม พิจุง

 

คิม พิจุง ป้องกันได้อย่างรวดเร็ว

 

"คนที่มีโล่ออกไปข้างหน้า พลหอกตามไปข้างหลังพลโล่ ที่เหลือตามพวกนั้นไปข้างหลัง พวกแกทุกคนถอยไปชิดกำแพงซะ!"

 

กองทัพของ คิม พิจุง เป็นกองทัพที่แทบจะแข็งแกร่งที่สุด เขาไม่กลัว ชอ ฮโย แม้แต่น้อย แต่เขากำลังหัวเสีย

 

'มาเด่นตั้งแต่ตอนแรกแบบนี้ก็ลำบากสิวะ'

 

ในขณะที่คนอื่นๆกำลังพยายามอ่านความคิดของฝ่ายตรงข้าม ถ้าเกิดเขาเด่นขึ้นมา จะทำให้เขาตกเป็นเป้าหมายของคนอื่นๆได้ ถ้าเขาเสียกระบวนทัพเพราะการโจมตีของ ชอ ฮโย เขาก็มีโอกาสจะโดนราชาคนอื่นโจมตีอย่างกะทันหันได้

 

คิม พิจุง ง้างคันธนู มันคือธนูที่เขาได้มาจากการฆ่าพวกไอเทม 'ธนูย้อนคืน' นอกจากจะเพิ่มความเร็วให้กับลูกธนูของเขาแล้ว ลูกธนูที่ยิงออกไปจะกลับมาหาเขาด้วย

 

'ถ้าเขามาในระยะ 5 เมตร ฉันจะยิงให้ร่วงเลย'

 

ไม่ว่า ชอ ฮโย จะเก่งกาจแค่ไหน ก็ไม่มีทางจะป้องกันตัวเองจากลูกธนูที่ยิงมาจากธนูย้อนคืนนี่ได้หรอก

 

แต่ ชอ ฮโย ได้เปลี่ยนทิศทางก่อนที่จะเข้ามาในระยะ 5 เมตร เขาเร่งความเร็วขึ้นอีก ด้วยแต้มกรรม 19 แต้มในสถานะความเร็ว เมื่อรวมกับการเพิ่มความเร็วของบู๊ตลมกรด เขายิ่งวิ่งได้ไวกว่าเดิม

 

เป้าหมายของเขาไม่ใช่ คิม พิจุง การวิ่งมาหา คิม พิจุง เป็นเพียงฉากบังหน้าเท่านั้น

 

เป้าหมายจริงๆของเขาคือราชาที่อ่อนแอที่สุดที่เขาได้ชี้ไว้ในตอนแรก สัญลักษณ์ของ ราชาคนนั้นคือ หมาไน

 

ชอ ฮโย ไม่รู้ชื่อของมันหรอก รู้เพียงแต่ว่ามันเป็นเพื่อนกับ ลี มิงจี กับ แบ ฮยุนซุง รวมถึงคนอื่นๆที่คอยกลั่นแกล้งเขา การที่มันต้องการจะฆ่า ชอ ฮโย นั้นถือเป็นความผิดพลาดอย่างร้ายแรง

 

มันกำลังเหม่ออยู่ในตอนที่ ชอ ฮโย พุ่งเข้าไปหา ในตอนที่ตามันเบิกกว้างด้วยความตกใจมันก็สายไปแล้ว

 

ปัง!

 

ร่างของ ชอ ฮโย กระโดดลอยขึ้นไปในอากาศ ในตอนที่บริวารของมันกำลังตกใจ ชอ ฮโย ก็ลอยข้ามหัวพวกนั้นไปแล้ว อีกฝ่ายกำลังทำอะไรไม่ถูก ชอ ฮโย ชักกระบี่โค้งออกมาจากฝัก

 

ฉัวะ!

 

{ยินดีด้วย! คุณคือคนแรกที่ฆ่าราชาได้ คุณได้รับแต้มกรรม 3 แต้ม คุณได้รับค่าผลกรรมเพิ่ม 3 แต้ม}

 

{คุณฆ่าราชาได้สำเร็จ! คุณได้รับแต้มกรรม 2 แต้ม}

 

ถ้าเขาพบกฏลับเกี่ยวกับการเป็นคนแรกที่ฆ่าได้ตั้งแต่แรก เขาคงจะสะสมแต้มกรรมได้มากกว่านี้ แต่นี่ก็ไม่เลวเสียทีเดียว

 

ปึง

 

เมื่อ ชอ ฮโย ตกลงถึงพื้น กองทัพที่ไร้ราชาก็มองเขาด้วยสายตาว่างเปล่า ตราสัญลักษณ์บนหน้าผากของพวกเขาได้หายไปแล้ว

 

ชอ ฮโย เงยหน้าขึ้นมาและเริ่มนับถอยหลัง

 

"เสร็จไปหนึ่ง เหลือไอ้โง่อีกห้าตัว"

 

เป้าหมายต่อไปของเขาคือคนที่อ่อนแอที่สุดคนที่สอง เป็นเรื่องปกติของการต่อสู้ที่จะกำจัดคนที่อ่อนแอที่สุดก่อน

 

การต่อสู้เริ่มขึ้นแล้ว

 

ตามปกติบริวารที่เสียราชาไปจะกลายเป็นบริวารของราชาที่สังหารราชาของพวกเขาได้

แต่กฏจะแตกต่างออกไปเมื่อราชาถูกสังหารโดยราชาไร้บริวาร บริวารที่เสียราชาไปจะกลายเป็นคนไม่มีราชาไปชั่วคราว จนกว่าจะมีราชาคนอื่นมาติดต่อ

 

ดังนั้นเมื่อใดก็ตามที่ ชอ ฮโย สังหารรราชาได้สำเร็จ ที่นั่นจะเต็มไปด้วยบริวารที่ขาดราชา ราชาคนแรกที่เข้าหาพวกเขาจะได้พวกเขาไปเสริมกองกำลังของตนเอง

 

 เมื่อโอกาสแบบนี้เกิดขึ้นในเกมที่ยิ่งพวกเยอะยิ่งแข็งแกร่ง ทให้เกิดการแข่งขันกันระหว่างราชาขึ้น สงครามประสาทกลับกลายมาเป็นสงครามเต็มรูปแบบ

 

การนองเลือดเกิดขึ้นโดยมี ชอ ฮโย เป็นจุดศูนย์กลาง

 

กรรมไหลเวียนในร่างกายของ ชอ ฮโย กรรมนั้นแข็งแกร่งกว่ากระดูก หนากว่ากล้ามเนื้อ และยืดหยุ่นกว่าข้อต่อใดๆ ยิ่งเขาได้รับกรรมมากขึ้นเท่าไหร่ ร่างกายเขาก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น

 

กรรม 21 แต้มในสถานะความเร็วทำงานและทำให้ร่างกายของเขาเคลื่อนไหว ในขณะที่คนอื่นๆก้าวไป 1 ก้าว ชอ ฮโย ก็ก้าวไป 2 ในการต่อสู้ที่แค่การก้าวเพียงก้าวเดียวก็ตัดสินความเป็นความตายได้นั้นมันส่งผลกระทบอย่างมหาศาล

 

ฉัวะ!

 

ฝั่งตรงข้ามถอยหลังไปโดยไม่ได้ตั้งใจเมื่อเห็น ชอ ฮโย พุ่งเข้ามาหา แต่เมื่อก้าวไปได้หนึ่งก้าว คอของเขาก็หลุดออกจากบ่าด้วยกระบี่โค้งเสียแล้ว ชอ ฮโย หมุนตัวอย่างรวดเร็วและพุ่งไปหาศัตรูคนถัดไป

 

ฉัวะ!

 

คราวนี้เป็นชายที่สวมเกราะระดับ E ชอ ฮโย ไม่ได้เล็งที่เกราะแต่เล็งที่ข้อมือของเขา

 

"อ้าก!"

 

เมื่อเป้าหมายของเขากรีดร้องและจับข้อมือของตัวเอง ชอ ฮโย ก็ใช้โอกาสนั้นหยิบดาบปลายแหลมออกมาด้วยมือซ้ายและแทงเข้าไปที่คอฝ่ายตรงข้ามในช่องว่างระหว่างชุดเกราะ

 

ด้วยการควบคุม 30 แต้ม เขาไม่ใช้พลังงานร่างกายอย่างสูญเปล่าแม้แต่นิดเดียว ด้วยค่าการควบคุมที่เกินค่าพละกำลังและความเร็วของเขาไปแล้ว ทำให้เขาเหยียดแขนออกไปและแทงด้วยดาบได้อย่างแม่นยำ

 

"อ้ากก..."

 

ศัตรูเต็มไปหมดทุกที่ เขาฆ่าไปหนึ่ง แต่คนต่อไปก็มาถึงพร้อมกับดาบในมือที่พร้อมจะฟาดฟันลงมา เขาคว้าและดึงข้อมือของฝ่ายตรงข้ามที่ถือดาบ ในขณะที่มันกำลังเสียการทรงตัวเขาก็ฟันไปที่คอด้วยกระบี่โค้ง

 

ผู้แพ้กลายเป็นฝุ่นผง และถูกดูดซึมเข้าไปในร่างกายของ ชอ ฮโย ค่าสถานะของ ชอ ฮโย สูงขึ้นอีกแล้ว เขาแข็งแกร่งขึ้นตลอดเวลา

 

"หยุดมัน! ป้องกันไว้ให้ได้!"

 

เป้าหมายที่สองของ ชอ ฮโย มันมีตราสัญลักษณ์ของหมาป่า ราชาหมาป่า ซอง มินซิก เร่งเร้าบริวารของตนเองอย่างบ้าคลั่ง ด้วยกฏที่ว่าบริวารไม่สามารถขัดคำสั่งของราชาได้ บริวารของเขาจึงพยายามหยุด ชอ ฮโย แม้รู้ว่าตนเองจะต้องตาย

 

ราชาพืช คิม แทซิก ใช้ช่วงเวลาที่สับสนนำกองทัพของตัวเอง มาลอบโจมตีราชาหมาป่า

 

 "หา!? นี่มันบ้าอะไรกัน?" ซอง มินซิก ตกใจและวิ่งหนีไป

 

"รีบๆตายไปซะ" คิม แทซิกพูด

 

แต่ข้างหลังของ คิม แทซิกนั้น ราชาอัศวินคลั่ง จง มินจี ได้นำกองทัพมาลอบโจมตีอีกที

 

"ขอบคุณสำหรับไอเทมนะ" จง มินจี ที่ไม่ได้ไอเทมใดๆเลยในช่วงเกมพิเศษ มุ่งที่จะขโมยไอเทมมาจากราชาที่อ่อนแอ

 

ถึงแต่ละกองทัพจะไล่กันไปมาอย่างวุ่นวาย แต่ตามปกติแล้วผู้ที่แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะอยู่รอด

 

ราชาอัศวินคลั่ง จงมินจี และราชานักล่า คิม พิจุง เป็นสองคนที่เชี่ยวชาญในด้านกลยุทธ์มาก บริวารของทั้งสองไม่เสียกระบวนทัพแม้ในการต่อสู้ที่ชุลมุน

 

"ถอยหลังหนึ่งก้าว!"

 

พวกเขาจะถอยหลัง

 

"ไปข้างหน้าสองก้าว!"

 

พวกเขาจะดันศัตรูออกไปและยังคงเป็นแถวเช่นเดิม ถ้ามีใครได้โล่ห์ หอก หรือดาบ พวกเขาจะได้รับหน้าที่ใหม่ทันที ไม่มีใครสามารถหยุดกองทัพที่มีระเบียบแบบแผนได้

 

นั่นเป็นเหตุที่ ทำให้ คิม พิจุง เกิดความมั่นใจในตนเองมากเกินไป

 

ผ่านไป 20 นาทีแล้วหลังจากที่เกมชิงบัลลังก์ได้เริ่มขึ้น มีราชาที่ถูกสังหารไป 20 คน กองทัพของ คิม พิจุง ยังคงเป็นกองทัพที่ใหญ่และแข็งแกร่งที่สุด

 

ชอ ฮโย ฆ่าราชาไป 3 คนด้วยตนเอง แต่ในสายตาของ คิม พิจุง เขาก็แค่ฆ่าพวกขี้แพ้ที่ไม่รู้จักการวางแผนเบื้องต้น เพราะอย่างนั้น ในช่วงชุลมุน ถึงกองทัพของ คิม พิจุง จะเข้าไปใกล้ ชอ ฮโย มันกลับไม่สร้างความหวาดหวั่นให้พิจุงแม้แต่น้อย เขากะจะเก็บกวาดรอบๆให้เรียบร้อยและจัดการ ชอ ฮโย ทันทีที่มีโอกาส

 

'ฆ่าราชาธรรมดาจะได้แต้มกรรมเพิ่ม 2 แต้ม... อยากรู้จริงๆว่าถ้าฆ่าราชาไร้บริวารจะได้สักกี่แต้ม?'

เขาเริ่มจะตื่นเต้นชึ้นมาแล้ว

 

ตอนนี้ จง มินจี กำลังเร่งเร้า ยูน กิริม

 

"ฉันช่วยเธอเท่าที่จะช่วยได้แล้ว อย่ามาทำให้หัวเสียมากไปกว่านี้"

 

"แต่ว่า..แต่..."

 

"หุบปาก แล้วฆ่ามันเดี่ยวนี้ นังขยะ"

 

จง มินจี โยนนักเรียนที่ถูกทำให้หมดสติโดยบริวารของเธอ ลงตรงหน้า ยูน กิริม

 

ยูน กิริม ยังคงมีสัฐลักษณ์ของไอเทมอยู่บนหัว เธอยังไม่ได้รับกรรม ไม่เป็นบริวารของใคร ต่อสู้ไม่ได้ และกลายเป็นเป้าหมายของศัตรู

 

จง มินจีอยากจะฆ่าเธอเอาไอเทมเสียด้วยซ้ำ แต่เมื่อเห็นท่าทางอ่อนแอของกิริมแล้วเธอทำไม่ลง นั่นทำให้เธอยิ่งหัวเสียมากขึ้นไปอีก

 

"ถ้ามีทางเป็นไปได้ ผมก็อยากให้ ลี ไฮจิน ทำแบบนี้เหมือนกัน"

 

จง มินจี มองไปที่แฟนสาวของ ชู ยังจิน ที่ชื่อ ลี ไฮจิน ในกลุ่มของคนที่เป็นไอเทม 4 คน มีสองคนที่ฆ่าคนเพื่อกำจัดตราสัญลักษณ์ไอเทมบนหัวของตัวเองได้สำเร็จแล้ว ที่เหลืออีกสองคนคือ ยูน กิริม และ ลี ไฮจิน แต่ จง มินจี ก็ไม่สามารถบังคับให้ ลี ไฮจิน ทำตามคำสั่งของตนเองได้

 

ต่างจาก คิม พิจุง ที่เป็นที่รู้จักและเป็นตัวแทนนักเรียน เธอเป็นเพียงแค่หัวหน้าห้องเท่านั้น ถึงแม้เธอจะเป็นราชา แต่เธอก็ยังคงต้องระวังตัวในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ ชู ยังจิน

 

'ฉันจะสร้างศัตรูเพิ่มไม่ได้ถ้ายังไม่รู้ว่าต่อไปจะต้องเจอกับเกมอะไรอีก'

 

ชู ยังจิน ที่เป็นหัวหน้าหน่วยโจมตีของกองทัพเธอ เขาคลั่งแฟนสาวของตัวเองมาก ดังนั้นเธอไม่ควรสร้างความร้าวฉานให้กองทัพตัวเองโดยไม่มีเหตุจำเป็น

 

"ฮือ...ฮือ..."

 

ในระหว่างที่ จง มินจี กำลังครุ่นคิด ยูน กิริม ก็ได้แทงไปที่คอของนักเรียนที่หมดสติ น้ำตาเธอไหลไม่หยุด ตราไอเทมเหนือหัวของเธอหายไปแล้ว มีตราสัญลักษณ์ของราชาอัศวินคลั่ง จง มินจี เข้ามาแทนที่

 

จง มินจี ไม่อยากเห็นใบหน้าร้องไห้ของ ยูน กิริม

 

"อ่อนไหวอะไรนักหนา..."

 

เมื่อ ยูน กิริม ร้องไห้ ร่างกายของเธอโชกไปด้วยเลือด มันทำให้มินจีรู้สึกปวดใจจนจะทนไม่ได้ เธอลูบหัวปลอบใจกิริมราวกับเธอเพิ่งจะทำร้ายกิริมไป ก่อนจะหันหน้ากลับไปทางสนามรบ

 

"ไปสู้ได้แล้ว"

 

ถึงช่วงเวลาที่เหตุการณ์เริ่มจะสงบลงแล้ว

 

มีราชาเหลืออยู่ประมาณ 20 คน เมื่อมีพื้นที่เหลืออยู่เยอะขึ้น มันง่ายกว่าเดิมในการจับตาดูความเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้าม และด้วยความวุ่นวายที่ ชอ ฮโย สร้างขึ้น ตอนนี้กำลังกายของทุกคนกำลังถึงจุดต่ำสุด

 

เมื่อใช้แรงไปเกินค่ากำลังกายที่มีอยู่แล้ว กรรมจะผ่อนคลายตัวเองทำให้ไม่สามารถขยับร่างกายได้ไม่ว่าจะพยายามเท่าไหร่ มันเหมือนกับการปวดกล้ามเนื้อ จะเรียกว่าช่วง'คูลดาวน์'ก็ได้

 

จง มินจี สังเกตุเห็นอย่างชัดเจนว่าการโจมตีของแนวหน้าไม่ดุเดือดเหมือนแต่ก่อน แทนที่จะเรียกว่าการต่อสู้ มันดูเหมือนกับพวกเขากำลังแกล้งต่อสู้เสียมากกว่า
 

'ถ้าขนาดนี้แล้วกิริมยังเอาชีวิตไปทิ้งอยู่มันก็โง่เกินทนละ'

 

เมื่อ จง มินจี คำนวณทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยนั้น...

 

แซ่ดแซ่ด

 

แนวหน้ามีเสียงพึมพำเกิดขึ้น

 

'เกิดอะไรขึ้น?'

 

ชอ ฮโย ยืนอยู่ตรงใจกลางความวุ่นวาย

 

บริวารของราชานักล่านับไม่ถ้วนล้อมรอบเขาอยู่ กองทัพของ คิม พิจุง ที่ใหญ่และแข็งแกร่งที่สุด สัญลักษณ์ของ ราชานักล่าค่อยๆเลือนหายไปจากหน้าผากของบริวาร จง มินจี อ้าปากค้าง

 

"ตัวแทนนักเรียนตายแล้ว!"

 

ใครบางคนที่กลัวอย่างสุดขีดกรีดร้องออกมา

 

แต่เสียงกรีดร้องยังไม่จบเท่านั้น

 

ในระหว่างที่ ชอ ฮโย กำลังก่อกวนกองทัพของ คิม พิจุง อยู่ ชอ จุนซัง คิดว่านี่น่าจจะเป็นโอกาสดีจึงตั้งกลุ่มเล็กๆขึ้นมาและเดินทางมาแย่งบริวารที่เคยเป็นของ คิม พิจุง

 

ทำให้สายตาของ ชอ ฮโย พุ่งไปที่ ชอ จุนซัง ที่ตอนนี้อยู่กับแค่เพียงบริวารกลุ่มเล็กๆ

 

"หวาาาา!"

 

มีเรื่องวุ่นวายเกิดขึ้นอีกแล้ว

 

เขาฆ่าไปกี่คนถึงได้แข็งแกร่งขนาดนี้เนี่ย? การเคลื่อนไหวของ ชอ ฮโย ได้เกินมนุษย์ไปแล้ว ร่างกายเขาเร่งความเร็วออกไปเหมือนกับมอเตอไซต์ที่สามารถเร่งเครื่องจากความเร็ว 0 ไปเป็น 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในเวลา 2 วินาที

 

กระบี่โค้งของ ชอ ฮโย แทงเข้าใส่ ชอ จุนซัง

 

เคร้ง!

 

ประกายแสงเกิดขึ้นมาราวกับฟ้าผ่า ดาบสองมือของ ชอ จุนซัง ป้องกันกระบี่โค้งของ ชอ ฮโย ด้วยความเร็วแสง แต่สีหน้าของ ชอ จุนซัง กลับกลายเป็นซีดเซียว

 

'เหี้ยละ อย่าบอกนะว่านี่เป็นแค่แรงของหมอนั่นอย่างเดียวไม่ได้ใช้สกิลอะไรเลย'

 

ชอ จุนซัง คือชายที่ทำตาม ชอ ฮโย และไต่ขึ้นไปบนเพดาน ข้างบนนั้น เขาพบกับสกิลระดับ E {ตีเร็วเหนือแสง}

 

{ตีเร็วเหนือแสง} เป็นสกิลที่ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้อาวุธใดๆก็ได้โจมตีด้วยความเร็วสูง

 

 มันเข้ากับดาบสองมือของ ชอ จุนซัง ที่สุด แต่แค่การวิ่งมาฟันของ ชอ ฮโย กลับรุนแรงพอๆกับ {ตีเร็วเหนือแสง} ของเขา

 

เคร้ง!

 

ดาบทั้งสองประทะกันอีกครั้ง สกิล{ตีเร็วเหนือแสง}สามารถปัดการโจมตีด้วยกระบี่โค้งได้ ถึงภายนอกทั้งสองจะดูสูสี แต่ภายในของ ชอ จุนซัง นั้นกำลังลุกเป็นไฟ การใช้สกิลกินกำลังกายเยอะมาก กรรมที่กำลังตึงเครียดของเขาถูกดึงให้ตึงยิ่งกว่าเดิมไม่ต่างจากหนังยางที่โดนความร้อน ถ้าเขาใช้{ตีความเร็วแสงอีกครั้ง}ในสภาพแบบนี้ เขาคงไม่เหลือแรงที่จะหนีอีกต่อไป

 

"โว้ย! หยุดมันไว้!"

 

ชอ จุนซัง ใช้บริวารที่ตามเขาเป็นโล่ป้องกันในขณะที่เขาหนี

 

ฉัวะ!

 

ปึง!

 

"อ้าก!"

 

บริวารของเขาตายอย่างโหดร้าย แต่เพราะเหตุนั้นทำให้ ชอ จุนซัง สามารถหนีกลับไปหากองทัพหลักของตัวเองได้ แม้กระทั่งตอนที่เขากลับไปถึงกองทัพหลัก เขาก็ยังไม่มีความกล้าพอที่จะกลับไปช่วยบริวารของตนเองที่กำลังจะตาย

 

ตอนนี้รอบๆหายวุ่นวายแล้ว

 

มีพื้นที่ว่างที่มี ชอ ฮโย อยู่ตรงกลาง

 

หลังจากที่เขาบั่นคอตัวแทนนักเรียน คิม พิจุง ได้ ชอ จุนซัง ที่เก่งกาจที่สุดในด้านการต่อสู้ ก็หนีหางจุกตูดกลับไปหาบริวาร

 

"ฮ่า...ฮ่า..."

 

ที่ใจกลางพืนที่ว่าง ชอ ฮโย กำลังพักหายใจ

 

หลังจากสู้ได้ 30 นาที กรรมของทุกคนก็ตึงไปหมด ทำให้ขาของพวกเขาสั่นไหว ไอน้ำระเหยออกมาจากร่างกาย ชอ ฮโย

 

เขานึกถึงการต่อสู้ก่อนหน้านี้

 

'เกือบแล้วเชียว'

 

การสังหาร คิม พิจุง ในตอนที่เขาเลินเล่อนั้นไปได้สวย สร้อยคอแห่งการป้องกันช่วยเขาได้มากจริงๆ

 

คิม พิจุง ไม่สามารถป้องกันการโจมตีของเขาได้ เมื่อเขาเลิกคิดที่จะป้องกันตัวเองและพุ่งเข้าไปโจมตี

 

'ถ้าเก็บ ชอ จุนซังได้ก็น่าจะดีกว่านี้'

 

แต่ตอนนี้ ชอ จุนซัง ปิดตัวเองอยู่ในฐานทัพและระวังตัวสุดกู่ ชอ ฮโย ใช้การป้องกันเพียงหนึ่งเดียวของสร้อยคอไปแล้ว ตอนนี้ถ้าเขาไปชนกับจุนซังอีกก็จะเกินไปหน่อย

 

ชอ ฮโย เสยผมตนเอง เหยื่อหยดออกมา

 

เฮ้อ...

 

สดชื่นจริงๆ

 

เขาไม่ได้ต่อสู้เพราะอยากฆ่าใคร

 

เขาอยากรู้ว่าร่างกายตนเองจะไปได้ไกลแค่ไหน เขาควรจะวางแขนและขาไว้ในทิศทางไหน ทุกอย่างที่เขาทำในตอนนี้คือการทดลอง ทุกอย่างเป็นไปตามที่เขาคิดว่ามันจะเป็น ในที่สุดเขาก็ได้ใช้พรสวรรค์ที่ตัวเองมีแล้ว

 

เขามองไปรอบๆ เป้าหมาย 4 จาก 6 คน ได้ตายไปแล้ว เหลือราชาที่ยังมีชีวิตอยู่เพียง 17 คน ดูเหมือนกำลังกายทุกคนจะถึงขีดจำกัดแล้ว เพราะต่างคนต่างก็ใช้โอกาสนี้ในการพัก

 

แต่ ชอ ฮโย ไม่เคยคิดจะพัก

 

"ไม่ใช่ว่าเราต้องเล่นต่อให้จบเหรอ? ยังเหลือเป้าหมายอีกตั้ง 2 คน"

 

ชอ ฮโย มองไปที่ครูพละ ฮวัง มันจิ เขาหายใจเข้าเต็มปอดก่อนจะพุ่งออกไป

 

"บ้าไปแล้ว!"

 

"มันมีกำลังกายมากแค่ไหนกันเนี่ย?"

 

เสียงโห่ร้องเกิดขึ้นทุกหนทุกแห่ง ในสายตาของทุกคนที่กำลังเหนื่อย ชอ ฮโย ดูจะรวดเร็วขึ้นกว่าเดิมเสียอีก

 

ตอนเริ่มต้นเกมชิงบัลลังก์ สถานะแต่ละค่าของทุกคนอยู่ที่ประมาณ 10  แต่ กำลังกายของ ชอ ฮโย นั้นอยู่ที่ 45 และการฟื้นฟูของเขาอยู่ที่ 35 แต่หลังจากที่เขาใช้แต้มกรรมที่ได้มาในภายหลังนั้น

 

ค่ากำลังกายของเขาอยู่ที่ 83 และค่าการฟื้นฟูของเขาอยู่ที่ 73

 

ชอ ฮโย กำดาบแน่นพร้อมจะโจมตีต่อ

 

รีวิวผู้อ่าน