px

เรื่อง : I Refuse to become scumbag in tokyo ไม่อยากเป็นเศษสวะในโตเกียว
ตอนที่ 1 ชีวิตใหม่


 ปี 2005

ภายในรถไฟชินคันเซ็น ตัวเขานั้นเข้าใจแล้วว่าทำไมคนในประเทศนี้ถึงได้ภาคภูมิใจในรถไฟคันนี้มาก

 

ภายในรถไฟคันนี้ไม่มีความวุ่นวายอะไรแถมมันยั่งช่างสะดวกสบายมากจนเขาเกือบจะหลับในรถไฟเลย นอกจากนี้บริการในรถไฟก็ยังอยู่ในระดับดีเยี่ยมากซึ่งมันทำให้เขาไม่สามารถหาบกพร่องของรถไฟคันนี้จนต้องไปร้องเรียนพื่อขอตั๋วฟรี

 

อย่างไรก็ตาม แม้ว่ารถไฟคันนี้จะสะดวกสบาย แต่เขาก็รู้สึกไม่สบายเท่าไหร่นัก

 

ไม่ใช่เพราะราคาตัวแพงแต่ความจริงแล้วมันราคาค่อนข้างแพงทีเดียว อย่างไรก็ตาม สำหรับครอบครัวของเขาแล้วเธอว่าไม่เท่าไหร่

 

ในขณะจ้องมองไปที่หน้าต่าง เขาก็มองเห็นเงาสะท้อนใบหน้าของเขาผ่านกระจอกซึ่งไม่ว่าจะมองกี่ครัง เขาก็รู้สึกแปลกใจเนื่องจากเขามองเห็นใบหน้าที่แตกต่างจากใบหน้าที่เขามักจะมองดูตลอด 24 ปี

 

อย่างไรก็ตาม เขาก็ยอมรับเลยว่าใบหน้านี่ช่างหล่อเหลามาก

 

จากนั้นเขาก็ถอนหายใจออกมาแล้วสงสัยว่านี่เขามาเกิดใหม่เป็นเด็กนักเรียนญี่ปุ่นงั้นหรอ

 

โองะ ชิชิโอะ

 

นี่ก็คือชื่อของเขาในโลกนี้ และเขาก็ยอมรับตัวตนใหม่ของเขได้เร็วเนื่องจากนี่ผ่านมาหลายเดือนแล้วตั้งแต่ที่เขามาเกิดมาในร่างเด็กชายคนนี้

 

ชิชิโอะนั้นมาเกิดใหม่เป็นเด็กมัธยมต้นในเกียวและในตอนนั้นเขาอยู่มัธยมต้น ปีที่ 3

 

ชิชิโอะก็นึกถึงวันแรกที่เขามาเกิดใหม่ ในตอนนั้นเขารู้สึกสับสนเอามกาๆและเขาก็ไม่เข้าใจอะไรเลยจนกระทั่งความทรงจำของโองะ ชิชิโอะคนก่อนปราฏขึ้นในหัวของเขา

 

ซึ่งมันเป็นเพราะความทรงจำของโองะ ชิชิโอะ จึงทำให้เขารู้ภาษาญี่ปุ่นและรวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับครอบครัว การศึกษาและอื่นๆที่เกี่ยวกับเขา

 

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเขาจะได้รับความทรงจำแบบนั้นมา เขาก็รู้ว่านิสัยของเขานั้นแตกต่างจากโองะ ชิชิโอะคนก่อน ซึ่งด้วยความที่เขาไม่อยากให้ใครสังเกตเห็นเรื่องนี้ เขาจึงตัดสินใจเลือกเรียนต่อโรงเรียนมัธยมปลายในโตเกียว

 

บรื้อ!!!

 

เมื่อชิชิโอะนึกถึงความทรงจำของโองะ ชิชิโอะคนก่อน เขาก็ทนไม่ไหวจนตัวสั่นขึ้นมา

 

‘จงถูกเปลวไฟสีแดงนี้กลืนกินซะ!!’

‘ข้าคือนักสู้แห่งเพลิง’

‘อย่าริบังอาจมาใกล้ข้านะ มิฉะนั้นเจ้าจะโดนแผดเผา’

 

เมื่อคิดได้แบบนี้แล้ว ทันใดนั้นชิชิโอะก็ยกมือขึ้นปิดหน้าตัวเองทันทีเพื่อพยายามปิดบังใบหน้าที่แดงระเรื่อของเขาเนื่องจากเรื่องนี้มันน่าอายมากจนเขาอยากจะหนีไปอยู่ในทะเลทรายโกบิเพื่อกลบซ่อนประวัติศาสตร์อันดำมืดของเขา

 

อย่างไรก็ตาม ชิชิโอก็รู้ดีว่ามันเป็นไปไม่ได้และนี่ก็เป็นเหตุผลที่เขาตัดสินใจย้ายมามาอยู่โตเกียว

 

และมันก็เป้นการตัดสินใจในวินาทีสุดท้ายด้วย ซึ่งโชคดีที่น้องสาวขงอแม่ของเขานั้นเป็นอาจารย์อยู่ในโรงเรียนมัธยมปลายในโตเกียวซึ่งนั่นทำให้เขาสามารถลงทะเบียนสอบเข้าในช่วงเวลาสุดท้ายของการรับสมัคร

 

มองจ้องมองใบหน้าของตัวเองที่สะท้อนอยู่บนกระจกอีกรอบ ชิชิโอะก็สงสัยว่าทำไมหน้าตาของเขาถึงเหมือนกับตัวละครในเรื่องหนึ่งที่เขาเคยดู

 

ดวงตาของเขานั้นเป็นเป็นสีม่วงอ่อน ส่วนผมของเขาเองก็สีม่วงอ่อนเหมือนกันและเขาก็มีส่วนสูงถึง 178 CM อย่างไรก็ตามร่างกายของเขากับผอมบางไปซึ่งมันทำให้เขารู้สึกไม่พอใจเอามากๆเนื่องจากเขารู้สึกว่าร่างนี้มันอ่อนแอ

 

(หน้าตาพระเอกเราเหมือนกับแลนเซล็อต(Lanvelot) จาก Fate)

 

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเขาจะดูอ่อนแอ แต่เขากลับมีอาวุธมหาปลัยอันยิ่งใหญ่อยู่ในกางเกงซึ่งนั่นทำให้เขาถอนหายใจอย่างโล่งอก

 

จากนั้นชิชิโอะก็จับผมยาวสีม่วงอ่อนของเขาและรู้สึกแปลกๆขึ้นมาเนนื่องจากเขาพบว่าผมของเขานั้นเป็นสีธรรมชาติแต่อย่างไรก็๖ม เขาจำได้ว่าชาวเอซียส่วนใหญ่นั้นมีผมสีดำ

 

‘ผมแม่ของฉันเองก็สีม่วงเหมือนกัน…..’
 

ชิชิโอะก็นึกได้ว่าผู้คนที่เขาได้เจอมาเมื่อเดือนก่อเองก็มีสีผมหลากสีมากเช่น สีทอง สีแดง สีฟ้าและอื่นอีกมากมาย เขานั้นก็สงสัยว่ามันจะมีคนที่มีผมสีรุ้งหรือเปล่านะ ซึ่งเขารู้สึกสงสัยมาก

 

ในชาติก่อน ชิชิโอะนั้นได้ดูและอ่านเรื่องราวและผลงานมังงะ นิยายและเมะมากซึ่งเขาตระหนักได้ว่าสถานการณ์ของเขาในปัจจุบันนั้นเหมือนกับพระเอกในเรื่องพวกนั้นเอามากๆ

 

แต่โชคร้ายที่เขาไม่ได้ตัวชั่วโกงๆ ผีคุณปู่ หนังสือลึกลับหรืออื่นที่คอยช่วยเขาในชีวิตนี้

 

แม้จะเป็นแบบนั้น ชิชิโอะก็ไม่คิดว่าชีวิตของเขาจะอนาถนัก

 

ในชาติก่อน ชิชิโอะนั้นเป็นนักลงทุนและนักเทรดมาก่อน

 

ชิชิโอะนั้นค่อนข้างเชี่ยวชาญในการหาโอกาส เขานั้นรู้จักธุรกิจมากมายที่สร้างขึ้นในปี 2005 โดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวกับเทคโนโลยี ซึ่งเขารู้ดีว่าในชาตินี้เขามีโอกาสทำเงินมากมายนับไม่ถ้วนหากว่าเขาตัดสินใจเป็นนักลงทุนหรือนักเทรด

 

เมื่อเดือนก่อน ชิชิโอะได้ตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับโลกนี้และเขาก็พบว่ามันไม่ได้แตกต่างจากโลกที่แล้วของเขามาก อย่างไรก็ตาม มังงะ นิยาย ภาพยนตร์และสิ่งอี่นๆในโลกนี้แตกต่างจากโลกของเขาเป็นอย่างมาก

 

ในโลกนี้ ชิชิโอะนั้นหามังงะ นิยาย ภาพยนตร์และสิ่งอี่นๆที่มีอยู่ในโลกเดิมของเขาไม่พบซึ่งเขาก็ได้ตระหนักว่านี่แหละคือโอกาสทำเงินของเขา

 

แต่โชคร้ายที่ ชิชิโอะไม่สามารถวาดมังงะ เขียนนิยายหรือจำผลงานที่มีชื่อเสียงในชาติที่แล้วที่เขาเคยดูมาได้เลยเนื่องจากเขาจำได้แค่เนื้อเรื่องบางส่วนของผลงานพวกนั้น

 

แถมเขาก็ยังไม่สามารถสร้างละครทีวีหรือภายนตร์ได้ด้วยเมื่อพิจารณาจากการที่เขานั้นจบแค่มัธยมต้นแถมเขาก็ไม่มีเส้นสายหรือความสามารถในการสร้างด้วย

 

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าชิชิโอะจะไม่สามารถสร้างธุรกิจหรือก็อปปี้ผลงงานเหล่านั้นมาทำขึ้นที่นี่ เขาก็ยังสามารถกลับเกียวโตเพื่อไปทำงานที่พ่อเขาทอยู่ได้ แถมเขายังสามารถทำงานเป็น ข้าราชการ ตำรวจ กองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่นหรือพนักงานธนาคารเนื่องจากครอบครัวของพ่อเขาทำงานในด้านนั้นกันเยอะ

 

แถมพ่อของเขาก็มีเส้นสายมากมายด้วย

 

จากนั้นเขาก็เกาคางและสงสัยว่าเขาสามารถเรียกตัวเองว่าเป็นลูกคุณหนูได้หรือเปล่านะ

 

อย่างไรก็ตาม ชิชิโอะนั้นกลับไม่อยากได้ชีวิตแบบนั้น

 

ในเมื่อชิชิโอะได้โอกาสใช้ชีวิตเป็นครั้งแรกที่สอง เขาก็อยากจะทำอย่างอื่นบ้าง

 

จากนั้นชิชิโอะก็เอาชาเขียวที่เขาซื้อมาตอนก่อนที่เขาจะเดินเข้ามาในรถไฟออกมาแกะฝาแล้วยกดื่ม เมื่อเขายกดื่ม เขาก็สัมผัสได้ถึงความขมของรสชาเขียว

 

ซึ่งชิชิโอะก็พบว่าเขานั้นไม่ได้ฝันไป มันเป็นชีวิตใหม่อย่างีท่เขาคิดไว้จริงๆด้วย เมื่อเขาดื่มเสร็จ เขาก็วางขวดชาเขยวที่เขายกดื่มลงบนข้างเก้าอี้และตัดสินใจนอนงีบ

 

ในขณะหลับตาลง ชิชิโอะนั้นก็รู้สึกขอบคุณที่เขาได้รับชีวิตที่สอง อย่างไรก็ตาม มันก็มีสิ่งหนึ่งที่เขากังวลซึ่งนั่นก็คือความรู้เรื่องเรียนนั่นเองเนื่องจากเขาจำอะไรไม่ได้มากนักและเขาสงสัยว่าเขาจะสามารถเรียรู้เกี่ยวเรื่องนี้ก่อนไปเข้าสอบได้หรือไม่

 

--

 

หลังจากผ่านไปสองสามชั่วโม่ง ชิชิโอะก็เดินทางมาถึงสถานรถไฟ จากนั้นเขาก็เดินผ่านฝูงชนไป

 

“ขอโทษนะครับ ขอผ่านหน่อย”

 

ชิชิโอนั้นสงสัยว่าเขาจะต้องพูด ‘ขอโทษนะครับ’อีกกี่ครั้งกันแต่เขาก็ต้องทำแบบนี้เนื่องจากจากความทรงจำของชิชิโอะคนก่อน เขานั้นเป็นเด็กที่มีมารยาทมากซึ่งมันได้ฝังรากลึกลงไปในร่างเขาจนไม่สามารถแยกออกได้

 

แม้ว่าชิชิโอะจะไม่ใช่ญี่ปุ่นเมื่อชาติก่อน แต่ตอนนี้เขานั้นคือชาวญี่ปุ่น

 

เข้าเมืองตาหลิ่ว ต้องหลิ่วตามตาม

 

แม้ว่าสำนวนจะฟังดูเรียง่ายแต่เราก็สามารถเรียนรู้จากมักได้ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเขาจะเห็นด้วยกับสำนวนนี้ แต่เขาก็ยังไม่ชินกับกางก้มหัวให้คนอื่นอยู่ดีซึ่งมันทำให้เขารู้สึกไม่ค่อยสบายใจในเรื่องนี้เท่าไหร่นัก

 

หลังจากเดินผ่างกลุ่มคนมากมาย เขาก็พบกับม้านั่ง  เขาก็เลยนั่งลงพักสักหน่อย เขานั้นไม่ได้เหนือยขนาดนั้นเท่าไหร่เนื่องจากเขาพึ่งจะนอนหลับไปแต่ที่เขานั่งนั่นเพราะเขาต้องติดต่อป้าของเขาเนื่องจากเขาเดินทางมาถึงสถานีแล้ว

 

ตรู้ววว!!!

 

ทันใดนั้นชิชิโอก็สัมผัสได้ว่าโทรศัพท์ในกระเป๋าของเขาสั่น เขาจึงหยิบโทรศัพท์พับขึ้นมาจากกระเป๋าซึ่งเจ้าสิ่งนี้ทำให้ขเถอนหายใจออกมาอย่างแรง ก่อนหน้านี้เขามักจะใช้สมาร์ทโฟนอยู่บ่อยครั้งและการใช้โทรศัพท์พับแบบนี้มันก็ทำให้เขารู้สึกแปลกเอามากๆแต่เขาก็ไม่สนใจอะไรมากนักเพราะเขาเห็นเมลล์จากป้าของเขา

 

ป้า :”พอดีรถติดหน่ะ ถ้าหากเธอมาถึงสถานีแล้ว รอฉันอยู่ที่ทางเข้านะ”

 

ชิชโอะจึงได้ตอบป้าของเขาไปอย่างสุภาพแล้วเก็บโทรศัพท์พับเข้ากระเป๋า

 

ในขณะครุ่นคิดถึงป้าของเขา ชิชิโอะก็รู้สึกกังวลขึ้นมาเพราะเขานั้นไม่ได้รับความทรงจำของชิชิโอะคนก่อนอย่างสมบูรณ์ ซึ่งเขาจำได้แค่ว่าป้าของเขานั้นเป็นน้องสาวของแม่และเธอโสด นอกนั้นแล้วเขาก็ไม่รู้ว่าชิชิโอะคนก่อนและป้าคนนี้สนิทกันมากขนาดใหน

 

ด้วยการที่เขารู้สึกเบื่อ เขาจึงตัดสินใจอ่านหนังสือก่อนนเนื่องจากเขาเอาหนังสือเตรียมสอบมาด้วย แม่วาเขาจำการเรียนสมัยมัธยมต้นไม่ได้มากนัก แต่เขาก็ไม่ใช่คนโง่ เขาจึงสามารถเดข้าใจพวกมันได้อย่างง่ายดายโดยเฉาพะ ภาษาอังกฤษ ฟิสิกส์ คณิตศาสตร์และปัญหาที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์

 

อย่างไรก็ตาม ชิชิโอะนั้นกลับกังวลเรื่องวิชาภาษาญี่ปุ่นและประวัติศาสตร์เพราะในชาติก่อน ขัน้นไม่เคยเรียนพวกนี้มาก่อนเลยซึ่งมันทำให้เขาปวดหัวเอามากๆและสงสัยว่าเขาจะสอบผ่านหรือไม่กัน

 

จากนั้นชิชิโอะก็ตัดสินใจว่าหลังจากเข้าโรงเรียนมัธยมปลายนี้ได้แล้ว เขาก็จะเอาเวลาส่วนใหญ่มาเรียนเรื่องนี้เพราะเขานั้นอยากจะเข้ามหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง แล้วเรื่องรักหล่ะ?

 

เรื่องนั้นเอาไว้ทีหลังแล้วกันเนื่องจากชิชิโอะไม่คิดว่า ‘รัก’มันจะสำคัญขนาดนั้นและเมื่อเขาเข้ามหาลัยแล้ว ค่อยเอามาคิดทีหลังก็ไม่เสียหายอะไรด้วย

 

จากนั้นชิชิโอะก็เอาแต่อ่านหนังสือไปเรื่อยๆหลายชั่วโมงและในขณะเดียวกันเขาก็สงสัยว่าตอนนี้ป้าของเขารถติดมากขนาดนั้นหรือเปล่านะเพราะเธอมาสายมากแล้ว และเขาก็สงสัยว่าถนนในโตเกียวนี้มันแออัดถึงขั้นที่ป้าของเขามารับสายขนาดนี้เลยหรอ

 

“หวัดดีจ๊ะ เธอคือ โองะ ชิชิโอะคุงหรือเปล่า?”

 

เมื่อได้ยินเสียงนี้ ชิชิโอะก็เงยหน้าขึ้นมองหญิงสาวที่งดงามและดูทันสมัยคนนี้ซึ่งกำลังจ้องมองเขาด้วยรอยยิ้ม นอกจานี้ผู้หญิงคนนี้ก็มีผมสั้นสีม่วงอ่อนและเธอกำลังสวมชุดทางการอยู่

 

“ฉันเซ็นโกคุ จิฮิโระ(Sengoku Chihiro) ฉันคือป้าของเธอเอง จากนี้ไปก็เรียกฉันว่าพี่จิฮิโระนะ ”

 

ทันใดนั้นชิชิโอะก็คาดเดาตัวตนของหญิงสาวคนนี้ได้ในทันทีเนื่องจากผู้หญิงคนนี้มีความคล้ายกับแม่ของเขามากซึ่งเขาก็มองเห็นว่าใบหน้าของเธอนั้นมีความเหมือนกับแม่ของเขามากด้วย อย่างไรก็ตาม เขากลับสงสัยว่าผู้หญิงคนนี้อายุ 30 จริงๆหรอเนื่องจากเธอดูจะอ่อนเยาว์มาก

 

“สวัสดีครับ พี่จิฮิโระ ผมโองะ ชิชิโอะ ขอบคุณที่มารับผมหน่ะครับ จากนี้ไปก็ฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ”

 

ชิชิโอะก็ก้มหัวเล็กน้อยซึ่งมันเป็นการทักทายส่วนหนึ่งที่ติดเป็นนิสัยของโองะ ชิชิโอะคนก่อนแถมมันยังการกระทำที่คนที่อาศัยอยู่ในประเทศนี้ทำกันด้วย แต่แม้จะเป็นแบบนั้น เขากลับรู้สึกไม่สบายใจที่ต้องเรียกป้าของตัวเองว่า พี่จิฮิโระ

 

“อย่าสุภาพนักสิ ฉันเป็นป้าของนายนะ ตอนเด็กๆ นายมักจะขอแต่งงานฉันอยู่เสมอเลยหล่ะ อย่ามาทำตัวเป็นเหมือนคนแปลกหน้าตอนนี้สิ”

 

จิฮิโระก็ตบไหล่ชิชโอะด้วยรอยยิ้ม เธอนั้นไม่ได้เจอเขามาตั้งหลายปีซึ่งเขานั้นได้เติบโตจนหล่อเหลาเอามากๆ แม้ว่าผมของเขาจะยาวเลยไหล่ แต่แทนที่มันจะทำให้เขาดูเหมือนผู้หญิง มันกลับทำให้เขาดูราวกับเป็นอัศวินในนิยายมากกว่า เพราะเหตุนี้เธอจึงรู้สึกกังวลและสงสัยว่าจะมีสาวๆมากหน้าหลายตาเข้ามาตะครุบเขาและทำให้เขากลายเป็นเพลย์บอยหรือเปล่า

 

จิฮิโระก็ครุ่นคิดสักครู่และตัดสินใจว่าจะปกป้องเขาจากหญิงสาวพวกนั้นเนื่องจากเธอรู้ดีว่าหลานชายของเธอนั้นยังไม่รู้ประสิประสา

 

…ฮ่าๆๆ”

 

ชิชิโอะก็ทำได้เพียงหัวเราะอย่างเก้ๆกังๆเนื่องจากเคนที่อยากแต่งงานกับจิฮิโระนั้นไม่ใช่เขาแต่กลับเป็นโองะ ชิชิโอะคนก่อนแถมเธอยังอายุมากกว่าเขาถึงสองเท้าด้วย ซึ่งแม้ว่าเขาจะไม่ได้รังเกียจแต่เขาก็ไม่แน่ใจว่าคนอื่นจะยอมรับเรื่องหลานชายกับป้าแต่งงานกันได้หรือเปล่านะ

 

จากนั้นในขณะที่ชิชิโอะกำลังจะพูดอะไรออกมา ทันใดนั้นเขาก็มองเห็นหน้าจออะไรบางอย่างขึ้นตรงหน้าพร้อมกับได้ยินเสียงอะไรบางอย่าง

 

[พบเป้าหมาย!!]

 

‘หืม?’

 

ในขณะที่ชิชิโอะกำลังสับสนกับการปรากฏของหน้าจออันนี้ ทันใดนั้นเขาก็มองเห็นหน้าจออันใหม่ปรากฏขึ้นพร้อมกับเสียงที่ดังขึ้นในหัวของเขา

 

<ยินดีต้อนรับสู่ระบบเศษสวะ!!>

<ยิ่งเจอผู้หญิงมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งได้รางวัล>

<สำหรับรางวัลเริ่มต้น คุณได้รับ ‘ความเชี่ยวชาญในการทำอาหารญี่ปุ่น’!!>

<สำหรับการพบเป้าหมายแรก คุณได้รับเงิน 500ล้านเยนเข้าในบัญชี!!>

<การเดินทางได้เริ่มขึ้นแล้ว>

<พยายามเข้า พ่อหนุ่ม!!>

 

????”

 

ชิชิโอะนั้นก็รู้สึกสับสนไปหมดแต่ทันใดนั้นเขาก็มองเห็นหน้าจออันใหม่พร้อมกับเสียงดังขึ้นในหัว

 

<หยุดทำตัวโง่ได้แล้ว!! ใช้เสน่ห์ พรสววรค์ เงินทองและอื่นในการล่อลวงผู้หญิงหลายคนซะ!! ยิ่งเจ้ามีผู้หญิงในครอบครองเยอะ เจ้าก็จะยิ่งได้รับรางวัลมากขึ้น>

 

….”

รีวิวผู้อ่าน