ปรกติแล้วการสอบพวกโรงเรียนรัฐหรือว่าพวกงานรัฐบาลจะจัดสอบในโรงเรียนประถม หรือไม่ก็โรงเรียนมัธยม ตัวอย่างนะ อย่างสถานที่สอบของ หลี่ไต้ คือที่มหาลัยที่เก้าในเมืองโหยวหาว แล้วที่ไหนมีโรงเรียน ที่นั้นก็จะมีพวกโรงเรียนสอนพิเศษเสมอ มีตั้งแต่สอนพวกการเขียน คณิตศาสตร์ หรือ ภาษาต่างประเทศ หรือไม่ก็พวกงานอดิเรกทั้งหลาย วาดรูป ทำอาหาร ดนตรีทุกรูปแบบก็มี ถ้าเด็กพวกนั้นไม่ลงเรียนคลาสพวกนี้อย่างน้อย3-5คลาสก็จะเริ่มรู้สึกคุยกับเพื่อนไม่รู้เรื่องละ
โปสเตอร์ที่หลี่ไต้ เห็นเป็นของโรงเรียนกวดวิชาชื่อ Talent Education
Talent Education กำลังต้องการครูสอนพละด่วน พร้อมค่าจ้างและสวัสดิการเหรอ ชักเริ่มสงสัยละว่าถ้าฉันมีโอกาสมาถึงที่แล้ว ยังต้องรออีกเดือนนึงเพื่อรับปริญญาไหม เอาวะ ดูเหมือนจะไม่มีทางเลือกมาก ถ้างั้นก็คงต้องลองดูซักตั้ง อีกอย่าง เป็นโอกาสที่ดีเลยที่จะทดสอบว่าระบบโค้ชนี้มันมีจริงไหม”หลี่ไต้ คิดระหว่างที่เปิดประตูเข้าไปใน Talent Education
...
“ขอโทษนะครับ กำลังตามหาครูพละอยู่รึเปล่า” หลี่ไต้ ถามขณะที่เปิดประตูเข้ามา
คนที่เดินเข้ามาต้อนรับหลี่ไต้ เป็นชายวัยกลางคนอายุประมาณ40 เขาตัวขาวซีดมากกับแว่นโลหะสีทองทำให้เขาดูฉลาดมาก
“คุณมาสมัครงานหรือครับ คุณยังดูหนุ่มแน่นอยู่เลย” ชายคนนั้นกล่าว
หลี่ไต้ ยิ้มแหยงๆ ก่อนที่จะกางแขน “ผมพึ่งเรียนจบมาครับ เรียนอยู่คณะการฝึกกีฬาแล้วผมมาที่นี้วันนี้เพราะมาสอบเข้าเป็นครูโรงเรียนรัฐบาล แล้วพอดีผมเห็นโปสเตอร์คุณ ก็เลยมาถามข้อมูลไว้ก่อนครับ ผมต้องขอโทษด้วยที่ไม่ได้เตรียมเอกสารสมัครงานมานะครับ พอดีมันกะทันหันไปหน่อย แต่ผมมีบัตรนักศึกษามาด้วยนะครับ
หลี่ไต้ หาบัตรนักศึกษาแล้วยื่นให้กับชายคนนั้น ชายคนนั้นมองบัตรแล้วส่งคืนให้หลี่ไต้ ก่อนพูดว่า “ผมชื่อเจียนกั๋วเฉิน สถาบันนี้ผมกับเพื่อนเป็นคนก่อตั้งมันขึ้นมา”
“ยินดีที่ได้พบครับคุณเฉิน” หลี่ไต้ พูดทันที
“เรียกผมว่าอาจารย์เฉินก็ได้ ผมเคยเป็นครูสอนคณิตศาสตร์เด็กมัธยม” ” เจียนกั๋วเฉินพูดต่อ “เรากำลังตามหาครูพละพาร์ทไทม์ ส่วนมากจะเป็นการฝึกกีฬาให้กับเด็กมัธยมต้นในการเตรียมตัวสอบสมรรถนะทางร่างกายเพื่อเข้าโรงเรียนมัธยมปลาย คุณคงรู้เรื่องนี้แล้วใช่ไหม”
หลี่ไต้ ผงกหัว “ผมก็ต้องสอบสมรรถนะทางร่างกายเหมือนกัน เท่าที่ผมจำได้ตอนนั้นเขาเอาคะแนนแค่30คะแนนเอง
“ตอนนี้เอา60คะแนนแล้ว! มันตั้ง8%ของคะแนนสอบเข้าม.ปลายทั้งหมดเลยนะ” เจียนกั๋วเฉินพูดแล้วทำมือชูเลข8
วิชาพละเป็น1ในการสอบบังคับเพื่อเข้าโรงเรียนม.ปลาย สัดส่วนของคะแนนนั้นขึ้นอยู่กับแต่ละเขต ต่ำสุดอยู่ที่30 และสูงสุดอยู่ที่80 แล้วในเมืองที่หลี่ไต้ อยู่ คะแนนพละอยู่ที่60คะแนนของการสอบ
เจียนกั๋วเฉินว่าต่อ “เรามีเวลาแค่2อาทิตย์ก่อนสอบเข้าม.ปลาย โดยทางเราเปิดโปรแกรมฝึกพิเศษเพื่อการนี้ มีเป้าหมายอยู่ที่เด็กม.ต้นที่กำลังเตรียมตัวสอบ ครูพละคนเก่าของเราไม่ว่างเพราะเนื่องจากมีเหตุฉุกเฉินที่ไม่คาดคิด เราต้องการครูพละคนใหม่มาแทนให้เร็วที่สุด ผมคิดว่าคุณคงไม่มีปัญหากับการฝึกเด็กม.ต้นนะ เพราะคุณจบคณะฝึกสอนการกีฬามา ผมพูดถูกไหม”
“ไม่มีปัญหาเลยครับ” หลี่ไต้ รับทราบ
“ด้วยความที่ว่าคนที่มาเรียนทั้งหมดเป็นนักเรียนที่ต้องไปโรงเรียนช่วงกลางวัน การสอนของเราจะไม่ไปกระทบกับการเรียน ปรกติแล้วเราจะเริ่มตั้งแต่ 17.30ถึง19.30ของวันธรรมดา เป็นเวลา2ชั่วโมง เสาร์อาทิตย์ฝึกเต็มวัน เพราะเราเหลือเวลาไม่มากแล้ว เหลือแค่2อาทิตย์”
เจียนกั๋วเฉิน หยุดซักพัก ก่อนจะต่อ “สำหรับเรื่องค่าจ้าง เราเสนอให้คุณ300หยวนต่อสัปดาห์ในช่วงทดลองงาน นอกจากนี้ สำหรับนักเรียนทุกคนที่ฝึกจบหลักสูตร คุณจะได้รับค่านายหน้า 500 หยวนต่อคน ถ้าคุณโอเค ผมสามารถจ้างคุณตอนนี้ได้เลย”
“ตอนนี้เลยเหรอครับ” หลี่ไต้ ไม่เคยคิดฝันว่าทุกอย่างมันจะง่ายปานนี้ เขาแค่ดูบัตรนศ.แล้วก็ให้งานทำเลย
“ใช่ครับ วันนี้วันเสาร์แล้วพรุ่งนี้ก็เป็นวันอาทิตย์ เราจะเริ่มคลาสเรียนกันพรุ่งนี้ ตามที่ตกลงกันไว้นะครับ มันจะเป็นการฝึกแบบเต็มวัน ผมหวังว่าคุณคงมาที่นี้แล้วพร้อมที่จะเริ่มทำงานวันพรุ่งนี้” เจียนกั๋วเฉินพูดอย่างมั่นใจ
“ผมไม่มีปัญหาเรื่องการมาทำงานที่นี้พรุ่งนี้หรอกครับ แต่มันแค่...” หลี่ไต้ ยังพูดไม่จบ
“เยี่ยมเลย ผมจะไปเอาใบสัญญาจ้างมานะ” เจียนกั๋วเฉินเดินเข้าไปในออฟฟิซข้างหลัง
....
หลี่ไต้ เดินออกมาหน้าสถาบัน ยังคงงงกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น รู้สึกว่าทุกอย่างมันได้มาง่ายเกินไปจนเหลือเชื่อ
“ในเน็ตบอกว่า การหางานมันโคตรยากเลยสำหรับเด็กจบใหม่ ทำไมสำหรับเราวันนี้มันง่ายจังวะ เขาแค่มองบัตรแล้วก็จ้างเลย หรือมันเป็นกับดักวะ? เราก็เช็คสัญญาจ้างหลายรอบแล้วนี้ ทุกๆอย่างเป๊ะมาก ทั้งเรื่องค่าจ้าง โบนัส เวลาการทำงาน ทั้งหมดถูกเขียนอยู่ในนั้นชัดเจน พวกเขาไม่แม้แต่จะถามถึงเงินมัดจำอีกทั้งยังต้องจ่ายค่าเครื่องแบบด้วย
หลี่ไต้ คิดอย่างระวังแล้วนึกขึ้นได้ถึงข่าวที่เขาเคยเปิดเจอในอินเตอร์เน็ตเรื่องการโกงในการจ้างงาน ส่วนมากจะเป็นพวกให้ทดลองงานก่อน แต่ดันเก็บค่ามัดจำทุกอย่าง อย่างเช่นค่าเครื่องแบบ ค่าฝึกงาน และอีกเยอะ
“แต่แหม ฉันเอาเงินมาแค่20หยวนสำหรับค่าข้าวเที่ยงแล้วเอาที่เหลือทั้งหมดเก็บไว้ในธนาคาร แถมยังเอาบัตรธนาคารไว้ที่บ้านด้วย พวกนั้นไม่มีทางได้เงินซักแดงจากเด็กจนๆอย่างฉันหรอก”เขาคิด
หลี่ไต้ มาถึงที่สถาบันนั้นเช้าวันถัดมา เจียนกั๋วเฉินก็ขับรถพาเขาไปที่ศูนย์กิจกรรมเยาวชนของเมือง
มันมีพื้นที่พิเศษสำหรับทำกิจกรรมในศูนย์กิจกรรมเยาวชนของเมือง ในนั้นมีทั้งลู่วิ่ง ห้องอุปกรณ์ สนามบาสเก็ตบอล สนามบอล สนามเทนนิส สนามแบทมินตัน แล้วก็ลานปิงปอง ง่ายๆว่าทุกอย่างที่คิดว่ามันจะมี ที่นี้มีแม้กระทั้งสระว่ายน้ำ พื้นที่ทึกส่วนนั้นส่วนมากจะเปิดสาธารณะแค่ตอนที่มีการแข่งขัน ปรกติจะให้พวกสถาบันสอนพิเศษหลังเลิกเรียนยืม อย่างเช่น สนามบาสมี8สนาม ให้ยืมกับ4สถาบันติวที่เด่นในเรื่องกีฬาบาสเก็ตบอล
สถาบันTalent Education ต้องการฝึกแบบการสอบสมรรถนะของโรงเรียนม.ปลาย เลยยืมในส่วนของพวกลานกระโดด บาร์เพาะกาย แล้วก็ลู่วิ่ง ยังไงก็ตาม เราก็ต้องแชร์ลู่วิ่งกับอีกสถาบันหนึ่ง ที่พวกนี้คือที่ๆหลี่ไต้ ต้องทำงานไปอีก2อาทิตย์
…
“ศูนย์กิจกรรมเยาวชนที่นี้เป็นศูนย์กิจกรรมที่รัฐบาลจัดการอย่างเป็นทางการ พวกสถาบันที่เช่าพื้นที่ที่นี่ได้รับการจดทะเบียนในสำนักการศึกษาหมดแล้ว เพราะงั้นไม่น่าโดนการโกงแน่ๆ” หลี่ไต้ คิดตอนเดินตามคุณเฉินไปที่ๆสถาบันยืมไว้
เจียนกั๋วเฉินชี้ไปที่เเถวบาร์โหน เเล้วพูด "นอกจากพวกอุปกรณ์ตรงนั้นเรายืมกล่องอุปกรณ์มาด้วย ในนั้นมีดัมเบลเเล้วก็เเท่นสำหรับวิดพื้นของศูนย์เยาวชน ของพวกนั้นจะถูกส่งมาทีหลัง จะมีตัวเลขติดอยู่กับอุปกรณ์ ระวังอย่าให้วางสลับกันละไม่งั้นเราต้องเสียค่าปรับเพิ่ม"
หลี่ไต้ ผงกหัวเป็นนัยว่าเข้าใจ อาจารย์เฉินมองนาฬิกา ก่อนพูดว่า "นี้ก็ใกล้ถึงเวลาเเล้ว นักเรียนกำลังจะมา เราควรไปต้อนรับผู้ปกครองที่มาส่งนักเรียนพวกนั้นดีกว่า"
...
นักเรียน12คนยืนเรียงเเถวต่อหน้าหลี่ไต้ ทุกคนเป็นเด็กผู้ชายเเละมีอย่างหนึ่งที่เหมือนกัน ..พวกนั้นอ้วนหมดเลย ตามหลักพื้นฐานร่างกายสำหรับนักเรียนที่กำหนดโดยสหประชาชาติ ถ้าเด็กม.3สูง165เเล้วหนักไม่ถึง45กิโลกรัม ถือว่าขาดสารอาหาร 46-56นับว่าผอม 56-58.5ถือว่ามาตรฐาน มากกว่า58.5ถือว่าอวบหรือน้ำหนักเกิน ถ้ามากกว่า66เรียกว่าอ้วน
12คนตรงหน้าเขาเนี้ย เอาจริงๆเข้าก็จัดอยู่ในเกณฑ์อ้วน อ้วนเเบบตัวใหญ่กว่าชาวบ้านเขา หลังจากที่หลี่ไต้ ตรวจสอบดูเเล้ว ขนาดคนที่ตัวเล็กที่สุดยังจัดอยู่ในเกณฑ์อ้วน 1หรือ2ในนั้นถึงขั้นน้ำหนักมากกว่า90กิโลกรัม
"นี้มันกลุ่มก้อนหัวมันอ้วนชัดๆเลยนี้หว่า" หลี่ไต้ คิดอย่างงั้นก่อนจะถอนหายใจ หลังจากทบทวนดูเเล้ว เขาก็เริ่มรู้ตัวว่าพวกนี้คงไม่เข้าคลาสฝึกก่อนสอบสมรรถนะเเน่ๆถ้าไม่มีปัญหาน้ำหนักเกิน
ฉันควรเช็คความสามารถทางกีฬา! เอาละ! ไหนดูซิ 24 27 22 25...ไม่มีใครเกิน30เลยเหรอ แล้วอะไรคือ19วะ ไอ้หมอนี้มันอาจจะปวกเปียกยิ่งกว่าหมาของผู้หญิงแก่คนเมื่อวานอีกมั่งเนี้ย"หลี่ไต้ คิดเบาอย่างหงุดหงิด
"อย่าดูถูกผู้หญิงเเก่ที่จูงหมาเมื่อวานเชียวนะ" ระบบพูด "เดี๋ยวนี้คนแก่เต้นลีลาศทุกวัน วันละ1-2ชั่วโมง เธอเเข็งเเกร่งกว่าพวกอ้วนนี้เยอะ"
"ถูกของเเก เเต่ฉันก็ทำอะไรไม่ได้ ฉันเเค่ต้องใจเย็นๆ ตามที่สัญญาจ้างบอก ฉันจะได้เงินค่านายหน้า500หยวนต่อ1คนที่ฝึกจบคอร์ส นั้นหมายความว่าถ้าฉันทำให้พวกนี้ฝึกจบทั้งหมดได้ฉันก็ได้เงินตั้ง6000หยวนเลยนะ 6000หยวนใน2อาทิตย์เองนะ ทำไมเราโชคดีอย่างงี้เนี้ย”
ยิ่งหลี่ไต้ คิดเรื่องนี้มากเท่าไร ยิ่งรู้สึกว่ามันน่าเหลือเชื่อ ความคิดของเขาตอนนี้มีอยู่แค่เรื่องเงิน6000หยวน เขาหยิบรายชื่อเด็กนักเรียนแล้วเดินออกไปหน้านักเรียนทั้งหลาย กระแอมเคลียร์ลำคอก่อนจะพูด “สวัสดี นักเรียน เรามาเริ่มการเช็คชื่อกันดีกว่า เสี่ยวหมิงฮวง”
“มาครับ”
“กงกงยู”
มาครับ