px

เรื่อง : Almighty coach
ตอนที่13 โค้ชระดับ3


 
เจียนกั๋วเฉินเดินพาเเม่ของเด็กนักเรียนออกจากออฟฟิซ นี้ก็เป็นรายที่5เเล้วที่มาสมัครคลาสสอบพละเพื่อเข้าเรียนม.ปลาย
เจ้าหลี่ไต้ มันมาท่าไหนเนี่ย ทำไมพ่อเเม่ถึงมาที่นี้เพราะเขา ?เจียนกั๋วเฉินคิดกับตัวเองเเล้วเกาหัว เขาบริหารงานคลาสฝึกนี้มาเป็นเวลานี้ เเละนี้ก็เป็นครั้งเเรกที่เขาเห็นอะไรเเบบนี้
เด็กที่เรียนยังไม่จบทำยังไงถึงดึงดูดเด็กนักมากมายขนาดนี้? คุณเฉินเดาว่าหลี่ไต้ ไปขอให้ญาติเชาอ้างมาสมัครเพื่อเพิ่มจำนวน
นักเรียน5คนที่มาสมัครในวันนี้เป็นเพียงเเค่จุดเริ่มต้น เพราะวันต่อมามีนักเรียนมาเพิ่มอีก3คน รวมถึงสายโทรศัพท์อีก7-8สายจากผู้ปกครองที่สนใจ เเล้วพอวันหยุด พ่อเเม่ว่างกันทำให้ยอดลงทะเบียนของนักเรียนใหม่พุ่งพรวดเป็นจรวด นักเรียนใหม่16คนใน2วัน 20คนใน4วัน ทั้งหมดนั้นไม่ใช่ญาติของหลี่ไต้ เพราะคนธรรมดาที่ไหนจะมีญาติเยอะขนาดนี้ เจียนกั๋วเฉินคิดไม่ออกว่าทำไมถึงเป็นอย่างนี้ เขาเลยถามทุกคนที่เขารู้จักเพื่อหาข้อมูล เเล้วเขาก็พบต้นตอว่าเกิดอะไรขึ้น
4วันก่อนหลี่ไต้ ชนะการเเข่งขันกับเฉาเหลียงฮาว เจียนกั๋วเฉินตกใจกับข้อมูลนี้มาก คนนึงเป็นโค้ชมืออาชีพจากทีมกีฬาเทศบาล ซึ่งเรียกง่ายๆว่าเกือบจะเป็นตัวท๊อปของเมืองโหยวฮาวในเรื่องการฝึก กับอีกคนเป็นเเค่นักศึกษาที่ยังเรียนไม่จบมหาวิทยาลัย มันไม่มีทางเทียบ2คนนี้ได้อยู่เเล้ว นักศึกษาจะไปเเข่งกับโค้ชมืออาชีพที่มีประสบการณ์มากกว่าตัวเองตั้ง10ปีได้ยังไงกัน?
เเต่ถึงอย่างงั้น หลี่ไต้ ดันได้ผลออกมาได้ดีที่สุด โค้ชมืออาชีพเฉาเหลียงฮาวตอนนี้มีคำว่า"คนเเพ้"เเปะอยู่กลางหน้า อาจารย์เฉินไม่มีทางเชื่อ ถ้าไม่ได้ข้อมูลเเบบเดียวกันมานี้จากทุกคน เขาเดาว่าเฉาเหลียงฮาวอาจจะเป็นคนที่หลี่ไต้ จ้างมาเพื่อ ที่ตั้งใจเเพ้ต่อหน้าทุกคนเพื่อช่วยหลี่ไต้ เเต่มันทำลายภาพพจน์ของเฉาเหลียงฮาวหนักเกินไป ไม่มีทางที่เฉาเหลียงฮาวจะทำอย่างงั้นเพื่อหลี่ไต้ เอาจริงๆโค้ชมืออาชีพไม่ไปเเข่งอะไรกับเด็กมหาลัยด้วยซ้ำ นี้ทำให้คนคิดว่าเฉาเหลียงฮาวไม่เหมาะสมกับตำเเหน่งของเขาเนื่องจากเขาไม่มีความสามารถจริงๆ เเละเพราะอย่างงั้น นักเรียนก็ตีตัวออกจากเขา มันล้มลงคลายๆโดมิโน่
ถ้ามันเป็นคลาสเรียนอื่นๆที่ไม่ใช่คลาสฝึกกีฬา เป็นพวกวิชาภาษาจีน คณิต หรืออังกฤษ พวกนักเรียนจะไม่ออกจากคลาสเพื่อไปหาครูใหม่ทันที เเค่เพราะอาจารย์ไม่เก่งเท่าอีกคน เเต่คลาสฝึกสำหรับสอบเข้าม.ปลายมันต่างกัน ม.ต้นมีการเรียนการสอนที่ไม่อนุญาติให้นักเรียนเรียนซ้ำชั้นได้ ถึงเเม้จะมีบางที่ให้ซ้ำได้ เเต่พวกโรงเรียนม.ปลายดังๆก็ไม่รับนักเรียนที่เรียนซ้ำฉันอยู่ดี
สำหรับนักเรียนที่จะไปสอบ วิชาพละถือว่าเป็นโอกาศเดียวในชีวิต เเละเเน่นอนพ่อเเม่พวกนั้นก็จะเลือกสิ่งที่ดีที่สุด คลาสเรียนที่ดีที่สุด อาจารย์ที่ดีที่สุดให้กับนักเรียนที่ตั้งเป้าไว้ว่าจะไปโรงเรียนม.ปลายชื่อดัง เเม้เเต่คะเเนนเดียวยังอาจจะทำให้คัดนักเรียนคู่เเข่งออกไปได้หลายคนทีเดียว
หลี่ไต้ ตอนนี้มีนักเรียนทั้งหมด36คน เจียนกั๋วเฉินไม่เปิดรับสมัครนักเรียนเพิ่มเเล้วเพราะเขาคิดว่าเเค่นี้ก็หนักพอสำหรับหลี่ไต้ เเล้วที่จะเทรนนักเรียน36คนด้วยตัวของเขาเองไปพร้อมๆกัน เเล้วก็ตอนนี้ไม่มีที่ว่างเหลือในสนามฝึกเเล้วด้วย
อีกอย่าง ตอนนี้เหลือเวลาเเค่1อาทิตย์ก็จะถึงการสอบพละเเล้ว มันอาจจะสายเกินไปถ้านักเรียนจะมาเริ่มเข้ารับการฝึกในตอนนี้
...
ในสนามฝึก หลี่ไต้ คิ้วขมวดด้วยความกังวลมาก
การฝึกเป็นไปได้ช้าลงกว่าแต่ก่อน! หลี่ไต้ คิดกับตัวเอง
การตอบสมรรถนะเข้าโรงเรียนม.ปลาย ใกล้จะมาถึงแล้ว แต่นักเรียนของเขากับพัฒนาได้ช้าลงกว่าที่ควรจะเป็น เขาบอกได้ง่ายๆจากตัวเลขที่โชว์บนเครื่องตรวจของเขา นักเรียนคนเดิมที่ได้แต้มเยอะต่อวันในตอนแรกตอนนี้ได้แค่วันละ1แต้ม ทำให้หลี่ไต้ เป็นห่วงมาก
ผลการฝึกต่ำลงเหรอ? ไม่มีทางหน่า นี้มันเหลืออีกตั้งหลายวันก่อนการ์ดโค้ชตัวท๊อปจะหมดอายุนี้ มันน่าจะไม่น่ามีความต่างของผลการฝึกระหว่างวันนี้กับเมื่อวานซิ ทำไมถึงพัฒนาได้ช้าลงตอนนี้ละ”
เสียงจากระบบพูดกับหลี่ไต้ ขณะที่เขากำลังครุ่นคิดเรื่องนี้ “มันก็เป็นเรื่องธรรมดานี้ที่จะฝึกได้ช้าลง คิดถึงการฝึกกีฬาแบบปรกติซิ มันจะได้ผลเห็นได้ชัดในช่วงแรกที่ฝึก แล้วหลังจากนั้นมันก็จะเห็นผลช้าลงจนถึงไม่เห็นผลเลย แต่เมื่อแกเป็นโค้ชตัวท๊อป แม้แต่การพัฒนาการเล็กๆน้อยๆยังใช้เวลานานมากๆกว่าจะได้แต่ละที มันไม่เกี่ยวอะไรกับระบบหรอก มันเกี่ยวกับขีดความสามารถทางร่างกายมนุษย์ต่างหาก”
“เอาการวิ่ง100เมตรมาเป็นตัวอย่างก็ได้ เราใช้เวลาแค่ไม่กี่สัปดาห์ ที่จะพัฒนาจากวิ่งได้13วิกลายเป็นวิ่งได้12วินาที แต่ใช้เวลาหลายเดือนในการพัฒนาจาก12เป็น11วิ และอาจใช้เวลาหลายปีในกว่าวิ่งให้ได้จาก11วิ เป็น10วินาที 99เปอร์เซนท์ของนักกีฬาใช้เวลาทั้งชีวิตของพวกเขาเพื่อทลายกำแพง10วิ แต่ก็ทำไม่ได้ หลังจากที่พังกำแพง10วิมาได้ การพัฒนาเพิ่มอีกซัก0.01วิก็นับว่ายากมากแล้ว ยิ่งแกเก่งขึ้น ยิ่งพัฒนาช้าลง นักกีฬาระดับต้นบางคนอาจจะถึงขั้นที่ว่าทำได้แย่ลงถ้าไม่ออกกำลังกายถึงจำนวนที่กำหนด นี้เป็นกฏของกีฬา”
หลี่ไต้ เข้าใจ "ตอนนี้ฉันเข้าใจ ลูกศิษท์ของฉันตอนนี้ถึงขีดจำกัดของตัวเองกันเเล้ส เพราะงั้นการพัฒนาจึงช้ากว่าที่ผ่านๆมา เเต่ถึงจะได้ผลลัพท์การฝึกที่น้อยลงจากเเต่ก่อน เเต่พวกนักเรียนยังสามารถทำคะเเนนเต็มได้ในการสอบพละที่จะถึงนี้ ถ้าดูจากความสามารถพวกเขาเเล้ว"
"เเกจะพูดอย่างงั้นก็ได้" ระบบหยุดซักครู่ก่อนจะพูดต่อ "ข้ามีข่าวดีจะมาบอกเเก ค่าประสบการณ์ของเเกถึงกำหนดที่จะอัพเลเวลเเล้วเมื่อไม่นานมานี้ ตอนนี้นายไม่ใช่มือใหม่เเล้ว นายเป็นโค้ชตัวจริงเสียงจริง!"
"ฉันเวลอัพเเล้วเหรอ ฉันไม่คิดว่ามันจะเร็วขนาดนี้" นี้มันเร็วกว่าที่หลี่ไต้ คิดไว้เยอะมากจนปล่อยให้เขาเบลออยู่ซักพัก
จนเขานึกขึ้นได้ว่าเป็นเพราะนักเรียนของเขาเยอะขึ้น ทำให้ความเร็วในการอัพเกรดเร็วขึ้นตามไปด้วย ตอนที่มีนักเรียนเเค่12คนมันทำให้หลี่ไต้ ใช้เวลานานกว่าจะมีค่าประสบการณ์ถึง100
เเต่ตอนนี้เขามีนักเรียน36คน ความเร็วมันก็จะคูณ3เข้าไป นั้นเป็นเหตุผลว่าทำไมเลเวลของหลี่ไต้ อัพก่อนกำหนด
ชื่อ หลี่ไต้
เลเวลโค้ช โค้ชลำดับ3, ขั้นเบื้องต้น 0/1000
อื่นๆ การ์ดทดลองใช้โค้ชตัวท๊อป(4วัน)
รายการฝึก :เสี่ยวหมิงฮวง ,ชุน ลี่,กงกงวู ,เสี่ยนหยีซู....
"โค้ชลำดับ3ในขึ้นเบื้องต้น? มันมีกี่ขั้นกันละเนี่ย"หลี่ไต้ ถาม
ระบบตอบทันที "มี3ขั้น ขั้นเบื้องต้น ขั้นกลาง ขั้นอาวุโส หลังจากที่เเกผ่านขั้นอาวุโสไปเเล้วของโค้ชลำดับ3 เเกก็จะกลายเป็นโค้ชลำดับ2"
"เเล้วตัวเลขค่าประสบการณ์0/1000นี้สำหรับไปขั้นกลางหรือขั้นอาวุโสละ"
หลี่ไต้ ถามต่อ
"สำหรับไปขั้นกลางซิ"ระบบตอบอย่างไม่ลังเล
"เเต่นี้มันก็หมายความว่าฉันต้องใช้ค่าประสบการณ์มากขึ้นกว่าเดิมถึงจะอัพเกรดเป็นโค้ชลำดับ2ได้ซิวะ!" หลี่ไต้ บ่น
"เลิกบ่นเเล้วไปดูของรางวัลของเเกซะ เเกจะได้รางวัลทุกครั้งที่เลเวลอัะ เเล้วตอนนี้เเกก็ได้จากการอัพเวลจากมือใหม่เป็นโค้ชลำดับ3 ไม่อยากดูหรอว่าข้างในของรางวัลนั้นมันมีอะไร"ระบบถาม
หลี่ไต้ คิดถึงเรื่องของขวัญซักเเปป กล่องของขวัญก็โผล่ออกมาในระบบ
"รอบที่เเล้วได้โค้ชตัวท๊อป14วันมาใช้ สงสัยจริงๆว่ารอบนี้จะได้อะไร" หลี่ไต้ เปิดกล่องของขวัญดูว่ามีอะไรอยู่ข้างใน
 
 

รีวิวผู้อ่าน