“หลูหลินจือ! ข้าต้องการความช่วยเหลือจากท่าน เจ้าเคยกล่าวว่าจะช่วยข้ามิใช่หรือ”
เย่เจิ้นคว้าแขนของชายผู้นั้น แต่เขากลับมองมายังใบหน้าของนางอย่างสิ้นหวัง
ตลอดระยะสองปีที่ผ่านมา เขาให้ความช่วยเหลือนางมาโดยตลอด
ด้วยเหตุนี้ เย่เจิ้นจึงมองว่าเขาเป็นเพื่อนสนิทของนางอย่างแท้จริง
นางได้ส่งจดหมายถึงโม่หรงซาน ผ่านทางเขา
และตอนนี้นางคิดว่า เขาเป็นเพียงผู้เดียวที่สามารถช่วยนางได้อย่างแน่นอน โดยเฉพาะในสถานการณ์เช่นนี้
หลูหลินจือกล่าวด้วยรอยยิ้มที่แสดงถึงความมั่นใจ
“ข้าจะต้องช่วยเจ้าแน่นอน”
และเขาได้จ้องมองดู ขณะที่เย่เจิ้นดึงสิ่งของบางอย่างออกมาจากเสื้อคลุมของนาง:
มันเป็นหยกที่แกะสลักเป็นรูปหงส์
“ช่วยพาข้าไปหาจักรพรรดิด้วย และในทันทีที่เขาเห็นสิ่งนี้เขาจะออกมาพบข้า”
เย่เจิ้นนำจี้หยกที่ตนเองสวมใส่และเก็บเอาไว้เป็นเวลานานถึงแปดปี และกล่าวว่า
“มันจะมิมีปัญหาอย่างแน่นอน!”
ดวงตาของหลูหลินจือจ้องมองไปยังหยกชิ้นนั้น
“บางทีตอนนี้จักรพรรดิอาจยุ่งอยู่กับการปฏิบัติพระราชกรณียกิจของพระองค์อยู่”
“ได้โปรด ข้ายอมทำทุกอย่าง ขอเพียงแค่ให้ได้พบเขาเท่านั้น
ข้าเคยช่วยชีวิตเขา และเขาได้สัญญากับข้าไว้ ตราบใดที่ข้ามีสิ่งนี้เขาจะให้ทุกสิ่งที่ข้าต้องการ
ได้โปรดบอกเขาว่า ข้าขอเพียงสิ่งเดียวเท่านั้น จงไว้ชีวิตตระกูลเย่”
เย่เจิ้นรู้สึกได้ถึงน้ำตาที่รินไหลออก มาโดยมิขาดสาย
และนางมิปรารถนาที่จะใช้ชีวิตร่วมกับเขาอีกต่อไป ตอนนี้เพียงแค่ต้องการช่วยชีวิตคนตระกูลเย่
เย่เจิ้นส่งจี้หยกให้กับหลูหลินจือด้วย มือที่สั่นเทา
ดวงตาของหลูหลินจือจ้องมองไปยังจี้หยกในมือของตนเอง
“เจ้าวางใจได้ ตอนนี้กลับไปรอที่ตำหนักก่อน”
เย่เจิ้นกลับไปยังตำหนักของนางและเฝ้ารออย่างทุกข์ทรมาน
แต่มิเคยรู้เลยว่า กำลังมีผู้นำเหล้าพิษมามอบให้นาง...
เย่เจิ้นจ้องมองไปยังหลูหลินจือ ด้วยความรู้สึกสับสนเป็นอย่างมาก
เมื่อเห็นจี้หยกเขาจะรู้ว่านางคือหญิงสาวที่ช่วยเขาเอาไว้
แต่เหตุใดเขาจึงมิมาหานาง
"เหตุใด?"
หลูหลินจือกล่าวออกมาอย่างแผ่วเบาว่า
“จักรพรรดิเชื่อมานานแล้วว่า หญิงสาวที่ช่วยชีวิตเขาคือ ซวงเอ๋อ
แม้ว่าเจ้าจะนำจี้หยกชิ้นนี้มาแสดงให้เขาดู มันก็จะมิมีอันใดเปลี่ยนแปลง”
เย่เจิ้นจึงเงยหน้าขึ้น และจ้องมองไปยังหลูหลินจือ
“ซวงเอ๋อหรือ?
หลูซวงเอ๋อเป็นน้องสาวของเจ้าเช่นนั้นหรือ?
เจ้าก็รู้ว่า ข้าเป็นผู้ที่ช่วยชีวิตจักรพรรดิ เหตุใดเจ้าจึงมิอธิบายให้เขาฟัง!”
อย่างไรก็ตาม หลูหลินจือจ้องมองใบหน้าของนางด้วยความรังเกียจ
“หลินจือตอบข้ามาสิ! เพราะเหตุใดกัน"
ก่อนที่นางจะเอ่ยถามถึงสิ่งอื่น มือของผู้ที่เย่เจิ้นไว้ใจก็คว้าร่างของนางไว้
นางพยายามดิ้นรนอย่างสุดชีวิต แต่ก็มิสามารถต้านทานได้
หลูหลินจือกระซิบอย่างแผ่วเบา
“เย่เจิ้น ข้าเป็นหนี้เจ้าในชาตินี้ และตอนนี้จงเดินทางสู่ชีวิตหลังความตายอย่างปลอดภัย”
จากนั้นเมื่อจับตัวเย่เจิ้นได้ สาวใช้ที่ไว้ใจได้มากที่สุดของนางได้ช่วยเขาง้างปากของเย่เจิ้น จากนั้นจึงกรอกเหล้าพิษเข้าปากนางทันที
เสียงทุ้มต่ำของหลูหลินจือ กล่าวว่า
“…จงไปใช้ชีวิตหลังความตายให้มีความสุข”
นางทรุดตัวลงนั่งกองกับพื้น และใช้มือเกาะกุมที่บริเวณลำคอของตนเอง ขณะที่พยายามหายใจอย่างเต็มที่
ด้วยความทุกข์ทรมานนั้น นางจ้องมองไปยังจุดเดียว นั่นคือ ใบหน้าอันอ่อนโยนของหลูหลินจือ
และทันใดนั้น นางได้หมดความรู้สึกลง ทุกอย่างมืดมิด มิหลงเหลือความรู้สึกใด ๆ อยู่เลย
นอกจากความเจ็บปวดในหัวใจ และความเจ็บปวดจากการถูกทรยศจากผู้ที่นางไว้ใจ
วิญญาณของเย่เจิ้นหลุดลอยออกจากร่าง และล่องลอยไปในอากาศ
เป็นภาวะที่ไร้น้ำหนัก ทุกอย่างเคว้งคว้าง และว่างเปล่า
นางเฝ้าดูขณะที่หลูหลินจือออกคำสั่งให้ฆ่าคนรับใช้ทั้งหมดในตำหนักรวมถึงสาวใช้คนสนิทของนางด้วย
และได้เกิดไฟไหม้ครั้งใหญ่ลุกลามท่วมตำหนักที่นางอาศัยอยู่ และร่องรอยของเย่เจินก็ได้ถูกทำลายจนหมดสิ้น
ดวงวิญญาณของเย่เจิ้นได้ติดตามหลูหลินจือเข้าไปในวังหลวง และล่องลอยเข้าไปยังห้องหนังสือของจักรพรรดิ
“ทูลฝ่าบาท หวังเฟยเย่เจิ้นได้ทราบว่า พระองค์จะกักขังนางเอาไว้ในวัง
นางมิเต็มใจที่จะปฏิบัติตาม จึงจุดไฟเผาตำหนักของตนเอง และมิมีผู้ใดรอดชีวิตเลย”
หลูหลินจือกำลังคุกเข่าอยู่ต่อหน้าชายผู้หนึ่ง และกล่าวด้วยท่าทีที่แสดงถึงความเคารพ
ดวงวิญญาณของเย่เจิ้นล่องลอยข้ามเสาไป และในตอนนี้มิมีสิ่งใดสามารถมาหยุดวิญญาญของนางได้
นางเพียงแค่ยืนอยู่ตรงหน้าชายผู้นั้น และมองตรงไปยังเสื้อคลุมสีทองเหลืองอร่ามของเขา
สิ่งนี้ทำให้ใบหน้าที่สง่างามของเขารู้สึกคุ้นเคยมากขึ้น และทันใดนั้นเอง
นางกำลังมีความรู้สึกว่า มีอาการตัวสั่นอย่างมิสามารถจะควบคุมได้
มิได้เห็นเขามาเป็นเวลาหลายปีแล้วเขามิใช่เด็กหนุ่มในความทรงจำของนางอีกต่อไปแล้ว
เพราะชายหนุ่มผู้นั้นสวมเสื้อผ้าที่ธรรมดาพร้อมกับมีรอยยิ้มที่ดูเป็นธรรมชาติบนใบหน้า
แต่ตอนนี้เขากลายเป็นผู้ที่หล่อเหลามากขึ้น แววตาตรงนิ่ง และมิแยแสต่อสิ่งใด
ซึ่งนางมีความรู้สึกว่า เป็นการเปลี่ยนแปลงที่น่าหวาดกลัวทีเดียว