px

เรื่อง : I Refuse to become scumbag in tokyo ไม่อยากเป็นเศษสวะในโตเกียว
ตอนที่ 15 การทดสอบ 2


ชิชิโอะก็ได้หยิบกระดาษสอบขึ้นมาดูคร่าวๆ

 

หลังจากอ่านสักครู่ เขาก็พบว่ามันเป็นการทดสอบที่ครอบคลุมไปด้วยวิชาต่างๆแถมมันยังมีเนื้อหาอัดแน่นไปหมดด้วย และนอกจากข้อสอบก็ยังบอกให้เขาเขียนในสิ่งที่นอกเหนือจากความเข้าใจของเด็กม.ต้นด้วย ซึ่งนั่นส่งผลให้นักเรียนส่วนใหญ่ที่มาสอบนั้นแทบจะไม่สามารถทำข้อสอบเสร็จไปภายในสองชั่วโมง

 

อย่างไรก็ตาม

 

จู่ๆในหัวของเขาก็มีคำตอบของคำถามพวกนี้ขึ้นมาซึ่งนั่นทำให้เขารู้ว่าน่าจะสามารถทำข้อสอบได้เสร็จ

 

ด้วยการที่ชิชิโอะไม่อยากจะเสียเวลาให้เปล่าประโยชน์ เขาจึงใช้สมาธิทั้งหมดไปกับการทำข้อสอบนี้

 

เมื่อเห็นคำถามแต่ละข้อที่อยู่บนกระดาษ ทันใดนั้นคำตอบอันชัดเจนของคำถามนี้ก็ได้ปรากฏขึ้นในใจของเขาทั้งหมด ซึ่งนั่นทำให้เขาสามารถตอบคำถามพวกนี้ได้อย่างง่ายดาย มันทำให้เขารู้สึกว่าเขากำลังโกงข้อสอบอยู่อย่างงั้นแหละเพราะสิ่งที่เขาจะต้องทำก็คือการนำคำตอบที่ปรากฏขึ้นในใจของเขาออกมาเขียนใส่กระดาษตรงหน้า

 

ดังนั้นแล้วเขาจึงเริ่มขยับมือเขียนคำตอบลงไปโดยการใช้หัวปากกาเขียนคำตอบมากมายนับไม่ถ้วนลงไปกระดาษอย่างรวดเร็ว

 

ณ ตอนนี้ภายในห้องจึงมีเพียงแค่เสียงการใช้ปากกาขีดเขียนลงบนกระดาษที่ดังขึ้นมาเท่านั้น

 

ทางโคฮารุก็เหลือบมองชิชิโอะด้วยความพึงพอใจซึ่งเธอนั้นไม่ได้หันสายตาออกจากเขาเลยแม้แต่น้อย เธอนั้นยอมรับเลยว่าเมื่อพิจราณจากท่าทางอันเงียบขรึมและสภาพจิตใจอันแข็งแกร่งของเขาแล้ว ผู้เข้าสอบคนนี้ก็ทำให้เธอประหลาดใจมากจริงๆ แม้จะเป็นแบบนั้น เธอก็ไม่แน่ใจว่าเขาจะทำออกมาได้ดีแค่ใหนซึ่งนั่นทำให้เธออยากจะเร่งเวลาไปจนถึงตอนที่เธอได้ตรวจกระดาษคำตอบของเขาเลย

 

จากนั้นเวลาก็ค่อยๆผ่านไปทีละเล็กทีละน้อยซึ่งความเร็วในการทำข้อสอบของผู้เข้าสอบนั้นก็ช้าลงเรื่อยๆ นอกจากนี้ผู้เข้าสอบหลายก็นั่งอยู่บนโต๊ะของตัวเองด้วยหน้าซีดเซียวและมีบางคนที่จ้องมองกระดาษข้อสอบตรงนั้นด้วยใบหน้าอันงงงวย แถมยังมีบางคนที่แสดงสีหน้ากระวนกระวายในขณะที่พวกเขาพยามตรวจสอบคำตอบบนกระดาษหลายต่อหลายครั้งแต่ทว่า ไม่ว่าเข้าจะเช็คกี่ครั้ง พวกเขาก็ไม่พอใจสักทีเพราะพวกเขารู้สึกว่าคำตอบของพวกเขามันน่าจะมีจุดที่ผิด

 

เมื่อเห็นแบบนี้แล้ว โคฮารุก็ส่ายหัว แม้ว่าโรงเรียนมัธยมปลายแห่งนี้จะเน้นไปทางด้านศิลปะ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า มาตราฐานการศึกษาของโรงเรียนแห่งนี้จะต่ำต้อย ซึ่งกล่าวได้ว่ามาตราการศึกษาของโรงเรียนนั้นดีเลิศเกินกว่าโรงเรียนมัธยมปลายส่วนใหญ่ในโตเกียว

 

ถ้าหากคนที่ไม่มีพื้นฐานความรู้ที่ดีและทำได้คะแนนต่ำ พวกเขาก็คงจะสอบตกแน่นอน

 

ขณะนี้ชิชิโอะนั้นกำลังเขียนคำตอบลงไปซึ่ง รางวัลความสามารถทางร่างกายเพิ่มขึ้นสองเท่า’นั้นเป็นส่วนช่วยในการทำข้อสอบได้อย่างมากเพราะมันทำให้การตอบคำถามของเขาเร็วมากกว่าเดิมหลายเท่า ซึ่งแม้ว่าจะเป็นแบบนั้น เขาก็ยอมรับว่าเขารู้สึกนิ้วชาเล็กน้อยเนื่องจากคำถามในกระดาษข้อสอบนั้นมันเยอะเกินไป

 

เมื่อชิชิโอะได้ตอบคำถามส่วนใหญ่จนหมด ก็เหลือเวลาในการทำข้อสอบอีก 15 นาที ซึ่งเขาเชื่อว่าเขาสามารถตอบคำถามในกระดาษข้อสอบได้หมดแน่ๆ

 

จากนั้นเวลาก็ได้พัดผ่านไปเงียบๆซึ่งไม่มีใครรู้เลยว่าตอนนี้กีโมงจนกระทั่งเสียงแจ้งเตือนดังขึ้นมาจากโพเดี่ยม

 

“หยุดทำข้อสอบได้”

 

เมื่อโคฮารุได้ยินเสียงแจ้งเตือน เธอก็ลุกขึ้นยืนและหยุดทุกคนเนื่องจากการสอบในช่วงเช้าได้จบลงแล้ว

 

ทางชิชิโอะนั้นได้วางปากกาเมื่อ 10 นาทีก่อนที่จะมีเสียงแจ้งเตือน แม้ว่าเขาอยากจะเกลียดระบบนี้แต่เขาก็ไม่สามารถทำได้เพราะความสามารถที่ระบบนี้มอบให้เขานั้นมันช่างสุดยอดมาก

 

‘หรือว่าฉันควรจะเป็นเศษสวะดีนะ?’

 

อย่างไรก็ตามเมื่อชิชิโอะนึกถึงเรื่องเมื่อคืน เขาก็ปฏิเสธความคิดนี้ไปเลยเพราะเขาไม่อยากจะเป็นเศษสวะแม้เขาจะรู้ดีว่ารางวัลทุกอันที่เขาได้รับมาจากระบบนั้นมันจะยอดเยี่ยมแค่ใหนก็ตาม

 

หลังจากโคฮารุเก็บรวบรวมกระดาษคำตอบแล้ว ชิชิโอะก็ลุกขึ้นยืนพร้อมกับขยับขาเพราะเขารู้สึกว่าขาของเขาชาเล็กน้อยหลังจากที่นั่งนานถึงสองชั่วโมง

 

 

จากนั้นชิชิโอะก็เดินออกไปจากห้องเพราะเขาอยากจะไปห้องน้ำ

 

ผู้เข้าสอบส่วนนั้นก็ยังคงครุ่นคิดถึงคำถามในกระดาษคำตอบที่เขาพึ่งทำไปและก็มีบางส่วนที่แสดงใบหน้าอันผิดหวังออกมาด้วย

 

อย่างไรก็ตาม เรื่องพวกนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวกับเขาเลยเพราะไม่มีใครสามารถทำได้ทั้งหมดในสถานการณ์อย่างนี้หรอกนอกเสียจากว่าจะเป็ฯคนที่มีความสามารถย้อนอดีตมาแก้ไขเรื่องผิดพลาดที่เขาเคยทำ

 

หลังจากที่เขาออกมาจากห้องน้ำ ผู้คนที่อยู่ภายในห้องน้ำจ้องมองเขาด้วยความประหลาดใจ ต่อมาชิชิโอะก็ได้เดินไปทานข้าวเที่ยงที่โรงอาหาร แม้ว่านี่จะเป็นครั้งแรกที่เขามาโรงเรียนนี้แต่ในทางเดินนั้นมีป้ายบอกสถานที่อันสำคัญในโรงเรียนเต็มไปหมด ดังนั้นเขาจึงไม่หลงทาง

 

เมื่อกินอาหารเที่ยงธรรมดาๆเสร็จ ชิชิโอะก็เดินทางกลับมาที่ห้องสอบอีกครั้งเพื่อรอทำข้อสอบครั้งที่สอง

 

การทดสอบนั้นจะเริ่มตอน 14.00น.ซึ่งการทดสอบในตอนบ่ายนั้นจะเป็นการทดสอบที่ประกอบไปด้วยวิชาที่เหลือและเรื่องอื่นๆ

 

อย่างไรก็ตาม ในการทดสอบครั้งนี้เหลือผู้เข้าสอบอยู่เพียงไม่กี่คนเพราะผู้เข้าสอบส่วนใหญ่ได้ออกไปแล้ว(หมดหวังเลยเลิกสอบแม่ง)

 

ซึ่งมันเกิดจากหลังจากที่ได้ฟังคำอธิบายเรื่องการสอบจากโคฮารุ ผู้คนหลายคนก็ตัดสินใจยอมแพ้เลิกสอบไป

 

ส่วนในการสอบนี้ ชิชิโอะก็ได้ตอบคำถามของข้อสอบอย่างรวดเร็วเหมือนดั่งเมื่อตอนเช้าโดยให้ความสนใจกับข้อสอบอย่างเดียวซึ่งไม่มีใครสามารถหยุดยั้งเขาได้เลยสักคนเดียว

 

ในขณะที่เขากำลังโฟกัสอยู่กับข้อสอบอย่างเต็มที่ เวลาก็ได้พัดผ่านไปอย่างรวดเร็วจนกระทั่งชิชิโอะได้ยินเสียงแจ้งเตือนที่บอกกับทุกคนว่าการสอบได้จบลงแล้ว

 

ดังนั้นชิชิโอะจึงวางข้อสอบลงและบิดขี้เกียจเนื่องจากเขารู้สึกปวดตัวเล็กน้อย ตอนแรกเขานั้นอยากจะกลับเลยแต่สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจรอโคฮารุก่อนเนื่องจากดูเหมือนเธอจะยังไม่บอกให้ทุกคนกลับ จากนั้นเขาก็หันไปมองรอบๆแล้วจึงส่งการะดาษข้อสอบให้กับโคฮารุและในขณะนั้นเขาก็สังเกตเห็นว่ามีผู้เข้าสอบบางคนไม่อยากจะส่งกระดาษข้อสอบให้เธอจนกระทั่งพวกเขาถูกตักเตือนซึ่งสุดท้ายแล้วพวกเขาก็ต้องยอมส่งให้เธออย่างโดยดีแล้วจึงล้มตัวลงนอนบนโต๊ะราวกับซอมบี้

 

แต่ทางชิชิโอะนั้นรู้สึกดีใจอย่างลับๆเนื่องจากหากไม่มีรางวัลที่เขาได้มาในตอนเช้า เขาก็คงจะเป็นแบบคนพวกนั้น

 

หลังจากโคฮารุเก็บกระดาษข้อสอบ การทดสอบก็ถือว่าจบลงเรียบร้อย

 

จากนั้นแล้วชิชิโอะก็หยิบข้าวของของเขาแล้วเดินออกไปจากห้องอย่างชิวๆ อย่างไรก็ตามเมื่อเดินไปได้ซักพักเขาก็หยุดลงเพราะเขาเห็นจิฮิโระยืนอยู่หน้าประตูซึ่งดูเหมือรนว่าเธอกำลังรอเขาอยู่  มันทำให้เขารู้สึกประหลาดใจขึ้นมาเนื่องจากน้าของเขานี่ช่างตรงต้อเวลามากๆ เพราะเขาพึ่งจะทำข้อสอบเสร็จเองแต่น้าของเขากลับรออยู่ที่หน้าประตูแล้วซะงั้น

 

“ผมพึ่งจะทำข้อสอบเสร็จหน่ะครับ ขอโทษทีนะครับที่ปล่อยให้รอ พี่จิฮิโระ”

 

“ไม่หรอก ฉันพึ่งจะทำธุระเสร็จเอง แล้วเป็นไงบ้าง? เธอมั่นใจเรื่องการสอบหรือเปล่าหล่ะ?”จิฮิโระก็จ้องมองหลานของตัวเองที่แสดงสีหน้าเฉยๆออกมา ซึ่งเธอนั้นไม่เห็นเขาแสดงสีหน้ากังวลหรือเหนื่อยใจออกมาเลย ดังนั้นการสอบก็น่าจะไม่เป็นอะไรหรอกมั้ง?

 

“แม้เวลามันจะน้อยไปก็เถอะ แต่ผมน่าจะไม่เป็นอะไรหรอก แต่น่าเสียดายที่ผมไม่มีเวลาตรวจคำตอบเพราะตอนทำเสร็จ เสียงหยุกทำข้อสอบก็ดังขึ้นซะแล้ว”

 

ชิชิโอะนั้นคิดว่าการเข้าเรียนที่นี่คงจะไม่มีปัญหาอะไร แม้จะเป็นแบบนั้นเขาก็ไม่รู้ว่าเขาจะได้คะแนนเท่าไหร่กัน

 

“อะไรนะ?!! เธอบอกว่าทำได้หมดเลยหรอ?!!ทั้งคำถามข้างหน้าและข้างหลังด้วยหรอ!?”

 

จิฮิโระก็คิดว่าเธอหูฝาดไปแต่ดูเหมือนว่าหลานชายของเธอจะไม่ได้พูดเล่น เธอนั้นรู้ดีว่าคำถามที่ถูกสร้างขึ้นมาสำหรับการสอบครั้งนี้ไม่ได้เลือกมาสุ่มๆเพราะการตอบคำถามทั้งหมดนั้นแทบจะเป็นไม่ได้เลยต่างหาก

 

“ใช่แล้วครับ แต่คำถามมันเยอะเกินไปอยู่ดี แต่แม้ว่าเวลามันจะกระชั้นชิด ผมก็ตอบคำถามได้หมดแหละ”

 

ชิชิโอะนั้นเข้าใจว่าการทดสอบเมื่อครู่ๆนี้มันไม่ใช่ระดับมนุษย์ธรรมดาแล้วเนื่องจากมันเป็นการสอบที่มนุษย์ธรรมดายังทำไม่ได้

 

แล้วเขาหล่ะ?

 

ก็เขามีสูตรโกง เขาจึงไม่ถูกนับรวมด้วยไง

 

….”

 

ทางจิฮิโระนั้นก็จ้องมองใบหน้าของชิชิโอะโดยไม่รู้ว่าจะพูโอะไรออกมาดีซึ่งเธอนั้นรู้ว่าเขาไม่ได้โกหกแต่มันก็เป็นเรื่องที่ยากจะเชื่อ จากสิ่งที่เธอรู้มา ตอนเขาอยู่ม.ต้น เขาก็ไม่ได้เป็นที่เรียนเก่งอะไร นั่นก็แสดงว่าเขาไม่น่าจะทำข้อสอบได้ทั้งหมด ถ้าหากว่าแค่ครึ่งนึงหล่ะก็ เธอก็อาจจะเชื่อ แต่ทั้งหมดนี่มันจะ…

 

“งั้นกลับกันเถอะ”

 

สุดท้ายแล้วจิฮิโระก็เลิกคิดให้ปวดสมอง

 

“ครับ”

 

จากนั้นทั้งสองคนก็เดินออกไปจากโรงเรียนแต่พวกเขาก็ไม่ได้กลับไปหอซากุระโซวในทันที เพราะจิฮิโระได้พาชิชิโอะไปร้านอาหารใกล้โรงเรียนเพื่อกินข้าวเย็น

 

เมื่อเห็นร้านอาหารตรงหน้า ชิชิโอะนั้นก็ตกใจขึ้นมาทันทีเพราะ

 

‘นี่มันร้านอาหารของฉันนี่หน่า?’

 

ร้านวักนาเรีย(Wagnaria)

 

ชิชิโอะนั้นจำได้ว่ามันเป็นเครือร้านอาหารที่เขาได้รับเป็นรางวัลจากระบบแต่เขาไม่คิดว่ามันจะอยู่ใกล้โรงเรียนของเขาด้วย แม้ว่าเขาจะได้รับข้อมูลเกี่ยวร้านอาหารนี้มาจากระบบแล้ว แต่เขาก็ไม่เคยมาที่นี่เลยด้วยซ้ำ ด้วยการที่ตอนนี้เขาหิวโหยมาก เขาจึงคิดว่าจะไปตรวจสอบรสชาติของอาหารร้านดูว่ามันดีหรือไม่

 

ยังไงเสีย ร้านวักนาเรีย(Wagnaria)นั้นเป็นของเขา ดังนั้นเขาจึงต้องตรวจสอบคุณภาพของร้านอาหารของเขา ไม่ใช่หรอ?

 

ปิ้ง ป่อง!!

 

“ยินดีต้อนรับค่ะ!!”

 

<พบเป้าหมาย!!>

 

<ยินดีด้วยคุณได้รับ ‘ความเชี่ยวชาญในการลูบ’>(WTF สกิลเชี่ยไรเนี่ย +_-)

 

….”

 

ชิชิโอะก็เมินรางวัลนี้ในทันทีและมันทำให้เขารู้สึกเกียจระบบนี้ขึ้นมาทันที จากนั้นเขาก็จ้องมองเด็กประถมตรงหน้าเขาแล้วจึงขมวดคิ้วขึ้นมาเนื่องจากเขาไม่คิดว่าระบบมันจะโลลิขนาดนี้ ถ้าหากเป็นหญิงสาวที่อายุมากกว่า เขาก็คงจะไม่คิดมากแต่ตรงหน้าเขานั้นมันสาวน้อยเด็กประถมซึ่งเขานั้นไม่อยากจะโดนตำรวจจับ!!!

 

เมื่อจิฮิโระและชิชิโอะเดินเข้ามาในร้าน พวกเขาก็ได้รับการต้อนรับจากเด็กประถมนมโตที่มีผมสีน้ำตาลซึ่งมัดทรงโพนี่เทล

 

ซึ่งนี่ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่เขารู้สึกรังเกียจระบบขึ้นมาแต่ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักอะไรได้ขึ้นมา

 

“ชิชิโอะ มีอะไรงั้นหรอ?”จิฮิโระก็ถามออกมาเนื่องจากเธอเห็นว่าชิชิโอะแสดงสีหน้าแปลกๆออกมา

 

“พี่จิฮิโระ การจ้างเด็กประถมมาทำงานมันผิดกฏหมายไม่ใช่หรอ?”ชิชิโอะก็ถามออกมาซึ่งเขาตระหนักได้ว่าร้านอาหารของเขากลับจ้างเด็กประถมมาทำงาน เขานั้นพึ่งรับร้านนี้มาได้ไม่นานเองแล้วนี่เขาจะต้องไปขึ้นศาลแล้วหรอเนี่ย?

 

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จิฮิโระจะได้ตอบคำถามของชิชิโอะ พนักงานเด็กประถมตรงหน้าก็รีบบ่นออกมาทันที

 

“ฉันไม่ใช่เด็กประถมสักหน่อย!!”

 

จิฮิโระก็พยักหน้าแล้วพูดว่า “ปฏิกิริยาของเธอเหมือนกับตอนฉันพึ่งมาที่นี่ใหม่ๆเลยนะ แต่เธอคนนี้หน่ะเป็นนักเรียนม.ปลายนะ ไม่ใช่เด็กประถมสักหน่อย”เมื่อก่อน  ตอนที่เธอเห็นเด็กสาวคนนี้เป็นครั้งแรก เธอก็ประหลาดใจขึ้นมาเพราะเธอคิดว่าร้านนี้จ้างเด็กมาทำงานแต่จากนั้นเธอก็แวะมาที่ร้านนี้บ่อยๆ ซึ่งนั่นทำให้เธอรู้ว่าเด็กน้อยตรงหน้านั้นแท้จริงแล้วคือเด็กมัธยมปลาย ดังนั้นเธอจึงไม่รู้สึกประหลาดใจอีก แต่ทว่าเธอก็ยังเข้าใจในปฏิกิริยาของหลานชายของเธอเพราะมันเป็นปฏิกิริยาตามปกติ

 

เมื่อได้ยินเรื่องนี้ ชิชิโอะก็รู้สึกประหลาดใจขึ้นมา จากนั้นแล้วเขาจึงรีบขอโทษในทันที

 

“ขอโทษนะครับที่เขาใจผิด ถ้าหากผมมองให้ละเอียดกว่านี้ ผมก็น่าจะรู้ว่าคุณเป็นเด็กม.ปลาย”

 

“เอ๊ะ? จริงหรอ?”พนักงานสาวก็ดูจะมีความสุขขึ้นมาเมื่อมีคนบอกว่าเธอเหมือนเด็กม.ปลาย

 

“ใช่แล้ว คุณหน่ะเด็กม.ปลายแน่นอน”

 

ชิชิโอะนั้นก็จ้องมองหน้าอกอันยิ่งใหญ่ของสาวน้อยคนนี้ซึ่งเขานั้นรู้ดีว่าเด็กประถมไม่น่าจะมีหน้าอกขนาดใหญ่เบอร์นี้

 

ร้านนี้เป็นร้านที่ไม่ค่อยใหญ่มากเท่าไหร่ ดังนั้นชิชิโอะและจิฮิโระจึงนั่งด้วยกันและจากนั้นพวกเขาก็เริ่มสั่งอาหาร

 

ทางชิชิโอะนั้นได้สั่งสตูว์เนื้อและพาเฟ่ต์เป็นของหวาน จากนั้นเขาก็หันไปมองร้านด้วยความสงสัยใคร่รู้เนื่องจากขเอยากจะรู้จักร้านของเขาให้มากกว่านี้ ซึ่งเขาได้พบว่าในร้านนี้มีผู้คนเต็มไปหมด ดังนั้นเขาจึงไม่รู้สึกกังวลในคุณภาพของอาหารเนื่องจากอาหารแย่ ก็คงไม่มีลูกค้าเข้ามานั่งกินหรอก

 

ชิชิโอะนั้นยอมรับเลยว่าร้านนี้ดูจะรุ่งเอามากๆด้วย

 

อย่างไรก็ตามสิ่งหนึ่งที่เขากังวลก็คือโลลิที่รับออเดอร์ของเขาเนื่องจากเขารู้สึกว่าเขาอาจจะต้องขึ้นศาลเพราะเธอ

 

หลังจากรับออเดอร์ของพวกเขา พนักงานโลลิก็เดินไปที่ครัวเพื่อจัดเตรียมออเดอร์ของเขาแต่ทันใดนั้น

 

ปิ้ง ป่อง!!

 

“ยินดีต้อนรับค่ะ!! อะ ทาคานาชิคุง!! ในที่สุดเธอก็มาสักที!! ตอนนี้พวกเรายุ่งมากเลยหล่ะ รีบเข้าไปเปลี่ยนชุดได้แล้ว!!”

 

เมื่อพนักงานโลลิเห็นชายหนุ่มที่เดินเข้ามาในร้าน เธอก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกเพราะวันนี้ร้านยุ่งมาก

 

“ได้เลยครับ รุ่นพี่”

 

ชิชิโอะก็หันไปมองทั้งสองคนและเข้าใจว่าทำไมเขาถึงรู้สึกว่าเหมือนเคยเห็นสองคนนี้มาก่อนแต่เขาก็ไม่ได้สนใจเท่าไหร่เพราะตอนนี้พวกเขานั้นเป็นแค่คนแปลกหน้าของกันและกัน

 

จากนั้นชิชิโอะก็หันไปมองชายหนุ่มซึ่งเขารู้สึกว่าเขาคงไม่ต้องห่วงเรื่องร้านนี้อีกแล้วแต่เมื่อเขากำลังจะรู้สึกหายห่วงกับร้านนี้

 

แก้ง!!

 

ชิชิโอะก็หันหน้าไปมองเมื่อเขาไดยิ้นเสียงเหล็กระทบอะไรสักอย่างซึ่งเสียงมันฟังดูมีเอกลักษณ์มากและเมื่อเขาหันไปดูที่มาของเสียง เขาก็ดวงตาเบิกกว้างอย่างตกตตะลึง

 

ตอนแรกเขาคิดว่ามันจะไม่มีอะไรที่ทำให้เขาตกใจไปมากกว่านี้

 

“ขอประทานโทษที่ให้คอยค่ะ นี่ของที่ลูกค้าสั่งค่ะ”

 

หญิงสาวผมยาวที่มีผมยาวสีทองซึ่งยาวไปจนถึงแผ่นหลังและรอยยิ้มอันสุภาพก็ได้ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าชิชิโอะกับจิฮิโระ อย่างไรก็ตาม ที่เอวของหญิงสาวคนนี้กลับมี คาตานะอยู่!!

 

…”

 

‘ร้านนี้มันจะไม่เจ๋งหรอเนี่ย?’

 

แต่ทันใดนั้น

 

<พบเป้าหมาย!!>

 

<ยินดีด้วย คุณได้รับ ‘ความเชี่ยวชาญ ปาจี๋(มวยแปดสุยอด)’>

รีวิวผู้อ่าน