px

เรื่อง : Chronicles of Primordial Wars
ตอนที่ 52 : ทั้งสาม


"อะ อะ ... นั้นอะไร?" แลงกาคว้าหอกยาวไว้ในมือของเขาอย่างแน่นหนา และถามด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือพร้อมกับชี้ไปด้วยนิ้วที่สั่นไหวของเขา

อังค์และคนอื่น ๆ ก็กลืนน้ำลายลงคอเพื่อรอคำตอบของฉาวซวน ถึงแม้ว่าพวกเขาจะคาดเดาได้ว่ามันคืออะไร แต่การคาดเดาดูเหมือนไม่น่าเชื่อที่จะเป็นความจริง พวกเขาไม่สามารถเชื่อในการคาดเดาของพวกเขา และบางคนก็สงสัยว่ามันเป็นแค่ความฝัน

เมื่อวานนี้ เมื่อพวกเขาได้เห็นความสับสนวุ่นวายในถ้ำ พวกเขาได้เตรียมความพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับความจริงที่ว่าพวกเขาอาจจะไม่ได้เห็นเด็กสองคนนี้อีก คืนนี้พวกเขากำลังค้นหาอยู่ตลอดคืน ตอนแรกพวกเขาสามารถมองเห็นร่องรอยของพวกเขาได้ เช่นสิ่งของๆพวกเขาที่หล่นหายไป แต่ หลังจากที่พวกเขาได้เข้าสู่พื้นที่ที่เต็มไปด้วยหิมะแล้ว มันก็แทบเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะได้พบรอยเท้าอีกต่อไป ดังนั้นส่วนที่เหลือทั้งหมดต้องอาศัยโชค

ในขณะที่กำลังค้นหา เด็กๆหายไปนานกว่าพวกเขาที่เข้าไปพื้นที่ล่าสัตว์ พวกเขาได้พบกับกลุ่มล่าสัตว์คนอื่นๆ และกลุ่มล่าสัตว์อื่น ๆ ก็ได้เข้าร่วมการค้นหาแต่ยิ่งนานเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้หัวใจของพวกเขาหนักขึ้น ในป่าแห่งนี้ มันเป็นเรื่องยากสำหรับเด็กๆที่ไร้ประสบการ์ณจะยังมีชีวิตอยู่ มนุษย์และสัตว์มีความเหมือนกัน ณ จุดนั้น

ตอนนี้เห็นว่าเหมาและฉาวซวนทั้งคู่ไม่เป็นไร แลงกาและคนอื่น ๆ ก็รู้สึกมีความสุข แน่นอนเพราะนี้มันดีกว่าที่พวกเขาคาดหวังไว้ มีเพียงไม่กี่คนที่สามารถหลบหนีจากหนามพายุทมิฬ แต่กับเจ้ายักษ์ใหญ่ที่นอนอยู่ที่นี้ หน้าซบไปกับพื้นดิน มันก็เหมือนความฝันที่บ้าคลั่งของพวกเขา !

"มันตายแล้วจริงๆหรือ?"

"มีรูขนาดใหญ่อยู่บนศีรษะ และเลือดไหลออกจากที่นั่น มันควรจะตาย ใช่ไหม?"

หลังจากหวดสองสามครั้งด้วยหอกยาว แลงกาและคนอื่น ๆ ก็ตื่นเต้นยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับพฤติกรรมที่ผ่านมาของเหมา ตอนนี้พวกเขาไม่ได้ให้ความสำคัญกับฉาวซวนและเหมามากนัก ขณะที่พวกเขาทั้งหมดหมุนวนไปรอบ ๆ ซากของหนามพายุทมิฬ และแหย่ไปที่ตัวมันเพื่อแสดงความประหลาดใจของพวกเขา

"มันเป็นอีกครั้งจากครั้งก่อน! มองหางของมันยังมีบาดแผลอยู่ "

"เฮ้ ดูผิวหนาและหนาม ... โอ้ มันไม่สามารถหักได้! นี่ อาซวนถือหอกหินของข้า ... ข้าไม่เชื่อว่าข้าไม่สามารถทำลายมัน ... "

"หนามมันแข็งมาก ... ถ้าเมยสับไปที่หนาม บางทีมันอาจจะไม่ได้รับบาดเจ็บอย่างนั้น ... "

"เฮ้ ดูกรงเล็บของมัน! คมจัง ... ว้าว ... "

"......"

ยืนอยู่ด้านข้าง ฉาวซวนรู้สึกปวดหัวเมื่อเห็นพฤติกรรมของคนเหล่านี้ ... เมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมาผู้คนได้หลั่งน้ำตาในการพบกันอีกครั้งที่อบอุ่น และหนึ่งนาทีต่อมาเขาและเหมาถูกละเลย

โชคดีที่แลงกายังจำได้ว่าต้องแจ้งนักรบคนอื่น ๆ ลงจากภูเขาและส่งข้อความด้วยนกหวีด เดิมทีพวกเขาวางแผนที่จะพาฉาวซวนและเหมาไปที่เขาเพื่อไปพบกับคนอื่น ๆ แต่ด้วยการปรากฏตัวของหนามพายุทมิฬ พวกเขาเปลี่ยนความคิดและเรียกคนอื่นมาที่นี่ มันจะเป็นการสูญเปล่าที่ปล่อยให้สัตว์ร้ายเน่าเปื่อยที่นี่ นักรบทุกคนจะได้รับการยอมรับมากขึ้นหากพวกเขานำมันกลับไป

การแข่งขันระหว่างทีมล่าสัตว์สองทีมค่อนข้างรุนแรง ดังนั้นทุกครั้งที่พวกเขากลับมาพวกเขาก็จะโม้เกี่ยวกับเหยื่อของพวกเขา มันน่าจะเจ๋งมาก ถ้าพวกเขาสามารถนำสัตว์ร้ายตัวนี้กลับไปได้

เมื่อเมยและคนอื่น ๆ มาถึง แลงกากำลังจับกรงเล็บขนาดใหญ่ข้างหนึ่งของหนามพายุทมิฬไว้ในอ้อมแขนของเขา และสัมผัสมันอย่างต่อเนื่อง

คล้ายกับคนอื่น ๆ ที่ได้พบกับหนามพายุทมิฬก่อนหน้านี้ คนเหล่านี้ก็มีสายตาเบิกกว้างและเป็นใบ้ ต่อมา เช่นเดียวกับที่คาดการณ์ไว้ของฉาวซวน พวกเขาก็วนไปรอบ ๆ ซากศพทันที

"เจ้าบาดเจ็บรึเปล่า?" เมยมาที่ฉาวซวนและเหมา รู้สึกโล่งใจ

"ข้าสบายดี ลุงเมย" ฉาวซวนขยับแขนและขาของเขาและกระโดดขึ้นลง 2-3 ครั้ง ในความเป็นจริง เขาซี่โครงและแขนหักเมื่อคืน แต่โชคดีที่มันไม่รุนแรงและตอนนี้เขาก็ฟื้นตัวหายดีเรียบร้อยแล้ว น่าจะเป็นเพราะพลังสัญลักษณ์

หลังจากยืนยันว่าฉาวซวนและเหมาสบายดี เมยก็ผ่อนคลายตัวเองจากความเครียดและแรงกดดัน

เนื่องจากทุกคนกำลังถามเกี่ยวกับการเผชิญหน้ากันของพวกเขา ฉาวซวนอธิบายสั้น ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อคืนนี้

เหมาแทรกตัวขึ้นมาจากด้านข้าง เขายังไม่สงบลงจากก่อนหน้านี้ดีนัก แต่เมื่อพวกเขาได้หยิบยกคำถามขึ้นมาจากในกลุ่ม ในที่สุดเขาก็ผ่อนคลาย และกลายเป็นช่างพูดมากขึ้น ดังนั้นเหมาคุยโวเกี่ยวกับประสบการณ์ของเขากับฝูงชนไม่หยุดหย่อน

ฉาวซวนไม่ได้บอกคนอื่นว่าเขาได้เห็นโครงกระดูก และสิ่งที่เขาเล่าไปทั้งหมดเขาอ้างว่าในเวลากลางคืนเขาจะมองเห็นได้ดีกว่าคนอื่นๆ นอกจากนี้ตั้งแต่ต้นจนจบ ส่วนใหญ่ก็ต้องขอบคุณโชค

นักรบคนอื่นๆในทีมล่าสัตว์ก็มาที่นี่ด้วยพร้อมกับเมย หลังจากฟังเรื่องราวของฉาวซวนแล้ว พวกเขาก็ถอนหายใจว่า "มันมุ้งเน้นไปที่เจ้าเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดเสียงดังบนภูเขาเมื่อคืนนี้!"

เมื่อคืนคนที่มาจากทีมล่าสัตว์คนอื่น ๆ ก็ได้ยินเสียงดังขึ้นบนภูเขา มันเป็นเพียงแค่ว่าพวกเขาอยู่ห่างไกลจากเสียง ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ต้องกังวลกับการได้รับอิทธิพลจากหิมะถล่ม นอกจากนี้ พวกเขาไม่ได้วางแผนที่จะออกไปสำรวจพื้นที่นี้ สำหรับพื้นที่ที่ไม่มีใครสามารถรอดพ้นจากแรงผลักดันอันมหาศาลได้

หัวหน้ากลุ่มล่าสัตว์คนหนึ่งมองไปที่เมยอย่างเห็นได้ชัด เพราะเขาคาดหวังถึงการต้อนรับอันยิ่งใหญ่ ที่พวกเขาจะได้รับเมื่อพวกเขากลับมาสู่เส้นทางแห่งความรุ่งโรจน์

มันไร้สาระสำหรับพวกเขาที่จะทิ้งซากหนามพายุทมิฬไว้ที่นี่ เช่นเดียวกับเหยื่อตัวอื่น ๆ พวกเขาวางแผนที่จะจัดการมันก่อน

ตามกฎในทีมล่าสัตว์ ฉาวซวนควรจะเป็นคนชำแหละเพราะมันเป็นเหยื่อของเขา แต่ ตอนนี้ฉาวซวนยังไม่มีความสามารถในการทำเช่นนั้น เพราะหนังของหนามพายุทมิฬหนาเกินไปที่จะแทงทะลุ แม้ว่าจะไม่มีเกล็ดในกระเพาะอาหาร แต่มันก็ยากเกินไปสำหรับฉาวซวนที่จะควบคุมมีด ดังนั้น ภายใต้คำแนะนำของเมยและนักรบบางคน ฉาวซวนจึงชำแหละบางส่วน และเมยจะจัดการต่อจากตรงนั่น

หากเหยื่อถูกจัดการโดยความพยายามร่วมกันของนักรบ อวัยวะที่ถูกชำแหละจะถูกแจกจ่ายโดยผู้นำของกลุ่มล่าสัตว์ และทุกคนจะได้รับส่วนของเขา สำหรับคนที่ต้องการค้าขายกับคนอื่นๆ มันจะเป็นการค้าขายของตัวเอง นอกเหนือจากอวัยวะ เนื้อจะถูกแจกจ่ายในภายหลังเมื่อพวกเขากลับไป

แต่ตอนนี้ หนามพายุทมิฬถูกล่าโดยฉาวซวนและเหมา แม้ว่าจะเป็นเรื่องของความโชคดี แต่มันก็เป็นเหยื่อของพวกเขา ดังนั้นเครื่องในทั้งหมดจึงเป็นของฉาวซวนและเหมา ในขณะที่คนอื่น ๆ ต้องค้าขายกันหากพวกเขาต้องการ

หลังจากดึงเอาเครื่องในทั้งหมดออก เมยและคนอื่นๆ กล่าวคำอำลากับกลุ่มล่าสัตว์กลุ่มอื่น ๆ และพวกเขาก็เริ่มที่จะแบกหนามพายุทมิฬกลับไปด้วยการออกแรงร่วมช่วยกัน

มีถ้ำยักษ์ที่ขุดขึ้นมาใกล้ยอดเขา ที่กลุ่มล่าสัตว์ไปเมื่อวานนี้ ภายในถ้ำยักษ์มีเกมเป็นจำนวนมากที่ถูกเก็บไว้ เพราะมันเย็นกว่าที่นั่น และเนื้อจะถูกเก็บไว้ได้นานขึ้น นอกจากเกมระดับสูง เช่นหมูป่าสี่เขี้ยวและหนามพายุทมิฬที่จะสลายตัวช้าลง นั่นก็เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมนักรบต้องการไล่ล่าเกมระดับสูง

ด้วยเหตุนี้ สถานที่แต่ละแห่งจะมีถ้ำอย่างน้อยสองถ้ำ หนึ่งสำหรับการพักผ่อน ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับภูเขาหรือบางแห่งอบอุ่นขึ้นและมิดชิด ส่วนอีกสถานที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเก็บอาหาร และมันจะตั้งอยู่ใกล้กับยอดเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะตลอดทั้งปี อย่าลืมว่า มันอาจจะใช้เวลาประมาณยี่สิบวันสำหรับการเดินทางล่าสัตว์ในแต่ละครั้ง

หลังจากนำหนามพายุทมิฬไปถ้ำเก็บอาหาร ผู้คนก็มุ่งหน้าไปยังภูเขา เพราะเมยต้องการหาถ้ำแห่งอื่นเพื่อเป็นสถานที่พักผ่อน สถานที่เดิมนั้นไม่สามารถใช้ได้อีกต่อไป

"เมย! อาซวน! ในที่สุด เจ้าก็กลับมา! " ห้าคนที่อยู่ในถ้ำเดิมตื่นเต้นที่เห็นฉาวซวนและเหมากลับมาปลอดภัยดีไม่เป็นอันตราย แต่ พวกเขามีสิ่งอื่นที่ต้องรายงาน

"เมื่อวานนี้หลังจากที่เจ้าจากไป เราได้ยินเสียงหอนของหนามพายุทมิฬลงไปที่ภูเขา ทั้งสองตัว! ข้าเข้าไปใกล้เพื่อดูว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น และข้าได้เห็นทั้งสองตัวที่หยุดเราก่อนหน้านี้! กำลังต่อสู้กัน! ข้าไม่มีโอกาสได้เข้าใกล้ และหลังจากได้สังเกตสักระยะหนึ่ง ข้าก็กลับมา "

เมยคิดเรื่องนี้สักพัก เขาสั่งให้คนอื่น ๆ เข้าพักที่ถ้ำตอนนี้ และพานักรบระดับกลางส่วนหนึ่งนำเข้าไปตรวจสอบก่อน

เมื่อฉาวซวนกินเนื้อย่างเสร็จแล้ว เมยก็รีบกลับมา พร้อมกับความรู้สึกสนุกสนานบนใบหน้าของเขา เขาขอให้คนอื่น ๆ ลงมาช่วย

ปรากฎว่าหนามพายุทมิฬทั้งสองตัวกำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือดเพื่อแย่งชิงอาณาเขต ตัวหนึ่งพ่ายแพ้และโครงกระดูกเกือบจะแยกออกจากกัน ส่วนอีกตัวหนึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยมีส่วนที่เผยให้เห็นกระดูกบางส่วนและขาข้างหนึ่งของมันเกือบหัก

เมื่อเมยนำคนมาที่นี่ หนามพายุทมิฬที่ได้รับชัยชนะกำลังจะกลับไปพักอาศัยในป่า ทะเลสาบอยู่ไกลจากที่ต่อสู้ เนื่องจากมันได้รับบาดเจ็บสาหัส มันอาจวางแผนที่จะพักรักษาตัวในป่าสักสองสามวัน ก่อนที่มันจะเข้าสู่ทะเลสาบ

ไม่คาดฝัน เมยและคนอื่น ๆ ใช้ประโยชน์จากการบาดเจ็บและฆ่ามันทันที

"เจ้าคิดว่าตัวแรกรู้หรือไม่ว่าสองตัวนี้จะต้องต่อสู้กันอย่างดุเดือดเมื่อมันถามหาความช่วยเหลือจากพวกมัน?" แลงกาถาม

ฉาวซวนกำลังคิดคำถามเดียวกัน บางทีตัวแรกไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อมันสละดินแดนของตนเพื่อขอความช่วยเหลือ ถ้าทุกสิ่งทุกอย่างดำเนินไปอย่างราบรื่น มันสามารถฆ่าเด็ก ๆ ในกลุ่มล่าสัตว์และอดทนรอให้ทั้งสองตัวลงไปที่ภูเขาเพื่อต่อสู้กัน เมื่อตัวหนึ่งพ่ายแพ้และอีกตัวอ่อนแอ มันก็จะกลับไปที่อาณาเขตของตน เพราะฉะนั้น มันไม่เพียงแต่จะได้รับการแก้แค้น มันก็อาจจะสามารถขยายอาณาเขตของตนโดยมีอีกสองตัวที่ถูกฆ่า

ไม่มีใครรู้ความจริง เพราะทั้ง 3 ตัวตายหมดแล้ว ร่างของพวกมันถูกแบกไปที่ถ้ำเก็บอาหารโดยกลุ่มล่าสัตว์

รีวิวผู้อ่าน