ตอนที่ 1 : แต่งงาน
“มีแฟนหรือยัง ? ”
“ยัง”
“ร่างกายของนาย...มีโรคร้ายไหม ? ”
“ฉัน...แข็งแรงดี ! ”
“ดีมาก ! บรรพบุรุษตระกูลหลิวเป็นพยาน ฉะนั้นพิธีกราบไหว้ฟ้าดินอะไรนั่นตัดไปได้เลย เอาล่ะ เข้าหอ ! ”
..
หลังออกจากบ้านไป 7 ปี หลิวเฟยที่เพิ่งกลับมาก็ถูกมัดเป็นบ๊ะจ่างและถูกสอบสวนด้วยคำถามไร้สาระ ซึ่งผู้ที่สอบสวนเขาคือผู้ใหญ่บ้าน หลิวเทียนป้า
ตอนแรกเขาคิดจะกลับมาขุดคุ้ยเรื่องเก่าและโอ้อวดบารมีของคนรวย แต่ใครเล่าจะคาดคิดว่าเขาจะโดนจับแต่งงาน แถมยังถูกส่งตัวเข้าหออีก
หลิวเฟยอดร้องออกมาไม่ได้ ผ่านมาตั้งเจ็ดปีแล้ว ความคิดก็ควรเปิดกว้างไม่ใช่หรือ สุดท้ายเขาต้องมาติดแหง็กอยู่ในหมู่บ้านต้าหลิวเหมือนเมื่อเจ็ดปีก่อนหรือไง ?
ตอนนี้สังคมเปิดกว้างขึ้นแล้ว ยังมีการคลุมถุงชนได้อย่างไร ? นี่มันเท่ากับบีบบังคับกันชัด ๆ
ยิ่งคิดหลิวเฟยยิ่งไม่พอใจจึงเปิดปากเพื่อพูดบางสิ่ง หลิวอวี้เหลียนที่ก้มหน้ากำชายกระโปรงอยู่ตลอดเวลาก็เงยหน้าอันแดงก่ำขึ้นมาจ้องมองจนเขาอายจนพูดอะไรไม่ออก
ตามที่หลิวเทียนป้าเอ่ยมา ตอนนี้เธอเป็นภรรยาของเขาแล้ว
ดวงตากลมโต ท่อนขาเรียวยาวและเอวคอดกิ่ว แม้ผอมทว่าดูสมส่วน จุดที่ควรจะมีก็เต่งตึง เรียกได้ว่าเธอคือสาวงามของหมู่บ้านต้าหลิวเลยทีเดียว
พูดกันตามตรงคือเขาโชคดีที่ได้เธอเป็นภรรยา เนื่องจากครอบครัวของเธอร่ำรวยที่สุดในหมู่บ้านต้าหลิว ตนคงหัวเราะแม้แต่ในความฝัน แต่หลิวเฟยไม่ได้โง่ พวกชาวบ้านที่อยู่นอกห้องโถงบรรพบุรุษล้วนมองเขาด้วยความรู้สึกยินดีปรีดาต่อความโชคร้ายของผู้อื่น ท่าทางเช่นนั้นเรียกการอวยพรตรงไหน หากไม่เสียสติจนเกินไปย่อมมองออกว่าเรื่องนี้มีปัญหาแน่ ๆ...
“พวกแกพึมพำอะไร ? ฉันได้ลูกเขยดี ๆ มาแล้วจะพึมพำทำไม ? เลิกบ่นแล้วไปให้พ้น ! ”
พูดจบ หลิวเทียนป้าก็ถลึงตาอย่างเดือดดาล แล้วกำหมัดทุบลงบนโต๊ะจนเกิดเสียงดังโครมก่อนที่โต๊ะนั้นจะพังลงไปกองบนพื้น ส่งผลให้ชาวบ้านที่อยู่นอกห้องโถงพากันหนีออกไปจนหมด
หลิวเทียนป้ารีบหันกลับไปหาหลิวเฟยแล้วอธิบายว่า “ของนี่มันเก่าจนพังไปเอง เราค่อยซื้อใหม่แล้วกัน เอาล่ะ ทุกอย่างลงตัวแล้ว ส่งเจ้าบ่าวเข้าเรือนหอได้ ! ”
ผู้ใหญ่บ้านยกมือส่งสัญญาณ จากนั้นจึงปรากฏชายร่างใหญ่หลายคนเดินเข้ามาจับหลิวเฟยโดยไม่สนว่าอีกฝ่ายเต็มใจหรือไม่ พวกเขาพาหลิวเฟยไปส่งยังห้องของหลิวอวี้เหลียน
สถานการณ์นี้ทำให้หลิวเฟยนึกถึงการโดนฉุด เพียงแต่บริบทนั้นกลับกันเพราะคนที่โดนฉุดคือบุรุษเช่นตน ส่วนฝ่ายที่ลงมือฉุดกลับเป็นสตรี
“เข้ามาได้ ”
เพียงไม่นาน หลิวอวี้เหลียนก็เดินออกมาเปิดประตูให้แล้วปิดประตูตามหลังอย่างช้า ๆ
เมื่อเห็นร่างกายอันงดงามและท่อนขาที่เรียวยาว หลิวเฟยพลันกลืนน้ำลายอึกใหญ่ “ไม่ได้เจอกันนาน 7 ปี น้องเหลียนสวยกว่าเดิมมาก แต่นี่มันดีแล้วหรือ ? ”
หลิวอวี้เหลียนเม้มปากแล้วเดินเข้าหาอีกฝ่าย จากนั้นจึงยกมือลูบแผงอกที่กำยำช้า ๆ “ พี่เฟย พี่ก็ดูดีเช่นกัน”
หลิวเฟยแข้งขาอ่อนยวบ ทำได้เพียงฉีกยิ้มแห้งออกมา “น้องเหลียน พูดล้อเล่นเกินไปแล้ว ”
“ฉันไม่ได้ล้อเล่น ฉันพูดจริง...”
หลิวอวี้เหลียนประกบจูบเข้าที่ปากของชายหนุ่ม ก่อนจะผลักอีกฝ่ายลงบนเตียง เธอถึงกับเปิดฉากเอง
หลิวเฟยรีบดีดตัวออกจากเตียงและพูดว่า “น้องเหลียน เราไม่ได้เจอกันตั้งเจ็ดปี ควรพูดคุยกันก่อนดีกว่า นี่ยังกลางวันแสก ๆ อยู่เลย เราจะทำเรื่องแบบนั้นได้ยังไง อ๊า ! ”
หลิวอวี้เหลียนผลักเขาลงไปอีกรอบ “เลิกโยกโย้เสียที นายเองก็เสแสร้ง บอกมาว่านายต้องการอะไร ? ”
หลิวเฟยเหงื่อตก “ฉันไม่ได้เสแสร้งแค่คิดว่ามันไม่เหมาะสม”
“ไม่เหมาะสมงั้นหรือ ? ” หลิวอวี้เหลียนแสดงสีหน้าไม่พอใจออกมา “งั้นก็บอกมาว่านายต้องการอะไร ? ตอนฉันยังเด็กก็เป็นนายไม่ใช่หรือที่บอกว่าจะแต่งงานกับฉัน ? ”
“เอ่อ...”
“ไม่ใช่นายหรือที่แอบดูฉันตอนอาบน้ำ ? ”
“นี่...”
“ไม่ใช่นายที่ขโมยจูบแรกของฉันไปเมื่อเจ็ดปีก่อนหรือไง ? ”
“แค่ก แค่ก...”
หลิวเฟยได้แต่เงียบ เธอจำได้ทุกอย่างเลยหรือ นานขนาดนี้แล้วแต่ผู้หญิงตรงหน้ายังไม่ลืมเรื่องเก่า
ทว่าเรื่องแบบนี้ตอนยังเด็กมีใครบ้างไม่เคยทำ ผ่านมาตั้งหลายปี เธอยังใช้เหตุผลนี้มาอ้างเพื่อการแต่งงาน ไม่ไร้สาระไปหน่อยหรือ ?
หลิวเฟยยิ้มออกมาและพูดว่า “เธอกับฉันไม่ใช่เด็ก นั่นมันเรื่องในอดีต และเท่าที่ฉันจำได้คือเธอไม่ใช่คนแบบนี้ เธอไปเจอปัญหาอะไรมาหรือเปล่า ? บอกฉันมาเถิด เพื่อมิตรภาพของพวกเรา ฉันจะช่วยเธอเอง”
“ฮ่าฮ่าฮ่า ! ”
ได้ยินคำว่ามิตรภาพ หลิวอวี้เหลียนอดหัวเราะออกมาไม่ได้ ใครจะคาดคิดว่าเมื่อ 7 ปีก่อน บิดาของเธอทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้ทั้งสองอยู่ด้วยกัน แต่ตอนนี้บิดากลับส่งตัวเขามาถึงในห้องเสียเอง
ภายในอกของหลิวอวี้เหลียนสั่นไหว บนใบหน้าฉายยิ้มออกมา “หากเอ่ยถึงปัญหา เช่นนั้นปัญหาก็คือฉันต้องการนายเป็นสามี ดังนั้น..” ก่อนจะพูดจบ หญิงสาวก็กดตัวหลิวเฟยเอาไว้
ชายหนุ่มทำได้เพียงดิ้นไปมา “เธอเป็นคนสวยถึงเพียงนี้จะขาดแคลนสามีได้ยังไง นี่มันเรื่องตลกอะไรกัน บอกฉันมา ! ”
หลิวอวี้เหลียนชะงักงัน “ปู่ของฉันป่วยหนักจึงต้องจัดงานมงคลเพื่อล้างซวย เหตุผลนี้เพียงพอไหม ? ”
“จัดงานมงคลเพื่อล้างซวย ? ถ้าจัดงานมงคลไล่ซวยจะไม่ตีฆ้องร้องป่าว สร้างบรรยากาศคึกคักหน่อยหรือ แต่นี่ไม่ต่างอะไรกับโจรฉุดเมีย ถุย! ไม่สิ ฉุดเขยต่างหาก น้องเหลียนโกหกใครอยู่กันแน่ ? เธอน่ะเป็นคนดี อย่าทำแบบนี้เลย..”
“นาย..”
สีหน้าของหลิวอวี้เหลียนเปลี่ยนไป เธอชี้ไปที่หลิวเฟยแล้วพูดขึ้น “ฉันทำตัวสุภาพอ่อนโยนด้วยแล้วนายยังไม่พอใจอีกหรือ ? คงเกลียดฉันมากสินะ ได้! นายบังคับฉันเองนะ ”
ไม่อาจรู้ว่าหลิวอวี้เหลียนมีนิสัยแบบนี้ได้อย่างไร เธอเปลี่ยนเป็นเสือร้ายแล้วพุ่งเข้ามากดหลิวเฟยลงไปที่เตียงก่อนลงมือฉีกเสื้อผ้าของเขาขาด