ตอนที่ 6 : ผู้ใหญ่บ้าน (I)
พริบตาเดียวชายทั้งหกก็ถูกจัดการไปแล้วถึงสองคน ส่งผลให้หลิวอวี้เหลียนเกิดความมั่นใจขึ้นอย่างมาก เธอหันไปมองหลิวเฟยเล็กน้อยแล้วหันกลับมาสู้ต่อ
ชายอีกสี่คนที่เหลือเริ่มฉลาดขึ้นบ้าง หนึ่งในนั้นจึงใช้ฝ่ามือหวังโจมตีไปยังหน้าอกของหลิวอวี้เหลียน โดยมีอีกคนฉวยโอกาสเข้ามาโอบเอวด้วย
หลิวเฟยเห็นดังนั้นจึงพูดขึ้นว่า “ กวาดขาขวา เตะขาซ้าย ! “
“เอ่อ...”
เมื่อหลิวอวี้เหลียนเผชิญกับการกระทำไร้ยางอาย ในตอนแรกเกิดลนลานเล็กน้อย กระทั่งได้ยินที่หลิวเฟยพูดจึงรีบทำตาม จากนั้นเจ้าขนเหลืองสองตัวก็กรีดร้องออกมาก่อนจะล้มคว่ำลงกับพื้นไม่เป็นท่า
หลิวอวี้เหลียนมองไปทางหลิวเฟยด้วยสีหน้าแสนทึ่งก่อนจะยกนิ้วโป้งให้เขา
ส่วนนักเลงที่เหลืออีกสองคนมองหน้ากัน พวกเขาไม่กล้าโจมตีหลิวอวี้เหลียนแต่พุ่งเข้าหาหลิวเฟยแทน ชายหนุ่มลุกขึ้นแล้วโยนม้านั่งใส่ก่อนจะรีบวิ่งไปหลบหลังผู้หญิงเพียงหนึ่งเดียว
นักเลงทั้งสองมองหน้ากันเลิ่กลั่กแล้วสบถออกมา “ ไอ้ขี้ขลาด ไม่แปลกใจที่แกถูกเรียกนักเลงน้อย แกไปตัดไข่ทิ้งดีกว่า !”
“ ถ้าแกเป็นลูกผู้ชายก็ออกมาสู้กับเรา มัวแต่หลบอยู่หลังผู้หญิงทำไม ?”
....
ไม่ว่าโดนด่าอย่างไร หลิวเฟยก็ไม่เลิกหลบด้านหลังของหลิวอวี้เหลียนอยู่ดี “ฉันขี้กลัวมาตั้งแต่เด็ก ไม่ใช่เพิ่งมาเป็นเมื่อวันสองวันนี้เสียหน่อย ฉันชินแล้วที่โดนด่าแบบนี้ ! “
“ แกนี่มันน่ารังเกียจจริง ๆ ”
หลิวเฟยฉีกยิ้ม รู้สึกสนุกที่ได้ปั่นหัวคนพวกนี้
เขาผลักหลิวอวี้เหลียนออกแล้วเดินเข้าไปหาชายสองคนนั้น “แม้ว่าฉันไม่มีทักษะการต่อสู้ แต่ฉันก็โด่งดังเรื่องโดนอัด ในเมื่อพวกแกต้องการหาเรื่องฉันก็เข้ามา”
หลิวอวี้เหลียนกังวลแทนหลิวเฟย “พี่เฟย…”
หลิวเฟยหันกลับมามองและพูดขึ้น “ ให้ฉันได้โชว์หน่อย ! ”
เมื่อพูดจบก็กวักมือเรียกนักเลงทั้งสองคน นักเลงคนแรกตะโกนออกมาแล้วพุ่งเข้าต่อย หมัดหนึ่งชกเข้ากลางอก อีกหมัดพุ่งเข้าที่ท้อง
หลิวเฟยยิ้มเยาะใส่สองคนนั้น “ รู้สึกยังไง ? ”
“ อะ...”
ทั้งสองอุทานออกมาแล้วผงะถอยกลับ ไม่รู้ว่าเหตุใดจึงรู้สึกเจ็บ !
หลิวเฟยรีบท้าทาย “ เรื่องนี้ได้พิสูจน์แล้วว่าการโดนอัดบ่อย ๆ นับเป็นความสามารถเช่นกัน คิดว่าร่างกายนี้ต้องกลายเป็น ‘โล่เนื้อ’ ไม่ผิดแน่ มาสิ มาอัดฉันอีก ! ”
“ บ้าไปแล้ว ! ” ทั้งสองก้มมองมือแดงเถือกแล้วพุ่งเข้าต่อยบนอกของหลิวเฟยอีกครั้ง แต่กลับรู้สึกเหมือนต่อยใส่หินไม่มีผิด มือที่แดงจึงเริ่มบวมขึ้นมาแทน
หลิวอวี้เหลียนอ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจ
ส่วนพวกนักเลงได้แต่หายใจเหนื่อยหอบ
หลิวเฟยยืนเอามือไพล่หลัง “กลับไปบอกไอ้หลิวเป้า ถ้าอยากพบหมอก็มาด้วยตนเอง ฉันจะดูว่ามียาประเภทไหนรักษามันได้ แต่ถ้าไม่มี สุสานของหมู่บ้านยังมีที่ให้ฝังมันอีกเยอะแยะ...”
เมื่อพูดถึงตรงนี้พลันหรี่ตามอง “ ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ! ”
หลิวอวี้เหลียนวิ่งเข้ามาหาเพื่อสำรวจรอยที่อกของหลิวเฟย “พี่...ไม่เป็นอะไรเลยหรือ ? ”
หลินเฟยเดินกลับไปที่โต๊ะเพื่อกินข้าวต่อ “ฉันดูเหมือนเป็นอะไรไหมล่ะ ? ขอบคุณที่ให้โอกาสฉันได้แสดงฝีมือ”
หลิวอวี้เหลียนหรี่ตามองแล้วมือก็ฟาดเต็มแรงไปยังมือของคนปากเก่ง “พี่ยังกล้าพูดว่าไม่ได้เรียนทักษะการต่อสู้มาหรือ ? ”
หลิวเฟยแสร้งพูด “โอ๊ย มือฉันจะหักไหมเนี้ย ปล่อยได้แล้ว ! ”
พอเห็นสีหน้าเจ็บปวดของอีกฝ่าย หลิวอวี้เหลียนก็รีบผละมือออก “ฉันขอโทษ คิดว่าพี่เรียนการต่อสู้มาเสียอีก ...”
หลิวเฟยตักข้าวอีกคำ “ ถ้าฉันเรียนทักษะการต่อสู้มาจะปล่อยให้พวกมันทำร้ายทำไม ? ”
หลิวอวี้เหลียนพึมพำออกมา “ พูดมีเหตุผล ! พี่เฟย แม้ครั้งนี้สามารถเอาชนะพวกมันได้ แต่หลิวเป้าไม่ได้จัดการง่ายแบบนี้หรอกนะ เขาต้องกลับมาชำระหนี้แค้นแน่ ๆ ถ้าเกิดขึ้นพี่อย่าเพิ่งหุนหัน ให้รีบบอกแล้วฉันจะให้พ่อส่งคนมาช่วย ต่อให้พวกมันมั่นใจในฝีมือมากแค่ไหนก็ไม่กล้าเข้ามาในหมู่บ้าน เพราะพวกมันจะไม่ได้กลับออกไปแน่”
หลิวเฟยพยักหน้ารับ “ได้ ฉันจะจำไว้ ขอบคุณสำหรับวันนี้”
“เอ่อ...พี่เกรงใจฉันทำไม เราเป็นคนอื่นคนไกลกันหรือไง ? ”
หลิวเฟยยิ้มแล้วก้มหน้ากินข้าวต่อ ทันใดนั้นเอง อดีตผู้ใหญ่บ้านก็วิ่งเข้ามาแล้วพูดว่า “เสี่ยวเฟยเอ๊ย ! มามามา รีบกรอกแบบฟอร์มนี้หน่อย”
หลิวเฟยวางตะเกียบลงแล้วมองอย่างสงสัย “แบบฟอร์มรับสมัครเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้านของหมู่บ้านหลิว เมืองเฟิ่งหวง อำเภอหย่งเจิ้ง ตำบลโซ่วเฉิง แล้ว....ให้ฉันกรอกทำไม ? คงไม่คิดให้ฉันเป็นผู้ใหญ่บ้านหรอกนะ ? อดีตผู้ใหญ่บ้านล้อเล่นเกินไปแล้ว ฉันเรียนไม่จบมัธยมปลายด้วยซ้ำ แถมยังมีชื่อเสียงด้านอันธพาลอีก ที่สำคัญฉันเจ้าเล่ห์จะตาย...”
เขาพูดพล่ามอีกหลายประโยค แต่อดีตผู้ใหญ่บ้านไม่ใส่ใจ แถมยังวางปากกาลงเบื้องหน้าหลิวเฟยแล้วพูดว่า “กรอก ! ”
หลิวเฟยยิ้มเจื่อน ๆ “ไม่เอาน่า นี่อยากให้ฉันเป็นผู้ใหญ่บ้านจริงหรือ ? ”
อดีตผู้ใหญ่บ้านยิ้มน้อยๆ แล้วตอบว่า “นายเนี่ยนะเป็นผู้ใหญ่บ้าน ? ขืนให้เป็นผู้ใหญ่บ้าน ฉันคงอกแตกตายเชียวล่ะ กลัวว่านายจะทำให้หมู่บ้านหลิววุ่นวายเข้าไปใหญ่ ! แต่เพื่อทำให้การรับสมัครทั่วถึงและทำให้ชาวบ้านทั้งสองหมู่บ้านสบายใจ ดังนั้น ทุกคนในหมู่บ้านจึงมีสิทธิ์กรอกแบบฟอร์มฉบับนี้ แล้วค่อยมีการลงคะแนนอีกที อวี้เหลียนก็กรอก ไม่เชื่อนายก็ถามเธอดูสิ”
หลิวอวี้เหลียนก้มหน้ากระซิบลงข้างหู “โอ้โห พี่คิดเป็นตุเป็นตะเลยหรือ ? รีบกรอกเข้าเถอะ ! นี่ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเขา ช่วยสนับสนุนการทำงานของอดีตผู้ใหญ่บ้านหน่อย เร็วเข้า”
ได้ฟังเธอพูดแบบนี้ หลิวเฟยจึงรีบกรอกแบบฟอร์ม
อดีตผู้ใหญ่บ้านมองอย่างพอใจ มุมปากยกยิ้มขึ้น หลังจากทุกอย่างเรียบร้อยจึงปล่อยให้หลิวเฟยทานข้าวต่อ ส่วนตนเองก็รีบจากไป
หลิวเฟยสำลักข้าวออกมา “แล้วถ้าคนในหมู่บ้านเลือกฉันล่ะ...”
ยังพูดไม่ทันจบ หลิวอวี้เหลียนก็ยัดหมั่นโถวใส่ปากเขาต่อ “พี่ช่างปากเสียจริงๆ เท่าที่ฉันรู้คือมีห้าหรือหกคนที่อยากเป็นผู้ใหญ่บ้าน อีกอย่างพวกเขาก็ขอคะแนนเสียงตามบ้านตั้งนานแล้ว ตำแหน่งนี้ไม่มีทางวนมาถึงพี่หรอก”
เมื่อหลิวเฟยคิดตามก็รู้สึกสบายใจ
พริบตาเดียวก็ผ่านไปแล้ว 4-5 วัน ชายหนุ่มออกมาเดินเล่นนอกบ้าน จู่ ๆ ผู้ใหญ่บ้านก็ส่งข้อความมาหาเพื่อให้ไปลงคะแนนเลือกผู้ใหญ่บ้านคนใหม่ แน่นอนว่าเขาเลือก หลิวอวี้เหลียน
หลังจากเดินเที่ยวไปทั่วตำบลจนถึงเวลาบ่าย หลิวเฟยก็กลับมายังหมู่บ้านหลิว เมื่อมาถึงสะพานหินจึงนั่งพักผ่อนและทักทายชาวบ้านที่ผ่านไปมา “เป็นหมู่บ้านที่ดี ! ”
หลิวเฟยส่งยิ้มให้คนนั้นทีคนนี้ทีแล้วตะโกนขึ้นมา “สวัสดีทุกคน ! “
เมื่อกลับถึงบ้านและเตรียมตัวพักผ่อน หลิวเทียนป้าก็พาชาวบ้านบุกเข้ามาแล้วมาจุดประทัด
เจ้าของบ้านเด้งตัวขึ้นยืนโดยอัตโนมัติ “ นะ...นี่มันเกิดอะไรขึ้น ? ”
หลิวเทียนป้ารีบเข้ามาจับมือ “ยินดีด้วยเสี่ยวเฟย ตอนนี้นายได้เป็นผู้ใหญ่บ้านคนใหม่แล้ว ! ”
หลิวเฟยยิ้มค้าง ยกมือชี้หน้าตนเอง “ ฉันน่ะหรือผู้ใหญ่บ้าน ? ลุงไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหม ? ”
หลิวเทียนป้าให้คนนำผลคะแนนเข้ามา “หมู่บ้านหลิวมีทั้งสิ้น 150 หลังคาเรือน มีผู้อยู่อาศัยทั้งหมด 639 คน คนอายุมากกว่า 18 ปีมีสิทธิ์ลงคะแนนคือ 540 คน นายได้ 306 คะแนนซึ่งมากที่สุด ดังนั้นนายจึงเป็นผู้ใหญ่บ้านคนใหม่ ! ”
หลิวเฟยเบิกตากว้าง “ฉันได้คะแนนมากที่สุดงั้นหรือ ? ”
พระเจ้า ตนไม่อยู่บ้านมานานถึงเจ็ดปี แถมกลับมายังไม่ถึงครึ่งเดือน แต่ชาวบ้านเลือกตนได้อย่างไร ? คงไม่ใช่ว่าหลิวเทียนป้าอยากให้เขาได้ตำแหน่งนี้จึงแอบช่วยหรือเปล่า ?
“คิดว่าฉันเป็นคนทะเยอทะยานแบบนั้นหรือ ? ” หลิวเฟยส่ายหน้าแล้วยิ้มให้หลิวเทียนป้าเพื่อจับผิด “ลุงไม่ได้ใช้ลูกไม้เล่นตุกติกหรอกนะ”
หลิวเทียนป้ามองหน้าหลิวเฟย “นายว่ายังไงนะ ? คะแนนทั้งหมดถูกบันทึกไว้หมดแล้ว เรานับคะแนนต่อหน้าทุกคน ฉันจะเล่นตุกติกได้ยังไง ? เสี่ยวเฟย ทุกคนคาดหวังในตัวนายมาก อย่าทำให้ทุกคนผิดหวัง ฉันเองก็อยากให้นายได้ตำแหน่งนี้ ถ้านายไม่ตกลง...ฉันจะคุกเข่าจนกว่านายจะตกลง...”