ตอนที่ 25 ทักษะและชื่อที่ปกปิดไว้
“ฮู้……”
ขณะที่โม่อวี้กำลังร้องไห้สะอึกสะอื้น หลิวเฟยถอนหายใจออกมา ก่อนพลิกตัวกลับมามองเธอ
เมื่อได้มอง ขวัญเขาก็กระเจิดกระเจิงทันที เพราะตอนนี้กระโปรงสั้นของโม่อวี้ลงไปกองอยู่ที่ขา ทั้งเนื้อทั้งตัวสวมเพียงชุดแนบเนื้อสีขาว รูปร่างที่สมบูรณ์แบบและผิวที่ขาวเนียนเผยให้เห็นความยั่วยวนชวนหลงไหล
โม่อวี้มองเห็นเขาที่หน้าแดงแจ๋ ดูเหมือนกับว่าไม่เป็นอะไร ดังนั้นเเธอจึงรีบวิ่งไปหาเขาด้วยความตื่นเต้น โดยลืมไปว่าที่ขายังมีกระโปรงห้อยต่องแต่งอยู่
เท้าของเธอสะดุดเข้ากับกระโปรงสั้น จนโซซัดโซเซไปทางหลิวเฟย
หลิวเฟยตกใจจึงยื่นมือไปผลักเธอตามสัญชาตญาณ ด้วยแรงผลักทำให้เธอล้มลงไป ทว่าล้มที่ไหนไม่ล้ม ด้วยการที่เสียการทรงตัวทำให้เธอล้มลงบนตัวเขา โม่อวี้นอนทับไปบนตัวเขา พร้อมกับปากเรียวบางคู่งามที่ประกบลงบนริมฝีปากเขาพอดิบพอดี
เนื่องด้วยแรงเฉื่อย แถมยังล้มลงอย่างแรง ทำให้หลิวเฟยรู้สึกเหมือนกับว่าปากตัวเองโดน “กัด” จนเลือดออก
ไม่ว่าจะทั้งมือทั้งปาก ตอนนี้เขาได้กลายเป็น “พ่อมือปลาไหล” ไปแล้ว หลิวเฟยไม่ได้เสียเปรียบอะไร เพียงแต่ในใจเขากำลังสับสนอย่างบอกไม่ถูก
เมื่อนับรวมดูแล้วเขากับโม่อวี้เจอกันสามครั้งก็จูบกันทั้งสามครั้ง ไม่มีผู้หญิงคนไหนทำสถิติได้เท่านี้อีกแล้ว !
“อ๊า……”
หลังจากที่โม่อวี้ได้สติ เธอก็เงยหน้าขึ้นมาและร้องเสียงดัง จากนั้นก็รีบเอามือทั้งสองข้างมาโอบปิดหน้าอกไว้
“หลับตาลงเลยนะ ห้ามมอง ! ”
“อ้อ……”
แม้ว่าหลิวเฟยจะตอบรับ แต่สุดท้ายเขาก็อดใจไม่ได้ที่จะแอบมอง ยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกว่ารูปร่างของเธอดีสุด ๆ ไปเลย
รอจนกระทั่งเธอสวมเสื้อผ้าเสร็จ เขาจึงใช้มือเช็ดริมฝีปากที่เลือดออก พลางส่ายหน้าเพราะไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นยืนเก็บปืนสองกระบอกขึ้นมาพร้อมกับพูดว่า “เมื่อกี้ผมไม่ได้ตั้งใจ……”
โม่อวี้มองเขาด้วยใบหน้าที่แดงก่ำแล้วพูดว่า “ฉันรู้ว่านายไม่ได้ตั้งใจ นั่น……ปากของนายเป็นอะไรไหม”
“ไม่เป็นไร”
หลิวเฟยเม้มปาก เขาโทรหาเซี๋ยจื่อเพื่อให้เขากำจัดร่องรอยการแฮก จากนั้นจึงแจ้งตำรวจ
ขณะที่รอตำรวจ เขาชำเลืองมองดูสิ่งของที่กระจัดกระจายในห้องแล้วพูดว่า “ถ้าตำรวจถาม คุณบอกว่าคุณขอให้ผมช่วยก็พอ ไม่ต้องพูดถึงเพื่อนของผม จะได้หลีกเลี่ยงปัญหาที่ไม่จำเป็น”
โม่อวี้พยักหน้าอย่างเข้าใจแล้วพูดว่า “เอ่อ……ดูจากวิธีสะเดาะกุญแจของนายแล้ว นายคงไม่ใช่……”
หลิวเฟยยิ้มเล็กน้อยแล้วพูดว่า “คุณเดาถูกแล้ว ผมคือโจร และยังเป็นโจรที่เก่งเรื่องขโมยหัวใจผู้หญิงอีกด้วย คุณเองก็ระวังไว้ก็แล้วกัน ! ”
“ไปตายซะ ! ”
โม่อวี้ถลึงตาใส่เขา ทว่าภายในใจกลับรู้สึกสับสนขึ้นมา
เมื่อหลิวเฟยมองเห็นดวงตาคู่นั้นของเธอ เขาก็รีบสงบสติอารมณ์ที่เริ่มพุ่งพล่านมาจากช่วงท้องน้อยของเขา ภายใต้สถานการณ์ที่ยุ่งเหยิงบวกกับฉากยั่วยวนเมื่อครู่นี้ ทำให้เขารู้สึกวูบวาบอย่างบอกไม่ถูก
แต่เขาต้องมีสติ เพราะเมื่อตำรวจมาถึง เขาจะต้องปกป้องตนเอง ไม่สามารถแสดงพิรุธออกไปได้
ไม่ช้า ตำรวจก็มาถึง เจ้าหน้าที่ตรวจสอบสถานการณ์ สรุปและรวบรวมหลักฐานต่าง ๆ ก่อนเชิญพวกเขาไปยังสถานีตำรวจ
หลักจากที่หลิวเฟยและโม่อวี้เซ็นคำให้การที่เป็นลายลักษณ์อักษรเสร็จเรียบร้อยแล้ว ชายวัยกลางคนในชุดตำรวจก็เดินอย่างฮึกเฮิมแล้วมาหยุดที่หน้าหลิวเฟย พลางจับมือเขาไว้พร้อมพูดว่า “น้องชาย นายรู้ไหมว่าคนที่นายจับได้คือใคร ? ”
หลิวเฟยพูดอย่างเรียบเฉยว่า : “คงจะ …… มันเป็นแฮกเกอร์ใช่ไหม”
ชายคนนั้นรีบพยักหน้าแล้วพูดว่า : “ใช่แล้ว เจ้าหมอนี่มันเป็นแฮกเกอร์ และไม่ใช่แฮกเกอร์ธรรมดาด้วยนะ แต่เขาเป็นแฮกเกอร์ที่ตำรวจทั่วประเทศต้องการตัว เขาใช้ชื่อในวงการว่า “เฉาเซียง” ว่ากันว่าเขาได้กำไรจากการแฮกข้อมูลเป็นสิบล้าน มีการทุจริตทั้งปี แถมทรัพย์สินบางอย่างยังผิดกฎหมายอีกด้วย ! อีกทั้งยังมีส่วนร่วมในการแฮกระบบธนาคารครั้งใหญ่เมื่อปีที่แล้ว มีการโอนทรัพย์สินกว่าพันล้าน ก่อให้เกิดความสูญเสียมหาศาล”
หลังจากหยุดไปสักพัก เขาก็กลับมาพูดต่อ “หมอนี่ฝีมือชั้นเยี่ยม แถมยังเจ้าเล่ห์อีกต่างหาก หลายปีมานี้เจ้าหน้าที่ตามจับเขาเป็นว่าเล่น ตำรวจก็แทบจนปัญญา ใครจะไปคิดว่าครั้งนี้น้องชายจะเป็นคนจับตัวได้ นายนี้มันสุดยอดจริง ๆ ! ”
หลิวเฟยพูดอย่างถ่อมตัวว่า “มันก็แค่บังเอิญเท่านั้นเอง”
เจ้าหน้าที่ตำรวจคนนั้นจึงพูดขึ้นว่า “ดูจากที่น้องชายพูด ในโลกนี้จะมีเรื่องบังเอิญสักกี่เรื่องเชียว นายลองเล่าให้มันละเอียด ๆ หน่อยสิ”
เมื่อเห็นว่าเขาไม่ยอมแพ้ หลิวเฟยก็ตั้งการ์ดรอ เขาพูดหลอกล่ออีกรอบ “บังเอิญจริง ๆ ผมแค่ช่วยเพื่อนของผมเท่านั้น ! ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัว”
ทว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจคนนั้นรีบพูดขึ้นว่า “ฝีมือนายไม่เลวเลยนะ”
หลิวเฟยแสยะยิ้ม “ผมเคยฝึกมา ก็พอได้อยู่”
“เมื่อกี้ตรวจสอบแฟ้มประวัตินาย พบว่านายเป็นผู้ใหญ่บ้านของหมู่บ้านหลิวเจีย ก่อนหน้านี้เคยนำชาวบ้านไปทะเลาะกับ……”
เวรเอ้ย ถูกเปิดเผยจนได้ !
หลิวเฟยยิ้มแห้ง พร้อมกับพูดขึ้นว่า “คดีนั้นมันจบไปแล้วไม่ใช่หรือ ผมคือผู้ใหญ่บ้านที่ปฎิบัติตามกฎหมาย คุณอย่าทำให้ผมต้องลำบากใจเลย ผมทำเรื่องดี คุณคงจะไม่กักตัวผมไว้ที่สถานีตำรวจหรอกนะ ? ”
ในเวลานี้มีตำรวจคนหนึ่งพูดอย่างเคร่งขรึมว่า “ทำไมคุณพูดแบบนี้ นี่คือผู้บังคับบัญชานะ ! ”
เจ้าหน้าที่ตำรวจคนนั้นโบกมือขึ้นแล้วพูด “นายนี่ขี้เล่นจริง ๆ นายสามารถไปได้อยู่แล้ว ! พวกเราแค่จะมอบรางวัลให้แก่นาย และให้สื่อรายงานอย่างเป็นทางการ นายว่าไง ตกลงไหม ? ”
หลิวเฟยเกาหัว “นี่……ผู้บังคับบัญชา คุณดูสิ ผมเป็นแค่ชาวนาตัวเล็ก ๆ และก็เป็นแค่พ่อค้าธรรมดาคนหนึ่ง พวกเราก็แค่อยากใช้ชีวิตแบบปกติ แฮกเกอร์คนนี้มีชื่อเสียงมาก หากมีคนสมรู้ร่วมคิดมาแก้แค้นแทนเขา พวกเราจะไม่…… ”
เจ้าหน้าที่ตำรวจคนนั้นพูดอย่างเสียดาย “ช่างมันเถอะ ฉันเข้าใจนายแล้ว เพราะนายไม่ได้แยแสในชื่อเสียงและเงินทอง ฉะนั้นฉันก็จะไม่บังคับนาย ขอบคุณมากสำหรับครั้งนี้ ! ”
หลิวเฟยยิ้มและพูดว่า “ถ้าหากพวกคุณรู้สึกผิดที่ไม่ได้ให้รางวัลผม งั้นรอให้ผมไปก่อเรื่องอีกก่อน พอผมโดนจับตัวกลับมาก็ดูแลผมดี ๆ เข้าใจไหม ? ”
“ฮ่าฮ่าฮ่า……”
คำพูดของเขาทำเอาทุกคนถึงกับหัวเราะร่า !
เขาขี้เล่นจริง ๆ ดูเป็นคนกล้ายืนหยัดในสิ่งที่ถูกต้อง แถมไม่ได้แยแสต่อชื่อเสียงเงินทอง คนแบบนี้น่ะหรือจะทำเรื่องผิดกฎหมาย ? หรือต่อให้เขาทำผิดกฎหมายก็เกรงว่าจะถูกคนใส่ร้ายเหมือนกับคดีทะเลาะวิวาทในหมู่บ้านหลิวเจียครั้งก่อนล่ะมั้ง ?
……
เมื่อออกมาจากสถานีตำรวจ โม่อวี้เอาแต่จ้องเขม็งไปที่หลิวเฟย เมื่อหลิวเฟยเห็นดังนั้นจึงหัวเราะออกมา “บนหน้าผมมีอะไรติดอยู่หรือ ? ระวังหน่อย มองทางด้วยคุณ เดี๋ยวเดินชนเสาไฟฟ้าเอา ! ”
โม่อวี้พูดอย่างจริงจังว่า “สถานะซับซ้อน ฝีมือก็ดี แถมทำเรื่องใหญ่ขนาดนี้ยังใจเย็นอยู่ได้ แค่ฉันดูก็รู้ว่านายไม่ใช่คนธรรมดา แล้วทำไมนายถึงมาเป็นชาวนาล่ะ ? ”
หลิวเฟยได้ยินดังนั้นจึงตอบกลับไป “เป็นชาวนาไม่ดีตรงไหนหรือ ? มีอิสระกว่าอาชีพอื่นไม่ใช่หรือไง ? มีเวลาผมจะพาคุณไปดูหมู่บ้านหลิวเจีย ทิวทัศน์ที่นั่นสวยมากเลยนะ”
โม่อวี้ยิ้มอย่างอ่อนโยนแล้วพูดขึ้น “พูดแล้วนะ ห้ามคืนคำด้วย ! ครั้งนี้ฉันไม่รู้จะขอบคุณนายยังไงดี เอางี้แล้วกัน ไปกินข้าวที่บ้านฉัน ฉันจะทำให้กินเอง เป็นการให้เกียรตินายดีไหม ? ”
ไปบ้านเธองั้นหรือ ?
นี่กำลังจะสื่อถึงอะไรกันแน่ ?
หลิวเฟยเห็นว่าฟ้าเริ่มมืดแล้วจึงพูดออกไปว่า “ได้สิ แต่ผมว่าคราวหน้าดีไหม ? ”
“คิก ! ”
โม่อวี้อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา เธอชี้นิ้วไปที่เขาแล้วพูดว่า “นายปฎิเสธคนอื่นแบบนี้หรือ ? แรกพูดเหมือนจะดี แต่พอระยะหลังก็ราวกับจะผลักคนฟังตกเหว ! ที่ฉันพูดถูกหรือเปล่า ? ที่จริงนายก็ดูไม่ใช่คนขี้ขลาดนะ กลัวว่าพวกสาว ๆ จะปล้ำนายใช่ไหมล่ะ ? ”
หลิวเฟยยิ้มเจื่อน ๆ “พูดตามตรง ผมกลัวจริงแหละ ! ”
“นาย……ไอ้บ้า ฉันจะคิดบัญชีกับนายพรุ่งนี้ ! ”
เมื่อเห็นหลิวเฟยโบกแท็กซี่คันหนึ่งพร้อมหายวับไป โม่อวี้ใช้มือลูบแก้มที่กำลังร้อนผ่าว ดวงตาคู่สวยของเธอเต็มไปด้วยความหงุดหงิดระคนเขินอาย
หลิวเฟยนั่งรถมาที่ตำบลโซ่วเฉิง ไม่ได้กลับไปที่หมู่บ้านหลิวเจีย เขาพักที่โรงแรมหนึ่งคืน นอนจนถึงบ่ายวันต่อมาจึงตื่นไปเดินเล่นบนถนน
แต่เดินอยู่ดี ๆ ก็มีแขนที่ขาวเนียนประดุจรากบัวยื่นมาจับแขนเขาเอาไว้ แค่ปรายตามองดูก็รู่ว่าเป็นใคร เขาส่ายหัวทันที “นี่ยังอุตส่าห์มาเจอคุณได้อีก หนีไม่พ้นจริง ๆ ! ”
หลิวอวี้เหลียนในชุดกระโปรงยาวสีขาวถามคาดคั้นเขาด้วยความหงุดหงิด “เมื่อคืนพี่ไปไหนมา ? ”
หลิวเฟยตอบ “เมื่อวานขายของเสร็จก็ดึกแล้ว อีกทั้งฉันอยากซื้อของสักหน่อยก็เลยพักอยู่ในเมือง”
หลิวอวี้เหลียนยังคงถามคาดคั้นไม่หยุด “อ๋อ ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี้เอง มิน่าล่ะ ฉันตื่นมาหาพี่ตั้งแต่เช้า แต่ไม่เจอ ว่าแต่พี่จะซื้ออะไร ? ”
“ชุดดำน้ำ ! ”
ดวงตาของหลิวอวี้เหลียนเบิกกว้าง “ไว้ใช้จับสัตว์น้ำมาขายหรือ”
หลิวเฟยยิ้มแล้วพาเธอไปที่ร้านขายชุดดำน้ำ ขณะเดียวกันก็เลือกพลางพูดไป “ต้องวางแผนล่วงหน้าก่อนถึงจะทำได้ หลังจากจับสัตว์ทะเลน้ำตื้นมาขายได้แล้ว ค่อยขยายพื้นที่ลงไปตรงที่ลึกขึ้น หากทำแบบนั้นแล้วไม่มีชุดดำน้ำก็คงทำไม่ได้”
หลิวอวี้เหลียนได้ยินเช่นนั้นก็กล่าวอย่างชื่นชม “พี่เฟย พี่นี่รอบคอบเกินไปแล้ว น้องสาวคนนี้นับถือพี่เลย ! ”
“ฉันล่ะชอบคำนี้จริงๆ เลย” หลิบเฟยตบไปที่บ่าของเธอ
“ว่าแต่เถ้าแก่ ชุดดำน้ำพวกนี้ราคาเท่าไหร่ ? ” หลังจากนั้นเขาได้หันไปถามราคาชุดจากเถ้าแก่ร้าน
เถ้าแก่วัยกลางคนหาวแล้วตอบว่า: “ชุดละ 2,000 ! ”
“แพงเกินไปแล้ว ! ”
“นี่ราคาถูกแล้วนะ คุณเข้าไปซื้อในเมืองอาจจะแพงกว่านี้อีก ! ”
“ลดอีกหน่อยได้ไหม ? “
“คุณอยากได้ราคาเท่าไหร่ ? ”
“1,000 ! ”
เถ้าแก่มองเขาอย่างหงุดหงิดพร้อมกับพูดว่า “คุณต่อราคาแบบนี้ก็ได้หรือ ? นี่มันของซื้อของขายนะ ให้ได้ 2,000 ไม่ซื้อก็รีบ ๆ ออกไป อย่ามาทำให้เสียเวลาทำมาหากิน ! ”
หลิวอวี้เหลียนได้ยินเถ้าแก่ร้านพูดแบบนี้ก็ยกมือเท้าเอวก่อน แล้วพูดขึ้นว่า “เฮ้ คุณเป็นพ่อค้าจริงหรือเปล่า ? คนค้าขายเขาพูดจากันแบบนี้หรือไง ? ทำไมพูดจาแบบนี้ห๊ะ ? ”
เถ้าแก่เองก็ไม่ยอมเช่นกัน “ฉันจะพูดแบบนี้แล้วจะทำไม พวกคุณจะชอบไม่ชอบก็แล้วแต่ สรุปจะซื้อหรือไม่ซื้อ ? ไม่ซื้อก็รีบออกไป ! ”
หลิวอวี้เหลียนชี้หน้าเขา แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไร เธอดึงมือหลิวเฟยเพื่อจะเดินออกจากร้าน ทว่าหลิวเฟยกลับมองหน้าเถ้าแก่แล้วพูดว่า “สีหน้าเถ้าแก่ดูไม่ค่อยดีนะ ให้ผมช่วยดูสักหน่อยไหม”
เถ้าแก่นิ่งไป เขายิ้มแห้งแล้วพูดว่า “คุณรักษาโรคได้ด้วยหรือ อย่ามาล้อเล่นน่า รีบไปไกล ๆ เถอะ ! ”
“ดูแล้วคุณน่าจะมีอาการนอนไม่หลับเพราะฝันร้ายบ่อย ๆ ใช่ไหม”
เถ้าแก่ได้ยินเช่นนั้นก็พูดด้วยความตกใจ “คุณ……คุณรู้ได้ยังไง ? ”
“ตำราฝังเข็มหลิงซูกล่าวไว้ว่า เมื่อลมเข้าไปอวัยวะภายใน เข้าไปในธาตุหยาง ไม่เข้าไปในธาตุหยิน และเมื่อพลังหยางมีมากเกินไปจะถูกดักไว้ ไม่สามารถเข้าสู่ธาตุหยินได้ คนเรามีพลังหยินในร่างกายไม่เพียงพอก็จะทำให้นอนไม่หลับ”
เถ้าแก่ฟังแล้วอึ้งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยถามด้วยใบหน้างุนงง หมาย ……หมายความว่ายังไง ? ”
หลิวเฟยหัวเราะแล้วพูดต่อ “การเสียสมดุลของหยินหยางเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้นอนไม่หลับไง“
ในระหว่างที่พูด เขาได้ยื่นมือออกไปช่วยจับชีพจรพลางพยักหน้าและพูดว่า “มันไม่ใช่สาเหตุภายนอกที่มาจากหมอนหรืออะไรอื่น แต่มันเป็นสาเหตุภายใน มีวิธีรักษาอยู่ 3 วิธี รับรองว่าคุณจะหายภายในสามวัน”
เถ้าแก่พูดอย่างตื่นเต้นว่า “คุณ……พูดจริงไหม ? ฉันมีอาการมานานมากแล้ว มันทรมานจนแทบอยากตาย ไปหาหมอมาก็หลายครั้งแต่กลับไม่ได้ผลเลย ! ”
หลิวเฟยพูดขึ้นว่า “อาจเพราะตรวจไม่ตรงจุด วิธีรักษาของผมเริ่มจากการกินอาหาร อาหารที่เหมาะมากสำหรับคุณคือซุปหัวใจหมู ส่วนอื่น ๆ คือยาจีนสองสามชนิดที่ผมจะให้คุณไปซื้อมาต้มดื่ม สุดท้ายคือการฝังเข็ม วันนี้ผมไม่ได้เอาเข็มมาด้วย พรุ่งนี้ผมจะกลับมาฝังเข็มให้อีกรอบ รับรองว่าต้องหาย”
เถ้าแก่รีบพูดอย่างไว “ถ้าเป็นอย่างงั้น ฉันขอบคุณมาก ๆ เลย ! เอางี้ ฉันจะขายชุดดำน้ำให้คุณ 1,000 คุณอยากได้เท่าไหร่ก็ตามนั้นเลย”
หลิวเฟยยิ้มแล้วพูดว่า “หมายความว่ายังไง……”
เถ้าแก่พูดอย่างกระตือรือร้นว่า “ไม่มีอะไรจะต้องเสียแล้ว อาการของฉันมันยืดเยื้อมานาน เป็นฉันเองที่คิดน้อย ไม่น่าไปพูดแบบนั้นกับคุณเลย ฉันขอโทษคุณจริง ๆ ”
หลิวเฟยรีบหยุดเขา ก่อนเขียนวิธีทำซุปหัวใจส่งให้ จากนั้นจ่ายให้เขา 2,000 เพื่อซื้อชุดดำน้ำ 2 ชุด
หลิวอวี้เหลียนตื่นเต้นดีใจจนแทบจะเข้าไปหอมแก้มเขา “พี่เฟย พี่นี่สุดยอดไปเลย วิธีการต่อรองของพี่ไม่มีใครเกินเลยจริง ๆ ”