px

เรื่อง : ผู้ใหญ่หลิวยอดเกษตร (นิยายแปล) ปลดล๊อคตอนฟรี วันละ 1 ตอน
ตอนที่ 34 พี่จะเอาอะไรมาสู่ขอฉัน


ตอนที่ 34 พี่จะเอาอะไรมาสู่ขอฉัน

 

หลังจากที่หลิวเฟยพักผ่อนอยู่ในบ้านสักพักแล้วก็เริ่มออกมาเดินเล่นบนภูเขา

 

ทันใดนั้น เขาถูกชาวบ้านห้าหกสิบคนโอบล้อมไว้ อีกทั้งจำนวนคนก็ยังมากันเพิ่มไม่ขาดสาย เหมือนกับกำลังนำพวกชาวบ้านไป “ตระเวนสำรวจภูเขา”

 

“เสี่ยวเฟย นี่คือที่ดินภูเขาพื้นที่ 3 หมู่ของบ้านฉัน เชื่อมติดกัน ปลูกอะไรก็สะดวก ดูสิ อยากจะเช่าไหม ? ”

 

“เสี่ยวเฟย รีบดูเร็ว นี่ของบ้านฉัน ระดับน้ำทะเลต่ำ ไม่ลาดชันและยังหันหน้าไปทางทิศตะวันออก เป็นที่ดินภูเขาที่มีคุณภาพติดอันดับต้น ๆ เลย ! ”

 

“ไม่ต้องแย่งกันแล้ว ไปดูที่ดิน 5 หมู่ของฉันกันเถอะ ที่ดินเชื่อมติดกันทั้งหมด ด้านข้างยังมีบ่อน้ำเล็ก ๆ จะส่งน้ำเข้านาก็สะดวก ! ”

 

……

 

พวกชาวบ้านต่างก็แย่งโปรโมทที่ดินของตัวเองอย่างสุดกำลัง เวลานั้นละอองน้ำลายลอยมั่วไปหมด หลิวเฟยรู้สึกว่าหูทั้งสองข้างของตัวเองใกล้ระเบิดแล้ว

 

เขาคิดไม่ถึงจริง ๆ ว่าชาวบ้านจะกระตือรือร้นขนาดนี้

 

แต่หากลองนึกย้อนไป ก็สมเหตุสมผลอยู่

 

นอกจากเขาแล้ว ยังจะมีใครมาให้ราคาเช่าที่ดิน 1 หมู่ 1,000 หยวนอีกล่ะ ? อีกทั้งเขาพูดออกมาแล้ว ต้นไม้ที่ปลูกบนเขาอะไรพวกนั้น เขาล้วนไม่ต้องการ เพียงแต่ว่าก่อนที่เขาจะใช้พื้นที่ เจ้าของเดิมต้องโค่นต้นไม้ทั้งหมดไปขายก่อน”

 

การกระทำนี้ก็คือให้ผลประโยชน์แก่ชาวบ้านด้วยความบริสุทธิ์ใจ

 

เขากะคร่าว ๆ ไว้ว่าชาวบ้านจำนวนมากยังคงด่าเขาในใจว่าทำให้ครวบครัวพังพินาศ ล้างผลาญเงินของวงศ์ตระกูล แต่คงไม่พูดออกมาต่อหน้าเหมือนแต่ก่อน

 

ถึงอย่างไรก็ตามพฤติกรรม ‘ไม่เอาถ่าน’ ของเขาเมื่อก่อนนี้ กับตอนนี้ที่เป็นฝ่ายยกผลให้ประโยชน์กับชาวบ้าน สองแบบนี้ต่างกันโดยสิ้นเชิง

 

อีกทั้งเขาในสายตาชาวบ้านตอนนี้ก็คือ "นายทุน"  หากล่วงเกินเขาแล้วนั่นเท่ากับว่าทุบกระปุกทองไม่ใช่หรือ ?

 

หลิวต้าไห่และสวีเยี่ยนมองฉากนี้อยู่ไกล ๆ ด้วยความโกรธที่กระแทกจนจุกอก

 

สวีเยี่ยนพูด "หลิวต้าไห่ คุณว่าบ้านของคุณให้กำเนิดลูกล้างพลาญครอบครัวแบบนี้ได้ยังไงนะ ? แบบนี้เรียกว่าเวรกรรมจริง ๆ ! "

 

หลิวต้าไห่ถอนหายใจยาวแล้วพูด "เจ้าเด็กคนนี้ตอนนี้ยิ่งอยู่ยิ่งหัวแข็งจริง ๆ แต่ว่าเขาไม่ได้เป็นเพียงเด็กสามขวบแล้ว ผลการกระทำที่เขาทำก็ต้องยอมรับด้วยตัวเองเท่านั้น ! ช่างเถอะ ไม่ต้องดูให้เสียอารมณ์ พวกเรากลับบ้านกันเถอะ"

 

สวีเยี่ยนไอแห้ง ๆ ดึงเขาไว้และพูดเสียงกระซิบ "เอาแบบนี้ไหม พวกเราหาคนแอบเอาพื้นที่ภูเขากี่หมู่ของพวกเราไปให้เขาเช่าด้วยเถอะ เขาไม่ใช่ล้างผลาญอยู่หรือ ? ล้างผลาญแล้วเงินไปอยู่ในกระเป๋าคนอื่นมันไม่ดีหรอก แม้พวกเราตัดสิ้นความสัมพันธ์กับเขาแล้ว แต่ว่าก็เคยเป็นอาเป็นอาสะใภ้เขาไม่ใช่หรือ ? ฉันเดาว่าเจ้าเด็กคนนี้ออกไปเจ็ดปีก็คงหาเงินได้อยู่บ้าง พวกเราจะไม่เอาผลประโยชน์จากเขาสักนิดเลยหรือ ? "

 

หลิวต้าไห่สายหัวพูด "เธอเห็นว่าเขาเป็นคนโง่ให้เธอหลอกหรือ ? ฉันจะบอกเธอให้ เจ้าเด็กคนนี้ฉลาดเจ้าเล่ห์ ตระกูลของพวกเรามีที่ดินอยู่กี่หมู่ กระจัดกระจายอยู่ที่ไหน เขารู้ดีกว่าเธออีก ! "

 

สวีเยี่ยนพูด "งั้นพวกเราก็แอบสับเปลี่ยนกับชาวบ้านก่อน จากนั้นค่อยให้เขาเช่า ? "

 

"เธอไม่กลัวยุ่งยากทีหลังหรือ ? "

 

สวีเยี่ยนพูดอย่างไม่ยอมแพ้ “ช่างเถอะ พวกเราเองก็ไม่ได้ขาดแคลนเงินทอง ให้เขาไปเกิดไปตายด้วยตัวเองเถอะ ! ”

 

……

 

หลิวเฟยที่อยู่ท่ามกลางกลุ่มชาวบ้านมากมาย เดินอยู่บนภูเขาเป็นเวลาสองชั่วโมงกว่า ท้ายที่สุดก็ประกาศการตัดสินใจที่ทำให้ชาวบ้านส่งเสียงคึกคักเจี๊ยวจ๊าว

 

พื้นที่ห่างจากระดับน้ำทะเล 300 เมตรหันไปทางทิศตะวันออก เช่า 50 หมู่

พื้นที่ห่างจากระดับน้ำทะเล 300 เมตรถึงเจ็ดร้อยเมตรทางทิศตะวันออก เช่า 50 หมู่

พื้นที่ห่างจากระดับน้ำทะเล 700 เมตรขึ้นไป เช่า 10 หมู่

 

พริบตาเดียวก็เช่า 110 หมู่แล้ว นี่เป็นเงินจำนวนมากที่สุดที่ภูเขาไห่หมิงเคยมีมาก่อนเลย อีกทั้งหากคิดตามราคาค่าเช่า รวมกันแล้วต้องจ่ายเป็นเงิน 110,000 หยวน ชาวบ้านถึงรู้ได้ในทันทีว่าเจ้าเด็กคนนี้เป็นคนมีเงิน !

 

"มา ๆ ๆ คนโง่เงินเยอะ รีบมาลงชื่อกันเร็ว พลาดโอกาสนี้ไปก็ไม่มีอีกแล้ว ! ให้สิทธิพิเศษกับที่ดินที่อยู่ติดกัน ให้สิทธิพิเศษกับที่ดินรกร้างมาหลายปี  ให้สิทธิพิเศษกับที่ดินที่ไม่ได้เพราะปลูกไม้ผล ลงชื่อก่อน ค่อยดูที่ดิน จากนั้นค่อยตัดสินใจในขั้นตอนสุดท้าย ! "

 

หลิวเฟยที่หัวแข็งดื้อรั้น หลังจากที่ตัดสินเรื่องใหญ่นี้แล้ว พอกลับไปถึงบ้านด้านหนึ่งพูดจาเจื้อยแจ้วไม่หยุดอีกด้านหนึ่งใช้ปากกาจด

 

หลี่อวิ๋นโหรวที่ดูสถานการณ์อยู่ห่าง ๆ อยากจะกระอักเลือดและอยากจะหัวเราะด้วยจริง ๆ ชีวิตนี้ได้พบกับเพื่อนร่วมงานที่ไม่เหมือนใครแบบนี้ เหมือนจะ "เป็นเกียรติ" ของเธอเช่นกัน

 

พวกชาวบ้านต่างแย่งชิงกันมาลงชื่อ ชาวบ้านหลายคนแทบจะลงมือตีกันแล้ว หลิวเฟยจึงรีบให้พวกเขาต่อแถวกันดี ๆ จากนั้นเข้ามาทีละคน !

 

ผ่านไปสักพัก หลิวเทียนป้าพาหลิวอวี้เหลียนเข้ามา หลังจากที่หลิวเทียนป้ามองหลิวเฟยด้วยสายตาชั่วร้ายอำมหิต เขาไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไรนอกจากยื่นมือออกไปจะคว่ำโต๊ะ

 

หลิวเฟยเพียงแค่ยื่นมือไปกดโต๊ะเอาไว้ หลิวเทียนป้าออกแรงคว่ำอยู่สักพักแต่โต๊ะไม่ขยับ

 

เขากวาดสายตามองพวกชาวบ้าน หลิวเทียนป้ากระแอมหนัก ๆ พลางชี้หลิวเฟยแล้วพูด "ลูกเขยตัวดี นายคิดว่าจะมาล้างผลาญครอบครัวแบบนี้หรือ ? 1,000 หยวนต่อ 1 หมู่ หัวสมองของนายถูกลาถีบหรือไง ? นายเอาสินสอดของหลิวอวี้เหลียนมาจ่ายหมดแล้ว จะเอาอะไรมาสู่ขอเธอ ? หรือจะเอาดินโคลนในแม่น้ำปั้นเป็นหีบดินเหนียว จากนั้นใส่เม็ดดินเหนียวลงไปในหีบดินเหนียวหรือไง ? "

 

"ฮ่าๆๆ......"

 

ทันทีที่เขาพูดออกมา พวกชาวบ้านที่อยู่ในนั้นต่างก็หัวเราะดังสนั่น

 

"พ่อ พ่อพูดอะไรน่ะ"

 

หลังจากหลิวอวี้เหลียนดึงหลิวเทียนป้าแล้วหันไปมองหลิวเฟยแล้วพูด "พี่เฟย พี่จะก่อเรื่องแบบไหนห๊ะ ? แบบนี้บ้าไปหน่อยมั้ง ? "

 

หลิวเฟยยกยิ้มมุมปากหัวเราะแล้วพูดต่อ "พวกเธอไม่ต้องมาโน้มน้าวฉันแล้ว ให้ฉันได้กลับไปเป็นทรราช ได้ทำตามใจตัวเองสักครั้งเถอะ ! ยังไงซะท้ายที่สุดคนที่ได้กำไรก็คือพวกพี่ป้าน้าอาทั้งหลาย ทุกคนว่าใช่ไหม ? "

 

"ใช่ ! "

 

พวกชาวบ้านขานรับอย่างเซ็งแซ่ ฟังดูกระตือรือร้นแบบนั้น ตอนนี้คาดว่าคงมีเพียงแต่คนโง่เท่านั้นที่จะบอกว่าไม่ใช่......

 

หลิวเทียนป้าสูดหายใจเข้าอย่างโกรธเคือง ด้วยความโมโหฉับพลันก็พุ่งตรงไปหยิบจอบเงินที่ข้างกำแพงแล้วเดินดุ่ม ๆ เข้าไปหาหลิวเฟย หลิวอวี้เหลียนและพวกชาวบ้านเห็นดังนั้นก็รีบเข้ามาขวางไว้

 

"นายมันเด็กเหม็นเน่า ในเมื่อพ่อแม่นายไม่อยู่แล้ว ถ้าอย่างนั้นในฐานะพ่อตาของนาย วันนี้ฉันจะสั่งสอนนายแทนพวกเขาเอง ! เจ็ดปีก่อนนายยากจนข้นแค้น ตอนนี้มีเงินขึ้นมาหน่อยก็เปลี่ยนเป็นคนแบบนี้หรือ ? นี่กำลังโอ้อวด หรือกำลังบอกพ่อแม่พี่น้องว่านายมีเงินมากกว่าฉัน ? "

 

หลิวเฟยหัวเราะแล้วพูด "ลุง ลุงคิดมากจัง ! ผมทำแบบนี้ผมมีเหตุผลของผม ! ทุกคนต่างบรรลุนิติภาวะกันแล้ว เวลาทำก็ต้องนึกถึงผลที่ตามมาแน่นอน หากว่าลุงทนดูต่อไปไม่ได้ ถ้าอย่างนั้นก็อย่าดูเลย"

 

"นาย......แล้วอวี้เหลียนจะทำยังไง ? "

 

หลิวเฟยเกาหัวอย่างรู้สึกจนปัญญา เขาไม่เคยบอกว่าจะสู่ขอเธอนี่ พ่อลูกคู่นี้ทำไมถึงยอมรับตัวเขาเป็นลูกเขยแล้วล่ะ ?

 

แต่ว่าต่อหน้าคนมากมายแบบนี้ เขาเองก็ไม่อยากให้หลิวเทียนป้าและอวี้เหลียนเสียหน้า ดังนั้นจึงคิดสักเล็กน้อยแล้วพูดต่อ "ลุง เรื่องนี้ค่อยว่ากันทีหลังเถอะ ผมกำลังยุ่งอยู่ ลุงใจเย็นก่อน ไปดื่มชาในบ้านก่อน ! "

 

"ดื่มกับคนประหลาดอย่างนายเรอะ อกฉันจะแตกแล้ว อกฉันจะแตกแล้วจริง ๆ เจ้าเด็กเหม็นเน่า"

 

พูดจบ เขาดึงหลิวอวี้เหลียนเพราะต้องการจะไป แต่หลิวอวี้เหลียนให้ตายก็ไม่ยอมไป เขาจึงทำได้เพียงแค่เดินจากไปคนเดียว

 

ใช้เวลาสองชั่วโมงกว่า หลิวเฟยจดบันทึกเสร็จ กินอาหารกลางวัน จากนั้นก็เริ่มตรวจสอบที่ดินแต่ละหมู่ หลังจากที่ตรวจสอบที่ดินหลายหมู่ การขึ้นลงภูเขานั้นเหนื่อยมากจริง ๆ

 

ในตอนนั้นเขาเชิญชาวบ้านหลายสิบคน โดยแบ่งจากกลุ่มใหญ่เป็นกลุ่มย่อย  จากนั้นแบ่งกันไปตรวจสอบ ด้วยเหตุนี้ก่อนที่ความมืดในยามค่ำคืนจะย่างกรายมา พวกเขาก็ทำการสำรวจเสร็จอย่างราบรื่น

 

พวกชาวบ้านเองต่างก็ซื่อสัตย์จริงใจ ไม่มีใครรายงานเท็จ

 

เมื่อกลับถึงบ้าน หลิวเฟยที่เหนื่อยอ่อนเดินไปล้มตัวนอนบนเตียงเพื่อพักผ่อน หลิวอวี้เหลียนที่ติดตามเขาโดยตลอดก็ล้มตัวนอนข้างเขา ใช้ข้อศอกสะกิดเขาแล้วพูดว่า "พี่เฟย เป็นเหมือนตอนเด็กเลย ตอนนี้ไม่ว่าพี่จะทำอะไร ฉันก็สนับสนุนพี่ ! แต่ว่าพี่บอกฉันหน่อยได้ไหม เพราะอะไรพี่ถึงทำแบบนี้ ? จ่ายเงินเพื่อประจบสอพลอชาวบ้าน รักษาตำแหน่งผู้ใหญ่บ้านหรือ ? แบบนี้ไม่ใช่นิสัยของพี่ ! "

 

หลิวเฟยเอียงหัวมองเธอแล้วพูดว่า "จ่ายเงิน 110,000 เพื่อประจบชาวบ้านหรือ ? ฉันก็บ้าแล้วมั้ง ! ฉันทำแบบนี้มีเหตุผลของฉัน แน่นอนว่าตั้งใจเป็นฝ่ายยกผลประโยชน์ให้พวกเขาเหมือนกัน ถึงยังไงภูเขาไห่หมิงแห่งนี้ก็คือที่ที่ฉันเกิดและเติบโต ชาวบ้านเหล่านั้นก็เห็นฉันเติบใหญ่ ฉันเป็นฝ่ายยกผลประโยชน์ให้ก่อนก็สมควรแล้ว"

  

หลิวอวี้เหลียนนอนตะแคงข้าง ใช้มือหนุนแก้มนอนพลางมองเขาไม่วางตาแล้วพูด "พี่เตรียมจะทำอะไรอยู่อีกใช่ไหม ? "

 

หลิวเฟยหัวเราะ "ดูเหมือนว่าในหมู่บ้านทั้งหมดคนที่เข้าใจฉันที่สุดก็คือเธอ ถูกแล้ว ฉันกำลังเตรียมบางสิ่งอยู่ ! เธอวางใจ ถึงตอนนั้นพวกชาวบ้านต้องบ่นแน่ว่าให้เช่าที่ราคาถูกเกินไปแล้ว ! "

 

หลิวอวี้เหลียนพูดอย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก "ตั้ง 1,000 หยวนต่อ 1 หมู่แล้ว ยังจะบ่นว่าถูกอีกหรือ ? "

 

หลิวเฟยพูดอย่างมีลับลมคมใน "ถึงเวลาเธอจะเข้าใจเอง"

 

"ถ้างั้น.......พี่มีเงินในบัญชีเท่าไหร่ล่ะ ? "

 

หลิวเฟยพูดอย่างระมัดระวังเต็มที่ "เธอไม่ใช่เมียฉันสักหน่อย เธอจะถามทำไม ? "

 

หลิวอี้เหลียนจ้องมองเขาแล้วพูด "พี่ใจกว้างกับพวกเขาขนาดนั้น ทำไมกับฉันถึงใจแคบแบบนี้ล่ะ ? ฉันแค่ถามแล้วจะทำไมหรือ ? จะบอกไม่บอก ? "

 

หลิวเฟยโบกมือ

 

"นี่พี่บังคับฉันเองนะ"

 

หลิวอวี้เหลียนใช้มือยื่นไปจั๊กจี้เขาอยู่หลายที พอเห็นว่าเขาไม่สะทกสะท้านจึงพลิกตัวและกดเขาเอาไว้ใต้ร่าง หลังจากนั้นก็บีบจมูกเขาไม่หยุด

 

พอรับรู้ได้ถึงความอบอุ่นอ่อนนุ่มจากร่างกายหญิงสาว หลิวเฟยถึงกับตกตะลึง ทำไมถึงไม่ระวังตัวเลย นึกอยากจะเบียดเข้ามาก็เบียดเลยหรือ ? ไอ้เราก็ไม่อยากจะเกินขอบเขตนะ......

 

ในขณะที่หลิวอวี้เหลียนก่อเรื่องอย่างเบิกบานใจ หลี่อวิ๋นโหรวก็โผล่พรวดมาอยู่ที่ประตูแล้ว เธอเห็นฉากนั้นพอดี ทำเอามองตาค้างเลิ่กลั่กจนลืมหันหน้าหนี

 

หลิวอวี้เหลียนหันมามองเธอ ฉับพลันใบหน้าสวยได้เปลี่ยนเป็นสีแดง แต่ว่าเธอไม่ได้ลุกขึ้น อีกทั้งยังพูดอย่างไม่เอียงอายว่า "คือว่า......ตอนนี้ฉันกำลังบีบบังคับให้เขาสารภาพ เด็กน้อยไม่ควรดู เธอออกไปก่อนเถอะ"

 

หลี่อวิ๋นโหรวนิ่งสักพัก จึงรีบร้อนหมุนตัวกลับห้องโถงไป แต่หลังจากคิดอย่างละเอียดแล้ว เธอก็อดไม่ได้ที่จะสบถด่าออกมา ยัยนี่ ใครคือเด็กน้อยห๊ะ ?

 

หลิวเฟยเองก็ถูกความใกล้ชิดของหลิวอวี้เหลียนทำให้แข็งทื่อไปทั้งตัว เขากระแอมดัง ๆ แล้วพูดขัดเธอ "พอแล้ว พอแล้ว ฉันพูดก็พอแล้วมั้ง ? ทำไมเธอยังเหมือนตอนเด็กเลย ? ทรมานคนอื่นเกินไปแล้วนะ ! คือ เอ่อ......จ่ายเงิน 110,000 นี้ไปแล้ว หลังจากนั้นเงินติดตัวฉันก็แทบไม่เหลือแล้วล่ะ เธอก็รู้ แต่ไหนแต่ไรมาฉันเป็นคนเก็บเงินไม่อยู่ เก็บสะสมเงินพวกนี้มาได้ก็เหนือความคาดหมายแล้ว ! ”

 

"อ๊าาาาาาา......"

 

เมื่อฟังคำพูดนี้ หลิวอวี้เหลียนแทบจะบ้าแล้ว เธอรัวกำปั้นดั่งสายฝนทุบใส่หน้าอกของหลิวเฟย แต่ว่าไม่ได้ใช้แรงมากนัก สำหรับหลิวเฟยแล้วก็เหมือนกับการนวดอะไรประมาณนั้น

 

หลังจากยินยอมให้เธอทุบสักพัก หลิวเฟยก็พูดอย่างเลื่อนลอยว่า "ถ้าไม่จ่ายเงิน แล้วจะหาเงินได้ยังไงล่ะ ? หมดแล้วก็หาใหม่สิ มีอะไรร้ายแรงล่ะ ? "

 

"ถ้างั้นพี่จะเอาอะไรมาสู่ขอฉัน ? "

 

"ขโมยสมุดบัญชีของพ่อเธอมาให้ฉัน อย่าลืมรหัสด้วยนะ"

 

"เชอะ ! ไปตายซะ......"

 

หลิวอวี้เหลียนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะอย่างเหนียมอาย เธอพลิกตัวกลับไม่ก่อเรื่องแล้ว อีกทั้งยังทำแก้มป่องและพูดออกมาอย่างลึกซึ้ง "ไม่สนแล้ว ไม่สนแล้ว ! ยังไงซะฉันจองพี่ไว้แล้ว ถึงแม้ว่าพี่จะเป็นขอทานบนถนน ฉันก็จะแต่งกับพี่ ! "

 

หลิวเฟยพูด "แบบนี้ยังไม่ได้อีกหรือ ? ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะล้างผลาญต่อไป พรุ่งนี้ฉันวางแผนว่าจะเริ่มให้ค่าเช่าที่ดินแปลงนา 2,000 หยวน 1 หมู่ ! หลังจากนั้นก็ไปเป็นขอทาน ถึงเวลานั้นอย่าลืมมาแต่งงานกับฉันด้วยล่ะ"

 

"พี่มันงี่เง่า ! "

 

หลิวอวี้เหลียนไม่พูดพร่ำทำเพลง เข้าไปทุบตีเขาอีกครั้ง

 

ในห้องโถง เดิมทีอารมณ์ของหลี่อวิ๋นโหรวไม่ดีเป็นอย่างมาก แต่เมื่อได้ฟัง “บทสนทนา” สั้น ๆ นี้แล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา สองคนนี้เป็นมาตราฐานของ “คู่รักคู่กัด”เลยก็ว่าได้......

 

 

รีวิวผู้อ่าน