ตอนที่ 36 วิธีต่ำช้าและการรักษาที่แฝงความหมาย
บ่ายสี่โมงกว่า หลิวเฟยมาส่งสินค้าให้โรงแรมซันริช ตามปกติเหมือนเดิม
ส่งสินค้าเสร็จ เขาตรงไปหาโม่อวี้พลางหัวเราะเก้อเขินแล้วพูด “ผู้จัดการโม่......ผมขอปรึกษาคุณสักเรื่องได้ป่ะ ? ”
โม่อวี้เห็นท่าทางของเขาก็หัวเราะ เขาไปไหนมาไหนด้วยท่าทางสง่าผ่าเผย เป็นคนทำงานเด็ดขาด น้อยมากที่ปรากฎท่าทางแบบนี้ออกมาให้เห็น เธอพยายามกลั้นรอยยิ้ม แล้วเดินไปข้างหน้าเขาสองก้าว พลางโน้มตัวไปข้างหน้าพูดด้วยเสียงนุ่มนวล “นายมีเรื่องจะขอร้องฉัน ? ”
เดิมทีชุดที่เธอใส่นั้นก็เป็นชุดกระโปรงสั้นแหวกหน้าอกอยู่แล้ว การโน้มตัวลงมาแบบนี้ยิ่งขับให้ภูเขานูนสองลูกที่อยู่ตรงคอเสื้อของเธอเบียดเสียดแนบแน่นต่อหน้าต่อตาหลิวเฟย
หลิวเฟยทนไม่ไหวจนต้องเบนสองตาไปมองทางอื่น เขาหัวเราะกลบเกลื่อน “นับว่าใช่”
“บอกเงื่อนไขมาก่อน ! ”
“ความสัมพันธ์ของพวกเรา......”
โม่อวี้ค่อย ๆ เข้าประชิดเขา ร่างอรชรแทบจะแนบชิดติดกับร่างกายของเขา เธอยิ้มอย่างมีเสน่ห์ “น้องชายยังไม่ได้คิดบัญชีเลย ความสัมพันธ์ของพวกเราเกรงว่านายคงไม่นับว่าเป็นคนรู้ใจใช่ไหม ? ดังนั้นถึงได้ต้องมาเจรจากัน”
หลิวเฟยไหนเลยจะไม่รู้ว่าในใจของเธอคิดอะไรอยู่ แต่เพื่อชาวบ้าน เขาคงทำได้เพียง “พลีกาย” เพื่อผดุงคุณธรรมแล้ว
เขาได้แต่กัดฟันพูด “คืนนี้ผมจะไปกินข้าวบ้านคุณดีไหม ? ”
เดิมทีเขาคิดว่าโม่อวี้จะตอบตกลงโดยไม่ลังเล แต่ใครจะคิดว่าเธอเพียงแค่ยิ้มรับ “แบบนี้คงเอาเปรียบนายเกินไปแล้วมั้ง ? แล้วดูท่าทางของนายซิ ? ทำอย่างกับฉันจะกินนายจริง ๆ อย่างนั้นล่ะ ? ฉันคิดดีแล้ว เงื่อนไขนี้ฉันขอเก็บเอาไว้ก่อน คิดออกแล้วค่อยบอกนาย ! แต่สิ่งที่ฉันต้องการก็คือเงื่อนไขที่ว่าฉันต้องได้ทุกสิ่ง”
หลิวเฟยหัวเราะฝืด ๆ แล้วพูดต่อ “พี่อวี้คนสวย พี่นี่ตะกละเกินไปแล้วมั้ง ? ”
โม่อวี้พูด “อย่ามาเรียกพี่ ! ปกติใครใช้ให้นายไม่ยอมประจบฉันเอง ตกลงตามนี้นะ นี่ไม่ง่ายเลยที่นายจะมาขอร้องฉันสักครั้ง ฉันต้องฉวยโอกาสนี้ไว้สิ นายคงจะไม่ถือสาผู้หญิงตัวเล็ก ๆ อย่างฉันใช่ไหม ? ”
หลิวเฟยส่ายหน้าแล้วถอนหายใจ “ช่างเถอะ ถือซะว่าผมอยู่ในกำมือคุณล่ะกัน ผมตกลง ! เรื่องที่ผมจะขอร้องก็คือช่วยจ่ายเงินล่วงหน้าก่อนได้ไหม ? ช่วงนี้ผมจนมาก ไม่มีเงินสดใช้แล้ว”
โม่อวี้เอียงคอมองเขาด้วยความประหลาดใจ จากนั้นเอามือปิดปากหัวเราะคิกคักสักพัก “เรื่องนี้หรือ ? ทำไมต้องจ่ายเงินสดด้วยล่ะ ? นายเป็นผู้ใหญ่บ้านไม่ใช่หรือ ? พวกชาวบ้านจะไม่เชื่อถือนายเลยรึไง ? ”
หลิวเฟยพูดอย่างตรงไปตรงมา “ก็เพราะว่าช่วงนี้ผมล้างผลาญครอบครัวจนแทบจะเสียสติไปแล้ว หากว่าผมไม่รีบจ่ายเงินสดให้พวกเขา คาดว่าคงไปกระทบกับความต้องการของพวกชาวบ้าน ดีไม่ดีอาจจะเกิดปัญหาได้”
“นายล้างผลาญอะไรล่ะ ? ”
หลิวเฟยอธิบายคร่าว ๆ โม่อวี้ยิ่งได้ฟังยิ่งอ้าปากกว้าง เมื่อหลิวเฟยพูดจบ เธอตั้งสติสักพักแล้วพูดต่อ “โอ้ แม่เจ้า นายคิดจะทำอะไรกันแน่ ? ฉัน......ฉันไม่กล้าจ่ายเงินล่วงหน้าให้นายแล้ว ถ้านายคืนให้ไม่ได้ล่ะ ? ”
“ผมก็ขายไตไง ! ”
“เหอะ ! ” โม่อวี้เค้นหัวเราะแล้วพูดต่อ “พอแล้ว ล้อเล่นหรอกน่า นายมีบุญคุณกับฉันและประธานซู พวกเราเองก็เชื่อคนอย่างนาย จ่ายก็จ่าย เพียงแต่นายบอกฉันได้ไหมว่าทำไมนายถึงได้ล้างผลาญแบบนี้ล่ะ ? นายไม่ได้เป็นลูกล้างผลาญครอบครัวแบบนั้นสักหน่อย”
“ความลับ”
“เหอะ ! ขอร้องเสร็จก็เปลี่ยนสีหน้าเลยนะ นายมันเลว ! ช่างเถอะ นายชอบทรมานยังไงก็ทรมานแบบนั้นเถอะ นายคำนวณสิ ของล็อตต่อไปขายเท่าไหร่ ? ”
“50,000 ! ”
“งั้นก็จ่ายล่วงหน้าให้นาย 50,000......”
โม่อวี้โอนเงินให้เขา 50,000 อย่างสบายอกสบายใจ จากนั้นไปนั่งที่โซฟา ขายาวของเธอยกขึ้นไขว่ห้างแล้วเล่ารายละเอียดที่ช่วงนี้มีคนมาก่อกวนให้เขาฟัง
หลิวเฟยพูด “วันนี้มีคนมาก่อกวนไหม ? ”
“ตอนนี้ยังไม่มี”
“งั้นเดี๋ยวผมรออยู่ที่นี่แหละ วันนี้พวกเขาน่าจะโผล่มา ผมเองก็ไม่ได้ทำตัวอันธพาลนานแล้ว ในใจกำลังคันยิบ ๆ เลย”
โม่อวี้รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาฉับพลันแล้วกล่าวต่อ “เอ๋.....คิดจะทำตัวอันธพาลใส่พวกนักเลง แนวทางของนายต้องมีปัญหาแน่ ! ”
หลิวเฟยเอามือกุมขมับแล้วพูด “ผู้จัดการโม่ เวลาจะล้อเล่นกับผมช่วยรักษาภาพพจน์ด้วย ! ”
“ฉันยังเหลือภาพพจน์ในสายตานายด้วยหรือ ? ”
“……”
ทั้งสองหยอกล้อกันอีกสักพัก ฉับพลันโม่อวี้ก็ขมวดคิ้วสะบัดต้นคอแล้วลูบที่เอวบาง
การกระทำเล็กน้อยของเธอถูกหลิวเฟยสังเกตเห็น หลิวเฟยเข้าไปตรวจชีพจรของเธอแล้วเอียงคอถามเธออย่างตกใจ “อาการประจำเดือนมาไม่ปกติของคุณยังไม่หายดีหรือ ? เป็นแบบนี้มาตลอดเลยใช่ไหม ? ”
โม่อวี้พูด “ฉันก็กินยาแล้ว หมอบอกว่าช่วงนี้ก็คงจะหายแล้ว”
หลิวเฟยส่ายหัว “ดูจากสถานการณ์ของคุณตอนนี้ แค่กินยาคงไม่พอ ช่วงนี้คุณปวดเอวปวดหลังใช่ไหม ? ”
โม่อวี้พยักหน้ารับ
หลิวเฟยพูด “เอาแบบนี้ อาการป่วยของคุณให้เป็นหน้าที่ผมเอง อีกสักพักผมจะเขียนใบสั่งยาจีนให้ แล้วคุณก็ต้มดื่ม ส่วนตอนนี้ผมจะนวดให้ คุณเองก็ต้องควบคุมอาหาร พักผ่อนให้เพียงพอก็พอแล้ว”
“นวด ? ”
โม่อวี้หน้าแดงมองเขา ไม่รู้ว่าทำไมในใจถึงกระวนกระวาย
หลิวเฟยให้เธอถอดร้องเท้าส้นสูงออกแล้วนอนคว่ำหน้าไปบนโซฟา จากนั้นถูมือทั้งสองข้างไปมาแล้ววางมือลงบนเอวบางที่เต็มไม้เต็มมือแต่ไร้ไขมันเซลลูไลท์ของเธอ
โม่อวี้สั่นเทาไปทั้งตัว เห็นดังนั้นหลิวเฟยจึงกล่าวอย่างติดตลก “คุณคงไม่คิดว่าผมจะฉวยโอกาสลวนลามคุณหรอกนะ ? ผมเป็นสุภาพบุรุษ ทำตัวตามสบายเถอะ ! ”
โม่อวี้ทำเสียง “อืม” ร่างกายที่เกร็งอยู่ค่อย ๆ ผ่อนคลายลง เวลาผ่านไปไม่นาน เธอรู้สึกว่าตัวเองที่กำลังถูกเขานวดอยู่นั้นราวกับว่าไปล่องลอยไปไกลแสนไกล ทั้งสุขกายและสบายใจ ความกดดันทั้งหมดได้มลายหายไปสิ้น
หลิวเฟยที่อยู่ใกล้ชิดกับร่างกายที่มีส่วนนูนส่วนเว้าของเธอนั้นในใจรู้สึกกระวนกระวาย ทว่ามือของเขาที่อยู่บนบ่ามนและเอวบางของเธอนั้นก็นวดอยู่ตามปกติ ไม่รู้ว่านวดไปนานเท่าไหร่แล้ว จู่ ๆ ก็มีเสียงครางประหลาดดังขึ้นมาในห้อง หลิวเฟยท่าทางอืดอาดแต่โม่อวี้กลับรีบร้อนลุกขึ้นนั่งด้วยความเขิน เธอรีบใช้มือปิดหน้าของตัวเองและไม่กล้ามองหน้าเขา
หลังจากที่หลิวเฟยได้ยินเสียงครางต่ำออกมาจากลำคอของเธอก็หมดถ้อยคำจะพูดแล้ว เธออ่อนไหวเกินไปแล้ว แค่นี้ก็ทำให้เธอมีอารมณ์แบบนั้นแล้วหรือเนี่ย ?
เขาส่ายหน้าแล้วยืนขึ้น “เอ่อคือ......คุณโป๊หมดแล้ว ! ”
โม่อวี้ร้องด้วยความตกใจแล้วใช้มือดึงกระโปรง แต่พบว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย เธอรู้สึกโกรธเป็นฟืนเป็นไฟตรงเข้าไปตีหลิวเฟยที่กำลังแอบหัวเราะทันที หลิวเฟยหลบอยู่หลายครั้ง จากนั้นก็ได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้น มีบางคนกำลังตะโกน "ผู้จัดการโม่ เกิดเรื่องใหญ่แล้ว มีคนถูกพิษที่ห้องภัตตาคารอาหารจีน ! "
โม่อวี้จึงรีบพาหลิวเฟยไปที่ภัตตาคารอาหารจีน
ขณะนั้นมีชายสองคนที่นั่งถัดไปสี่ห้าโต๊ะกำลังนอนอยู่ที่พื้น เพื่อนของพวกเขาตอนนี้กำลังตะโกนโวยวายให้ทางโรงแรมให้คำอธิบาย
ในเวลาเดียวกัน ยังมีหลายคนที่อ้างตัวว่าเป็นนักข่าวที่บังเอิญกำลังทานข้าวอยู่ที่แห่งนี้กำลังหยิบกล้องและถ่ายรูปกันอย่างบ้าคลั่ง
โม่อวี้ที่เห็นเหตุการณ์ก็สั่งคนให้โทร 120 ทันทีเพื่อแจ้งตำรวจทันที
เพื่อนของชายสองคนนั้นเมื่อเห็นว่าในที่สุดคนดูแลของที่นี่ก็โผล่มาแล้ว จึงพุ่งตัวไปยืนอยู่ต่อหน้าโม่อวี้และด่าเสียงดังขึ้นมาทันที
"พวกคุณเป็นโรงแรมห้าดาวภาษาอะไร ผมขอเตือนคุณไว้ หากวันนี้เพื่อนของผมเป็นอะไรล่ะก็ โรงแรมของพวกคุณได้ปิดกิจการแน่ ! "
"ใช่ ต้องมีอาหารสักอย่างที่ทำไม่สะอาดใช่ไหม ? "
"ไม่สิ อาหารทั้งสองโต๊ะนี้สั่งไม่เหมือนกันสักอย่าง พวกเราเองคงไม่ได้ถูกพิษไปด้วยหรอกนะ ? "
……
เมื่อมีหลายคนปลุกปั่น ภายในภัตตาคารอาหารจีนก็เกิดความชุลมุนขึ้นทันที ลูกค้ามากมายเรียกร้องให้พวกเขารีบจัดหาหมอมาเพื่อทำการตรวจร่างกายพวกเขา
โม่อวี้มองไปที่หลิวเฟยที่ฉวยโอกาสช่วงชุลมุนจับชีพจรให้ทั้งสองที่ถูกพิษด้วยสีหน้าเรียบเฉย เขาหยิบกระบอกไม้ไผ่ออกมาจากกระเป๋า จากนั้นเปิดฝาออกแล้วหยิบเข็มเงินออกมา ไม่นานชายที่ถูกพิษก็ถูกฝังเข็มบนหน้าอกหลายเล่ม
คนหนึ่งที่เห็นเหตุการณ์ก็จับบ่าของเขาแล้วพูด "คุณเป็นใคร ? คุณจะทำอะไรกับเพื่อนของผม ? "
หลิวเฟยที่รับรู้ถึงเสียงอันทรงพลังของคนที่กำลังจับบ่าก็กระตุกยิ้มมุมปากแล้วพูด "ผมเป็นหมอเฉพาะทางของโรงแรมแห่งนี้ ตอนนี้กำลังช่วยรักษาเพื่อนคุณอยู่ คุณก่อกวนแบบนี้ หากว่าเข็มของผมฝังไปผิดตำแหน่ง คุณจะรับผิดชอบไหม ? "
"คุณ ! ถ้างั้นหากคุณรักษาแล้วไม่ดีขึ้นล่ะ ? "
"ผมยอมตายตาม ! "
เมื่อเขาพูดจบ ทุกคนต่างส่งเสียงกันเกรียวกราว คนคนนั้นเองก็ไม่มีอะไรจะพูดอีก
หลิวเฟยบิดเข็มอย่างรวดเร็วอยู่หลายครั้ง ฉับพลันชายคนนั้นก็เอียงศีรษะและอาเจียนออกมา สุดท้ายเขาก็ลืมตาโพลงขึ้นมา
"ไม่เป็นอะไรแล้วหรือ? เป็นหมอเทวดาจริง ๆ "
"พิษยังคงไม่ถูกถอนออกมาหรอกมั้ง ? แต่ว่าหมอคนนี้ก็มีความสามารถอยู่บ้าง"
……
ฝูงชนพากันชื่นชม หลิวเฟยเดินไปทางชายอีกคน วัยรุ่นหลายคนกลับโผล่มาขวางหน้าเขาไว้ ทว่าเขากลับหัวเราะแล้วพูดต่อ "พวกคุณบอกเองกับปากว่าเป็นเพื่อนของเขาไม่ใช่หรือ ? หากพวกคุณตั้งใจจะขัดขวางผมไม่ให้ช่วยรักษาเขา ไม่สนใจว่าเขาจะเป็นจะตาย ? หรือจะบอกว่าเรื่องนี้ที่จริงก็เป็นแค่แผนร้ายบางอย่าง ? "
พวกเขามองหน้ากันและกัน แต่ก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี
หลิวเฟยผลักพวกเขาออก จากนั้นก็ฝังเข็มให้ชายคนนั้น ไม่นานเขาก็ฟื้นขึ้นมา
หลิวเฟยลุกขึ้นปัดมือแล้วพูด "ไม่ต้องเรียกรถพยาบาลมาแล้วก็ได้ พิษของพวกเขาถูกถอนออกหมดแล้ว และผมก็รู้ด้วยว่าพวกเขาถูกพิษเพราะอะไร"
ชายคนหนึ่งได้พูดออกมาอย่างตื่นตระหนก "คุณ......คุณบอกว่าถูกถอนก็คือถอนแล้วหรือ ? "
หลิวเฟยมองตาเขาแล้วพูด "ดูจากสีหน้าของคุณแล้ว ช่วงนี้คุณมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ไม่เจริญอาหาร อ่อนเพลียไร้เรี่ยวแรงใช่ไหม ? ดีไม่ดีอาจจะเป็นตับเอกเสบติดเชื้อเฉียบพลัน ผมขอแนะนำให้คุณรีบไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล ! "
ชายคนนั้นมองหลิวเฟยด้วยความตะลึงอ้าปากค้างแล้วพูดอย่างติด ๆ ขัด ๆ "คุณ......คุณรู้ได้ไง ? "
หลิวเฟยตบบ่าเขาแล้วพูดด้วยน้ำเสียงกดดัน "ตอนนี้ปวดไปทั้งร่างกายเลยใช่ไหม ? "
"อื้อ ! "
"กร๊อบ ! "
"อ๊าก...อ๊าก...อ๊าก..."
หลิวเฟยเดินวนรอบกายเขาอยู่หลายรอบ จากนั้นยื่นสองมือออกไป เสียงแตกเปรี้ยะและเสียงร้องเจ็บปวดก็ดังขึ้น จากนั้นหลิวเฟยก็ตบบ่าเขาอีกครั้ง "ตอนนี้รู้สึกว่าร่างกายสบายขึ้นมากใช่ไหม ? ผมเพิ่งจะช่วยปรับเลือดลมให้คุณ"
คนคนนั้นกัดฟันไม่อยากจะพูด "ขอบคุณ"
แต่สุดท้ายก็พูดออกมาจนได้
คนอื่นที่เห็นเหตุการณ์ก็ไร้ข้อกังขาอีก คนที่ล้อมวงเข้ามาชมกำลังตะโกนถาม "เมื่อกี้คุณบอกว่ารู้แล้วว่าเขาถูกพิษเพราะอะไรไม่ใช่หรือ รีบบอกมาสิ ! "
หลิวเฟยเดินไปข้างหน้าของชายคนนั้นแล้วชี้ไปที่กองอาเจียนของเขา "มีเนื้อไก่ มีขนมปังงา เนื้อไก่และงามีฤทธิ์ข่มกัน เมื่อกินพร้อมกันก็จะก่อให้เกิดพิษ ! ตามที่ผมรู้มาคือโรงแรมของเราไม่มีเมนูขนมปังงาขาย น่าจะซื้อมากจากร้านค้าแผงลอยข้างทาง จากนั้นก็เอาเข้ามาใช่ไหม ? ”
พูดจบ เขาก็เดินไปที่กองอาเจียนอีกกองแล้วพูด “ในนี้มีไข่ไก่และของอย่างอื่นผสมปนเปกัน เหมือนจะไม่มีอะไรข่มกันได้ แต่ผมได้เพิ่งจะได้กลิ่นอ่อน ๆ ของยา ผมเป็นคนมีพรสวรรค์ ความรู้สึกไวต่อพวกสิ่งที่มีสรรพคุณทางยา ! หากว่าผมเดาไม่ผิด ในนี้น่าจะมีกลิ่นยาแก้อักเสบ ไข่ไก่กับยาแก้อักเสบมีฤทธิ์ข่มกัน เมื่อกินคู่กันจะก่อให้เกิดพิษเช่นกัน ดังนั้น......”
เขายังพูดไม่ทันจบ ชายสองคนที่ถูกพิษลุกขึ้นแล้วโกยแนบทันที เพื่อนของพวกเขาก็รีบวิ่งตามไปเช่นกัน
แต่ยังไปได้ไม่กี่ก้าว พนักงานรักษาความปลอดภัยเจ็ดแปดคนก็ขวางทางของพวกเขาไว้ พวกเขามองหน้ากันและกัน แล้วลงมือต่อสู้กับพวกพนักงานรักษาความปลอดภัยทันที
หลิวเฟยคลึงหมัดแล้วเดินเข้าไป เพียงสองสามนาทีก็จะจัดพวกเขาได้ทั้งหมด
โม่อวี้แจ้งความทันที หลิวเฟยส่งสัญญานให้พนักงานรักษาความปลอดภัยควบคุมตัวนักข่าวไว้ด้วย จากนั้นก็ตะโกนบอก “พวกเราโรงแรมซันริช ทำคุณทดแทนความแค้นเสมอมา วันนี้ผมตั้งโต๊ะรักษาโรคให้ฟรี ถึงแม้ว่าพวกเขาจะจงใจใส่ร้าย แต่จากการสังเกตของผม พวกเขาแต่ละคนก็มีอาการป่วยกันไม่น้อย ดังนั้นจึงอยากจะรักษาให้ก่อนค่อยส่งไปสถานีตำรวจ”
พวกเขาได้ยินแล้วก็พากันขอให้ยกโทษให้ แต่หลิวเฟยกลับไม่สนใจ แสดงฝีมือและฝีเท้าให้ดูทันที และช่วยพวกเขา “กระตุ้นการไหลเวียนในร่างกาย” ด้วยความบริสุทธิ์ใจและเที่ยงธรรม
ถึงแม้ว่าในภัตตาคารอาหารจีนจะมีเสียงร้องราวกับหมูวัวถูกเชือดไม่หยุด หลาย ๆ คนได้รับการรักษาอย่างเจ็บปวด แต่ทุกครั้งที่เขาลงมือเสร็จแล้ว พวกเขาต่างก็ชื่นชมกันไม่หยุดปาก คนที่ล้อมวงดูต่างก็ตบมือไม่หยุดเช่นกัน......
โม่อวี้ได้เห็นฉากนี้แล้วก็แทบจะหลุดหัวเราะออกมา เธอไม่เคยเห็นวิธีต่ำช้าแบบนี้ ทว่าเธอชอบมันมาก !