px

เรื่อง : ผู้ใหญ่หลิวยอดเกษตร (นิยายแปล) ปลดล๊อคตอนฟรี วันละ 1 ตอน
ตอนที่ 48 ศึกชิงรักหักสวาท


Anchorตอนที่ 48 ศึกชิงรักหักสวาท

Anchor

Anchor"ใครจะรับนายเป็นอาจารย์กัน นายมัน ......"

Anchor

Anchorเมื่อพูดถึงตรงนี้ หานอิงก็หยุดชะงักไป เหตุผลง่าย ๆ คือเธอไม่รู้ว่าใช้คำไหนถึงจะเหมาะสมที่จะมาด่าคนอย่างเขา

Anchor

Anchorไร้ยางอาย ? พูดแบบนี้ก็เหมือนจะไม่ยุติธรรมกับเขา

Anchor

Anchorไร้สัจจะ ? แม้ว่าเขาจะเป็นคนหน้าหนา เจ้าเล่ห์ แต่ก็ไม่ไร้สัจจะ

Anchor

Anchorเลว ? ที่จริงเธออยากจะด่าเขาแบบนี้ แต่พอคิดให้ดี ตั้งแต่พวกเขารู้จักกันมา ดูเหมือนว่าเขาจะทำแต่เรื่องดี ๆ แต่ไหนแต่ไรมาก็ไม่เคยทำเรื่องเลวร้าย แม้จะเอาแต่ใจไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้ "เลว" เช่นกัน

Anchor

Anchorเธอเป็นคนที่เอาจริงเอาจัง ทว่าทำไมตอนนี้ถึงรู้สึกว่าตัวเองนั้นอับจนคำศัพท์โดยแท้ ด้วยความที่จนปัญญาเธอจึงใช้คำว่า "รำคาญ" มาด่าแทน

Anchor 

Anchorแต่เมื่อพูดออกมาแล้ว เธอถึงกับรู้สึกกระอักกระอ่วนขึ้นมาทันที เพราะฟังดูเหมือนว่าเธอจงใจทำตัวกระเง้ากระงอดเองต่างหาก…...

Anchor

Anchorหลิวเฟยที่ได้ฟังสองคำนั้นเองก็รู้สึกแปลก ๆ เช่นกัน เขากระแอมเบา ๆ แล้วพูดต่อ "ผมยอมรับว่าคุณน่ารักบ้องแบ๊วมาก แต่วิธีออดอ้อนตาใสนั้นใช้กับผมไม่ได้ผลหรอก"

Anchor

Anchor"ใคร......ใครอ้อนนายกัน รู้จักดูตัวเองบ้างสิ เชอะ ! "

Anchor 

Anchorหานอิงหน้าแดงถลึงตาใส่เขาแล้วเปิดประตูออกไปอย่างเดือดพล่าน เธอดูออกว่าคนคนนี้รู้ว่าเธอยังหาหลักฐานไม่ได้จึงหมดหนทางที่จะจัดการเขา

Anchor

Anchorด้วยนิสัยของเธอแล้วจะต้องทุบหม้อแตกถามให้รู้เรื่องถึงที่สุด แต่คิดว่าสารวัตรโหลวเองก็คงเห็นคนร้ายที่ทั้งหัวเราะและคันฉากนั้นเช่นกัน และคิดว่าต้องมีความเชื่อมโยงกับคดีของหวางไฉด้วยแน่นอน ทว่าต่อหน้าหลิวเฟยแล้วเขากลับไม่เอ่ยถึงสักคำ แสดงให้เห็นแล้วว่าเขาและหลิวเฟยต้องรู้เห็นเป็นใจกันแน่

Anchor

Anchorหากว่าเธอยังไม่ยอมรามือจากหลิวเฟย คาดว่าคงจะถูกสารวัตรตำหนิเอาได้ !

Anchor

Anchorอีกอย่าง หลิวเฟยเองก็พูดถูก เขาเป็นฝ่ายที่ช่วยชีวิตคน หากเธอหาหลักฐานที่จะมัดตัวเขาได้แล้วจะยังไงเล่า ? จะจับเขาเข้าคุกหรือ ?

Anchor

Anchorพูดกันตามตรง เธอแค่มีความสงสัยรบกวนจิตใจ อยากที่จะรู้ว่าหลิวเฟยเป็นใครกันแน่ และอยากรู้ว่าเขาทำยังไงถึงทำให้คนทั้งหัวเราะทั้งคันได้ในเวลาเดียวกัน

Anchor

Anchor"เฮ้ อย่าเพิ่งไปสิ ไม่อยู่ดื่มชาก่อนหรือ ? "

Anchor

Anchorหลิวเฟยที่ออกมาจากห้องเห็นว่าหานอิงกำลังจะไปแล้ว จึงได้ตะโกนเรียก

Anchor

Anchorผู้หญิงคนนี้น่าแกล้งนัก แล้วเธอยังเป็นประเภทที่ยิ่งแกล้งก็ยิ่งน่ารักอีกด้วย เขาเองไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงมาเป็นตำรวจหญิงนะ ? หากว่าไปเป็นครูในโรงเรียนประถมต้องกลมกลืนไปกับพวกเด็ก ๆ ได้แน่นอน......

Anchor

Anchorโหลวหลวนเหมือนจะคาดเดาได้ว่าหานอิงและหลิวเฟยคุยกันเรื่องอะไรกัน เขาตบบ่าแล้วกระซิบ "ฉันรู้ว่าฐานะของนายพิเศษ แล้วก็มีความอดทนอีกด้วย แต่เรื่องบางอย่างก็บังคับกันไม่ได้ อย่าใช้มันง่าย ๆ ไม่อย่างนั้นพวกเราจะจัดการยาก ! "

Anchor

Anchorหลิวเฟยหัวเราะ "นั่นแน่นอนอยู่แล้ว ! ผมรู้ว่าอะไรสำคัญ"

Anchor

Anchor"อย่างนั้นก็ดี ทำให้ดีเถอะ ฉันได้ยินมาว่าระหว่างนายกับนายกตำบลถังได้เดิมพันกันไว้ ตำบลโซ่วเฉิงของเราคงไม่มีใครกล้าเดิมพันกับนายกตำบลถังอีกเป็นคนที่สองแล้ว ฉันล่ะนับถือนายเลย"

Anchor

Anchor"ขายหน้าแล้วสิ ! "

Anchor

Anchor"ขอเพียงแค่นายสร้างปาฏิหาริย์ได้จริง เมื่อถึงเวลานั้นก็ถือเป็นความโชคดีของชาวบ้านในหมู่บ้านแล้ว ! "

Anchor

Anchor"ที่จริงลึก ๆ คุณเองก็ไม่เชื่อผมเหมือนกันล่ะสิ ? "

Anchor

Anchor"ฮ่าๆๆ......นายนะนาย ฉันไปดีกว่า แล้วพบกันใหม่ ! "

Anchor

Anchorโหลวหลวนชี้หน้าแล้วหัวเราะใส่เขาขณะเดินจากไป

Anchor

Anchorหลิวอวี้เหลียนรีบดึงแขนของหลิวเฟยไว้ "ได้ยินมาว่าเข็มเงินของพี่น่ะเป็นทีเด็ดเลย สอนฉันหน่อยเถอะ ! ใช่แล้ว ก่อนหน้านี้ตกลงกันว่าพี่จะสอนให้ทุกวันเลยนี่ ? พี่มันคนหลอกลวง ! "

Anchor

Anchorหลิวเฟยส่ายหน้า "ช่วงนี้งานยุ่งมาก แล้วเธอเองก็ยังไม่ทำตามสัญญาที่ให้กับฉัน ฉันยุ่งจนลืมไปแล้ว"

Anchor

Anchor"ถ้างั้นก็เริ่มวันนี้เลยสิ ฉันจะเรียน ! "

Anchor

Anchorหลี่อวิ๋นโหรวเม้มปากแล้วพูด "ฉันเรียนด้วยได้ไหม ? ถ้าหากก่อนหน้านี้ฉันได้เรียนสักกระบวนท่า วันนี้ก็คงไม่ต้องตกที่นั่งลำบากขนาดนี้หรอก"

Anchor

Anchorหลิวเฟยมองหน้าพวกเธอแล้วพูด “จะว่าได้มันก็ได้อยู่ แต่ว่าวันนี้ทรมานมาทั้งวันแล้ว พวกเธอไม่เหนื่อยหรือ ? เอาไว้ช่วงเย็นวันพรุ่งนี้เถอะ”

Anchor

Anchorหลิวอวี้เหลียนมองตาหลี่อวิ๋นโหรว "ได้ ตกลงตามนี้แล้วกัน ! ถ้างั้นพรุ่งนี้ฉันและอวิ๋นโหรวจะไปช็อปปิ้งซื้อชุดสำหรับใส่ฝึกวิชาต่อสู้ 2 ชุด ไหน ๆ ก็จะต้องเรียนแล้วก็ต้องทำตัวให้เหมือนนักเรียนหน่อย"

Anchor

Anchorหลิวเฟยหัวเราะ "ในเมื่อเป็นแบบนี้ ถ้างั้นก็จัดพิธีไหว้ครูซะเลยเป็นไง ? "

Anchor

Anchorหลิวอวี้เหลียนถลึงตาใส่ "ไสหัวไป ฉันไม่ได้อยากเป็นลูกศิษย์ของพี่ซะหน่อย ! "

Anchor

Anchorหลิวอวิ๋นโหรวพูดด้วยท่าทางนอบน้อม "ฉันยังไงก็ได้ แต่ในเมื่ออวี้เหลียนพูดแบบนี้ ฉันก็จะยืนข้างเธอ นายเข้าเมืองไปเจรจาตกลงเรื่องต้นเชอร์รี่มาไม่ใช่หรือ ? เป็นยังไงบ้าง ? "

Anchor

Anchorหลิวอวี้เหลียนพูด "จะเป็นยังไงล่ะ ? เขาต้องถอนตัวแน่ ! มีแต่คนสติไม่ดีเท่านั้นถึงจะยอมซื้อเชอร์รี่ของเขาในราคาที่สูงขนาดนั้น"

Anchor

Anchorหลิวเฟยส่ายหน้า "พวกเธอไม่เชื่อถือฉันขนาดนั้นเลยหรือ ? พูดตามจริงแล้ว คงทำให้พวกเธอผิดหวังแล้ว ! ฉันทำสัญญาตกลงกับเครือข่ายการค้าผลไม้ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองเฟิ่งหวงในราคากิโลกรัมละ 200 หยวนได้จริง ๆ สัญญาก็เซ็นเสร็จแล้วด้วย"

Anchor

Anchorหลิวอวิ๋นโหรวพูดด้วยความตกตะลึง "ไม่จริงมั้ง ? แบบนี้ก็ได้หรือ ? แล้วสัญญาล่ะ ? "

Anchor

Anchorหลิวเฟยมองไปรอบทิศทาง แล้วหัวเราะด้วยความเก้อเขิน "เหมือนว่าฉันจะทำตกไว้ที่โรงแรมซันริชนะ"

Anchor

Anchorที่จริงแล้วทำตกไว้ที่บ้านโม่อวี้ต่างหากล่ะ.....

Anchor

Anchorหลิวอวี้เหลียนหัวเราะเสียงดังออกมา "พี่คงแค่กุเรื่องขึ้นมาล่ะสิ หากไม่ได้เห็นสัญญา พวกเราไม่มีทางเชื่อหรอก หึ ! "

Anchor

Anchor"ถ้างั้นก็ตามใจเธอสิ"

Anchor

Anchorหลิวเฟยยักไหล่แล้วไม่ได้พูดอะไรอีก

Anchor

Anchor……

Anchor

Anchorกลางคืนวันที่สอง ในตอนที่หลิวอวี้เหลียนและหลี่อวิ๋นโหรวปรากฏกายด้วยชุดเบาบางสีดำ ทำเอาหลิวเฟยไม่รู้ว่าจะมองไปทางไหนก่อนดี

Anchor

Anchorพวกเธอสองคนต่างมีรูปร่างเย้ายวน การสวมชุดเบาบางแบบนี้ทำให้รูปร่างอรชรเซ็กซี่ปรากฏออกมาให้เห็นอย่างไม่ต้องสงสัย

Anchor

Anchorไม่ว่าชายคนไหนได้เห็นก็คงถูกดึงความสนใจทั้งหมดไปที่ร่างของเธอทั้งสอง แล้วแบบนี้จะให้เขาสอนศิลปะป้องกันตัวให้พวกเธอยังไงล่ะ ?

Anchor

Anchorหลิวอวี้เหลียนที่พอจะคุ้นเคยกับการแต่งตัวแบบนี้ อีกทั้งยังเคยเล่นกับหลิวเฟยตั้งแต่เล็กจนโต เธอจึงเดินไปมาต่อหน้าหลิวเฟยอย่างเปิดเผยโดยไม่เก้อเขิน

Anchor

Anchorแต่หลี่อวิ๋นโหรวนั้นทำตัวไม่ถูก รู้สึกเก้อเขินอย่างเห็นได้ชัด ทว่าท่าทางแบบนี้กลับทำให้เธอดูสวยมีเสน่ห์มากขึ้น

Anchor

Anchorหลิวเฟยทำปากขมุบขมิบอยู่ในลำคอแล้วเตรียมตัวที่จะสาธิตกระบวนท่า ทว่าหลิวอวี้เหลียนกับพูดแทรกเข้ามา "พี่เฟย พี่อย่าได้คิดฉวยโอกาสทำอะไรไม่ดีนะ ไม่อย่างนั้นฉันกับอวิ๋นโหรวรวมหัวกันจัดการพี่แน่ ! "

Anchor

Anchorหลิวเฟยหัวเราะเสียมิได้ นี่มันตรรกะโจรอะไรเนี่ย แต่งตัวแบบนี้แต่ไม่อนุญาตให้มองอีก แบบนี้มันสมเหตุสมผลหรือ ?

Anchor

Anchorเขาส่ายหน้าแล้วสาธิตกระบวนท่าง่าย ๆ “มาเริ่มฝึกเถอะ ! ”

Anchor

Anchorหลิวอวี้เหลียนที่พอมีพื้นฐานการต่อสู้ กระบวนท่าง่าย ๆ แบบนี้ไม่ยากสำหรับเธอเลย แต่สำหรับหลี่อวิ๋นโหรวนั้นไม่เหมือนกัน มือและเท้าที่เก้ ๆ กัง ๆ ของเธอนั้นยังไม่พูดถึง แม้กระทั่งตัวทั้งตัวก็เหมือนจะไม่เป็นธรรมชาติ ราวกับว่าพร้อมจะล้มได้ทุกเมื่อ

Anchor

Anchorหลิวเฟยเดินไปข้างกายเธอแล้วยืนลังเลอยู่สักพัก ก่อนที่จะยื่นมือไปจับมือที่ขาวนุ่มลื่นราวกับหยกของเธอไว้ แล้วเริ่มจับมือกันสอน

Anchor

Anchorในระหว่างที่สอนนั้น ร่างกายทั้งสองคนก็ใกล้ชิดกันอย่างเลี่ยงไม่ได้ หลิวอวิ๋นโหรวมักจะแสดงท่าทางไวต่อความรู้สึกออกมา ทำให้หลิวเฟยอดนึกสงสัยขึ้นมาไม่ได้

Anchor

Anchorเธอเป็นคนมีคู่หมั้นแล้วจริงหรือ ? ดูไม่เหมือนเลย หรือว่าอาจจะเป็นการคบกันแบบจิตใจใสซื่อบริสุทธิ์ ? เหอะ ๆ......

Anchor

Anchorหลิวอวี้เหลียนที่เห็นการกระทำใกล้ชิดของหลิวเฟยที่ทำต่อหลี่อวิ๋นโหรวก็เกิดรู้สึกหึงหวงขึ้นมาอย่างเลี่ยงไม่ได้ เธอเม้มปากแล้วพูดโพล่งขึ้นมา "พี่เฟย ท่านี้ฉันทำยังไงก็ออกได้ไม่แรงเลยน่ ะ ?"

Anchor

Anchorหลิวเฟยมองสักพักแล้วพูด "แขนต้องแกว่งไปตามเข็มนาฬิกา ไม่ใช่ทวนเข็มนาฬิกา"

Anchor

Anchor"อะไรคือตามเข็มนาฬิกาหรือ ? "

Anchor

Anchor“……”

Anchor

AnchorAnchorหลิวเหยให้หลี่อวิ๋นโหรวฝึกไปก่อนโดยไม่พูดอะไร  จากนั้นก็ไปจับมือหลิวอวี้เหลียนจากทางด้านหลัง ใครจะคิดว่าเธอเองก็เป็นฝ่ายถอยหลังทำให้ร่างกายของพวกเขาสองคนแทบจะแนบชิดกัน  จากนั้นก็บิดตัวเบียดเสียดออดอ้อนเขา

Anchor

Anchorการกระทำทั้งหมดของเธอทำให้หลิวเฟจิตใจปั่นป่วน เขาพยายามรักษาระยะห่างสุดความสามารถ  แต่หลิวอวี้เหลียนก็ยิ่งถอยชิดเข้ามา เขาบีบไหล่มนของเธออย่างจนปัญญา เมื่อหลี่อวิ๋นโหรวส่งสายตามอง เธอถึงจะสำรวมอาการขึ้นบ้าง…...

Anchor

Anchorสอนไปได้ครึ่งชั่วโมงกว่า หลิวอวี้เหลียนเอียงหน้าไปหอมแก้มเขาโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง "ขอบคุณนะ พี่เฟย ! "

Anchor

Anchorหลิวเฟยมองไปที่หลี่อวิ๋นโหรวแล้วส่ายหัวน้อย ๆ แอบคิดว่าถ้าหากคนที่ไม่รู้จักคงเข้าใจว่าเธอไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่ประเทศแถบตะวันตกมา ! การกระทำของเธอที่หอมแก้มคนอื่นโดยไม่บอกไม่กล่าวนั้นทำให้ไม่รู้ว่าควรจะพูดยังไงดีจริง ๆ

Anchor

Anchorหลิวอวิ๋นโหรวเมื่อเทียบกับหลิวอวี้เหลียนแล้วดูสงบเสงี่ยมกว่ามาก เธอทัดปอยผมไว้ที่หูแล้วมองไปทางหลิวเฟย "พอเรียนแล้วถึงได้รู้ศิลปะการต่อนั้นยากมาก นายเก่งกาจมากจริง ๆ "

Anchor

Anchorหลิวเฟยกระแอมออกมาแล้วพูด "เลขาหลี่ เธอชมฉันอีกแล้วนะ ! ไม่ง่ายเลย ! "

Anchor

Anchorหลิวอวี้เหลียนหัวเราะเสียงใส "พี่เฟย ฉันว่าเอาแบบนี้สิ ให้อวิ๋นโหรวซื้อดอกไม้สีแดงไว้เยอะ ๆ วันหลังถ้าพี่ทำออกมาได้ดีแล้วเธออยากจะชมพี่ ก็มอบดอกไม้แดงให้พี่ 1 ดอก พี่ว่าเป็นยังไง ? ”

Anchor

Anchorหลิวเห็นหน้าขรึม "เธอเห็นฉันเป็นเด็กสามขวบหรือไง ? "

Anchor

Anchor“คิกๆๆ ก็เหมือนอยู่นะ......"

Anchor

Anchorเมื่อทั้งสองได้ยินก็หัวเราะกันออกมาอย่างสดใสแลดูมีเสน่ห์ หลิวเฟยที่มองดูอยู่สักพักจึงรีบไปอาบน้ำเย็น ๆ เพื่อดับไฟที่ร้อนวูบวาบอยู่ภายในตัวให้สงบลง ตอนนี้เขารู้สึกเสียใจเข้าแล้วสิ ทำไมถึงได้ตอบตกลงที่จะสอนศิลปะการต่อสู้ให้พวกเธอกันนะ ? แบบนี้เหมือนเป็นการบังคับตัวเองให้เป็นอย่างหลิวเซี่ยฮุ่ยที่นั่งอย่างสงบไม่วอกแวกไม่ใช่หรือไง ? เขาเพียงแค่จะบอกว่าทั้งสองสวยเกินไป เขาทำไม่ได้หรอก! (หลิ่วเซี่ยฮุ่ย เป็นคนหลู่กั๋ว (鲁国)สมัยยุคชุนชิวจ้านกั๋ว(春秋战国时期) ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของบุรุษผู้มีคุณธรรมอันสูงส่ง ต่อให้ผู้หญิงมานั่งตักเขา มายั่วยวนเขา แต่เขาก็ยังคงนิ่งสงบ ไม่แตะต้องเธอเลยแม้แต่น้อย จึงเป็นที่มาของสำนวนที่ว่า ‘坐怀不乱 จั้วไหวปู้ร่วน’ ใช้พูดถึงชายที่มีคุณธรรมและมีจิตใจแน่วแน่มั่นคง)

Anchor

Anchorวันถัดมาหลิวเฟยมาส่งของให้ทางโรงแรมซันริชก่อนเวลาชั่วโมงกว่า จากนั้นไปที่โรงพยาบาลเฟิ่งหวงทำการผ่าตัดให้หลี่ซานซานครั้งที่สอง

Anchor

Anchorหลังจากผ่าตัด เขาก็ช่วยเธอฝังเข็มตามจุดสำคัญและทายาขี้ผึ้งจนเสร็จ เขารู้สึกเหนื่อยมาก เดิมทีว่าจะกลับไปพักผ่อนที่หมู่บ้านหลิว ใครจะรู้ว่าอยู่ ๆ หลี่เจิงอีก็รีบร้อนมาลากเขาเข้าไปในห้องประชุม แม้แต่เนื้อหาการประชุมก็ไม่ยอมบอกเขาเลยสักคำ

Anchor

Anchorหลิวเฟยนั่งอยู่บนเก้าอี้แล้วมองดูชายวัยรุ่นที่ยืนอยู่ตรงหน้ากำลังพูดภาษาจีนอย่างใจร้อน หลิวเฟยได้แต่เกาศีรษะด้วยความรำคาญ

Anchor

Anchorผู้อำนวยการหลี่ก็ร้ายเกินไปแล้ว เขาคงไม่ได้ลากเขามาที่นี่เพื่อมารวมหัวกันหรอกนะ ?

Anchor

Anchorเขาเกลียดการประชุมที่สุด โดยเฉพาะการประชุมวิชาการที่น่าเบื่อแบบนี้

Anchor

Anchorเขานั้นอยากจะลุกแล้วเดินออกไปเลย แต่นึกขึ้นได้ว่าตอนนี้เขากับผู้อำนวยการหลี่นั้นสนิทกันแล้ว ไม่ไว้หน้าอีกฝ่ายบ้างคงดูไม่ดี จึงทำได้เพียงทนนั่งต่อไป แต่ทว่าดวงตานั้นได้พริ้มหลับไปแล้ว......

Anchor

Anchorไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่แล้ว เขาที่กำลังหลับฝันหวานอยู่กลับได้ยินเสียงถกเถียงกันดังขึ้นมา เขาขมวดคิ้วแล้วค่อย ๆ ลืมตา จึงได้เห็นว่าคนบนโต๊ะยาวฝั่งซ้ายและฝั่งขวายืนขึ้นมาถกเถียงกันตาต่อตาฟันต่อฟัน อีกทั้งสถานการณ์ดูจะทวีความรุนแรงมากขึ้น พร้อมที่จะลงมือวิวาทกันได้ทุกเมื่อ

Anchor

Anchorพวกคุณหมอทะเลาะกัน ?

Anchor

Anchorหรือว่าจะให้ทำร้ายอีกฝ่ายแล้วค่อยช่วยรักษาหรือ ?

Anchor

Anchorหลิวเฟยคิดแล้วก็รู้สึกขำ เขายืนขึ้นแล้วบิดขี้เกียจแล้วมองดูรอบข้างด้วยสายตาเฉยชา แต่ท่ามกลางเสียงที่วุ่นวายอลหม่านในหมู่นักวิชาการกลับได้ยินประโยคหนึ่งที่ทำให้เขาโมโหขึ้นมาทันที.....

รีวิวผู้อ่าน