ตอนที่ 49 : ศักดิ์ศรีของหวังเย่า
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว สุดท้ายก็เป็นเวลา 4 ทุ่มแล้ว แต่กลุ่มทหารก็ยังไม่กลับมา
นี่ทำให้ทุกคนกังวลกันขึ้นมา ครูทั้งสิบคนพากันหมดความอดทน ในอีก 2 วันพวกเขาจะพาพวกเด็ก ๆ กลับแล้วค่อยเริ่มทำการทดสอบใหม่โดยเร็วที่สุด และการเดินทางครั้งนี้ก็คงเสียเปล่า
หลังจากที่ผ่านไป 30 นาทีตอนที่ทุกคนกำลังจะพัก ทีมทหารก็ได้กลับมา พวกเขาดูมีสภาพที่อิดรวยและเหนื่อยล้า
“เราต้องขอโทษด้วย เราตามหากันกว่าครึ่งภูเขาแล้ว แต่ก็ไม่พบร่องรอยของมัน” หัวหน้าทหารพูดขึ้น
ครูทั้งสิบคนแสดงสีหน้าผิดหวังออกมาทันที เพราะจำนวนทหารแค่นี้น้อยมันเกินไป เดาว่าต่อให้ต้องใช้เวลา 10-15 วัน ก็ไม่อาจจะหางูตัวนี้พบ และถึงจะหาพบแต่ก็อาจจะฆ่ามันไม่ได้
“คืนนี้พักกันก่อน พรุ่งนี้ค่อยกลับขึ้นเขาและตามหามัน หวังว่าพรุ่งนี้เราจะโชคดี ถ้าเราหามันไม่เจอคงเป็นปัญหาแน่”
ครูประจำชั้นพยักหน้าและพูดขึ้น “หวังว่า” น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความผิดหวัง
หวังเย่าเห็นแบบนั้นก็ส่ายหน้า
ถ้าพวกนี้ฟังเขา งั้นพวกนี้คงไม่ต้องเสียเวลาทั้งวัน
เพื่อที่จะเริ่มการทดสอบใหม่ เขาก็ลุกขึ้นยืนแล้วพูดอีกครั้ง “คุณทหาร ตอนนี้คุณคิดตามข้อเสนอของผมรึยัง ? ”
“เราตั้งหลายคนยังหากันไม่เจอ นายคิดว่านายมีทางจริง ๆ หรือ ? ” เมื่อเห็นหวังเย่าพูดขึ้น หัวหน้าทหารก็แสดงท่าทีไม่พอใจออกมา
“ทำไมจะไม่มี ? ” หวังเย่าตอบกลับ “คุณน่ะมองแค่มุมเดียว คุณคิดว่าคุณเป็นทหาร ส่วนผมเป็นนักเรียน คุณมีประสบการณ์มากกว่าผมเลยไม่สนใจคำพูดของผม ผลก็คือเราได้แต่รอที่นี่ทั้งวันแต่กลับไม่มีความก้าวหน้าอะไรเลยไม่ใช่หรือ ? ”
หัวหน้าทหารสีหน้าหม่นลงด้วยความหงุดหงิดทันที
ไม่มีใครอยากให้เกิดเรื่องนี้ขึ้น แต่เพื่อที่จะเริ่มการทดสอบใหม่โดยเร็วที่สุด พวกเขาจึงไม่ได้เดินทางกลับ แต่สุดท้ายพวกทหารก็ยังหาร่องรอยอะไรไม่พบ
หัวหน้าทหารมองไปที่หวังเย่า และพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา “พรุ่งนี้ฉันจะให้นายไปด้วย ถ้านายหามันไม่เจอ ฉันคงต้องให้ทางโรงเรียนชดเชยให้กับเรา 1 ล้านเครดิตสำหรับคำค่าดูถูกและทำลายชื่อเสียงของพวกเรา”
เมื่อได้ยินแบบนั้นครูและนักเรียนทุกคนต่างก็พากันหน้าถอดสี มันไม่มากเกินไปหน่อยหรือ ?
แน่นอนว่าเหลิ่งจื่อมู่และจ้าวซื่อรวมถึงอีกหลายคนอยากจะให้หวังเย่าเสียหน้า แต่ตอนนี้พวกเขากลับรู้สึกแย่ขึ้นมา เพราะเรื่องนี้มันส่งผลกระทบต่อพวกเขาด้วย
พวกทหารพากันยินดีและยิ้มเยาะเย้ยหวังเย่า ในเมื่อเด็กนี่อยากจะเข้ามายุ่ง งั้นพวกเขาก็จะปล่อยให้เด็กนี่ทำตามใจชอบ
“หัวหน้าทหาร อย่าทำแบบนี้เลย เขายังเป็นเด็กอยู่” ครูประจำชั้นและครูคนอื่น ๆ พากันแย้งขึ้นมา เรื่องนี้ไม่ควรจะบานปลายถึงขนาดนี้
“พวกนายก็รู้ว่าเขายังเป็นนักเรียนอยู่สินะ แต่ดูเหมือนว่าเขาจะยังไม่รู้ตัว ถ้าไม่มีใครสั่งสอนเขา ฉันคิดว่าเขาคงได้ใจแบบนี้ไปตลอด” หัวหน้าทหารรู้สึกว่าตัวเองนั้นมีประสบการณ์มากพอ เขาไม่พอใจกับการที่เด็กเมื่อวานซืนมาสั่งสอนเขา
แต่หวังเย่ากลับยักไหล่ เมื่ออีกฝ่ายอยากจะพนัน งั้นเขาก็ไม่กลัว
เขาพูดขึ้นด้วยสีหน้าเฉยเมย “หัวหน้าทหาร เอาตามที่คุณบอก เมื่อคุณอยากจะพนัน งั้นก็ไม่มีปัญหาอะไร ผม หวังเย่า ไม่เคยกลัวใคร ผมรับปากคุณได้ หากพรุ่งนี้ผมหางูเลือดเลเวล 45 ไม่เจอ ผมจะยอมจ่ายให้ 1 ล้านเครดิตเอง” จากนั้นน้ำเสียงของเขาก็เปลี่ยนไป “แต่ถ้าผมหาเจอ คุณจะว่ายังไง ? ”
หัวหน้าทหารชะงักไป เขาไม่คิดว่าเด็กนี่จะกล้าเล่นลูกไม้นี้ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่คิดว่าหวังเย่าจะมีทางหามันเจอ เขาจึงตะโกนออกมา “ถ้านายพาเราไปหามันเจอ ฉันในนามหน่วยกระทิงจะบริจาคเงินให้กับทางโรงเรียน 1 ล้านเครดิต”
ครูทุกคนต่างก็พากันโล่งอก เพราะพวกเขาไม่อาจจะหยุดเรื่องนี้ได้แล้ว และเงื่อนไขที่หัวหน้าทหารพูดมานั้นก็พอรับได้
ถ้าหวังเย่าแพ้ หวังเย่าจะจ่ายเอง
ถ้าหวังเย่าชนะ โรงเรียนจะได้เงินบริจาค 1 ล้านเครดิต
ไม่ว่าจะชนะรึแพ้ แต่พวกเขาก็ไม่ได้เสียหายอะไร
แต่หวังเย่ากลับฮึดฮัดออกมา “อย่าลืมสิว่าถ้าแพ้คุณก็แพ้ให้ผม ถึงจะบริจาคแต่คุณก็ต้องบริจาคในชื่อของผมไม่ใชรึไง ? ”
“นายว่ายังไงนะ ? ” หัวหน้าทหารถามกลับ
“ก็ง่าย ๆ ถ้าคุณแพ้ คุณก็บริจาคให้กับทางโรงเรียนในชื่อของผม และภายใน 1 อาทิตย์โรงเรียนศิลาศักดิ์สิทธิ์จะต้องได้รับเงิน”
“ได้ เอาตามที่นายบอก ฉันอยากเห็นนายขายไตมาใช้หนี้พวกฉันจริง ๆ ” หัวหน้าทหารพูดขึ้น
“แล้วคุณจะรู้เอง ตอนนี้พาทีมของคุณไปพักก่อนจะดีกว่า เดี๋ยวพรุ่งนี้พวกคุณจะไม่มีแรงกัน”
“อืม” หัวหน้าทหารได้พาทหารของตนกลับไปที่แคมป์เพื่อพักผ่อนทันที
ทุกคนต่างก็พากันแยกย้ายกลับไปที่พักของตัวเอง
ครูประจำชั้นมองไปทางภูเขาแล้วสูดหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะพูดขึ้น “หวังเย่า นี่ไม่ใช่เรื่องเล็กเลย เงิน 1 ล้านเครดิตถือว่าเป็นเงินก้อนโต นายมั่นใจหรือว่าจะหามันเจอ ? ”
หวังเย่าโบกมือและพูดขึ้น “ผมก็ไม่รู้ ภูเขานี้มีพื้นที่กว้าง ผมไม่ใช่พระเจ้าและก็ไม่มีวิธีหาตัวมันด้วย”
“แล้วนายกล้าพนันแบบนั้นได้ยังไง ? ” ครูประจำชั้นเบิกตากว้าง
“เพราะผมเองก็มีศักดิ์ศรีของตัวเอง ผมไม่คิดจะก้มหัวให้ใคร” หวังเย่ายิ้มออกมาและพูดขึ้น “พรุ่งนี้ครูไปกับผม ผมเชื่อว่าครูคงไม่สบายใจถ้าปล่อยให้ผมไปกับทหารพวกนั้นคนเดียว”
“แน่นอน นายมีเรื่องขัดแย้งกับพวกนั้น ถ้าฉันไม่ไปดูแลนายก็คงดูไม่เข้าท่า” ครูประจำชั้นพูดขึ้น “พวกนั้นมีกันหลายคน ฉันจะพาครูคนอื่น ๆ ไปด้วย เผื่อว่าเกิดเรื่องไม่คาดคิด” ครูประจำชั้นรับปาก
หวังเย่าถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกและรู้สึกใจชื้นขึ้นมา
ตอนนี้มันยังไม่ดึกมากนัก ตอนที่หวังเย่ากำลังจะพักผ่อนนั้น จ้าวเมิ่งซีกลับโผล่มาที่ด้านนอกเต็นท์ของเขา เธอได้กระซิบออกมา “หวังเย่า นายหลับรึยัง ? ”
“กำลังจะนอน เธอมีอะไร ? เธอนอนไม่หลับหรือ ? ” หวังเย่าเปิดเต็นท์ออกและโผล่หัวออกมา
“ไม่ ฉันแค่อยากบอกนายว่าถ้านายมีปัญหา นายขอให้ฉันช่วยก็ได้” จ้าวเมิ่งซีพูดด้วยสีหน้ากังวล
“ขอบคุณ” หวังเย่าพยักหน้าตอบรับแต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก
ในตอนตี 5 นาฬิกาปลุกก็ดังขึ้น หวังเย่าตื่นขึ้นแล้วออกมาจากเต็นท์ เขาเดินออกมาจากแคมป์ก่อนจะเรียกหงอคงออกมา
การตามหาตัวงูเลือดในวันนี้เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน หวังเย่าจึงคิดที่จะวิวัฒนาการหงอคงขึ้นมาอีกครั้ง
“หงอคง แกกินนี่” เขาเอาน้ำยาวิวัฒนาการ 3 ขวดที่เหลือยัดใส่ปากของหงอคง
เพราะยาแต่ละขวดจะเพิ่มค่าประสบการณ์มากกว่า 20,000 หน่วย 1 นาทีต่อมาค่าประสบการณ์ของหงอคงก็เพิ่มขึ้นกว่า 70,000 หน่วย
หวังเย่าได้ทำการวิวัฒนาการมันทันที จากนั้นตัวของหงอคงก็ส่องแสงสีทองออกมา ขนาดตัวของมันก็เพิ่มขึ้นไปด้วย
ไม่กี่นาทีต่อมาเลเวลของหงอคงก็เพิ่มขึ้นจาก 13 เป็น 20 ตอนนี้มันกลายเป็นอสูรขั้นสูงแล้ว
ขนาดตัวของมันเพิ่มขึ้นกว่าสองเท่า มันสูงเกือบ 2 ฟุต ตัวของมันเต็มไปด้วยมวลกล้ามเนื้อ และตอนนี้มันดูเหมือนซุนหงอคงขึ้นมาจริง ๆ แล้ว