px

เรื่อง : ผู้ใหญ่หลิวยอดเกษตร (นิยายแปล) ปลดล๊อคตอนฟรี วันละ 1 ตอน
ตอนที่ 49 ปลายแถวสู้กับหัวกะทิ


Anchorตอนที่ 49 ปลายแถวสู้กับหัวกะทิ 

Anchor

Anchorปกติแล้วหลิวเฟยจะไม่สนใจงานสัมมนาวิชาการมากนัก แต่เมื่ออีกฝ่ายเริ่มจากถกปัญหากลายเป็นการด่าทอและไม่ยอมรับกัน โดยเฉพาะตอนที่ไม่ยอมรับการแพทย์แผนจีน เขาก็รับไม่ได้อีกต่อไป

Anchor

Anchorวิชาการแพทย์ของเขานั้นมีพื้นฐานมาจากการแพทย์แผนจีน ครอบคลุมไปถึงการแพทย์แผนปัจจุบันด้วย สำหรับข้อถกเถียงที่มีต่อการแพทย์แผนจีนตลอดเกือบร้อยปีที่ผ่านมานี้ เขาเองก็ได้ฟังจนเบื่อแล้ว

Anchor

Anchorแต่วันนี้เจ้าหมอนี่มาบอกว่าการแพทย์แผนจีนเป็นแค่ขยะต่อหน้าแพทย์ชาวจีนบนแผ่นดินประเทศจีน เขาทนไม่ได้ !

Anchor

Anchorเขาเดินไปยืนอยู่ข้างชายหนุ่มที่กำลังพูดน้ำลายแตกฟอง จากนั้นตบบ่าเขาแล้วพูด “คุณเช็ดปากให้สะอาดก่อนค่อยพูดได้ไหม ? ดูท่าทางของคุณก็เป็นคนที่มีอารยธรรม ? ทำไมถึงทำท่าทางเหมือนคนพาลล่ะ ? ”

Anchor

Anchorชายที่อยู่ในชุดสูทสุดเนี๊ยบหันหน้ามามองหลิวเฟยแล้วถามด้วยความสงสัย “คุณเป็นใคร ? ”

Anchor

Anchorเห้ย คิดไม่ถึงว่าถูกมองข้ามกันแบบนี้เลย !

Anchor

Anchorหลิวเฟยยังไม่ทันได้พูดอะไร หลี่เจิงอีก็ใช้มือตบโต๊ะแล้วพูดแทรกขึ้นทันที “พอแล้ว พวกคุณอยากจะถกปัญหากันไม่ใช่หรือ ? ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ส่งตัวแทนมาหนึ่งคนมาถกกันด้วยเหตุผลดีกว่า ! ผู้ชายคนนั้นเป็นตัวแทนของโรงพยาบาลเรา คุณหมอหลิว หลิวเฟย ! ”

Anchor

Anchorคนอื่นนั้นถูกแทนตัว ส่วนหลิวเฟยได้เป็นตัวแทนคนอื่น ตามหลักแล้วนี่ถือว่าเป็นเกียรติของเขา เพราะนายแพทย์ที่นั่งอยู่ที่นี่ต่างก็เป็นหัวหน้านายแพทย์ รองนายแพยท์หรือไม่ก็นายแพทย์อาวุโสทั้งนั้น ส่วนตัวเขาเป็นแค่คุณหมอชาวบ้านคนหนึ่งที่ไม่มีใบวุฒิบัตรรับรองเท่านั้น

Anchor

AnchorAnchorทว่าเขาเป็นคนที่ทำตามอำเภอใจตัวเองจนชินแล้ว เขาไม่อยากจะเอาความคิดเห็นของตัวเองไปแลกเปลี่ยนความรู้ทางวิชาการ และไม่อยากเป็นตัวแทนของโรงพยาบาทเฟิ่งหวงด้วย ดังนั้นเขาจึงได้แต่ยิ้มน้อย ๆ แล้วพูดกับหลี่เจิงอี “ผู้อำนวยการหลี่ ผมว่าไอ้เรื่องตัวแทนเนี่ยอย่าเลยดีกว่า ผมคงเป็นให้ไม่ได้ ผมแค่แสดงความคิดเห็นในนามตัวเองก็พอแล้ว”

Anchor

Anchor“ทำไม หรือคุณจะยอมรับว่ากลัวงั้นหรือ ? ”

Anchor

Anchorชายที่อยู่ข้างกายหลิวเฟยเห็นว่าผู้อำนวยการหลี่ให้เกียรติเขาถึงขนาดนี้แล้ว แต่เขากลับเป็นฝ่ายบอกปัดไป เขาก็เกิดความสนใจในตัวหลิวเฟยขึ้นมา อีกทั้งหลิวเฟยยังดูอายุน้อยกว่าเขา ยิ่งทำให้อยากรู้ว่าทักษะทางการแพทย์ของหลิวเฟยจะอยู่ในระดับไหน

Anchor

Anchorหลิวเฟยมองตาเขาแล้วก็คิดว่าแพทย์คนนี้หน้าตาดีทีเดียว อายุน่าจะประมาณ 30 ต้น ๆ หลิวเฟยจึงยิ้มแล้วพูด “ภาษาจีนของคุณไม่เลวเลย ‘กลัว’ คำนี้ก็ใช้เป็นด้วย แต่ว่าในพจนานุกรมของผมไม่มีคำว่ากลัว ! อยากแลกเปลี่ยนนักใช่ไหม ? ได้  ผมจะใช้นามตัวเองแลกเปลี่ยนความรู้กับคุณเอง ! ขอถามว่าขยะ......เอ้ย ไม่ใช่สิ ขอถามว่าคุณชื่ออะไร ? ”

Anchor

Anchor“คุณ ! ”

Anchor

Anchor“ขอโทษครับ พูดผิด พูดผิด ผมไม่ได้หมายความแบบนั้น เมื่อครู่ได้ยินคุณเอาแต่บอกว่าการแพทย์แผนจีนเป็นขยะไม่ยอมหยุด ผมถึงได้ติดปากมา”

Anchor

Anchorคำอธิบายแบบนี้หลอกเขาได้ที่ไหน ? ชายหนุ่มกำหมัดแน่นอย่างอดกลั้น แล้วมองดูคุณหมอที่ท่าทางเอ้อระเหยลอยชายไม่เหมือนใครตรงหน้า “ยามาโมโตะ ไดยสึ ! ”

Anchor

Anchorหลิวเฟยขมวดคิ้วแล้วพูดต่อ “ยามาโมโตะ ไดยสึ ? เป็นชื่อที่แปลกชะมัด ! “ยสึ” คงมาจากคำว่ารำข้าวที่มีความหมายเดียวกับขยะใช่ไหม ? ใครตั้งชื่อให้คุณกันเนี่ย ? ”

Anchor

Anchor“บากะ ! ” ยามาโมโตะ ไดยสึ ชี้หน้าถลึงตาใส่ เขาโมโหจนปากสั่นไปสักพักหนึ่งถึงพูดขึ้น “หมอชาวจีนอย่างพวกคุณมีฝีมือแค่นี้เองหรือ ทำได้เพียงแค่อาศัยปากพูดให้คนอื่นขายหน้าหรือ ? ”

Anchor

Anchorหลิวเฟยส่ายหัว “เลิกต่อความยาวสาวความยืดกันดีกว่าไหม ? ที่พูดแบบนี้ก็เพื่อจะได้รู้จักคุณให้ดีมากขึ้น จะได้เรียกชื่อคุณไม่ผิดทุกตัวอักษรไง ตกลงว่าใช่ ‘ยสึ’ ที่มาจากคำว่ารำข้าวหรือเปล่า ? ”

Anchor

Anchor“คุณ......มันมาจากคำว่าแข็งแรง ! ”

Anchor

Anchor“อ๋อ ผมก็ว่าแล้ว นึกว่าพ่อแม่ไม่อยากให้ลูกชายโตมาแล้วกลายเป็นขยะถึงได้ตั้งชื่อทำร้ายลูกแบบนี้”

Anchor

Anchorยามาโมโตะ ไดยสึกัดฟันกรอดโมโหมองหน้าเขา จากนั้นก็มองไปยังพวกนายแพทย์ที่นั่งตรงข้ามกำลังกลั้นหัวเราะกันสุดความสามรถ เขาจึงพูดด้วยน้ำเสียงใจเย็น “คุณมีภูมิหลังยังไง ? ”

Anchor

Anchorหลิวเฟยพูดด้วยสีหน้าแปลกใจ “ห๊ะ ? ”

Anchor

Anchorยามาโมโตะ ไดยสึ เห็นเขาจงใจแกล้งไขสือ ทำให้เขาโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ “คุณจบจากมหาวิทยาลัยอะไร ? ”

Anchor

Anchorหลิวเฟยพูดขึ้นอย่างกระดากใจเล็กน้อย “ขอไม่ปิดบังแล้วกัน ผมเรียนไม่จบมัธยมปลายด้วยซ้ำ แล้วก็ไม่ได้เข้าสู่ระบบการศึกษาด้วย ผมก็แค่เรียนตามความสนใจของตัวเองอยู่หลายปี”

Anchor

Anchorทันทีที่เขาพูดจบ อย่าว่าแต่ยามาโมโตะ ไดยสึ เลย คณะแพทย์ที่มาดูงานจากประเทศญี่ปุ่นรวมไปถึงนายแพทย์ของโรงพยาบาลเฟิ่งหวงต่างช็อกไปตาม ๆ กัน

Anchor

Anchorโดยเฉพาะนายแพทย์ของโรงพยาบาลเฟิ่งหวง พวกเขาต่างรู้ว่าก่อนหน้านี้หลิวเฟยได้ช่วยลูกสาวของผู้อำนวยการหลี่ไว้ ฝีมือยังยอดเยี่ยมไร้ที่ติ เปรียบได้กับหมอเทวดาฮัวไต๋ในชีวิตจริง ถึงแม้ว่าเขาจะบอกว่าตัวเองเป็นแค่หมอชาวบ้านอยู่เสมอ ๆ แต่กลับไม่มีใครเชื่อเลย

Anchor

Anchorวันนี้ได้ฟังเขาพูดแบบนี้อีกครั้ง พวกเขาเองก็ไม่รู้ว่าจะพูดยังไงดี หรือนี่อาจจะเป็นเรื่องจริง ?

Anchor

Anchorยามาโมโตะ ไดยสึหัวเราะแห้ง ๆ แล้วพูด “คุณเป็นคนที่น่าสนใจจริงๆ คุณคงไม่ได้หลอกพวกเราหรอกนะ?”

Anchor

Anchorหลิวเฟยพูดอย่างสงบเยือกเย็น “คุณคงรู้จักสิ่งที่พวกเราชาวจีนเรียกว่า “ข้อมูล”ใช่ไหม ? ถ้าหากคุณไม่เชื่อก็ลองไปตรวจสอบดูได้ทุกเมื่อ ! อีกอย่างประวัติการศึกษาของผมก็ออกจะน่าขายหน้าว่าไหม ? หากว่าผมมีประวัติการเรียนที่สูงกว่านี้ มีภูมิหลังที่ดีกว่านี้ ผมจะยังพูดแบบนี้หรือ ? ใครบ้างไม่อยากจะประดับทองลงบนหน้าของตัวเองบ้างล่ะ ? ”

Anchor

Anchorยามาโมโตะ ไดยสึ ครุ่นคิดตามที่เขาพูดมาก็มีเหตุผลอยู่เหมือนกัน จึงได้ถามต่อ “คุณเคยได้ตีพิมพ์บทความลงบนหนังสือนิตยสารวิชาการระดับโลกมาแล้วกี่ฉบับ ? ”

Anchor

Anchorหลิวเฟยตอบ “คุณจะให้นักเรียนปลายแถวที่เรียนไม่จบมัธยมปลายอย่างผมไปตีพิมพ์บทความลงนิตยสารวิชาการ ? ไม่ต่างจากไล่ให้เป็ดขึ้นคอนไม่ใช่หรือไง ? บอกตามตรง จำนวนเท่ากับศูนย์เลย ! ”

Anchor

Anchor“อันดับนายแพทย์ล่ะ ? ”

Anchor

Anchor“เรื่องนี้น่ะ......” หลิวเฟยส่ายหัวแล้วพูด “ที่จริงผมมาที่เฟิ่งหวงเพื่อช่วยเพื่อนรักษาคนไข้เท่านั้น แล้วผมไม่ได้ประกอบอาชีพหมอด้วยจึงไม่มีอันดับอะไรทั้งนั้น บอกตามตรงก็คือผมเป็นหมอชาวบ้านที่ไม่มีโครงการ ไม่มีประวัติการศึกษา ไม่มีภูมิหลังอะไรเลย”

Anchor

Anchor“แบบที่พวกคุณชาวจีนเรียกว่า ‘หมอเถื่อน’ ใช่ไหม ? ”

Anchor

Anchor“เฮ้ย คุณรู้เยอะนี่ จะเรียกแบบนั้นก็ได้”

Anchor

Anchor“ถ้าอย่างนั้นคุณมีคุณสมบัติอะไรมาถกกับผม ? น่าขำ ! ”

Anchor

Anchorยามาโมโตะ ไดยสึ สะกดกลั้นถามเขามากมายแบบนี้ ทว่าความทดทนได้ถึงขีดสุดแล้ว เขาถึงว่าทำไมเจ้าหมอนี่ถึงดูไม่เหมือนแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเลยสักนิด ที่แท้ก็เป็นแค่หมอเถื่อนคนหนึ่งเท่านั้น

Anchor

Anchorทั้งประวัติการศึกษาและภูมิหลัง คนอย่างเขาจะเอาอะไรมาถกปัญหาวิชาการกับเขาได้ ? แบบนี้เท่ากับดึงฐานะตัวเขาให้ต่ำลงไม่ใช่หรือ ? ”

Anchor

Anchorหลิวเฟยมองไปตรงข้ามแล้วเห็นว่าแพทย์ของโรงพยาบาทเฟิ่งหวงจำนวนไม่น้อยกำลังเอามือกุมขมับเพราะทนดูต่อไปไม่ไหวแล้ว เขาจึงกระแอมออกมาเบา ๆ แล้วพูดต่ออย่างหน้าด้าน ๆ “อย่าเพิ่งรีบร้อนสิ คุณยังไม่ได้บอกภูมิหลังของคุณเลย ! ”

Anchor

Anchorคนที่อยู่ข้างกายยามาโมโตะ ไดยสึผายมือไปทางเขาแล้วเป็นฝ่ายแนะนำ “ท่านนี้คือแพทย์หนุ่มผู้มากความสามารถที่มีชื่อเสียงในวงการแแพทย์ของประเทศญี่ปุ่น ! เขาเป็นด็อกเตอร์ที่อายุน้อยที่สุดที่จบจากมหาวิทยาลัยเกียวโต เป็นแพทย์ที่อายุน้อยที่สุดที่ได้ตีพิมพ์บทความลงบนนิตยสารวิชาการด้านการแพทย์ชั้นนำ ในขณะเดียวกันก็เป็นแพทย์อายุน้อยกว่า 33 ปีที่ได้ตีพิมพ์บทความลงบนนิตยสารวิชาการด้านการแพทย์ชั้นนำระดับโลกมากที่สุด และยังเป็นอาจารย์ต่างชาติที่อายุน้อยที่สุดขององค์การอนามัยโลก”

Anchor

Anchorเขาหยุดสักพักแล้วเริ่มพูดต่อ “เขาได้คิดค้นวิธีบำบัดรักษาโรคขึ้นมาถึง 3 วิธี ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างมากในญี่ปุ่น สร้างความสุขให้กับผู้ป่วยมากมายนับไม่ถ้วน นอกจากนี้เขายังได้เสนอทฤษฎีเภสัชวิทยาการแพทย์แผนปัจจุบัน และยังได้รับการยกย่องจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากทั่วทุกมุมโลก ! ”

Anchor

Anchorเมื่อได้ฟังชีวประวัติอันทรงเกียรติเช่นนี้ นายแพทย์อาวุโสทั้งหลายที่นั่งอยู่ตรงข้ามต่างหน้าซีดราวกับเห็นผี ทว่าหลิวเฟยกลับไม่ได้สนใจชีวประวัติของเขาเลยสักนิด

Anchor

Anchorเขามองชายที่ยืนอยู่ข้างกายยามาโมโตะ ไดยสึแล้วพูด “การสรุปเนื้อหานี้ทำได้เหมือนคนจีนมาก คุณเป็นคนจีนใช่ไหม ? ”

Anchor

Anchorชายคนนั้นยิ้มกระอักกระอ่วน “ใช่ครับ ผมเป็นล่ามของพวกเขา ในบรรดาคณะแพทย์ที่มาดูงานก็มีแค่คุณยามาโมโตะและแพทย์อีกท่านที่พูดภาษาจีนได้”

Anchor

Anchor“อ๋อ ไม่น่าล่ะ เก่งมากจริง ๆ ผมฟังจนกลัวขึ้นมาบ้างแล้ว แต่ผมเป็นคนที่เทิดทูนใน ‘จิตวิญญานแห่งดาบ’ ชื่นชอบที่จะนำมดไปสู้กับช้าง คุณยามาโมโตะ ให้โอกาสผมหน่อยได้ไหม ? ”

Anchor

Anchorซานเปิ่นจัดแต่งปกคอเสื้อมองเขาด้วยสายตาเหยียดหยามแล้วพูดขึ้นอย่างเย่อหยิ่ง “ทำไมผมต้องให้โอกาสหมอเถื่อนอย่างคุณด้วย ? รอให้คุณมาอยู่ในระดับเดียวกับผมให้ได้ก่อน ค่อยไปถกกับผมที่ญี่ปุ่นแล้วกัน ! ”

Anchor

Anchorหลิวเฟยรีบพูดต่อ “เอาน่า ให้โอกาศผมได้ลองฉีกหน้าตัวเองหน่อยเถอะ คุณคงไม่ได้กลัวแพ้หรอกนะ ? ”

Anchor

Anchorเมื่อเขาพูดจบ ล่ามก็ได้แปลความหมายที่เขาพูดให้คณะแพทย์มาดูงานฟัง พวกเขาชี้มาทางเขาแล้วหัวเราะกันยกใหญ่ และพูดคุยกันอย่างเสียงดัง หลิวเฟยที่ฟังไม่ออกเลยทำเป็นไม่ได้ยินซะเลย

Anchor

Anchorนายแพทย์คนหนึ่งของโรงพยาบาลเฟิ่งหวงทนดูต่อไปไม่ไหวแล้วจึงหันไปกระซิบกับหลี่เจิงอี “ผู้อำนายการ ผมยอมรับว่าฝีมือการแพทย์ของเขาเก่งกาจมาก แต่ว่าตอนนี้ไม่เป็นเหมือนอย่างที่คิดไว้แล้ว ประชุมแลกเปลี่ยนวิชาการกันอยู่ดี ๆ ก็เอาเขาเข้ามาให้วุ่นวายหรือ ? หากเรื่องนี้แพร่ออกไป พวกเราคงถูกหัวเราะเยาะจนฟันร่วง ! ”

Anchor

Anchorหลี่เจิงอีได้ยินเช่นนั้นก็หัวเราะ “อย่าใจร้อน ! ผู้ชายคนนี้ไม่เคยทำตามแบบแผนมาตั้งแต่ไหนแต่ไร อีกอย่างผมเองก็ชินกับท่าทางแบบนี้แล้ว ผมเชื่อมั่นในตัวเขา และผมเชื่อว่าเขาจะทำเพื่อตัวเขา เพื่อพวกเรา เพื่อโรงพยาบาลเฟิ่งหวงของเรา และเพื่อกอบกู้ศักดิ์ศรีของการแพทย์แผนจีนกลับคืนมาได้ ! ”

Anchor

Anchor"แต่เขาบอกเองว่าตัวเองนั้นเรียนไม่จบมัธยมปลาย เขาเรียนตามความสนใจของตัวเอง เขาจะมีทฤษฎีการแพทย์อะไรให้ไปถกเถียงสู้ฝั่งนั้นได้ ปลายแถวสู้กับหัวกะทิแบบนี้ เขาต้องถูกยามาโมโตะเล่นงานจนสภาพดูไม่ได้แน่"

Anchor

Anchorหลี่เจิงพูดอย่างสงบ "พูดก็เรื่องหนึ่ง เป็นก็เรื่องหนึ่ง ทำก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ! รู้ก็เรื่องหนึ่ง ไม่รู้ก็เรื่องหนึ่ง จะชนะไหมก็อีกเรื่องหนึ่ง ! "

Anchor

Anchorเมื่อได้ยินวลีที่มีลำดับขั้นตอนแต่ก็ยากเกินกว่าที่คนจะเข้าใจ หัวหน้านายแพทย์ได้แต่ยิ้มแห้ง "ผู้อำนวยการหลี่ คุณกลายเป็นนักปราชญ์แล้ว ไม่อยากให้ผมพูดก็ไม่ต้องใช้ไม้นี้ก็ได้ ผมไม่พูดแล้วพอใจไหม ? "

Anchor

Anchorหลี่เจิงอีหัวเราะออกมา “คุณหัวไวดีนี่ ! ”

Anchor

Anchor……

Anchor

Anchorยามาโมโตะ ไดยสึ หัวเราะสักพักแล้วหยิบชาขึ้นดื่ม "ในเมื่อคุณหมอเถื่อนหลิวพูดถึงขนาดนี้แล้ว ถ้าหากผมไม่ให้โอกาสคุณแล้วล่ะก็ ผมก็คงดูอวดดีและเย่อหยิ่งไปใช่ไหม ? งั้นพวกเราก็ใช้หัวข้อ 'การแพทย์แผนจีนและแผนปัจจุบัน' มาถกกันตามเหตุตามผลกันเถอะ เชิญ ! "

Anchor

Anchorทั้งสองมายืนอยู่ที่หัวโต๊ะ จากนั้นไม่นานนักพนักงานก็ได้ย้ายเก้าอี้มาวางสองตัว หลิวเฟยได้ส่งสัญญาณบอกให้ยามาโมโตะ ไดยสึนั่งลง แล้วเขาก็นั่งตามยกขาขึ้นไขว่ห้าง "จะเริ่มจากตรงไหนดี ? "

Anchor

Anchorยามาโมโตะ ไดยสึ ที่อยากจะทำให้เขาขายหน้าจึงได้พูดออกมา "ที่จริงผมสนใจการแพทย์แผนจีนเป็นพิเศษมาโดยตลอด แต่ว่าถึงอย่างนั้นผมก็โง่เขลาเกินไป จนทุกวันนี้ก็ยังไม่เข้าใจว่าการแพทย์แผนจีนนั้นที่จริงมันคืออะไร ดังนั้นรบกวนคุณหมอเถื่อนหลิวช่วยให้คำนิยามหน่อยเถอะ และช่วยพูดง่าย ๆ ให้ผมฟังเข้าใจด้วย"

Anchor

Anchorคำถามนี้สำหรับแพทย์ชาวจีนแล้วถือว่าไม่ยากเลย หากว่าไม่สามารถให้คำนิยามออกมาได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ ก็สามารถกลั่นกรองมาจากประสบการณ์ได้

Anchor

Anchorดังนั้นต่อให้หลิวเฟยมีประวัติการศึกษาที่แย่แค่ไหน นายแพทย์ทุกคนของโรงพยาบาลเฟิ่งหวงก็ไม่ได้กังวลใจว่าเขาจะนิยามออกมาไม่ได้ ทว่าพวกเขาก็เข้าใจว่าการที่ยามาโมโตะ ไดยสึเพิ่มเงื่อนไขที่บอกว่าต้องทำให้เขาฟังเข้าใจนั้นมีเจตนาที่จะกลั่นแกล้งเขา ดีไม่ดีก็คิดจะใช้คำถามที่พื้นฐานที่สุดแบบนี้มาเล่นงานเขาให้จนมุม ทำให้เขาเสียหน้า

Anchor

Anchorขณะที่ทุกคนรอคอยว่าหลิวเฟยจะให้คำนิยามยังไง หลิวเฟยก็ตอบอย่างตรงไปตรงมา "ขอโทษด้วยครับ ผมเองก็ไม่รู้จริง ๆ ว่าแพทย์แผนจีนคืออะไร......"

Anchor

Anchorเมื่อเขาพูดจบ นายแพทย์ทุกคนของโรงพยาบาลเฟิ่งหวงก็ส่งเสียงกันอื้ออึง ส่วนคณะแพทย์ที่ดูงานจากประเทศญี่ปุ่นก็หัวเราะกันจนฟ้าสะเทือน

Anchor

Anchorยามาโมโตะ ไดยสึเองก็ไม่อยากจะรังแกเขาอีกต่อไป จึงลุกขึ้นยืนจัดระเบียบเสื้อผ้าแสดง แสดงเจตนาราวกับกำลังบ่งบอกว่า ‘นายมันคนปลายแถว นายไม่อาย แต่ฉันอาย ฉันไม่อยากจะลดตัวไปเล่นกับนายแล้ว ! ’

รีวิวผู้อ่าน