ตอนที่ 30 ลูกศิษย์ของบุตรของพระเจ้า
นางโง่ขนาดเป็นห่วงเชาชิงโหร่วปกป้องเชาชิงโหร่ว ทุกอย่างเป็นไปตามแผนของลู่จิ่วเชวีย "ข้าจะไม่พูดอะไรเกี่ยวกับเชาชิงโหร่ว....แต่ตอนนี้ข้ารู้สึกเจ็บแผลมาก"
ลู่จิ่วเชวียทำตัวน่าสงสารแต่รับเหรียญผลึกที่มีเต็มถุงไป นาพยายามทำตัวน่าสงสารเพื่อที่จะดูดเลือดพวกเขาอีกครั้ง ยาทิพย์ ขยะอย่างนางต้องการยาทิพย์ไปทำไมกัน ลู่จิ่วเชวียเลือดออกจากร่างกายเพราะปกป้องหลี่หรงกุ้ยแต่ไม่มีใครสนใจนางเลยทนางเป็นขยะ ไม่มีค่าพอที่จะเอายาที่เป็นสิ่งล้ำค่าของนิกายเทียนหยาน
คนที่เป็นหัวหน้าของทุกคนพูด "น่าเสียดายพวกเราใช้ยาทั้งหมดไปกับเชาชิงโหร่วหมดแล้ว"
ลู่จิ่วเชวียไม่ยอมแพ้ "ไม่เป็นไรพวกท่านพอมีสมุนไพรที่ใช้ห้ามเลือดไหม?"
"สมุนไพรอย่างนั้นเหรอพวกเรามีสิ" เขารีบเอาสมุนไพรออกมาจากถุงมิติส่งให้ลู่จิ่วเชวีย "สมุนไพรนี้เหมาะสำหรับรักษาอาการบาดเจ็บ อย่าเสียดายไปละ พวกเราจะไปแล้วอย่าได้พูดอะไร เพื่อชื่อเสียงของศิษย์น้องเชา"
หลังจากที่พูดเสร็จพวกเขาก็รีบจากไปเหมือนกับว่าการมีอยู่ของลู่จิ่วเชวีย ทำให้พวกเขารำคาญและเสียสายตา สมุนไพรใกล้เน่ามันจะสามารถรักษาคนได้ยังไง แต่จะทำให้แผลอักเสบและตายได้ต่างหาก พวกเขาแค่สนใจที่จะกำจัดปัญหาอย่างลู่จิ่วเชวีย พวกเขาไม่สนใจหรอกว่านางจะอยู่หรือจะตาย
พวกเขาทำตามที่ผู้อาวุโสหลี่บอก ตอนนี้พวกเขาก็ทำแล้วไม่ใช่เหรอ? ลู่จิ่วเชวียเอาสมุนไพรแห้งใกล้เน่าเก็บในกระเป๋า ของแบบนี้จะรักษาอาการบาดเจ็บได้เหรอ? นางรู้ดีว่าไม่ได้แน่นอน
"สาวน้อยเจ้าเป็นไงบ้าง?" ป้าฉางถามด้วยความเป็นห่วงเมื่อเห็นเลือดเต็มร่างของลู่จิ่วเชวีย
"ข้าสบายดีป้าฉางนี่ไม่ใช่เลือดของข้า"
"ไม่ใช่จริงเหรอ?" ป้าฉางมีท่าทางที่ไม่อยากจะเชื่อ
"ไม่ใช่จริงๆ ท่านดูนี่สิ"
ลู่จิ่วเชวียจับมือป้าฉางดูบาดแผลที่ร่างกายของนาง "อย่าทำอะไรน่ากลัวแบบนี้อีกคราวหน้า...คุณหนูท่านผอมมากไปแล้ว ท่านต้องกินให้มากขึ้น ตอนนี้กี่โมงแล้ว?ท่านไปนอนเถอะ....พรุ่งนี้จะได้เข้ารับการทดสอบ" ลู่จิ่วเชวียพูดเสร็จก็อาบน้ำเข้านอน นางไม่ได้เข้านอนเร็วขนาดนี้มาหลายปีแล้ว
ตอนเที่ยงคืนลู่จิ่วเชวียตื่นขึ้น หลังจากที่แน่ใจว่าป้าฉางหลับสนิทแล้ว นางดึงเอาชุดสีขาวออกมาจากตู้ ตระกูลลู่ขายทุกอย่างที่พวกเขามีอยู่ ชุดสีขาวนี้เป็นของพ่อนาง มันเป็นสิ่งเดียวที่ป้าฉางไม่ขายมันไปแล้วเอามาด้วยที่นี่ ตอนนี้ถึงเวลาใช้มันแล้ว
ลู่จิ่วเชวียสวมชุดสีขาวนางพบว่ามันเข้ากับตัวนางพอดี นางรีบแต่งหน้าแล้วเดินออกไป