ตอนที่ 32 ดาวนำโชคหรือนักต้มตุ๋น
ด้วยใบหน้าที่สวยงามของนางทำให้ไม่มีใครสงสัยนางเลย หากไม่ใช่ศิษย์แกร่งของบุตรแห่งพระเจ้าจะมีหน้าตาที่ดูดีแบบนี้ได้อย่างไร เพราะนางบอกพวกเขาว่าเป็นศิษย์บุตรของพระเจ้า!
"ได้ขอรับ ข้าจะไปบอกผู้จัดการร้านให้ รอสักครู่นะขอรับ " คนรับใช้ตัวสั่นเทาตอนที่พูดกับเธอ ก่อนรีบวิ่งหนีไป ไม่นานก็มีชายแก่สวมชุดสีน้ำเงินใบหน้าเคร่งเครียดเดินออกมาตรงหน้าร้านลู่จิ่วเชวียมองเขาตัวแข็งทื่อ ก่อนที่เขาจะเข้ามาและพูดว่า "ท่านได้โปรดยืนยันให้พวกเราเห็นว่าเป็นศิษย์บุตรแห่งพระเจ้าจริงๆ"
ยืนยันตัวตน! ล้อเล่นแน่ๆ ลู่จิ่วเชวียไม่มีเครื่องยืนยันตัวตนเลย แต่ลู่จิ่วเชวียก็ไม่ยอมแพ้ นางยิ้มออกมา ก่อนจะพูดว่า "นายท่านให้ข้าว่า ยิ่งมีคนรู้ตัวตนของข้าน้อยคนก็ยิ่งดี หากคนรู้มากพวกเขาจะไม่มีสมาธิทดสอบเข้านิกาย พวกเขาคือความหวังของอาณาจักรข้าไม่ต้องยืนยันตัวตนก็ได้"
ชายวัยกลางคนได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกลังเลขึ้นมาเล็กน้อย "แต่ว่า..."
ลู่จิ่วเชวียพูดอีกต่อไปว่า "ท่านไม่ต้องกังวล ข้ามารักษาพวกเขาเสร็จแล้วข้าก็จะไป"
ชายแก่ก็พูดออกมาว่า "ถ้าอย่างนั้นเชิญท่านศิษย์มาทางนี้"
"ท่านมีชื่ออะไร?"
"ข้ามีชื่อว่าเยว่หมิงไถ"
"ยินดีที่ได้รู้จัก"
ลู่จิ่วเชวียเดินเข้ามาข้างใน ตอนที่นางเข้าไป ข่าวก็แพร่ออกไปทั่วเมืองว่าลูกศิษย์ของบุตรของพระเจ้าได้มาที่เมืองแห่งนี้แล้ว และจะช่วยรักษาคน เมื่อข่าวถูกแพร่สะพัดออกไป ตอนนั้นเองผู้คนต่างพาก็กันไปที่เหรินจือถังเพราะอยากดูลูกศิษย์บุตรของพระเจ้า
พวกเขาไม่มีโอกาสได้เห็นบุตรแห่งพระเจ้า แต่ได้เห็นศิษย์มาเองก็ยังดี ในตอนที่นางก้าวเข้ามาเสียงร้องครวญครางก็ดังขึ้นระงมมาในหูของลู่จิ่วเชวีย ท่าทางของทุกคนดูเหมือนคนใกล้ตายอย่างไรอย่างนั้น
ผู้จัดการร้านเดินเข้าไปในห้องโถงเพื่อพบใครบางคนที่สวมชุดเกราะสีเงิน ก่อนจะถามออกไปว่า "ท่านแม่ทัพมีลูกศิษย์ของบุตรของพระเจ้าเข้ามาช่วยรักษา ท่านอยากจะเจอกันกับเขาหรือไม่?" แม่ทัพที่มีชื่อว่าเย่จินเฟิงเป็นพ่อของเย่ฮุ่ย เขาเป็นคนพาเด็กพวกนี้มาที่นี่ พูดให้ถูกคือมาเป็นผู้คุ้มกัน หากเกิดอะไรขึ้นกับเด็กพวกนี้เขาจะต้องรับผิดชอบ ตอนนี้เย่จินเฟิงรู้สึกกระวนกระวายร้อนร้นเป็นอย่างมาก