บทที่ 14 ทำความสะอาด
หลี่หยางยังคงวิ่งไปมาในโรงแรมของเขาอย่างกระตือรือร้น แม้ว่ามันจะยังไม่มีแขกมาใช้บริการก็ตาม แต่ในโรงแรมนั้นก็มีงานสัพเพเหระมากมายเขาทำ
แต่ไม่ว่าจะยุ่งและเหนื่อยสักแค่ไหน เขาก็ยังคงมีความสุขได้เพราะชีวิตเต็มไปด้วยความหวัง
หลังจากดมหัวแมวเสร็จแล้ว หลี่หยางก็ได้ยินเสียง "เพร้ง" จากที่บาร์จากนั้นหลี่หยางก็เห็นเจ้าหุ่นและชีต้าน้อยวิ่งออกมาจากบาร์ด้วยความตื่นตระหนก
อุ้งเท้าของชีตาน้อยนั้นเปียกและมันก็สะบัดอุ้งเท้าไปมาขณะที่วิ่ง แต่เจ้าหุ่นนั้นน่าสังเวชยิ่งกว่านั้น ร่างกายของมันถูกปกคลุมไปด้วยเส้นหมี่และมีใบผักชิ้นเล็กๆติดอยู่บนหัวของของมัน
เมื่อเห็นฉากนี้หลี่หยางก็รู้สึกแย่ เขาไม่จำเป็นต้องคิดเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นและรีบเดินไปที่บาร์ในทันที
แน่นอนว่ากล่องก๋วยเตี๋ยวที่เขาเพิ่งกินมานั้นล้มคว่ำอยู่บนบาร์และน้ำซุปก็หกลงบนบาร์และบนพื้น
หลี่หยางเสียใจจริงๆที่เขากินข้าวเสร็จและไม่ได้ทำความสะอาดกล่องอาหารกลางวันให้ทันเวลา มันช่างเป็นอาชญากรรมที่ร้ายแรง!
"พวกแกสองคนไม่ต้องหนีไปไหนเลย มานี่!" หลี่หยางไล่จับเจ้าหุ่นและชีต้าน้อย แล้วโยนอาชญากรทั้งสองเข้าไปในห้องน้ำที่ชั้นหนึ่งโดยตรงและปิดประตูเพื่อป้องกันไม่ให้มีใครมายุ่งกับที่เกิดเหตุ
ทันทีที่เขาทำความสะอาดบาร์โยนกล่องอาหารกลางวันลงถังขยะข้างถนนแล้ว เขาก็มาที่ห้องน้ำ
เมื่อมองไปที่เจ้าแมวตัวเล็กๆ ทั้งสองตัวที่เขินอายหลี่หยางก็ทำให้เขาโกรธไม่ลง เขาคาดว่าทั้งสองตัวนี้คงจะบังเอิญไปเคาะกล่องอาหารกลางวันที่เขาวางไว้บนบาร์ตอนที่พวกเขาวิ่งไล่กันอย่างดุเดือด
ตอนนี้ชีต้าน้อยกำลังเลียอุ้งเท้าของมัน กลับกันเจ้าหุ่นนั้นกำลังเลียตัวที่เปียกโชกของมัน
หลี่หยางไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากล้างและอาบน้ำให้หนูน้อยทั้งสอง เขาถอดหัวฝักบัวเปิดสวิตช์ปรับอุณหภูมิของน้ำให้อยู่ในอุณหภูมิที่เหมาะสม แล้วจับเจ้าหุ่นที่ซ่อนตัวอยู่ที่มุมและเริ่มอาบน้ำให้มัน
"เมี้ยว ... เหมียว ... " เจ้าหุ่นพยายามจะขัดขืนตอนที่เขาจับมันแช่น้ำ แต่เมื่อหลี่หยางจับมันเอาไว้ มันก็หยุดเคลื่อนไหวอย่างเชื่อฟังและทำได้เพียงแค่เป็นแมวเท่านั้น
"มันไม่มีประโยชน์ที่จะเรียกให้ใครมาช่วย เจ้าแมวซน!" หลี่หยางเยาะเย้ยแมวของเขา
“ มะ ... มะ ... เหมียว ... มามะ ... ” เจ้าหุ่นเริ่มส่งเสียงร้องแปลกๆ ซึ่งฟังดูเหมือน“ แม่”
เมื่อได้ยินคำเรียกนี้หลี่หยางก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะและพูดว่า "แกควรเรียกฉันว่าปะป๊านะ ปะป๊า ... "
"ปะ.. แปด..” เจ้าหุ่นดูเหมือนจะเข้าใจคำพูดของหลี่หยางและเรียก "แปด" จริงๆ มันเหมือนกับเด็กพึ่งพูดพล่ามที่น่ารักน่าชัง
“ สุดยอด!” หลี่หยางรู้สึกประหลาดใจมาก ความสามารถทางภาษาของเจ้าหุ่นตัวนี้แข็งแกร่งมากแม้เขาจะยังไม่ได้เปิดใช้งานทักษะแมวเชื่องก็ตาม
"ปะป๊า" หลี่หยางพูดซ้ำอีกครั้ง
"บาบา ...... อืมมว๊าก -" เจ้าหุ่นยังใช้การเรียนรู้การเปล่งเสียงตามปกติ แต่ครั้งนี้เหมือนเป็นการออกเสียงที่ชัดเจนกว่าครั้งที่แล้ว
หลี่หยางเริ่มให้ความสนใจและกล่าวว่า "สวัสดี ... "
“ สาหวาด ... ดีค้าบท่านสมาชิกชมรม ... ”*หยอกๆ
“สาหวาด.. สาหวาด”
“ ตอนนี้แกสกปรกอยู่รึเปล่า!”
“ สาหวาด ... ”
"แต่ตอนนี้ฉันสกปรกมาก!" หลี่หยางไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี แต่ยังไงเขาก็รู้สึกขบขันกับแมวตัวนี้
หลังจากอาบน้ำให้เจ้าหุ่นและเป่าผมให้แห้งเสร็จแล้ว หลี่หยางก็อาบน้ำให้ชีต้าน้อย สุดท้ายเขาก็ยุ่งเหงื่อแตกและต้องอาบน้ำใหม่
หลังจากเสร็จจากงานยุ่งกับเด็กขนดกเหล่านี้ หลี่หยางก็นอนลงบนเตียงเพื่อเตรียมพักผ่อน วันนี้เขาเหนื่อยมากหลังจากทำงานมาทั้งวัน
แต่หลี่หยางก็ตระหนักได้ว่าเขายังมีสิ่งที่สำคัญมากที่ต้องทำ เขารีบหยิบโทรศัพท์เข้าสู่แอพ Ctrip แล้วคลิกเข้าไปในส่วนแฟรนไชส์ที่เขาต้องการร่วมมือด้วยและเตรียมที่จะเผยแพร่ข้อมูลโรงแรมของเขาใน Ctrip
แต่จู่ๆหลี่หยางก็นึกถึงปัญหาอย่างหนึ่ง โดยทั่วไปข้อมูลจะถูกเผยแพร่บนแพลตฟอร์มประเภทนี้ หลังจากผู้ใช้ทำการจองบนแพลตฟอร์มแล้วแพลตฟอร์มจะแบ่งค่าใช้จ่ายออกเป็นส่วนเล็กๆ เพื่อเป็นค่าคอมมิชชั่นสำหรับแพลตฟอร์มในการให้บริการเผยแพร่ข้อมูล
ในกรณีนี้ฉันไม่รู้ว่าเป็นของการใช้จ่ายเงินในการโฆษณาหรือไม่
"ระบบอยู่ตรงนั้นไหม ฉันขอถามอะไรหน่อยได้ไหม" เพื่อความแน่ใจหลี่หยางเลือกที่จะถามเกี่ยวกับระบบโดยตรง
เสียงของระบบดังขึ้นทันที: "โฮสต์มีปัญหาหรือไม่?”
"ฉันสามารถเผยแพร่ข้อมูลที่อยู่อาศัยบนแพลตฟอร์มเช่น Ctrip ได้หรือไม่ แพลตฟอร์มจะหักค่าคอมมิชชั่นที่เกี่ยวข้องสิ่งนี้ไม่ถือเป็นการใช้จ่ายเงินในการโฆษณาใช่ไหม?” หลี่หยางถามอย่างกังวลหากเขาไม่สามารถเผยแพร่ข้อมูลห้องพักบนแพลตฟอร์มออนไลน์ได้ มันก็จะทำให้การประชาสัมพันธ์และประสบการณ์ของผู้ใช้ของโรงแรมลดลง
ท้ายที่สุดแล้วผู้คนในปัจจุบันก็คุ้นเคยกับการจองโรงแรมผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์มากกว่า และพวกเขาก็คุ้นเคยกับการอ่านบทวิจารณ์บนอินเทอร์เน็ตเพื่อทำความเข้าใจกับโรงแรมขนาดเล็ก
หลี่หยางไม่สามารถใช้จ่ายเงินเพื่อโฆษณาได้อีกต่อไป ถ้าเขาทำกิจวัตรแบบนี้ไม่ได้ เขาก็กลัวว่าเขาจะทำภารกิจไม่ได้จริงๆ
"ไม่ ค่าใช้จ่ายส่วนนี้เป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานตามปกติ ไม่ใช่ค่าโฆษณา ตราบใดที่โฮสต์ประกาศราคา 1,000 หยวน / คืน แต่โฮสต์จะไม่สามารถสมัครกิจกรรมส่งเสริมการขายใดๆ บนแพลตฟอร์มได้อย่างจริงจังหรือเพิ่มการส่งเสริมการขายแบบชำระเงิน Exposure ตลอดจนกิจกรรมส่งเสริมการขายเช่นการออกคูปอง! "
“ เข้าใจแล้ว!” หลี่หยางถอนหายใจด้วยความโล่งอก เขาเริ่มเข้าใจอย่างคร่าวๆถึงขอบเขตของเงื่อนไขข้อจำกัดของระบบ
แม้ว่าหลี่หยางจะไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมระบบถึงต้องกำหนดข้อจำกัดมากมาย แต่หลี่หยางก็รู้สึกว่ามันต้องมีเหตุผลอะไรบางอย่างที่ทำให้ระบบทำเช่นนั้น
บางทีการโฆษณาอาจมีราคาแพงเกินไปและผลกระทบอาจไม่ดี ท้ายที่สุดชีวิตของผู้คนก็ท่วมท้นไปด้วยโฆษณาต่างๆและพวกเขาก็อาจจะดูมันจนมึนงงอยู่แล้ว
สำหรับกิจกรรมส่งเสริมการขายอาจขัดกับตำแหน่งของโรงแรม นับตั้งแต่ก่อตั้งโรงแรมที่มีชื่อเสียงทางอินเทอร์เน็ตอาจจำเป็นที่จะต้องมีมาตรฐานที่สูงเช่นเดียวกับความงามเทพธิดา
หลี่หยางรีบส่งข้อมูลของโรงแรมให้แพลตฟอร์มตรวจสอบ ไม่นานหลังจากนั้น ฝ่ายบริการลูกค้าก็ติดต่อหลี่หยางกลับมา
เมื่อคุยเสร็จ หลี่หยางก็ปิดโทรศัพท์แล้วหลับไป
เช้าตรู่ของวันรุ่งขึ้นหลังฟ้าสาง ในยามหลับหลี่หยางรู้สึกราวกับว่าเขาถูกกดทับด้วยน้ำหนักที่บริเวณหน้าอกของเขาและมันทำให้เขาหายใจลำบาก หลังจากดิ้นรนสักพักจู่ๆเขาก็ตื่นขึ้น ทันทีที่เขาลืมตาขึ้นก็มีใบหน้าใหญ่โตปรากฏขึ้นต่อหน้าต่อตา
เมื่อมองอย่างตั้งใจมันก็คือแมวเมนคูน ลูกพี่เหมียว ในตอนนี้ ร่างกายที่ใหญ่โตเกือบ 20 กิโลกรัมกำลังนั่งอยู่บนหน้าอกของหลี่หยาง มันลดศีรษะลงเล็กน้อยแล้วจ้องมองเขาด้วยสีหน้าจริงจัง
ไม่เพียงแค่นั้นแมวอีกเก้าตัวยังอยู่ในห้องโดยกระจายอยู่ทุกมุมของบ้านทั้งบนขอบหน้าต่าง,บนตู้,บนโครงที่มีไว้ให้แมวปีน,บนผนังและบนแคร่แมวติดผนัง พวกเขาทั้งหมดจ้องมองไปที่หลี่หยางอย่างตั้งใจ
แต่ตอนนี้หลี่หยางกำลังคำถามว่าเจ้าพวกนี้เข้ามาได้อย่างไร? หลี่หยางจำได้ว่าเขาปิดประตูห้องตอนที่เขานอนหลับ
เมื่อเขาหันไปทางประตู เขาก็เห็นมันเปิดออกอยู่แล้ว "อะไรกัน นี่พวกมันเปิดประตูเข้ามากันเองยังงั้นหรอ"
"ลงไป!" หลี่หยางผลักลูกพี่เหมียวออกไป "ฉันไม่มีอารมณ์จะเล่นนะ ฉันแทบนอนไม่หลับเลย!"
“ เหมียวเหมียวเหมียว ... ” แมวเมนคูนเริ่มร้องโหยหวน แม้ว่าร่างกายของมันจะใหญ่โต แต่เสียงของมันก็นุ่มนวลอย่างมาก หัวที่มีขนยาวโน้มตัวไปด้านหน้าของหลี่หยาง เมื่อมันเอาหัวไปถูเขา ไฟในใจของเขาก็หายไปในทันที
ในเวลาเดียวกันแมวอีกเก้าตัวก็กระโดดขึ้นไปบนเตียงของหลี่หยางทีละตัวและเริ่มเข้าใกล้หลี่หยาง ความเหมียวๆเริ่มแทรกเข้าไปในกระดูกของหลี่หยางและทำให้เขาหมดไฟทุกอย่าง
“ โอ้ - ฉันกลายเป็นทาสแมวไปแล้วจริงๆ!” หลี่หยางไม่สามารถหัวเราะหรือร้องไห้ได้ เมื่อเดาว่าเจ้าพวกนี้ก็อาจจะหิวเช่นกัน หลี่หยางก็ลุกขึ้นและให้อาหารแมวแก่พวกเขา
เมื่อเห็นพวกเขาเริ่มกินหลี่หยางก็หาวขึ้นมาและขึ้นไปบนห้องอีกครั้ง เพื่อที่จะกลับไปนอน
แต่หลังจากนอนอยู่บนเตียงสักพัก เขาก็ไม่สามารถหลับได้อีกต่อไป เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและเปิดแอพ Douyin แต่ทันทีที่เขาเปิด Douyin ดวงตาที่หลับใหลของหลี่หยางก็เบิกกว้างและเขาก็ลุกจากเตียงพร้อมกับเสียงดัง กระโดดขึ้น.
"ฉันกำลังจะลุกเป็นไฟ!".....
ผู้แปล : นอนน้อยโนเวล