ตอนที่ 43 ปกป้องเด็กหนุ่มเป้าหมายของฉินอิง 2
ฉินหยิงเห็นเย่ฮุ่ยตรงเข้ามานางอยากที่จะหยุดยั้งการโจมตี แต่ก็ไม่ทันแล้ว นางจึงได้แต่พูดออกมาอย่างโหดเหี้ยมว่า "เจ้าเข้ามาให้ข้าตบเอง ข้าไม่ได้ตั้งใจทำ" เย่ฮุ่ยเจ็บมากดวงตาของเขาแดงก่ำ เลือดกลบปาก เขาอ้าปากเพราะจมูกของเขาหายใจไม่ออกเลยต้องหายใจออกมาทางปาก
อีกฝ่ายเป็นผู้ฝึกตนขั้นที่เก้า นางแข็งแกร่งกว่าเย่ฮุ่ยมาก โชคดีที่เขาไม่ได้โดนตบเต็มมือ
ลู่จิ่วเชวียจับกรามของเขาเพื่อห้ามเลือด นางกระซิบที่ข้างหูของเขาเบาๆว่า "อย่าพึ่งพูดอะไรออกมา ไม่อย่างนั้นเจ้าจะเจ็บลิ้น"
"อืม"เย่ฮุ่ยดวงตาเบิกกว้าง สบตาคนที่อยู่ใกล้ตัวของเขา
มือของนางจับคางของเขาเอาไว้ ตัวเขาแข็งทื่อเพราะสัมผัสได้ถึงปลายนิ้วที่นิ่มของนาง สายตาของนางจับจ้องมองบาดแผลของเขา ใบหน้าเล็กๆของนางอยู่ตรงข้ามกับใบหน้าของเขามันทำให้เขาสัมผัสได้ถึงลมหายใจที่เข้ามาบนใบหน้า ขนตาของนางงอนเหมือนหนวดผีเสื้อที่กำลังหยอกล้อกับหัวใจของเขา
เย่ฮุ่นกลั้นลมหายใจเพื่อไม่ให้แสดงท่าทางผิดปกติออกมาให้นางเห็น เขากลัวว่านางจะได้ยินเสียงหัวใจของเขาที่เต้นรัวดังครึกโครมอยู่ในอก เมื่อเห็นเย่ฮุ่ยนิ่งไป ฉินหยิงก็กัดฟันพูดออกมาว่า "สมน้ำหน้าเจ้าต้องมีจุดจบแบบนี้เพราะเจ้าปกป้องลู่จิ่วเชวีย"
ลู่จิ่วเชวียสะกดจุดบนร่างกายของเย่ฮุ่ยเพื่อห้ามเลือดเสร็จแล้ว จากนั้นนางก็เงยหน้าขึ้นไปมองฉินหยิง แววตาที่เฉียบคมจ้องมองฉินอิงด้วยท่าทางที่เยือกเย็น จนฉินอิงรู้สึกได้ว่าข้างในใจนางกำลังสั่นเทา นางจึงเดินถอยหลังด้วยความกลัวอย่างไม่รู้ตัว
"แล้วเจ้าอยากรู้ไหมว่าจุดจบของเจ้าจะเป็นยังไง?" ฉินหยิงรู้สึกได้ถึงบรรยากาศเย็นๆจากใต้เท้าของนาง มันหนาวจนน่าขนลุกเหมือนกับว่ากำลังพุ่งเข้ามาแทงที่กระดูก "เจ้าจะทำอะไร?ที่นี่คือสนามทดสอบนิกายนะ"
ลู่จิ่วเชวียเลิกคิ้ว นางรู้แล้วว่าฉินหยิงคิดอะไรอยู่ นางเดินเข้าไปใกล้ๆด้วยรอยยิ้มที่มีเลศนัย "แล้วเจ้ารู้ไหมว่ากำลังทำอะไรอยู่?" ฉินหยิงสูดหายใจเข้าไปอย่างเหน็บหนาว ทำไมนางต้องรู้สึกกลัวตัวสวะไร้ค่าอย่างมันด้วย?
ในตอนนั้นเองอยู่ๆก็มีเสียงตะโกนดังออกมา ดูเหมือนเป็นเสียงของคนที่ทรงพลัง เสียงนั้นดังออกมาจากสถานที่ไกลออกไปแต่มันก็กังวานได้ยินชัดเจน "พวกเจ้าทุกคนกำลังทำอะไรอยู่? ตอนนี้พวกเจ้ากำลังก่อเรื่องในสถานที่คัดเลือกคนเข้านิกายอยู่ไม่รู้เหรอ? พวกเจ้าอวดดีเกินไปแล้ว หากพวกเจ้าอวดดีกว่านี้พวกเจ้าก็ออกไปจากสถานที่ทดสอบไป"
ฉินหยิงได้ยินเสียงตะโกนร่างของนางก็สั่นเทา นางหันไปสนใจเสียงที่ดังขึ้น นางพยายามฝืนทนความเจ็บปวด "นายท่านข้าน้อยคือผู้เข้าร่วมการทดสอบเข้านิกายชื่อฉินหยิง เมื่อวานสหายของข้าถูกวางยาพิษ ข้าต้องการหาตัวผู้กระทำความผิด ท่านประมุขได้โปรดให้อภัย ข้าน้อยขอรับการลงโทษด้วย" ฉินหยิงพูดแล้วเช็ดน้ำตาบนใบหน้า
ลู่จิ่วเชวียหรี่ตามอง นอกจากน้ำเสียงที่หวาดกลัวและสำนึกผิดแล้ว นางยังได้ยินน้ำเสียงตื่นเต้นและดีใจอีกด้วย ทำไมต้องรีบอธิบายให้คนที่เพิ่งเจอหน้ากันครั้งแรกด้วย? นางดูเหมือนจะทุกข์ใจและเจ็บปวดแทนคนพวกนั้นต่อหน้าคนอื่นที่เพิ่งเจอไปทำไมกัน? นางพยายามพูดให้คนอื่นเห็นว่านางเป็นคนใจดีมีเมตตาและเป็นคนที่รักความยุติธรรม แม้นางจะยอมรับผิด แต่นางก็ทำตัวแสดงนิสัยเป็นผู้มีความยุติธรรมด้วย หรือว่าเขาจะเป็น "เป้าหมาย" ของฉินหยิงที่พยายามเรียกร้องความสนใจกัน?
ลู่จิ่วเชวียเข้าใจทันที ว่าทำไมนางถึงมาหาเรื่องเพื่อเรียกร้องความสนใจ หืม... เมื่อเทียบกับเชาชิงโหร่วดอกไม้พิษแล้ว ฉินหยิงเป็นที่ร้ายกาจกว่าเสียอีก เพราะนางพยายามซ่อนคมเขี้ยว วางแผนได้แยบยลกว่า
คนที่นั่งอยู่บนชานชาลาก็ขมวดคิ้วพูดออกมาด้วยท่าทางที่เคร่งครึมขึ้น "เกิดอะไรขึ้นกัน?"ตอนที่เขาถามก็มีคนพยายามอธิบายสถานการณ์ให้เขาฟัง โดยพูดจาชมเชยฉินหยิง แล้วกล่าวหาลู่จิ่วเชวีย ลู่จิ่วเชวียทนไม่ไหว ก็หัวเราะออกมาตอนที่ได้ยินทุกอย่าง