ตอนที่ 44 ให้โอกาสยอมรับผิดตามตรง
หลังจากที่ฟังคนบอกเล่าเสร็จเขาก็หันไปถามคนที่อยู่ข้างๆ เขาพยักหน้าแล้วมองฉินหยิงด้วยสายตาที่อ่อนลง "ฉินหยิง เจ้าแค่เป็นห่วงเพื่อนอย่างนั้นเหรอ หายากนะที่จะมีเพื่อนที่ค่อยเป็นห่วงกัน เจ้าเป็นคนดีจริงๆ ความผิดครั้งนี้ข้าให้อภัยได้ เจ้าเตรียมตัวเข้ารับการทดสอบให้ดีแล้วกัน"
คนที่อยู่แถวนั้นรู้สึกเหมือนตัวเองหูฝาดที่ชายคนนั้นไม่ได้เอาเรื่องฉินหยิงที่แสดงกริยาหยาบคายออกไป ทุกคนต่างรู้สึกตกใจมาก ชายคนนี้เป็นคนที่เห็นแก่ตัว เขากลายมาเป็นคนดีที่เห็นใจคนอื่นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? เขาเมตตาต่อฉินหยิงแบบนี้เพราะว่าเขามองตัวตนของฉินหยิงต่างไปจากคนอื่นใช่หรือไม่?
ด้วยคำพูดของชายคนนั้นสถานะของฉินหยิงจึงเหมือนกับทะยานขึ้นไปบนฟ้าในทันที ตอนนี้ฉินเหยิงเองพยายามข่มใจไม่แสดงความรู้สึกออกมา แต่ปลายคิ้วของนางดิ้นออกมานิดหน่อยแสดงให้เห็นถึงความตื่นเต้นภายในใจ ดีมาก! สิ่งที่นางทำไม่ได้เปล่าประโยชน์เสียเลย ในที่สุดชายคนนี้ก็จำชื่อของนางได้แล้ว เขาเรียกชื่อของนาง ฉินหยิง แม้แต่ผู้ยิ่งใหญ่อย่างเขายังจำได้ แล้วใครบ้างที่จะจำนางไม่ได้?
นอกจากความสามารถอันโดดเด่น วันนี้ในการทดสอบ ชื่อเสียงของฉินหยิงก็จะโด่งดังไปทั่ว
ฉินหยิงเงยหน้ามองชายคนนั้นด้วยท่าทางที่เอียงอาย นางพูดขอบคุณเขาด้วยท่าทางที่เคารพว่า "ขอบคุณ ข้าจะไม่ทำให้นายท่านผิดหวัง"
ลูจิ่วเชวียหัวเราะไม่หยุด แค่ชายคนนั้นพูดออกมาแค่นี้ ก็กลายเป็นให้ความหวังหลุดออกมาจากปากของฉินหยิงไปแล้วอย่างนั้นเหรอ? การกลับคำพูดของคนอื่น มีผลต่อฉินหยิงจนน่ากลัวจริงๆ นางทำให้คนคิดว่าผู้ชายคนนี้เลือกนาง นางทำแบบนี้เพราะคิดว่าคนอื่นๆไม่กล้าที่จะทำอะไรนางได้อีกอย่างั้นเหรอ? ฉินหยิงทำให้นางถูกผู้คนดูถูกเหยียดหยาม บัญชีความแค้นของฉินหยิงต้องถูกคิดออกเป็นสองเท่า ฉินหยิงมีความสามารถทางด้านการวางแผนจริงๆ แผนของนางก็ได้ผลดีทีเดียว
ลู่จิ่วเชวียไม่คิดว่านางจะต้องกลายมาเป็นคนที่ให้คนอื่นเหยียบเพื่อก้าวเดินต่อไปได้... ดี ดีมากๆ
ผู้ชายคนนั้นพยักหน้าแล้วมองไปที่ลู่จิ่วเชวียกับเย่ฮุ่ยจากนั้นเขาก็พูดออกมาว่า "แล้วพวกเจ้าละไม่ยอมรับเหรอว่าพวกเจ้าทำอะไรผิด?"
เย่ฮุ่ยรู้สึกเจ็บมากและเขาก็ตอบอะไรไม่ได้อีกด้วย แต่กลับเป็นลู่จิ่วเชวียที่หรี่ตาแล้วตอบกลับมาว่า "ข้าไม่ได้ทำอะไรผิดทำไมต้องยอมรับผิดด้วย?"
"ว่าไงนะ?" ทุกคนอ้าปากค้าง ลู่จิ่วเชวียโง่หรือไง นางรู้ไหมว่าเขาคนนี้คือใคร? นางกล้าที่จะพูดแบบนี้กับเขาจริงๆอย่างงั้นเหรอ? ผู้ชายคนนั้นตัวแข็งทื่อก่อนที่จะพูดออกมาว่า "ไม่ว่าเจ้าจะถูกหรือจะผิด เจ้าก็ก่อเรื่องในสถานที่ทดสอบเข้านิกาย ข้ากำลังถามเจ้าว่าเจ้าจะยอมรับผิดหรือไม่?"
ลู่จิ่วเชวียมองชายคนนั้น ที่ยืนบนที่นั่งหน้าลานประลอง และพยายามคิดอะไรบางอย่าง ชายคนนั้นนั่งบนชั้นสี่ เป็นแถวที่ถูกตกแต่งอย่างดี เขาสวมชุดสีดำผ้าคาดเอวสีขาวกับสีม่วง ซึ่งชุดพวกนี้มันมีราคาที่แพงเอามากๆ และมีความลึกลับสง่างามเหมือนกับเซียน
แววตาของเขามีกลิ่นอายลึกลับ ร่างของเต็มไปด้วยพลังความยิ่งใหญ่ เขาทนไม่ได้ที่คนอย่างลู่จิ่วเชว่ไม่ได้มองเขาด้วยความเคารพ นางไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ มาทำผิดกฏในสถานที่ทดสอบเข้านิกาย ในสายตาของเขา ลู่จิ่วเชวียกับเย่ฮุ่ยก็เหมือนกับว่าเป็นเด็กที่ไม่รู้ความ
แววตาคมกริบเหมือนดั่งใบมีดกำลังจ้องมองลู่จิ่วเชวีย ลู่จิ่วเชวียไม่ตอบแต่กลับยิ้มให้ "นายท่านในการทดสอบเข้านิกาย หากมีคนพูดดีด้วยแล้วยอมรับผิด มาขอโทษท่านแต่ไม่ได้ขอโทษคนที่ถูกทำร้าย เราต้องทนให้ที่ถูกทำร้ายเพื่อทำตามที่ท่านพูดอยู่ใช่ไหม? พวกเราผู้เสียหายต้องขอโทษตามที่ท่านประมุขบอกใช่หรือไม่?"