px

เรื่อง : Chronicles of Primordial Wars
ตอนที่ 61 : ตายก็ไม่เสียใจ


ไม่ต้องตื่นตกใจ?

จะเป็นไปได้อย่างไร!

มีอะไรค่อยๆพูด?

พวกเขาจะคุยได้อย่างไร? พวกเขาตอนนี้ช๊อคไปเรียบร้อยแล้ว!

เป็นบรรพบุรุษ บรรพบุรุษของชนเผ่า !!

คนอื่น ๆ ไม่สงสัยเกี่ยวกับการร้องเรียกของฉาวซวน เพราะทุกคนรู้ดีว่าหลายชั่วอายุคน มีเพียงผู้คนจากเผ่าเขาเพลิงที่อาศัยอยู่ในบริเวณนี้ ดังนั้น ใครก็ตามที่หายไปในภูเขา ควรจะเป็นบรรพบุรุษของพวกเขา มันเป็นไปได้สูงที่พวกเขาเป็นบรรพบุรุษของพวกเขา!

พิจารณาที่ว่าฉาวซวนกำลังแบกบรรพบุรุษไว้บนหลังของเขา ผู้คนก็มีอารมณ์ที่อัดแน่นในอกของพวกเขา

พวกเขาเชื่อในสัญลักษณ์และบูชาบรรพบุรุษของพวกเขา สำหรับคนในเผ่า สัญลักษณ์เป็นที่เคารพนับถืออย่างแน่นอน และคำว่า“บรรพบุรุษ” มีบารมีในตัวของมันเอง

คนอื่น ๆ ในเผ่าที่ยืนอยู่ ยังคงมีเพียงริมฝีปากของพวกเขาเท่านั้นที่สั่น ตอนนี้ ในที่สุดพวกเขาก็เริ่มเคลื่อนไหว

ตอนแรกมันก็เป็นเพียงย่างก้าวเหมือนเด็กทารกเดินตรงไปหาฉาวซวน พวกเขาสามารถกระโดดได้อย่างง่ายดาย และวิ่งในระหว่างปฎิบัติภารกิจล่าสัตว์ได้ตามปกติ แต่ตอนนี้ มันดูเหมือนว่าเพียงย่างก้าวของทารกก็สามารถทำให้พลังพวกเขาทั้งหมดหายไป

ค่อยๆ ก้าวกลายเป็นเร็วขึ้น แต่พวกเขายังคงก้าวเดินดั่งทารก ราวกับว่าพวกเขาจะปลุกบรรพบุรุษของพวกเขา หากพวกเขาก้าวเท้ากว้างเกินไป และพวกเขาก็ทำอย่างระมัดระวังที่สุดเท่าที่ทำได้

มองไปที่นักรบล่าสัตว์กว่า30คนเดินเข้ามาใกล้เขา ฉาวซวนจู่ ๆ ก็อยากจะวิ่งหนีไป เขารู้สึกว่าการแสดงออกทางสีหน้าของพวกเขามากเกินไป น่าขนลุกกว่าสิ่งที่เขากำลังแบกไว้

เมื่อพวกเขาอยู่ห่างจากฉาวซวนประมาณสามก้าว เมยที่อยู่ด้านหน้าของกลุ่มจึงเป็นผู้นำและคุกเข่าลงตรงหน้าฉาวซวนพร้อมกับเข่าข้างหนึ่ง! คนอื่น ๆ ทั้งหมดตามหลังเมย และทำการคำนับอย่างจริงจังที่เบื้องหน้าเขา มันเป็นการแสดงความเคารพที่พวกเขาทำกับบรรพบุรุษ

แม้ว่าจะแตกต่างจากการแสดงความเคารพสูงสุดบนหัวเข่า พวกเขาคุกเข่าลงเพียงข้างเดียว เสียงของหัวเข่าที่กระแทกบนพื้นดิน ดังและชัดเจน ฉาวซวนรู้สึกเจ็บแทนเมื่อได้ยินเสียง ยิ่งไปกว่านั้น ยกเว้นเหมา นักรบทุกคนมีทั้งอายุมากกว่าเขาหรือที่มีสถานะสูงกว่าเขาในเผ่า พวกเขาทุกคนคุกเข่าลงตรงหน้าเขา!

ฉาวซวนเป็นใบ้ชั่วขณะ

ชีวิตบัดซบของข้า! ข้าจะอายุสั้นหรือไม่? ฉาวซวนรู้สึกเหมือนมีซีซ่าร์หลายพันตัวเห่าหอนอยู่ในใจของเขา

เมื่อคิดเช่นนั้น ฉาวซวนไม่สามารถทำอะไรได้แต่พยายามที่จะเคลื่อนตัวออกไปนิดหน่อย

“ห้ามเคลื่อนไหว!” เมยและคนอื่น ๆ เกือบจะตะโกนออกมาในเวลาเดียวกันเพื่อที่จะหยุดความพยายามของฉาวซวน

ฉาวซวนอึ้งและเขานิ่ง

เห็นผู้คนเป็นเช่นนั้น ฉาวซวนไม่รู้ควรจะทำอย่างไรจริงๆ เขาอึ้งด้วยความตกใจ ในขณะที่มีเพียงความรู้สึกเดียว ที่บรรพบุรุษทั้ง 4 มีน้ำหนักเหมือนเหล็ก และน้ำหนักทำให้เขาเหงื่อออกมาก

เมื่อคนอื่นได้ทำความเคารพจบ ฉาวซวนเห็นพวกเขาเข้ามาใกล้อย่างระมัดระวัง กับพวกเขาที่มือสั่นแก้เชือกที่รัดบรรพบุรุษทั้งสี่ที่ด้านหลังของเขา ด้วยความเคารพสูงสุดบนใบหน้าของพวกเขา

เห็นฉาวซวนได้ผูกติดบรรพบุรุษทั้ง 4 เช่นนั้น ผู้คนรู้สึกว่าฉาวซวนกระทำไม่สุภาพต่อบรรพบุรุษ ด้วยการมองที่ใกล้ชิดและพวกเขาก็พบว่าฉาวซวนใช้หนวดของแมลงที่น่าเกลียดชังในภูเขาเป็นเชือก!

ฉาวซวนนั่งพักผ่อน แต่ในช่วงเวลานั้น เขาถูกจ้องเรื่อยๆ คล้ายเป็นการประณามทางสายตา แต่เขามีผิวหน้าที่หนา ดังนั้นเขาก็นั่งอยู่ที่นั่นราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาไม่โง่พอที่จะให้คำอธิบายแก่บรรดาคนที่คลั่งไคล้เหล่านั้นเกี่ยวกับสิ่งใดก็ตาม เห็นได้ชัดว่าพวกเขาจมอยู่ในอารมณ์ที่รุนแรง และไม่มีใครสามารถให้เหตุผลกับพวกเขาได้ในตอนนี้

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะไม่มีอะไรที่ต้องอธิบาย ฉาวซวนไม่ต้องการที่จะจ้องมองอย่างนั้น ดังนั้นเขาจึงเบี่ยงเบนความสนใจของผู้อื่น โดยบอกพวกเขาว่าเกิดอะไรขึ้นในถ้ำแบบรวบรัด

ก่อนหน้านี้ พวกเขาทุกคนอยากรู้เกี่ยวกับวิธีที่ฉาวซวนออกมาจากถ้ำ แต่ความสนใจของพวกเขาถูกจับโดยบรรพบุรุษและ ไม่มีใครสนใจเรื่องอื่น ตอนนี้ตั้งแต่ฉาวซวนเต็มใจที่จะพูด คนอื่น ๆ ก็เริ่มสนใจกับเรื่องรอดชีวิตของเขา

แน่นอนว่าฉาวซวนจะไม่หงายไพ่ของเขาไว้บนโต๊ะ ดังนั้นเขาก็เล่าเรื่องวิธีการที่เขาฆ่าแมลงตัวนั้นและเจอราชาหนอนหิน นอกจากนี้เขายังทำให้มันชัดเจนว่าเขาไม่เคยเห็นราชาหนอนหินตัวจริง แต่มีประสบการณ์การเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม จากนั้น เขาคิดเกี่ยวกับการบรรยายของหมอผี จากนั้น ภายใต้การแนะนำของสัญลักษณ์ เขาก็พบเหล่าบรรพบุรุษ

แม้ว่าเขาจะไม่พูดถึงลูกบอลไฟ เขาได้แบ่งปันการคาดเดาของเขากับคนอื่น ๆ เพื่อที่จะทำให้มันชัดเจนว่ามัมมี่ทั้งสาม ไม่,ไม่ บรรพบุรุษทั้งสามอาจจะดีกว่าที่จะอยู่ร่วมกันกับร่างที่มีเครื่องประดับกระดูกลึกลับ

“ข้าคิดว่าเครื่องประดับกระดูกสวมใส่โดยบรรพบุรุษนี้จะต้องมีอำนาจพิเศษที่สามารถปกป้องบรรพบุรุษคนอื่น ๆ .” ฉาวซวนเผย 'ไพ่' ของเขา

คนอื่น ๆ คิดว่ามันช่างเหลือเชื่อและทุกคนเห็นด้วย พวกเขารู้สึกสบายเมื่อได้ใกล้ชิดกับบรรพบุรุษ ไม่น่าแปลกใจที่พวกเขาเป็นบรรพบุรุษ!

แม้ว่าเครื่องประดับกระดูกลึกลับเป็นสมบัติล้ำค่า ไม่มีใครในกลุ่มล่าสัตว์มีความคิดที่จะเก็บรักษามันไว้กับตัวเอง นั่นคือข้อดีของความคลั่งไคล้ ไม่มีใครลืมศักดิ์ศรีเพื่อคาดหวังผลกำไร และแน่นอนไม่มีใครลืมเกี่ยวกับบรรพบุรุษ หรือกฎในเผ่า

ดังนั้นหลังจากที่ได้แยกบรรพบุรุษทั้ง 4 ในตอนแรก พวกเขา“แสดงความเคารพ” รวมพวกเขากลับมาด้วยกัน

เมื่อฉาวซวนอธิบายฉากเมื่อเขาพบบรรพบุรุษทั้งสี่ คนอื่น ๆ ทั้งหมดกำลังหลั่งน้ำตา รู้สึกว่าพวกเขาเป็นพยานของภาพที่อ้างว้างว่างเปล่า บรรพบุรุษก็ยังคงคิดเกี่ยวกับชนเผ่าจนลมหายใจสุดท้ายของพวกเขา เพื่อสร้างเส้นทางการล่าสัตว์ใหม่ สำหรับคนรุ่นต่อไป พวกเขาเสียชีวิตด้วยความเสียสละและถูกขังอยู่ในถ้ำมืดมานานนับพันปี นักรบทั้งหมดรู้สึกเสียใจ สำหรับบรรพบุรุษและพวกเขาก็ร้องไห้อย่างหนัก แลงกาและนักรบหนุ่มคนอื่น ๆ กำลังคร่ำครวญอย่างรุนแรง ขณะที่พวกเขาร้องออกมาดัง ๆ

ทำไมเขาถึงไม่ได้สังเกตก่อนว่าพวกเขารู้สึกแย่มาก? เหตุการ์ณที่อยู่เบื้องหน้าเขาเกือบจะทำให้ฉาวซวนขาดใจตาย เขาพยายามอย่างหนักเพื่อให้การแสดงออกของเขาเป็นปกติ และป้องกันไม่ให้ใบหน้าของเขากระตุก ในอดีตที่ผ่านมา เขารู้เพียงว่าคนในเผ่าบูชาวีรบุรุษและหัวหน้าเผ่ามาก แต่ตอนนี้ เขาตระหนักว่าความเคารพก่อนหน้านี้ไม่อาจเทียบได้กับความเคารพที่พวกเขามีต่อบรรพบุรุษ

บรรพบุรุษทั้งสี่เสียชีวิตมาหลายปี และตลอดหลายปีที่ผ่านมา พวกเขาอยู่ในตำแหน่งเดียวกับการคุกเข่าลงทั้งสองข้างในทิศทางของชนเผ่า ดังนั้น ในกลุ่มนักรบล่าสัตว์ได้ระมัดระวังเป็นอย่างมากเมื่อมีการเคลื่อนย้ายบรรพบุรุษ นอกจากนี้ พวกเขาพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อให้พวกเขาคุกเข่าลงหันหน้าไปทางทิศทางของชนเผ่า

มีเพียงสี่ศพและมีนักรบล่าสัตว์มากกว่าสามสิบคน ปกติแล้ว พวกเขาจะต่อสู้อย่างดุเดือดกับสัตว์ดุร้ายเหล่านั้น และบางส่วนของพวกเขาสามารถล้มหมีด้วยหมัดเดียวเท่านั้น แต่ตอนนี้ พวกเขาทั้งหมดเหงื่อออกเหมือนอยู่ในนรกสำหรับความพิถีพิถันและความเคารพ ก่อนการเคลื่อนย้าย พวกเขาต้องคิดทบทวนซ้ำแล้วซ้ำอีก ดังนั้นการจัดการกับบรรพบุรุษจึงทำให้ตรึงเครียดทั้งทางร่างกายและจิตใจ แต่ ทุกคนทำตัวเหมือนพวกเขาเบิกบานยินดีกับมันมากด้วยความเคารพ

ในขณะที่ฉาวซวนคาดการณ์ ในใจของคนอื่น ๆ ในกลุ่มล่าสัตว์นี้ ทั้งสี่ศพมีความศักดิ์สิทธิ์มาก แม้ว่าพวกเขาจะตัวแห้งเหี่ยวและแข็งกระด้าง ไม่มีรูปร่างเดิมของพวกเขา พวกเขาก็ยังคงเป็นบรรพบุรุษ อย่างภักดี รูปร่างที่น่ากลัวของพวกเขา แม้แต่ฉาวซวนยังต้องคิดสองรอบก่อนที่เขาจะพาพวกเขาออกไป แต่พวกเขามีใบหน้าที่น่ากลัวและร่างกายมีกลิ่นอายพิเศษของตัวเอง นักรบทุกคนอยากจะแสดงความเคารพอีกครั้งหลังจากที่พวกเขาลุกขึ้นยืน

สุดท้าย ก่อนที่จะมืด พวกเขาก็พยายามที่จะแบกบรรพบุรุษไปอยู่ที่ถ้ำในสถานที่ที่สอง หากในวันปกติ มันจะใช้เวลาน้อยมากในการเดินทางจากภูเขาไปยังสถานที่ที่สอง แต่ เวลานี้กับสี่บรรพบุรุษ พวกเขาใช้เวลาเกือบสองชั่วโมงกับระยะทางเดียวกัน!

เมื่อพวกเขามาถึงถ้ำ และหาสถานที่ที่เหมาะสมให้กับบรรพบุรุษ นักรบทุกคนก็ทำความเคารพอีกครั้ง บางส่วนของพวกเขาได้พูดคุยเกี่ยวกับบรรพบุรุษในระหว่างการนอนหลับของพวกเขา

ตอนนี้ที่เรื่องนี้เกิดขึ้น เหล่านักรบล่าสัตว์มีความสนใจน้อยลงในการล่าสัตว์ ความปรารถนาแรกของพวกเขาคือการนำบรรพบุรุษกลับไปที่เผ่า ดังนั้นพวกเขาในที่สุดก็จะได้กลับบ้านหลังจากหลายร้อยปีกับความอ้างว้างและมืดมิด แน่นอน บรรพบุรุษของพวกเขากำลังรอคอยให้ถึงวันนั้นเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม กฎย่อมเป็นกฎ ไม่มีใครตั้งกฎใด ๆ เมื่อใครคนนั้นพบบรรพบุรุษ สำหรับกลุ่มล่าสัตว์ที่จะกลับไปก่อน กฎการล่าสัตว์ถูกสืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคนโดยบรรพบุรุษ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่กล้าที่จะไม่เคารพพวกเขา ตามตารางการล่าสัตว์ พวกเขาจะต้องล่าสัตว์อีกประมาณสิบวัน ก่อนที่พวกเขาจะกลับไปรวมกับกลุ่มล่าสัตว์กลุ่มอื่น ๆ และจากนั้นกลับไปที่เผ่าด้วยกัน

แม้ว่ากฎไม่สามารถเปลี่ยนได้ นักรบยังคงสามารถปรับเปลี่ยนรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เมยสามารถตัดสินใจว่าจะทำอะไรทุกวัน

แต่เดิม พื้นที่การล่าสัตว์มีขนาดใหญ่มาก และนักรบจะไปสำรวจหลังจากที่พวกเขามาถึงสถานที่ที่สอง บางครั้งพวกเขาก็จะใช้เวลาสองสามคืนนอกถ้ำ แต่ ตอนนี้ เมยบอกให้ทุกคนออกไปล่าสัตว์บริเวณใกล้เคียง และสำหรับนักรบบางส่วนจะผลัดกันอยู่ในถ้ำเพื่อเฝ้าระวังพวกมัน ด้วยการโจมตีของหนามพายุทมิฬก่อนหน้านี้ คนยังคงกังวลว่าสัตว์ดุร้ายอื่น ๆ อาจบุกเข้าไปในถ้ำ และทำให้เกิดความเสียหายต่อร่างบรรพบุรุษ แม้ว่าสัตว์ดุร้ายแทบไม่เคยเห็นบนภูเขานี้ คนได้อยู่เฝ้าระวังเกี่ยวกับเรื่องบางอย่างที่เล็กๆน้อยๆ และอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดอื่น ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น

พวกเขาทุกคนเห็นด้วยกับข้อเสนอของเมย และพวกเขาผลัดกันเฝ้าถ้ำ

วันเวลาผ่านไป

ชีวิตล่าสัตว์เป็นการผจญภัย และฉาวซวนได้ตามล่าเหยื่อชั้นดี ภายใต้การแนะนำของนักรบล่าสัตว์อาวุโส มันควรจะพอสำหรับเขาที่อยู่ในป่าเกือบเดือน

เมื่อมีเวลาเหลืออีกห้าวันก่อนวันรวมตัว เมยตัดสินใจที่จะนำกลุ่มกลับ พร้อมกับบรรพบุรุษ พวกเขาจะต้องระมัดระวังมากขึ้นกว่าเดิม ดังนั้นแน่นอนว่ามันจะใช้เวลานานสำหรับพวกเขาที่จะกลับไป ดังนั้นเพื่อที่จะได้พบกับกลุ่มอื่น ๆ ในเวลา พวกเขาจะต้องเริ่มต้นออกเดินทาง

เวลานี้ มันเป็นไปอย่างราบรื่นมากเมื่อเดินผ่านอุโมงค์ที่อยู่ในภูเขา ไม่มีใครถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง

นักรบในกลุ่มล่าสัตว์ตัดไม้เนื้อดีและทำแคร่เพื่อแบกบรรพบุรุษ ในสายตาฉาวซวน มันเป็นโครงสร้างง่ายๆ แต่ก็เพียงพอที่จะใช้มันเพื่อนำบรรพบุรุษกลับบ้าน

พวกเขารู้มันอยู่ในใจ ว่าเมื่อพวกเขาได้กลับไปที่เผ่าจากการล่าสัตว์ในครั้งนี้ เกมของพวกเขาจะต้องน้อยกว่ากลุ่มอื่นๆทั้งหมด แต่พวกเขาไม่ได้สนใจเลย!

พวกเขามีหนามพายุทมิฬสามตัวที่เก็บไว้ในสถานที่แรก!

ไม่พูดต้องถึงว่าสิ่งที่สำคัญที่สุด คือพวกเขาได้พบกับบรรพบุรุษทั้งสี่ ซึ่งมันเกินกว่าคำว่าเกียรติยศชื่อเสียง! ปกป้องบรรพบุรุษ และพาพวกเขากลับบ้านอาจจะเป็นสิ่งที่รุ่งโรจน์ที่สุดในชีวิตทั้งหมดของพวกเขา!

ตอนนี้พวกเขารู้สึกว่าถึงพวกเขาจะตายก็ไม่เสียใจ! ตายก็ไม่ต้องเสียใจ!

รีวิวผู้อ่าน