px

เรื่อง : ราชันสามภพ (นิยายแปล)
ตอนที่ 7 เวทีของเจี้ยงเฉิง ความหยิ่งยโสและความภาคภูมิใจ


บทที่ 7 – เวทีของเจี้ยงเฉิง ความหยิ่งยโสและความภาคภูมิใจ

 

-------------------------

เจี้ยงเฉิงอยากจะตายให้มันรู้แล้วรู้รอดไปที่มีเจ้านายแบบนี้

 

เงินใช้จ่ายประจำเดือนนั้นหมดไปแล้ว และส่วนผสมเหล่านี้ไม่มีทางได้มาง่ายๆ แน่ อย่างต่ำก็ต้องมีเงินราวๆ 10000 เหรียญเงิน การที่จะใช้รายชื่อเหล่านี้แลกเงินถึง 10 ล้านเหรียญเงินนั้น....มันบ้าสิ้นดี

 

"ไปไกลๆ ไป ถ้าอยากร้องให้ก็ร้องไป ผู้ชายร้องให้มันไม่ใช่ความผิดเสียหน่อย" เจี้ยงเฉินหัวเราะคิกคัก "แต่อย่างที่ข้าบอกเจ้าไปแล้ว ว่ารายชื่อเหล่านี้เหล่าทวยเทพบอกข้ามา เจ้ายังคิดว่าข้าบ้าอีกงั้นรึ?"

 

"ข้าต้องรักษาอาการป่วยขององค์หญิง แล้วข้าจะบ้าได้อย่างไรกัน"

 

"หรือต่อให้ข้าบ้า เจ้าคิดว่าข้าจะทำให้บิดาและตระกูลของข้าเสื่อมเสียงั้นรึ แม้ว่าข้าจะไม่เคยทำอะไรดีๆ เลย แต่ข้าก็ไม่ใช่คนโง่เง่าหรอกนะ ใช่มั้ย?"

 

เจี้ยงเฉิงตกตะลึกกับคำกล่าวเหล่านั้น ราวกับโดนฝนธนูพุ่งจู่โจม มันเป็นเรื่องจริง ที่ว่าแม้นายน้อยจะทำเรื่องไร้สาระมากแค่ไหน แต่มันก็ไม่เคยจะทำให้ตระกูลต้องเสื่อมเสีย แถมตอนนี้ยัง.....

 

มันได้รับข้อความจากพระเจ้าจริงๆ งั้นรึ?

 

"เจี้ยงเฉิง ข้าบอกเจ้าตามจริงนะ เราจะไม่ขายรายชื่อเหล่านี้เพื่อเงินทองเด็ดขาด เจ้าเพียงแค่ไปบอกผู้ดูแลของหอโอสถ บอกมันว่ามันไม่ใช่ร้านขายยาแห่งเดียวในอาณาจักรตงฟาง ถ้าหากมันไม่ต้องการหละก็ งั้นวิหารสวนแห่งเทพ และสวนยาแห่งราชันจะทำลายและยึดมันมาเอง!! พวกมันจะต้องเสียใจเมื่อพบว่า ร้านอื่นนั้นได้เหยียบพวกมันไว้แล้ว และเมื่อยาของพวกมันออกวางขาย ก็จะเป็นเพียงแค่ขยะที่ไม่มีใครต้องการ สุดท้ายแล้วพวกมันก็จะไร้ค่าและหายไป"

 

เจี้ยงเฉินกล่าวออกมาด้วยความมั่นใจถึงที่สุด

 

มันไม่ได้กล่าววาจาไร้สาระเลยแม้แต่น้อย ตอนนี้ในหัวของมันเต็มไปด้วยสูตรยามากมายปรากฏขึ้น ทั้งหมดต่างเป็นสูตรยาระดับศักสิทธิ์และระดับพระเจ้าทั้งนั้น และในที่สุดมันก็เลือดออกมาชิ้นหนึ่ง แม้ว่ามันจะเป็นระดับต่ำๆ แต่ก็นับว่าเป็นสูตรที่หายากพอควร

 

และที่สำคัญที่สุดคือระดับการรักษาของอาณาจักรตงฟางแห่งนี้ เพราะงั้นจึงไม่ควรให้ตำหรับยาที่หาวัตถุดิบยากเกินไป

 

และเมื่อเห็นเจี้ยงเฉิงยังคงทำใบหน้าสงสัยอยู่นั้นเอง มันจำต้องแสดงออกมาเช่นนั้น เพื่อให้มันเข้าใจว่ามันผู้นี้สามารถหามันมาได้อย่างง่ายดาย

 

เมื่อชาติก่อนมันฝึกไม่ได้จึงจำต้องเรียนรู้สิ่งต่างๆ ในห้องสมุดเทียนเหลียงแทน ซึ่งการเล่นแร่แปรธาตุก็เป็นหนึ่งในกิจกรรมยามว่างของมัน

 

อาจจะกล่าวได้ว่า มันคือตำนานแห่งการเล่นแร่แปรธาตุที่ยังคงมีชีวิตอยู่ก็ไม่ปาน

 

สำหรับเจี้ยงเฉินคนก่อนนั้นการหาสูตรยามันก็ง่าย พอๆ กับการกินข้าวหรือการดื่มน้ำนั้นและ

 

แต่...สำหรับอาณาจักรเล็กๆ อย่างอาณาจักรตงฟางแห่งนี้นั้น เหล่าตำหรับยาโบราณนั้นต่างถูกสลักขึ้นจากอักษรที่เข้าใจได้ยาก ไม่มีใครสามารถเข้าใจมันได้

 

แต่สำหรับมันแล้วนั้นแทบจะไม่อยากเหลือบแลเหล่าตำหรับยาที่ดูธรรมดาและไร้ค่าเหล่านั้นซักนิด

 

มันจำเป็นต้องใช้ความคิดอย่างมากเพื่อจะเลือกหนึ่งในตำหรับพื้นๆ เหล่านี้ออกมา เพราะไม่ว่ามันจะระดับต่ำขนาดไหน ถ้ามันหลุดออกไปยังอาณาจักรเล็กๆ แห่งนี้หละก็ ต้องเกิดโกลาหลอย่างมากแน่นอน

 

และในเย็นวนนั้นเอง ในที่สุดเจี้ยงเฉิงก็จำเป็นต้องไปเช่นนี้แล

 

มันไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามันจะเชื่อในตัวของเจี้ยงเฉิน มันบอกตัวเองตลอดทางว่า ต่อให้นายน้อยสำมะเลเทเมาขนาดไหน มันก็ไม่มีทางงล้อเล่นกับอาการป่วยขององค์หญิงแน่ และไม่มีทางเอาชีวิตคนทั้งตระกูลไปเสี่ยงอย่างแน่นนอน

 

ดังนั้นมันจึงต้องทำใจให้ยอมเชื่อว่า เหล่าเทพนั้นเห็นแก่ความดีของนายน้อย จนได้มอบตำหรับยาโบราณที่หาค่ามิได้ให้กับมัน..

 

ถึงแม้ว่ามันจะสงสัยอยู่บ้างในพฤติกรรมประหลาดๆ ของนายน้อย แต่เจี้ยงเฉิงก็ไม่มีทางเลือกมากนัก

 

แม้ว่ามันจะรู้สึกว่าเรื่องเหล่านี้มันน่าขันมากก็ตาม แต่อย่างไรมันก็จำต้องลองดู...

 

เพราะหากให้มันรวบรวมเงินมาซื้อพวกมันจนหมด มันก็ไม่มีหน้ากลับไปสู้หน้าภรรยาของตนเองแน่

 

"เฮ้อออ ใครพูดกันหละว่าการเป็นพ่อบ้านส่วนตัวของนายน้อย มันเป็นสิ่งที่น่ายินดีและภาคภูมิใจ ทำไมข้ากลับรู้สึกเสียใจอยู่ทุกวี่วันกัน?" มันปาดน้ำตาออกจากดวงตาของตนเองพลางเดินตรงสู่หอโอสถอย่างเฉยเมย

 

"ถ้ามันไม่จริงขึ้นมา ข้าจะให้พวกมันดูถูกและเยอะเย้ยข้าเพียงนิดเดียวเท่านั้น ยังไงนี่ก็เป็นครั้งแรกหละนะ" เจี้ยงเฉิงดูดีขึ้นเล็กน้อยเมื้อคิดได้ดังนั้น

 

หอโอสถนั้นมีชื่อเสียงอย่างมาก และอิทธิพลสูงพอควรในเมืองหลวง ตามรายทางมีแต่สิ่งก่อสร้างงดงามตระการตาไปหมด

 

เมื่อเจี้ยงเฉินก้าวมายังเบื้องหน้าของหอโอสถ มันรู้สึกราวกับขาของตนเองไร้เรี่ยวแรง มันรู้สึกกลัวขึ้นเล็กน้อยหลังจากคิดไปถึงท่าทาง หยิงผยองและชอบดูถูกคนอื่นของสมาชิกหอโอสถ

 

"เอ่อ....คือว่า...เอ่อคือ...ข้าอยากได้ส่วนผสมของยาสักหน่อย"

 

เจี้ยงเฉิงรวบรวมความกล้าอยู่นานก่อนจะเดินเข้าประตูไปและตรงไปยังโต๊ะต้อนรับ

 

เจ้าหน้าที่ของหอโอสถนั้นทุกคนจะได้รับการฝึกหนัก ก่อนจะเข้ามาเป็นเจ้าหน้าที่ และทักษะแรกที่พวกมันฝึกมาก็คือ ทักษะในการจดจำใบหน้า ไม่ว่าจะเป็นใบหน้าเช่นไรพวกมันก็สามารถจดจำได้หมด

 

ใบหน้าของเจี้ยงเฉิงนั้นไม่เหมือนใคร และเจ้าหน้าที่ก็จดจำได้เช่นกัน

 

"อะแฮ้ม นายท่าน การซื้อวัตถุดิบนั้นทำได้ แต่เราควรจะมาพูดถึงกฎกันก่อน หอของเรานั้นไม่ได้ใช้ชื่อเสียงเพื่อแลกได้ เพราะฉะนั้นจึงจำต้องใช้เงินเพื่อซื้อมัน"

 

เจี้ยงเฉิงรีบกล่าวอย่างรวดเร็ว "เงินงั้นเหรอ? ข้ามีแน่นอน"

 

เจ้าหน้าที่คนนั้นเหล่มองไปยังรายชื่อของส่วนผสมก่อนที่จะหันไปดีดลูกคิด "ส่วนผสมระดับวิญญาณ 8 ชนิด ทั้งหมดก็ 9800 เหรียญเงิน ซึ่งราคาก็ขึ้นอยู่กับน้ำหนักของส่วนผสม เพราะฉะนั้นโปรดจ่ายก่อน ท่านถึงจะได้ส่วนผสมไป"

 

เจี้ยงเฉิงเริ่มจะหน้าแดงและตะกุกตะกัก มันตบลงบนโต๊ะก่อนจะกล่าวออกมา "เอ่ออ อืมมมม เอ่ออ ข้าอยากจะคุยกับผู้ดูแล(เปลี่ยนใหม่นะครับ)"

 

"อะไร?" ใบหน้าของเจ้าหน้าที่เริ่มดุร้ายขึ้น "ไม่มีเงิน? เจ้ากล้าถามหาส่วนผสมโดยที่ไม่มีเงินงั้นเหรอ?"

 

"เจ้าอยากจะคุยกับผู้ดูแล? เจ้าไม่รู้งั้นเหรอว่ามันยุ่งขนาดไหน? แต่ละนาทีของมันตีเป็นเงินได้ถึง 10000 เหรียญเงิน แล้วจะไปมีเวลามาหาเจ้าได้อย่างไรกัน เจ้ามีปัญญาชดใช้ค่าเสียเวลารึเปล่า?"

 

"ออกจากประตูไปด้านขวา ไปอ่านกฎของหอซะ เจ้าคิดว่าการเจอกับหัวหน้านั้นง่ายงั้นเหรอ? เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นเจ้าชายหรือขุนนางชั้นสูงหรือไง?"

 

"หากเจ้าอยากได้ส่วนผสมของเจ้า งั้นเจ้าก็จ่ายมาซะ ถ้าไม่ก็ไสหัวออกไป!"

 

เจ้าหน้าที่โบกมือไล่ ด้วยใบหน้าโกรธ นำลายของมันแทบจะกระเด็นมาโดนหน้าเจี้ยงเฉิง ท่าทางของมันเหมือนกับคนที่กำลังไล่แมลงหวี่แมลงวันยังไงยังงั้น

 

ไม่ใช่ว่ามันเคยได้รับการปฏิบัติแบบนี้มาก่อนหรอกนะ ถ้าหากเป็นคนอื่นหละก็คงจะไม่ทนมากขนาดนี้ นี่มันทนมามากพอแล้ว!!

 

พวกมันช่างเป็นคนขี้ประจบสอพลอจริงๆ

 

เจี้ยงเฉิงทนได้ไม่นานนัก เจ้าพนักงานคนนี้ต้องได้รับการตอบแทนอย่างสาสม!!

 

เหรียญโลหะกระแทกลงบนโต๊ะอย่างรุนแรง!

 

เจี้ยงเฉิงตบหน้าเจ้าหน้าที่คนนั้นอย่างรุนแรง! "เบิกตาสั่วๆ ของเจ้าซะ และมองมันให้ดีว่านี่คืออะไร!"

 

"ผู้ดูแลที่เจ้าพูดถึงได้เงิน 10000 เหรียญเงินต่อนาทีงั้นเหรอ? งั้นข้าจะบอกเจ้าเองว่าข้านั้นได้เงินหลายล้านเหรียญเงินต่อนาที!!"

 

"เจ้าช่างบังอาจนักที่ทำให้ข้าต้องล่าช้า ข้าสามารถทำให้ร้านของพวกเจ้าปิดได้อย่างง่ายดาย ครอบครัวของเจ้ารู้รึเปล่าว่าเจ้าเก่งขนาดนี้!! ลูกจ้างทุกคนเก่งขนาดนี้แล้วหัวหน้าของพวกเจ้ารู้บ้างรึเปล่า?"

 

เจ้าหน้าที่คนนั้นเห็นดาวมากมายจากการตบครั้งนั้น มันสั่นหัวพลางเบิกตาอย่างไม่อยากจะเชื่อ!

 

นี่คือหอโอสถ หนึ่งในสถานที่มีชื่อเสียงของเมืองหลวงแห่งนี้เชียวนะ!!!

 

ในวันธรรมดานั้น ต่อให้เป็นขุนนางที่ยิ่งใหญ่ขนาดไหน การมายังที่แห่งนี้ยังต้องสุภาพนอบน้อมอย่างมาก

 

แต่วันนี้ มันกับโดนเขี่ยนตี!!

 

โดนเขี่ยนตี โดยคนที่แต่งตัวอย่างเรียบง่าย! แถมยังไม่ได้เป็นขุนนางหรือแม้แต่ตระกูลที่ทรงอำนาจ!!

 

นี่มันน่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว!!

 

ทันใดนั้นมันก็ร้องออกมาราวกับหมูถูกเชือด "ใครก็ได้ๆ เร็วเข้าๆ มันทำร้ายคนๆ!!"

 

พอสิ้นเสียงของเจ้าหมูตัวนั้น กลุ่มของทหารที่สวมใส่ชุดเกราะเต็มยศ วิ่งมาอย่างรวดเร็ว ใครสักคนที่ดูเหมือนกับหัวหน้าของกลุ่มเหล่านั้นเดินขึ้นมาจากด้านหลังทันที!!

 

เขาสวมใส่ชุดธรรดาๆ เท่านั้น ใบหน้าของเขาแทบจะระเบิดโทสะออกมา ทันใดนั้นตาของเขาก็จำต้องตกใจเมื่อมองไปเห็น เหรียญที่มีตรามังกรส่องสว่างอยู่บนโต๊ะ พลันทำให้โทษะของเขาเปลี่ยนเป้าหมายทันที!!

 

"ผู้ดูแลฮี เจ้านั้น เจ้าสุนักตัวนั้นมันกล้าตบตีข้า นี่ไม่ใช่แค่ทำลายชื่อเสียงของข้าเท่านั้น แต่มันยังทำให้หอโอสถแห่งนี้เสียเกียรติอีกด้วย!!" เจ้าหน้าที่คนนั้นรีบฟ้องอย่างรวดเร็ว ราวกับเด็กน้อยวิ่งไปฟ้องบิดามารดา

 

หลังจากที่มันกล่าวจบ ทันใดนั้นก็พลันมีตบอันรุนแรงปะทะกับใบหน้าของมัน การตบครั้งนี้ส่งผลให้มันผู้นั้นถึงกับกระเด็นไปหลายเมตร!!

 

แต่ครั้งนี้กับเป็นผู้ดูแลฮีเป็นคนตบมัน!!

 

"ไอ้บัดซบ แกเอาตาไปไว้ที่ไหนกัน!!! แกกล้าเถียงลูกค้าที่น่านับถือคนนี้เชียวรึ!! เจ้าควรจะดีใจด้วยซ้ำที่เจ้าโดนแค่ตบ ความผิดของเจ้ามันสมควรตายยิ่งนัก!!"

 

หลังจากดุด่าเจ้าหน้าที่คนนั้นไป ผู้ดูแลฮีก็เปลี่ยนใบหน้าเป็นยิ้มแย้มแจ่มใส

 

"นายท่าน ลูกน้องของข้าช่างตาบอดนัก แถมยังล่วงเกินท่านอีก"

 

ก่อนที่มันจะหันหน้าไปตะโกนให้กับเหล่านักรบ "พวกแกทั้งหมดทำอะไรกัน? กำลังนั่งดูงานรื่นเริ่งงั้นเหรอ? ไสหัวไป!!"

 

เหล่านักรบรีบแยกย้ายกันทันทีหลังจากได้รับคำสั่ง

 

เจี้ยงเฉิงแทบไม่อยากจะเชื่อว่าเรื่องจะเป็นเช่นนี้ไปได้ เขาแทบจะเป็นบ้ากับเหตุการณ์ตึงเครียดที่เกิดขึ้นนี้

 

อันที่จริงแล้ว เหรียญสีทองที่นายน้อยให้มานั้น เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันคืออะไร นายน้อยเพียงกล่าวว่า มันอาจจะช่วยได้เท่านั้น

 

เขาไม่มีอะไรจะเสียจึงลองใช้มันดูเท่านั้น

 

ใครจะไปคาดคิดว่ามันจะใช้ได้จริงๆ กัน มันแปลกมากจริงๆ

 

มันจะไม่ช่วยได้อย่างไรกัน! เหรียญสลักมังกรแห่งราชานั้น มอบให้กับคนระดับสูงเท่านั้น มันจะไม่ช่วยได้ไงหละ? ใครก็ตามหากมีมันย่อมทำอะไรก็ได้ในอาณาจักตงฟางแห่งนี้ !!

 

"ไม่ทราบว่าข้าจะขอทราบชื่อของท่านได้หรือไม่? โปรดตามข้ามา ลูกน้องของข้านั้นมันโง่เง่านัก ได้โปรดให้ข้าผู้ต่ำต้อยคนนี้ได้ขอโทษท่านด้วยเถอะ!"

 

เจี้ยงเฉิงไม่ใช่คนป่าคนเขา เขารู้ว่าเป็นเพราะเหรียญทองอันนี้แน่นอนที่ทำให้คนเบื้องหน้าทำตัวเช่นนี้ โอ้ มันรู้สึกดีชะมัดเลย!!

 

รู้สึกดีก็ส่วนรู้สึกดี เจี้ยงเฉิงยังคงไม่สูญเสียตนเองไป เขาจะต้องคุมสถานการณ์นี้ให้ได้ "มันแค่เรื่องเล็กน้อยเท่านั้น แต่เจ้าหน้าที่ของเจ้านั้น...เฮ้ออ ข้าจะไม่พูดอะไร หากหอโอสถแห่งนี้ไม่ตอนรับข้า บางทีข้าอาจจะไปเสี่ยงโชคดูที่ วิหารสวนแห่งเทพหรือไม่ก็สวนยาแห่งราชัน หวังว่าที่นั่นคงต้อนรับข้าเหมือนคนบ้างนะ"

 

ผู้ดูแลฮีสั่นสะท้านทันทีหลังจากได้ฟังคำกล่าวเหล่านั้น เห็นได้ชัดว่าลูกค้าคนนี้ยังคงโกรธเคียงอยู่! นอกจากนี้เขายังแอบตรวจสอบเจี้ยงเฉิงอย่างลับๆ ก็ไม่พบร่องรอยใดๆ

 

เขาแต่งตัวดูธรรมดามากๆ ดูไม่เหมือนขุนนางระดับสูงเลยซักนิด

 

หรือบางทีเขาอาจจะปลอมตัวเพื่อจุดประสงค์บางอย่าง? เขามีแผนอะไรกันแน่? เดาทางยากจริงๆ ตอนนี้ผู้ดูแลฮีแทบจะเดาสถานการณ์ไม่ออกเลย!!

 

ผู้ดูแลฮีคิดถึงเหรียญสลักนั้นอย่างเลือนลอยและมองเจี้ยงเฉิงเดินจากไป เขาจะกล้าให้เจี้ยงเฉิงกลับไปได้อย่างไรกัน? ความลับของผู้ถือเหรียญนั้นมันต้องสร้างปัญหาให้กับหอโอสถเราแน่นอน!!

 

ถึงแม้ว่าหอนั้นจะไม่กลัวว่าจะมีปัญหา แต่ถ้าเป็นไปได้การหลีกเลี่ยงคือทางที่ดีที่สุด!!

 

"นายท่านได้โปรดรอก่อน!! หัวหน้าสามแห่งหอโอสถและเหล่าผู้อาวุโสกำลังมาในอีกไม่นานแล้ว! ท่านเป็นถึงขุนนางและลูกค้าผู้ทรงเกียรติ เพราะงั้นถึงแจ้งให้กับหัวหน้าหอและเหล่าผู้อาวุโส เพราะงั้นได้โปรดอย่างน้อยก็ให้หอของเราได้ดื่มน้ำชาขออภัยด้วยเถอะ!!"

 

ผู้ดูแลฮี คนนี้ไม่เหมือนกับเหล่าเจ้าหน้าที่ธรรมดา เขามีประสบการณ์ด้านนี้มามากมาย เขาเรียนรู้และปรับใช้มาทั้งชีวิต เพราะฉะนั้นเขารู้ว่าควรต้องทำยังไงบ้าง

 

ที่เจี้ยงเฉิงแกล้งจะเดินออกไปนั้นก็แค่หลอก อันที่จริงแล้ว เขารู้สึกดีมากๆ เลย นี่เป็นครั้งแรกตั้งแต่เป็นข้ารับใช้ส่วนตัวของนายน้อย ที่ได้รับการปฏิบัติเช่นนี้

 

ความหยิ่งยโสและความภาคภูมิใจ!!!

 

ก่อนหน้านี้นั้น ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ธรรมดาๆ ต่างไม่เคยกล่าวอย่างมีมารยาทกับเขาเลย ไม่ต้องเอ่ยถึงพวกหัวหน้าเลยซักนิด!

 

แต่ตอนนี้แม้แต่ผู้ดูแลฮียังเรียกตัวเองว่า ผู้น้อยฮีต่อหน้าเขาเลย!!!

 

เขาไม่สนใจหรอกว่าในอนาคตเขาจะเป็นพ่อบ้านที่ดีหรือไม่ แต่อย่างน้อยวันนี้เขาก็รู้สึกโครตดี รู้สึกโครตมีพลังเลย!!

 

ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกประหลาดใจ นี่ดีนะที่เขาเชื่อมั่นในนายน้อย!!!

รีวิวผู้อ่าน