px

เรื่อง : ราชันสามภพ (นิยายแปล)
ตอนที่ 12 อัจฉริยะที่งดงามงั้นรึ? ข้า เจี้ยงเฉินไม่สนใจหรอก


ตอนที่ 12 - อัจฉริยะที่งดงามงั้นรึ? ข้า เจี้ยงเฉินไม่สนใจหรอก

 

-------------------------

ไป้ชานอวิ๋น ทายาทของขุนนางพยัคฆ์ขาว มักจะเย่อหยิ่งและไร้ซึ่งมารยาท

 

แต่ไม่สามารถเทียบได้กับทายาทของขุนนางเจี้ยงหาน คนที่ได้กระทำสิ่งที่บ้าบอที่สุดในศตวรรษ

 

โดยการผายลมระหว่างพิธีบวงสรวงสวรรค์ นี่มันเป็นเรื่องราวบ้าบออะไรกัน? เขาสุดยอดขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?

 

แม้จะเป็นในตอนนี้ เขาก็ไม่แม้แต่จะยำเกรงทายาทของขุนนางพยัคฆ์ขาวเลยแม้แต่นิด นี่ราวกับจะเป็นการกระทำที่ต่อต้านสรวงสวรรค์!

 

ทุกคนต่างรู้ว่าขุนนางเจี้ยงหานนั้นอยู่อันดับติดอันดับ สิบห้า จากทั้งหมด หนึ่งร้อยแปดขุนนาง ขุนนางพยัคฆ์ขาวนั้นอยู่อันดับที่ สี่ และเป็นหนึ่งในสี่ขุนนางที่มีชื่อเสียงและโดดเด่นที่สุดในอาณาจักรแห่งนี้

 

ความแตกต่างของระดับขั้นขุนนางของทั้งสองนั้นแตกต่างกันเกินไป ในความเป็นจริงนั้นขุนนางเจี้ยงหานและขุนนางพยัคฆ์ขาวอยู่ในระดับที่แตกต่างกันเกินไป!

 

และต้องขอบคุณสิ่งที่เขาได้ทำเอาไว้ เรื่องราวของเจี้ยงเฉินนั้นจึงถูกกล่าวถึงไปไกลหลายต่อหลายไมล์ในช่วงสองวันที่ผ่านมานี้ ใครบ้างที่ไม่รู้ว่าเจี้ยงเฉินนั้นเจ้าชู้และไม่เคยทำอะไรดีๆเลย?

 

ทุกคนต่างประหลาดใจกับท่าทีของเจี้ยงเฉินในคราวนี้

 

 ฮ่าฮ่าฮ่า แล้วยังไงเล่า? ถึงแม้ว่าเจ้าจะไม่ได้โดนเฆี่ยนตีจนตาย เจ้าก็ต้องตายในตอนนี้อยู่ดี เจ้าคือเจี้ยงเฉินใช่ไหมล่ะ? ดี ดีมาก

 

เจ้านี่มันโชคดีจริงๆที่เจ้ารอดจากการถูกเฆี่ยนตีจนตายมาได้ ข้าจะช่วงแบ่งเบาภาระของกษัตริย์ในวันนี้โดยการฆ่าเจ้าเพื่อรับรางวัลจากกษัตริย์ยังไงล่ะ

 

ในระหว่างที่พวกเขากำลังถกเถียงกันอยู่ ก็มีกลุ่มชายหนุ่มล้อมรอบหญิงสาวในชุดขาวเดินเข้ามา

 

กลุ่มของชายหนุ่มเริ่มที่จะตะโกนทันทีที่พวกเขาเดินเข้ามา  พวกข้าต้องการสมุนไพรไขกระดูกมังกรจรัสแสง นำมันมาให้ข้าเดี๋ยวนี้และขุนนางหยานเหมินผู้นี้จะจ่ายเงินให้เจ้าเอง

 

 เหอะ นี่ไม่ใช่รอบของเจ้าที่จะจ่ายซักหน่อย ข้าขุนนางหงส์เพลิงจะจ่ายค่าสมุนไพรนี้เอง! 

 

เหล่าเด็กหนุ่มเหล่านี้ต่างพยายามแย่งกันจ่ายเงิน ก่อให้เกิดความวุ่นวายตรงห้องโถงทางเข้าในหอโอสถ

 

เจี้ยงเฉินเกาหัวของเขาและคิดว่า นี่เจ้าบ้าพวกนี้มีเงินมากมายแต่กลับใช้ไม่เป็นรึไงเนี่ย? เกิดบ้าอะไรขึ้นวันนี้กันเนี่ย? นี่พวกบ้าพวกนี้รวมกลุ่มกันมาก่อความวุ่นวายให้แก่ข้าในวันนี้ใช่หรือไม่?

 

แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่อย่างที่เขาคิดไว้ คนอื่นๆจะรู้ได้อย่างไรว่าเขาต้องการสมุนไพรไขกระดูกมังกรจรัสแสง? รวมกับที่เจี้ยงเฉินนั้นเชื่อว่าเขาไม่ได้ไปสร้างความแค้นฝังลึกใครแน่ๆ และยังมีเรื่องที่ทายาทของขุนนางหลายๆคนมารวมกลุ่มกันนี่อีก

 

แต่ในเวลานี้นั้น มีอย่างน้อยเจ็ดถึงแปดคนที่แย่งกันที่จะเป็นคนจ่ายเงินราคาของสมุนไพรไขกระดูกมังกรจรัสแสง

 

ผลลัพธ์นี้ดูจะคาดเดาได้ยาก พวกเขาแต่ละคนนั้นไม่มีใครยอมใครจนกว่าเขาจะได้สิ่งที่พวกเขาต้องการ

 

เหตุการณ์ตรงหน้านี้ทำให้ ผู้อาวุโส ในชุดคลุมสีฟ้า กลืนไม่เข้าคายไม่ออก เธอนั้นเชี่ยวชาญในเรื่องการสังเกตคน ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าพวกคนเหล่านี้นั้นพยายามที่จะโชว์สาว?

 

แต่ ยังไงมันก็มีแค่หนึ่งสมุนไพรไขกระดูกมังกรจรัสแสง? เธอจะตกเป็นที่นินทาของคนอื่น ไม่ว่าเธอจะขายมันให้กับใครก็ตาม

 

เหล่านายน้อยเหล่านี้นั้นชั่วร้ายอย่างแท้จริง ไม่ว่าเธอจะไปทำให้ใครโกรธเคือง ก็จะเป็นอันตรายต่อตัวเธอเอง

 

และยังอาจส่งผลกระทบต่อคนรอบตัวเธออีกด้วย

 

ระหว่างที่ ผู้อาวุโส ในชุดคลุมสีฟ้า กำลังคิดนั้น เจี้ยงเฉินก็ปรากฎตัวขึ้นในหางตาของเธอและทำให้เธอคิดอะไรบางอย่างได้

 

ได้โปรดอภัยให้พวกเราด้วยนายน้อยทั้งหลาย พวกเรารู้สึกเป็นเกียรติมากที่พวกท่านมาที่นี่ แต่อย่างไรก็ตามหอโอสถแห่งนี้นั้นมีกฎอยู่ข้อหนึ่งเวลาทำการค้าขาย

 

เขาคือเจี้ยงเฉิน ทายาทของขุนนางเจี้ยงหาน เขาคือคนแรกที่อยากจะซื้อสมุนไพรไขกระดูกมังกรจรัสแสง

 

สำหรับทุกท่านที่อยากจะซื้อนั้นสามารถทำได้ถ้าเกิดว่าพวกท่านโน้มน้าวเขาได้ นี่เป็นกฎ พวกเราหวังว่าพวกท่านจะเข้าใจ

 

โยนความผิดและความรับผิดชอบมาให้อย่างนี้เลยรึ ฉลาดดีนี่

 

หอโอสถนั้นกำลังจะเจอกับภัยพิบัติ แต่พวกเขากลับโยนความผิดนี้ไปให้กับเจี้ยงเฉินแทน

 

ถ้าเกิดว่าเขาปฏิเสธที่จะให้ นั่นก็จะกลายเป็นความผิดของเจี้ยงเฉิน ไม่ใช่ของหอโอสถ เป็นเจี้ยงเฉินที่ก่อเรื่องขึ้นไม่ใช่พวกเขา

 

สายตาของทุกคนมองมาที่เจี้ยงเฉิน

 

 เอ๋ ทำไมเป็นเขาล่ะ?

 

 เจี้ยงเฉิน? เจ้าตัวตลกนั่นที่ผายลมระหว่างพิธีกรรมนั่นน่ะเหรอ? ไม่ใช่ว่าเขาตายไปแล้วนี่?

 

 หรือว่าเขาแกล้งทำเป็นตาย?

 

 หรือว่าเจ้าเด็กนี่โชคดีและไม่ได้ถูกเฆี่ยนตีจนตาย?

 

 แปลก แปลกมาก เรื่องแปลกๆแบบนี้มันมีทุกปี แต่ทำไมปีนี้มันมีเยอะอย่างนี้เนี่ย

 

 เหอะ ใครจะไปสนว่าเขาตายหรือไม่ตาย ไม่มีใครที่จะเอาสมุนไพรไขกระดูกมังกรจรัสแสงไปจากข้าได้!

 

 เจี้ยงเฉิน ที่นี่ไม่มีที่ว่างสำหรับขุนนางเจี้ยงหานที่ต่ำต้อยแบบเจ้า รับรู้ฐานะของเจ้าบ้างและออกไปซะ

 

 ใช่แล้ว อาชญากรเช่นเจ้ากล้าที่จะมาเดินแถวนี้ได้อย่างไร?

 

 กลับไปและเตรียมรับโทษของเจ้าซะ!

 

มีเพียงไม่กี่คนที่รู้ว่าเขานั้นไม่ได้ตาย จึงทำให้การแสดงออกของพวกเขาดูไม่ประหลาดใจเรื่องของเจี้ยงเฉินเลย

 

นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้นกับเขากัน นี่ใบหน้าของเขาสามารถทำให้คนโกรธแค้นและชิงชังได้รึไง? ทำไมคนพวกนี้เอาแต่คอยรุมด่าเขากัน?

 

เขาไม่สนใจสายตาและคำครหาทั้งหมดและส่งรอยยิ้มตอบกลับไป  นี่วันนี้ข้าลืมเช็คดวงก่อนออกจากบ้านรึอย่างไรกันเนี่ย? มาต่อล้อต่อเถียงกับคนโง่เง่ายังไม่พอ ข้ายังต้องมาถกเถียงกับกลุ่มคนโง่เง่าอีกรึ?

 

เขาไม่อยากเสียเวลากับถกเถียงไร้สาระนี่แล้วและจ้ององไปที่ ผู้อาวุโส ในชุดคลุมสีฟ้า และกล่าวอย่างเย็นชา

 

 ท่านผู้อาวุโส นี่ท่านแก้ปัญหาของท่านโดยการโยนปัญหาไปให้คนอื่นงั้นรึ ข้าไม่อยากฟังคำแก้ตัวอะไรทั้งนั้น ตกลงว่าท่านจะขายสมุนไพรไขกระดูกมังกรจรัสแสงหรือไม่?

 

ใบหน้าของ ผู้อาวุโส ในชุดคลุมสีฟ้า ดำมืด  นี่เจ้าพยายามจะข่มขู่ข้างั้นเหรอ? ถ้าเจ้าข่มขู่ข้า ข้าจะไม่เกรงใจเจ้าแล้วนะ!

 

 รอเดี๋ยวก่อน!

 

มีใครบางคนเดินเข้ามา เขาคือหัวหน้าสามแห่งหอโอสถนั่นเอง

 

หัวหน้าสามแห่งหอโอสถรู้สึกโกรธเป็นอย่างมากและกล่าวออกไปอย่างรุนแรงต่อ ผู้อาวุโส ในชุดคลุมสีฟ้า  นี่เจ้ามีปัญหาอะไร ? ทำไมเจ้าไม่สามารถจัดการเพียงแค่เรื่องเล็กๆน้อยๆนี้ได้กัน?

 

หอโอสถนี้ทำธุรกิจโดยมีกฎเพียงข้อเดียวคือพวกเราจะขายของให้กับผู้ที่มาเป็นคนแรกเท่านั้น!

 

ผู้อาวุโส ในชุดคลุมสีฟ้า มึนงงไปชั่วขณะหนึ่งและคิดว่า นี่เจ้าลืมกินยาเขย่าขวดหรือยังไง? ทำไมเจ้าไม่เห็นกลุ่มนายน้อยเหล่านี้หมายตาสมุนไพรนั่นรึอย่างไร? นี่เจ้าไม่กังวลเลยรึว่าปีศาจน้อยพวกนี้จะแค้นเคืองถ้าเจ้าขายมันให้กับเจ้าบ้าเจี้ยงเฉิน?

 

ยังไม่รวมถึง ทำไมที่จะต้องให้ความสำคัญกับทายาทของเจี้ยงหานที่ไม่มีอะไรดีนั่นด้วยเล่า?

 

หัวหน้าสามแห่งหอโอสถเมิน ผู้อาวุโส ในชุดคลุมสีฟ้า ที่กำลังสับสนอย่างสมบูรณ์และยิ้มให้กับเจี้ยงเฉิน

 

 นายน้อยเจี้ยง ท่านเป็นคนแรกที่จะซื้อสมุนไพรไขกระดูกมังกรจรัสแสง และมันเป็นเรื่องธรรมดาตามกฎของทางเราอยู่แล้ว

 

เขาหยุดพูดและหันหน้าไปทางเหล่าทายาทของขุนนางทั้งหลาย  สุภาพบุรุษทั้งหลาย ข้าขออภัยด้วย หอโอสถของพวกเรานั้นมีจุดยืนในอาณาจักรตะวันออกแห่งนี้

 

เป็นเพราะว่าจุดเด่นของพวกเราเรื่องความน่าเชื่อถือและกฎของเรา ข้าเป็นเกียรติอย่างมากที่พวกท่านมาที่หอโอสถแห่งนี้ แต่ช่างน่าเสียดายที่่มีเพียงหนึ่งสมุนไพรไขกระดูกมังกรจรัสแสง

 

เราสามารถขายมันให้กับคนที่มาถึงก่อนเท่านั้นหรือก็คือนายน้อยเจี้ยงนั่นเอง และเรื่องที่นายน้อยเจี้ยงจะให้สมุนไพรนี้แก่ใครหรือไม่นั้น มันไม่ใช่เรื่องที่ข้าจะตัดสินใจได้

 

 อย่างไรก็ตาม ที่นี่คือหอโอสถ เราหวังว่าพวกท่านจะเข้าใจและได้โปรดหยุดแสดงพฤติกรรมที่เป็นการรบกวนแขกคนอื่นๆด้วย

 

หัวหน้าสามแห่งหอโอสถกล่าวด้วยน้ำเสียงที่หยาบกระด้างขึ้นเล็กน้อย

 

ที่หอโอสถแห่งนี้ไม่ใช่ที่ใครๆก็สามารถเข้ามาและก่อความวุ่นวายได้

 

อะไร?

 

หัวหน้าสามแห่งโอสถบ้าไปแล้วรึยังไง? นี่เขาขายสมุนไรไขกระดูกมังกรจรัสแสงให้เจี้ยงเฉินจริงหรือเนี่ย?

 

ไม่ว่าจะเป็นนายน้อยคนไหนก็มีโดดเด่นและมีพลังอำนาจมากกว่าของขุนนางเจี้ยงหานเสียอีก

 

นี่หรือว่าหัวหน้าสามแห่งหอโอสถจะลืมกินยาเขย่าขวดวันนี้จริงๆ?

 

และสิ่งที่ทำให้พวกเขาตกตะลึงมากกว่าเดิมก็คือหลังจากที่หัวหน้าสามแห่งหอโอสถกล่าวเสร็จก็หันหน้าไปทางเจี้ยงเฉินและให้การต้อนรับเขาอย่างดี

 

 นายน้อยเจี้ยง ข้าขออภัยที่ไม่ได้ให้การต้อนรับที่ดีพอ โปรดตามข้ามาทางนี้ ไว้เดี๋ยวข้าจะเลี้ยงชาสักถ้วยเป็นการขอโทษเองขอรับ

 

กลุ่มนายน้อยทั้งหลายต่างตกตะลึงกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปนี้

 

เมื่อไหร่กันที่เจ้าคนเจ้าชู้ไร้ค่านี่ ผู้ที่ไม่มีค่าอะไรใดๆในการทดสอบมังกรซ่อนนั้น จะได้รับการต้อนรับอย่างดีในหอโอสถแห่งนี้กัน?

 

แม้แต่หญิงสาวในชุดสีขาวเองที่มีกลุ่มคนเดินวนอยู่รอบๆก็ได้หันมามองเจี้ยงเฉินเป็นครั้งแรก

 

ผู้หญิงคนนี้คือลูกสุดที่รักของขุนนางอันดับหนึ่ง ของอาณาจักรตะวันออก ลูกสาวของหลงเทง หลงยู่ซือ

 

กลุ่มนายน้อยเหล่านี้นั้นสู้กันเองเพื่อที่จะเอาใจหลงยู่ซือผู้นี้ โดยการแย่งกันซื้อสมุนไพรไขกระดูกมังกรจรัสแสงเพื่อที่จะนำมันไปให้เธอและรักษาโรคไข้หนาวเย็น

 

อย่างไรก็ตาม เจี้ยงเฉินได้เมินกลุ่มคนเหล่านี้ เมื่อเขาเห็นเจี้ยงเฉิงหลบซ่อนอยู่ข้างหลังหัวหน้าสามแห่งหอโอสถ เขาก็ได้เข้าใจสถานการณ์ทุกอย่าง เขายิ้มตอบกลับไป  เตรียมสมุนไพรขั้นจิตวิญญาณที่ข้าอยากได้ไว้ได้เลย ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายนั้น...

 

หัวหน้าสามแห่งหอโอสถรีบกล่าวว่า  ไว้คุยกันเรื่องค่าใช้จ่ายทีหลังเถอะขอรับ บางทีพวกเราอาจคุยไประหว่างดื่มชาสักถ้วย?

 

สมุนไพรนั้นถูกเตรียมมาให้อย่างรวดเร็วและส่งให้กับเจี้ยงเฉิน เขาเดินเข้าไปข้างในกับหัวหน้าสามแห่งหอโอสถ

 

แต่เขาไม่รู้ว่าเหตุผลที่หัวหน้าสามแห่งหอโอสถทำอย่างนี้เพราะต้องการซื้อขายยาชะตาสวรรค์รึเปล่า?

 

ถ้าไม่ใช่เรื่องนั้น แล้วทำไมหัวหน้าสามต้องเมินทายาทขุนนางทุกคนที่อยู่ที่นี่ อีกทั้งยังขายสมุนไพรไขกระดูกมังกรจรัสแสงให้กับเขาด้วย?

 

 ได้โปรดรอสักครู่ก่อน น้องเจี้ยงเฉิน  ชายหนุ่มที่หน้าตาหล่อเหลาและแต่งตัวดูดีมีฐานะได้เดินออกมาจากกลุ่มคน  ข้าเป็นทายาทของขุนนางเต่าทมิฬ อี้ไทชู ได้โปรดน้องชายช่วยให้สมุนไพรไขกระดูกมังกรจรัสแสงแก่ข้าได้หรือไม่ ข้าจะจ่ายเป็นสองเท่าของราคาเพื่อมิตรภาพของพวกเรา ขายให้กับข้าได้ไหม?

 

โดยปกติแล้วนั้น อี้ไทซูนั้นรู้จักวิธีรับมือกับคนอื่นมากกว่าทายาทของขุนนางพยัคฆ์ขาว ไป้ชานอวิ๋น แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม สมุนไพรไขกระดูกมังกรจรัสแสงนี้เป็นของเจี้ยงเฉินโดยชอบธรรมแล้ว เขาไม่มีทางที่จะมอบสมุนไพรนี้ให้แก่ใครแน่

 

 ข้าขอภัยด้วย ข้าจำเป็นต้องใช้ใบของสมุนไพรไขกระดูกมังกรจรัสแสงและไม่สามรถให้มันแก่ท่านได้ พี่ชายอี้ ท่านเป็นเจ้าของชีวิตของท่านเอง แต่ทำไมท่านถึงได้น่าเบื่อและวิ่งไปมาเพื่อผู้หญิงด้วยเล่า?

 

เจี้ยงเฉินยิ้มอย่างใสซื่อและมองไปทางหลงยู่ซือด้วยความรู้สึกไม่ชอบหน้าของเธอ

 

หญิงสาวคนนี้สามารถทำให้นายน้อยกลุ่มนี้คอยเอาอกเอาใจเธอและเธอยังไม่มีวาจาสัตย์เอาเสียเลย ผู้หญิงประเภทนี้นั้นมีนิสัยที่เลวร้ายและแย่เป็นอย่างมาก ถ้าเธอสวยเหมือนดอกที่บานสะพรั่งแล้วมันยังไงล่ะ?

 

ในช่วงชีวิตที่แล้วของเขานั้น หญิงสาวประเภทนี้ไม่มีค่าพอแม้แต่จะเป็นคนรับใช้

 

อี้ไทซูรู้สึกเสียหน้าเล็กน้อย แต่ยังคงมีความสุภาพและมารยาทที่ดีอยู่ เขากำลังคิดอยู่และดูเหมือนว่าเขาจะคิดอะไรได้ เขาจึงปิดปากเงียบไม่พูดอะไร

 

หลงยู่ซือเริ่มมีความรู้สึกมุ่งร้ายต่อเจี้ยงเฉินหลังจากที่เห็นอี้ไทซูถอยออกมา เธอรู้สึกเพลิดเพลินไปกับกลุ่มคนที่ต่อสู้กันเพื่อเธอ เธอต้องการที่จะเป็นจุดสนใจเพื่อความต้องการของเธอเอง

 

แต่เจี้ยงเฉินนั้นแปลกแยกไปจากคนอื่นและให้ความรู้สึกที่ไม่ดีอย่างแท้จริง

 

สิ่งที่แย่ที่สุดคือ เจี้ยงเฉินคนนี้นั้นไม่แม้แต่จะมองเธอเลย นี่เขาไม่สนใจเสน่ห์ของเธอเลยหรืออย่างไร คนแบบนี้ยังมีหลงเหลืออยู่อีกหรือ?

 

ถ้าเกิดมันเป็นวันอื่นล่ะก็ หลงยู่ซือจะไม่แม้แต่ชายตามองใครสักคนที่เหมือนเจี้ยงเฉินเลยสักนิด

 

แต่ในวันนี้ด้วยเหตุผลบางประการ ทำให้ความรู้สึกของผู้หญิงทำให้เธอรู้สึกแย่และคิดว่าเจี้ยงเฉินนั้นตั้งใจที่จะหลบหน้าเธอ

 

นอกจากนี้ เธอยังรู้สึกว่าเจี้ยงเฉินนั้นเล่นละครเป็นคนที่ลึกลับและน่าค้นหาและอาจจะเป็นอีกวิธีที่ทำให้เธอหันมาสนใจเขา

 

สำหรับเธอแล้วขุนนางตัวจ้อยเหล่านี้ก็เปรียบเสมือนขยะที่ไม่มีค่าพอให้สนใจ แกล้งทำเป็นคนดูดีงั้นเหรอ? หึทั้งที่แทบจะไม่ต่างไปจากคนโง่ในสายตาเธอเลยเสียด้วยซ้ำ!

 

หลังจากเธอใช้ความคิดสักพัก เธอจึงหันหน้าไปทางเจี้ยงเฉิน ท่วงท่าของเธอนั้นดูสง่างามดั่งดอกบัวที่งดงาม

 

 เจ้าคือเจี้ยงเฉินใช่หรือไม่? หลงยู่ซือกล่าวเสียงเย็นเยียบ เท่าที่ข้ารู้มา เจ้านั้นไม่จำเป็นต้องใช้สมุนไพรขั้นจิตวิญญาณนี่เสียด้วยซ้ำ

 

เพื่อนพ้องเหล่านี้จ่างสู้กันเพื่อซื้อสมุนไพรไขกระดูกมังกรจรัสแสง เพราะว่าพวกเขาต้องการนำมันมารักษาโรคหนาวเย็นของข้า ทำไมเจ้าถึงยังต้องการมันล่ะ?

 

ถึงแม้ว่าคำพูดของเธอนั้นจะไม่ได้ดูแย่ แต่ภายในคำพูดเหล่านั้นแสดงออกมาอย่างชัดเจน เจ้า เจี้ยงเฉินที่ไร้ค่าไม่มีทางที่จะสามารถใช้พลังของสมุนไพรไขกระดูกมังกรจรัสแสงได้หรอก

 

ถ้าเกิดว่าเจี้ยงเฉินนั้นก็แย่งซื้อสมุนไพรเพื่อหลงยู่ซือด้วยล่ะก็ เรื่องราวต่างๆก็จะง่ายดายขึ้นสำหรับเธอ

 

เจี้ยงเฉินรู้สึกตกตะลึงกับกับหญิงสาวคนนี้ที่หลงตัวเองมากเกินไป เขายิ้มออกมาอย่างเรียบง่าย และเจ้าคิดว่าข้าต้องการมันไปทำไมล่ะ?

 

 ข้าไม่สนหรอกว่าเจ้าต้องการมันไปทำไม ถ้าเจ้าอยากให้มันเป็นของขวัญแก่ข้า ข้าก็จะรับความปรารถนาดีจากเจ้าและจดจำเจ้าไว้  เธอตอบอย่างไม่แยแส และถึงจะไม่ใช่ ข้าก็จะจดจำเจ้าไว้เช่นเดียวกัน เจี้ยงเฉิน

 

นี่มัน เป็นการข่มขู่กันอย่างเห็นได้ชัด...

รีวิวผู้อ่าน